คนเดียวกันรึป่าว (แดงเทียม)
3 posters
หน้า 1 จาก 1
คนเดียวกันรึป่าว (แดงเทียม)
สังเกตุชายเสื้อแดงที่สะพายอาวุธปืน นาทีที่ 4:27
และสังเกตุชายเสื้อแดงกางเกงทหาร นาทีที่ 6.13 ที่อยู่ในกลุ่มของทหาร
http://www.mediafire.com/?mo2mzzq0wej
ใช่คนเดียวกันมั๊ย
และสังเกตุชายเสื้อแดงกางเกงทหาร นาทีที่ 6.13 ที่อยู่ในกลุ่มของทหาร
http://www.mediafire.com/?mo2mzzq0wej
ใช่คนเดียวกันมั๊ย
rock- จำนวนข้อความ : 1
Join date : 14/04/2010
Re: คนเดียวกันรึป่าว (แดงเทียม)
[b] อย่าได้สงสัยเลยครับ แดงเทียม 1000000% พวก สห.ทหารบกด้วยกันครับ พวกนี้จะแฝงกายมาร่วมหาข่าวจากกลุ่มม็อบแดง แล้วจะสร้างภาพให้บุคคลที่ไม่ทราบ เขาใจผิดว่าแดงมีอาวุธไว้ต่อสู้ รัฐบาลโจรมันทำกันได้ทุกรูปแบบ ขนาดสั่งให้ทหารทาสมัน ยิงประชาชนมันยังทำเลยครับ ไอ้พวกนายทหารหน้าโง่กลัวจะไม่ได้ยศได้ตำแหน่งก็ทำซิครับ อนาคตต่อไปนายทหารพวกนี้ตาย เพราะมันไม่เก็บไว้เป็นพยานชัดทอดพวกมันหรอก(พรรคบ้านี้) มันจะเขาทำนอง "เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล" สบายๆ.....พรรคประชาชอบปัด สโลแกนพรรคนี้ "ประชาชนต้องตายก่อน" หรือ "ประชาชนต้องคอยก่อน" เวรกรรมแท้
kriang-s14- จำนวนข้อความ : 20
Join date : 13/04/2010
มาดูกันชัดๆ ใครลั่นไกยิงเสื้อแดง (กะโหลกเปิด) +...?{แตกประเด็นจาก P9121646}
เกริ่นนำ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ถนนดินสอ (แยกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย) ภายหลังจากที่มีแก๊สน้ำตาตกใส่ลงไปในรูรถหุ้มเกราะจนทหารต้องเผ่นหนีลงมา(ดู ภาพความคิดเห็นที่ 1) ประกอบ ตามกระทู้ " Clip นาทีปะทะกัน ที่ผมตั้ง และผมได้บรรยายรายละเอียดคลิปไว้ในความคิดเห็นล่างๆ กระทู้นั้น (ดูกระทู้อ้างอิง 1) หลังจากนั้นไม่นานจะมีการยิงปืนดังขึ้นทั้งๆ ที่คนเสื้อแดงกำลังเปิดเพลงเต้นกัน และมีเสียงยิงปืนเป็นระยะ ก่อนที่จะมีเสียงระเบิดเกิดขึ้น และทำให้ทหารเริ่มวิ่งหนี (ดูภาพความคิดเห็นที่ 2) ในภาพนี้เราจะเห็น Hiro Muramoto เดินสวนทางออกไปเพื่อไปอยู่ในแนวผู้ชุมนุม และโดนลูกหลงมาจากการยิงทางฝั่งทหารด้วย
หลังจากที่ทหารได้ล่าถอยออก มา ก็มีการพยาบาลคนบาดเจ็บ จะพบว่า มีทหารใส่เสื้อแดง (แดงเทียม) อยู่ในกลุ่มทหารที่บาดเจ็บ (ดูภาพความคิดเห็นที่ 3) เหตุการณ์ต่อเนื่องทั้งหมดนี้ให้ดูได้จาก clip ฉบับเต็ม ตามกระทู้อ้างอิงที่ 2 (AVSEQ01)
Red Shirt v Army April 10 2010 Part7 (Who kill him?)
และจาก clip ข้างบนนี้ที่ผมตัดมาจาก clip AVSEQ01 ขอให้นำไปเทียบเสียงสเตปการยิงกับ clip ที่เสื้อแดงถูกยิงล้มลงแล้วหัวเปิดสมองไหลออกมา จะพบว่า
1. เสียงสเตปจังหวะปืนตรงกัน 7 นัด
2. ทิศทางการเดินมาด้านซ้ายมือของจอภาพ (จากกลาง) โดยที่ยังถือธงอยู่
3. ควบคู่ไปกับมีทหารนายหนึ่งวิ่งออกมาตรงกลางยิงปืนเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม (7 นัด)
4. ภายหลังเสียงปืนสิ้นสุดลง เสื้อแดงก็ล้มลงโดยมีทิศทางการล้มหัวไปด้านขวาของภาพ
5. ได้ยินเสียงทหารพูด "พอแล้วๆ" กับ clip เต็ม
6. ทหารเมื่อยิงเสร็จก็ทำการถอยออกมา แลมีะทหารอีกนายพูดออกมา "ยิงทำไมเฮ้ย" (เครดิตคุณ SUKOI #106)
หวังว่าสิ่งที่ผมทำขึ้นมาด้วยความบริสุทธ์ใจ เพื่อช่วยกันพิสูจน์ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง หาความเป็นธรรมให้กับผู้ล่วงลับ ไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวร้ายหรือพูดลอยๆ เพราะผมเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้น จึงสามารถที่จะเรียบเรียงและประมวลเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ได้มานั่งเทียนเขียนลอยๆ และคิดว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยในการตรวจหาข้อเท็จจริง ให้ความเป็นธรรมกับเพื่อนเสื้อแดงผู้ล่วงลับไปแล้วท่านี้
อ้างอิง
1. clip นาทีปะทะกัน
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P9111397/P9111397.html
ปะทะ กัน 2 ครั้งแรก (ไม่มีแกนนำ) ไม่มีคนบาดเจ็บ
ปะทะ กันตอนรถแกนนำเพิ่งมาถึง (เพิ่งเปิดเพลงเพื่อดิ้นกันยังไม่ทันได้ทำอะไร)
ปะทะ กันเป็นระยะ มีเสียงปืนดังไม่ขาดสาย
คน เจ็บถูกแบกออกมาเป็นระยะ
คลิปที่อนุสาวรีย์ 2..avi (ถนนดินสอ)
คลิปนี้ได้แต่เสียงทหารขู่ว่า ถ้าใครเข้ามาจะยิงทันที่ (ถนนดินสอ)
Thai Army Opens Fire on Red Protesters in Bangkok 2010 Pt1(ถนนดินสอ)
Thai Army Opens Fire on Red Protesters in Bangkok 2010 Pt2(ถนนดินสอ)
2. AVSEQ01
คลิกที่ภาพ เพื่อดูภาพเต็มนะครับ ผมไม่อยากย่อ แค่ใหญ่ๆ ยังดูเจ็บตา
ภาพมีแก๊สน้ำตาตกลงไปในรูรถหุ้มเกราะคันกลางทำให้ ทหารเผ่นลงจากรถ
มีเหตุการณ์ระเบิดทำให้ทหารวงแตกวิ่งถอยเข้ามา แต่เราจะได้เห็น Hiro Muramoto เดินสวนออกไปทางฝั่งกลุ่มเสื้อแดง
จะพบว่ามีทหารใส่เสื้อแดง (แดงเทียม) อยู่ในกลุ่มทหารที่ได้รับบาดเจ็บ
************************************
ขอ เล่าเหตุการณ์ที่มาของการยิงครั้งนี้นะครับ ตั้งแต่เย็นทหารก็ใช้ปจว.กระจายเสียงให้พี่น้องกลับบ้าน ไล่มาจนราวเกือบสองทุ่ม ไอ้ผมก็คิดอยู่ในใจว่า ไหนมาร์คมันบอกจะยึดพื้นที่ผ่านฟ้าคืนภายใน 6 โมงเย็น พอเลย 6 โมงเย็น ทุ่มกว่าๆ ผมก็คิดว่าทหารน่าจะใส่เกียร์ว่าง สักพักรถปจว.ของทหารก็กระจายเสียงขอให้สลายการชุมนุมเดี๋ยวนี้ ทหารจะใช้กำลังสลายแล้ว ประกาศสัก 3 ครั้ง เสียงปืนก็ดังอย่างที่เห็นล่ะครับ
ตอนเกิดเหตุการณ์ผมยืนอยู่หน้ารถ หุ้มเกราะตรงแนวทหารพอดี ด้านหลังเป็นรถกระบะของพี่น้องเสื้อแดงที่เอามาขวางรถหุ้มเกราะ ผมไปไหนไม่ได้ ในขณะที่แนวหลังเริ่มเผ่น ผมตัดสินใจนอนราบกับฝากระโปรงแล้วถ่ายรูปทหารยิงปืนต่อ (กลัวมอบกับพื้นแล้วรถหุ้มเกราะมองไม่เห็น มันจะเหยียบผมแบนเอา ผมเลยต้องตัดสินใจนอนราบกับพื้นที่สูงๆ คือหน้ากระโปรงเอาไว้ก่อน)
พอ มีระเบิดควัน หรือแก๊สน้ำตามาตกข้างรถตามคลิปที่ชมเท่านั้นล่ะครับ ผมก็ต้องเผ่นล่ะ เพราะฤทธิ์มันทำให้ระคายเคืองและแสบสุดๆ พอถอยตั้งหลักได้ ทหารเริ่มกรูออกมาเพื่อขยายพื้นที่ แต่พี่่น้องเสื้อแดงก็รวมตัวติด หลังจากเผ่นหนีเมื่อมีการยิงปืนในเที่ยวแรก จนทหารต้องถอยขบวนกลับไปอยู่ที่แนวเดิม
ปะทะกันตอนรถแกนนำเพิ่งมาถึง (เพิ่งเปิดเพลงเพื่อดิ้นกันยังไม่ทันได้ทำอะไร)
ใน การปะทะกันครั้งแรก ไม่มีแกนนำจากเวทีใหญ่มาปราศรัยควบคุม ได้แต่อาศัยการ์ดเท่านั้น บวกกับตัวผมเองที่เนียนเป็นนักข่าว คอยห้ามปรามไม่ให้พี่น้องยั่วยุทหาร หรือขว้างปาสิ่งของ และคอยบอกพวกทหารอย่ายิงปืน ตอนเย็นสถานการณ์ก็โอเคครับ มีการแจกน้ำให้ทหารกิน แจกบุหรี่แบ่งกันสูบ แต่ตอนที่ทหารเริ่มสลายการชุมนุม ก็เริ่มตึงเครียด แกนนำเวทีใหญ่ก็ไม่โผล่สักคน ให้ผู้ชุมนุมเสี่ยงตายกันตามลำพัง
แต่ พอรถแกนนำ ชื่อไวพจน์หรือเปล่าไม่แน่ใจ เพิ่งมาถึงและเปิดเพลงให้ผู้ชุมนุมเต้นผ่อนคลายกัน เพลงยังไม่ทันจบ ทหารก็เริ่มยิงปืนเพื่อสลาย แต่ครั้งนี้พี่น้องเสื้อแดงไม่กลัวตายครับ กลับวิ่งเข้าใส่รถหุ้มเกราะและแนวทหาร ทหารระดมยิงเป็นระยะๆ มีสมาร์ทบอมบ์ดังมาก ตกใกล้เคียงบริเวณที่ผมยืนอยู่ สลับกับเสียงปืน m16 บนรถหุ้มเกราะที่ยิงมาไม่ขาด
สักพักผมเห็นแก๊สน้ำตาที่ถูกยิงมาจาก ฝั่งทหารตกเข้าใส่รถหุ้มเกราะตรงรูพอดี เท่านั้นล่ะทหารรถหุ้มเกราะคันกลางก็เผ่นออกจากรถทันที คงตกใจไม่รู้ว่าเป็นระเบิดอะไร ส่วนรถหุ้มเกราะซ้ายมือ (มีจอดเรียงหน้า 3 คัน) เมื่อเห็นคันแรกเผ่น ทหารก็เริ่มเผ่นตาย เหลือทหารอีกนายควักปืนสั้นออกมาจ่อขู่ผู้ชุมนุมไม่ให้เข้าใกล้ พร้อมยิงขึ้นฟ้าขู่เป็นระยะ สุดท้ายต้องยอมจำนน (เพราะเผ่นหนีไม่ทัน)
สำหรับ ทหารอีกหนึ่งนายที่อยู่ในรถหุ้มเกราะคันกลางที่ถูกฝั่งตัวเองยิงแก๊สน้ำตาตก เข้าไป น่าจะทำอะไรไม่ถูก ผสมกับสำลักแก๊สน้ำตา ภายหลังคนเสื้อแดงเข้าไปช่วยออกมา และมีการ์ดคอยกันไม่ให้ถูกทำร้าย
ปะทะกันเป็นระยะ มีเสียงปืนดังไม่ขาดสาย
คลิปนี้ ผู้ชุมนุมยึดพื้นที่แนวทหารได้ (บริเวณรถหุ้มเกราะ) ช่วงหลังทหารเริ่มทำการยิงตอบโต้อีกครั้ง ครั้งนี้เองที่มีผู้เสียชีวิตสองสามรายแรกที่ถูกแบกออกมา (ถูกยิงหัวแบะ)
คนเจ็บถูกแบกออกมาเป็นระยะ
ระหว่าง นี้เองที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตถูกแบกออกมา โดยที่ทหารยังยิงอยู่เป็นระยะๆ สักพักแบตผมก็หมด อยู่ดีๆ มีคนที่ยืนข้างๆ ผม บอกผมว่า "พี่ผมถูกยิง" พร้อมกับเปิดเสื้อให้ผมดูเห็นรอยกระสุนและเลือดไหลออกมา การ์ดจึงรีบนำตัวไปส่งโรงพยาบาล ยังไม่ทันหันหน้ากลับ วัยรุ่นเสื้อดำที่อยู่ถัดไปก็ล้มฟุบลงอย่างรวดเร็ว ข้างๆ มีผู้หญิงยืนอยู่ก็ตกใจร้องให้คนช่วย เมื่อมีคนเปิดดูบาดแผลก็พบว่าถูกยิง และพาตัวนำส่งโรงพยาบาล ทั้งสองคนที่ถูกยิง ยืนอยู่หลังรถหุ้มเกราะ
ถ้า จะถูกยิงน่าจะถูกยิงมาจากดาดฟ้าตึกที่มีทหารซุ่มอยู่และคอยยิงลงมาเรื่อยๆ ผมจึงรู้ว่าที่ตรงนั้นไม่ปลอดภัยแล้ว ผมจึงถอยมาหลบหลังรถกระบะที่อยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์ (อนุสาวรีย์มีร่องรอยกระสุน m16 หลายจุดเหมือนกัน) แกนนำแม้จะประกาศว่า มีการเจรจาหยุดยิง แต่ทหาร ณ จุดที่เกิดเหตุไม่เชื่อ ยังยิงเป็นระยะๆ อีกสักพัก เสียงปืนถึงจะสงบ จากนั้นบนเวทีก็มีการชี้แจงเรื่องเจรจาหยุดยิง และอื่นๆ อีกมากมาย ที่บ้านก็โทรศัพท์มารายงานยืนว่ามีการเจรจาหยุดยิงจริง ไก่อู พ.อ.สรรเสริญ เป็นคนพูดจริง
เมื่อผมได้ยินเช่นนั้นและ เหตุการณ์สงบลงจริง เสียงปืนหยุด ผมจึงคิดว่าคืนนี้ทหารคงไม่ทำอะไรแล้ว เท่านั้นล่ะครับ ระหว่างทางที่จะเดินกลับบ้านไปเรียก taxi เห็นคนยืนเข้าแถวรับอาหารอยู่ ผมก็ไม่รอช้ารีบไปยืนต่อแถวรับอาหารมารับประทานทันที เมื่อทานเสร็จก็ไปต่อแถวเอามากินอีกจาน ถึงค่อยเดินออกมาเรียก taxi
ภาพเปรียบเทียบจาก clip เสื้อแดงถูกยิง
อธิบาย ลักษณะการโดนยิง จะได้ไม่ต้องมาถามกันว่า โดนยิงข้างหน้า หรือข้างหลัง ผมเห็นหลายๆกระทู้พูดถึงเรื่องนี้
คนเสื้อแดงที่ถูกยิงเดินมาด้านขวามือของตัวเอง (ด้านซ้ายของภาพหัวข้อกระทู้ผม) ในช่วงที่ถูกยิง ผู้ล่วงลับกำลังหันหัวมาเหลียวมองข้างหลังพร้อมหันตัวกลับหลัง ในช่วงระหว่างนั้นเองก็ถูกยิง เข้าที่ท้ายทอยเยื้องไปทางด้านหลัง (รูเข้าเล็ก) และรูออกใหญ่
ภาพบาดแผล
สำหรับมือปืนชุดดำ อยู่ตรงแยกคอกวัวครับ อย่านำมาปนกัน
ตรงแยกถนนดินสอ ไม่มีผู้ชุมนุมถืออาวุธปืนต่อสู้ครับ
มี แต่การ์ดที่ยึดปืนได้นำไปส่งที่รถแกนนำ
ที่ผมทราบเพราะผมอยู่ใน เหตุการณ์
เครดิตภาพ คุณ ขนมสาคู
เครดิตภาพ คุณ ขนมสาคู คลิกที่ภาพดูภาพเต็มๆนะครับ
คำตอบของผู้อยู่ในเหตุการณ์
น่าจะเป็นความโชคร้ายของเพื่อนเสื้อแดงคนนี้ครับ และคนอื่นๆ ด้วย เพราะเหตุการณ์การยิงครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีสองศพที่ถูกแบกออกมาครับ
ส่วนประเด็นการ เสียชีวิตของนาย Hiro Muramoto ความเป็นไปได้ที่น่าจะถูกยิงจากปืนทหารมีความเป็นไปได้สูง เพราะปรากฎภาพรถหุ้มเกราะให้เห็นอยู่ กับภาพเหตุการณ์ที่มีระเบิดแล้วนาย Hiro Muramoto เดินสวนออกมาทางเสื้อแดง และถ่ายภาพเสื้อแดงก่อนที่จะล้มลง ประกอบกับถ้าได้ดู clip ตัวตัดจาก france24.com จะเห็นได้ชัดว่า มีทหารหลายนายได้ซุ่มยิงตามด้านข้างของตึกครับ
เช่นเดียวกัน ผมก็ยังไม่เห็นเสื้อแดงคนไหนใช้อาวุธปืนเข้าไปยิงต่อสู้ เพราะเห็นมีแต่เสื้อแดงแบกศพ แบกร่างคนเจ็บออกมาเป็นระยะ ประกอบกับแกนนำบนรถบรรทุกเมื่อรู้ว่ามีคนตายและคนเจ็บจากการถูกยิง ก็ประกาศให้พี่น้องเสื้อแดงถอยออกมาครับ
คำตอบที่ได้รับ:
คุณไม่เห็นจริงหรือครับ เมื่อเสียงปืนยิงรัวมาเป็นชุด สองสามช็อตสุดท้ายคนเริ่มก้มหลบ โดยที่ยังไม่รู้เลยว่ามีคนถูกยิงแล้ว และส่วนใหญ่คนเสื้อแดงจะยืนอยู่ตามแนวกำบังนะครับ (พวกรถทหารต่างๆ) ขนาดผมยืนอยู่หลังรถหุ้มเกราะผมยังก้มหลบนั่งยองๆ เลย เหมือนตัวอย่างภาพนี้ครับ
และสาเหตุที่อ้างว่าทำไมเสื้อแดงถึงตายไม่เยอะ ทั้งๆ ที่ได้รับบาดเจ็บมากมาย
ก็เป็นเพราะว่า คนเสื้อแดงไม่ได้วิ่งไล่ตามทหาร แต่ยืนหลบตามเกราะกำบัง อาทิเช่น
รถเกราะ รถทหาร เสาไฟ ตาม clip ที่ถ่ายโดยชาวต่างชาติชื่อ Tony Joh ที่
Thai Army Opens Fire on Red Protesters in Bangkok 2010 Pt1
ตามภาพนี้
ขอบคุณ คุณสิงห์สนามหลวง จากพันทิพย์
หลังจากที่ทหารได้ล่าถอยออก มา ก็มีการพยาบาลคนบาดเจ็บ จะพบว่า มีทหารใส่เสื้อแดง (แดงเทียม) อยู่ในกลุ่มทหารที่บาดเจ็บ (ดูภาพความคิดเห็นที่ 3) เหตุการณ์ต่อเนื่องทั้งหมดนี้ให้ดูได้จาก clip ฉบับเต็ม ตามกระทู้อ้างอิงที่ 2 (AVSEQ01)
Red Shirt v Army April 10 2010 Part7 (Who kill him?)
และจาก clip ข้างบนนี้ที่ผมตัดมาจาก clip AVSEQ01 ขอให้นำไปเทียบเสียงสเตปการยิงกับ clip ที่เสื้อแดงถูกยิงล้มลงแล้วหัวเปิดสมองไหลออกมา จะพบว่า
1. เสียงสเตปจังหวะปืนตรงกัน 7 นัด
2. ทิศทางการเดินมาด้านซ้ายมือของจอภาพ (จากกลาง) โดยที่ยังถือธงอยู่
3. ควบคู่ไปกับมีทหารนายหนึ่งวิ่งออกมาตรงกลางยิงปืนเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม (7 นัด)
4. ภายหลังเสียงปืนสิ้นสุดลง เสื้อแดงก็ล้มลงโดยมีทิศทางการล้มหัวไปด้านขวาของภาพ
5. ได้ยินเสียงทหารพูด "พอแล้วๆ" กับ clip เต็ม
6. ทหารเมื่อยิงเสร็จก็ทำการถอยออกมา แลมีะทหารอีกนายพูดออกมา "ยิงทำไมเฮ้ย" (เครดิตคุณ SUKOI #106)
หวังว่าสิ่งที่ผมทำขึ้นมาด้วยความบริสุทธ์ใจ เพื่อช่วยกันพิสูจน์ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง หาความเป็นธรรมให้กับผู้ล่วงลับ ไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวร้ายหรือพูดลอยๆ เพราะผมเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้น จึงสามารถที่จะเรียบเรียงและประมวลเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ได้มานั่งเทียนเขียนลอยๆ และคิดว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยในการตรวจหาข้อเท็จจริง ให้ความเป็นธรรมกับเพื่อนเสื้อแดงผู้ล่วงลับไปแล้วท่านี้
อ้างอิง
1. clip นาทีปะทะกัน
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P9111397/P9111397.html
ปะทะ กัน 2 ครั้งแรก (ไม่มีแกนนำ) ไม่มีคนบาดเจ็บ
ปะทะ กันตอนรถแกนนำเพิ่งมาถึง (เพิ่งเปิดเพลงเพื่อดิ้นกันยังไม่ทันได้ทำอะไร)
ปะทะ กันเป็นระยะ มีเสียงปืนดังไม่ขาดสาย
คน เจ็บถูกแบกออกมาเป็นระยะ
คลิปที่อนุสาวรีย์ 2..avi (ถนนดินสอ)
คลิปนี้ได้แต่เสียงทหารขู่ว่า ถ้าใครเข้ามาจะยิงทันที่ (ถนนดินสอ)
Thai Army Opens Fire on Red Protesters in Bangkok 2010 Pt1(ถนนดินสอ)
Thai Army Opens Fire on Red Protesters in Bangkok 2010 Pt2(ถนนดินสอ)
2. AVSEQ01
คลิกที่ภาพ เพื่อดูภาพเต็มนะครับ ผมไม่อยากย่อ แค่ใหญ่ๆ ยังดูเจ็บตา
ภาพมีแก๊สน้ำตาตกลงไปในรูรถหุ้มเกราะคันกลางทำให้ ทหารเผ่นลงจากรถ
มีเหตุการณ์ระเบิดทำให้ทหารวงแตกวิ่งถอยเข้ามา แต่เราจะได้เห็น Hiro Muramoto เดินสวนออกไปทางฝั่งกลุ่มเสื้อแดง
จะพบว่ามีทหารใส่เสื้อแดง (แดงเทียม) อยู่ในกลุ่มทหารที่ได้รับบาดเจ็บ
************************************
ขอ เล่าเหตุการณ์ที่มาของการยิงครั้งนี้นะครับ ตั้งแต่เย็นทหารก็ใช้ปจว.กระจายเสียงให้พี่น้องกลับบ้าน ไล่มาจนราวเกือบสองทุ่ม ไอ้ผมก็คิดอยู่ในใจว่า ไหนมาร์คมันบอกจะยึดพื้นที่ผ่านฟ้าคืนภายใน 6 โมงเย็น พอเลย 6 โมงเย็น ทุ่มกว่าๆ ผมก็คิดว่าทหารน่าจะใส่เกียร์ว่าง สักพักรถปจว.ของทหารก็กระจายเสียงขอให้สลายการชุมนุมเดี๋ยวนี้ ทหารจะใช้กำลังสลายแล้ว ประกาศสัก 3 ครั้ง เสียงปืนก็ดังอย่างที่เห็นล่ะครับ
ตอนเกิดเหตุการณ์ผมยืนอยู่หน้ารถ หุ้มเกราะตรงแนวทหารพอดี ด้านหลังเป็นรถกระบะของพี่น้องเสื้อแดงที่เอามาขวางรถหุ้มเกราะ ผมไปไหนไม่ได้ ในขณะที่แนวหลังเริ่มเผ่น ผมตัดสินใจนอนราบกับฝากระโปรงแล้วถ่ายรูปทหารยิงปืนต่อ (กลัวมอบกับพื้นแล้วรถหุ้มเกราะมองไม่เห็น มันจะเหยียบผมแบนเอา ผมเลยต้องตัดสินใจนอนราบกับพื้นที่สูงๆ คือหน้ากระโปรงเอาไว้ก่อน)
พอ มีระเบิดควัน หรือแก๊สน้ำตามาตกข้างรถตามคลิปที่ชมเท่านั้นล่ะครับ ผมก็ต้องเผ่นล่ะ เพราะฤทธิ์มันทำให้ระคายเคืองและแสบสุดๆ พอถอยตั้งหลักได้ ทหารเริ่มกรูออกมาเพื่อขยายพื้นที่ แต่พี่่น้องเสื้อแดงก็รวมตัวติด หลังจากเผ่นหนีเมื่อมีการยิงปืนในเที่ยวแรก จนทหารต้องถอยขบวนกลับไปอยู่ที่แนวเดิม
ปะทะกันตอนรถแกนนำเพิ่งมาถึง (เพิ่งเปิดเพลงเพื่อดิ้นกันยังไม่ทันได้ทำอะไร)
ใน การปะทะกันครั้งแรก ไม่มีแกนนำจากเวทีใหญ่มาปราศรัยควบคุม ได้แต่อาศัยการ์ดเท่านั้น บวกกับตัวผมเองที่เนียนเป็นนักข่าว คอยห้ามปรามไม่ให้พี่น้องยั่วยุทหาร หรือขว้างปาสิ่งของ และคอยบอกพวกทหารอย่ายิงปืน ตอนเย็นสถานการณ์ก็โอเคครับ มีการแจกน้ำให้ทหารกิน แจกบุหรี่แบ่งกันสูบ แต่ตอนที่ทหารเริ่มสลายการชุมนุม ก็เริ่มตึงเครียด แกนนำเวทีใหญ่ก็ไม่โผล่สักคน ให้ผู้ชุมนุมเสี่ยงตายกันตามลำพัง
แต่ พอรถแกนนำ ชื่อไวพจน์หรือเปล่าไม่แน่ใจ เพิ่งมาถึงและเปิดเพลงให้ผู้ชุมนุมเต้นผ่อนคลายกัน เพลงยังไม่ทันจบ ทหารก็เริ่มยิงปืนเพื่อสลาย แต่ครั้งนี้พี่น้องเสื้อแดงไม่กลัวตายครับ กลับวิ่งเข้าใส่รถหุ้มเกราะและแนวทหาร ทหารระดมยิงเป็นระยะๆ มีสมาร์ทบอมบ์ดังมาก ตกใกล้เคียงบริเวณที่ผมยืนอยู่ สลับกับเสียงปืน m16 บนรถหุ้มเกราะที่ยิงมาไม่ขาด
สักพักผมเห็นแก๊สน้ำตาที่ถูกยิงมาจาก ฝั่งทหารตกเข้าใส่รถหุ้มเกราะตรงรูพอดี เท่านั้นล่ะทหารรถหุ้มเกราะคันกลางก็เผ่นออกจากรถทันที คงตกใจไม่รู้ว่าเป็นระเบิดอะไร ส่วนรถหุ้มเกราะซ้ายมือ (มีจอดเรียงหน้า 3 คัน) เมื่อเห็นคันแรกเผ่น ทหารก็เริ่มเผ่นตาย เหลือทหารอีกนายควักปืนสั้นออกมาจ่อขู่ผู้ชุมนุมไม่ให้เข้าใกล้ พร้อมยิงขึ้นฟ้าขู่เป็นระยะ สุดท้ายต้องยอมจำนน (เพราะเผ่นหนีไม่ทัน)
สำหรับ ทหารอีกหนึ่งนายที่อยู่ในรถหุ้มเกราะคันกลางที่ถูกฝั่งตัวเองยิงแก๊สน้ำตาตก เข้าไป น่าจะทำอะไรไม่ถูก ผสมกับสำลักแก๊สน้ำตา ภายหลังคนเสื้อแดงเข้าไปช่วยออกมา และมีการ์ดคอยกันไม่ให้ถูกทำร้าย
ปะทะกันเป็นระยะ มีเสียงปืนดังไม่ขาดสาย
คลิปนี้ ผู้ชุมนุมยึดพื้นที่แนวทหารได้ (บริเวณรถหุ้มเกราะ) ช่วงหลังทหารเริ่มทำการยิงตอบโต้อีกครั้ง ครั้งนี้เองที่มีผู้เสียชีวิตสองสามรายแรกที่ถูกแบกออกมา (ถูกยิงหัวแบะ)
คนเจ็บถูกแบกออกมาเป็นระยะ
ระหว่าง นี้เองที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตถูกแบกออกมา โดยที่ทหารยังยิงอยู่เป็นระยะๆ สักพักแบตผมก็หมด อยู่ดีๆ มีคนที่ยืนข้างๆ ผม บอกผมว่า "พี่ผมถูกยิง" พร้อมกับเปิดเสื้อให้ผมดูเห็นรอยกระสุนและเลือดไหลออกมา การ์ดจึงรีบนำตัวไปส่งโรงพยาบาล ยังไม่ทันหันหน้ากลับ วัยรุ่นเสื้อดำที่อยู่ถัดไปก็ล้มฟุบลงอย่างรวดเร็ว ข้างๆ มีผู้หญิงยืนอยู่ก็ตกใจร้องให้คนช่วย เมื่อมีคนเปิดดูบาดแผลก็พบว่าถูกยิง และพาตัวนำส่งโรงพยาบาล ทั้งสองคนที่ถูกยิง ยืนอยู่หลังรถหุ้มเกราะ
ถ้า จะถูกยิงน่าจะถูกยิงมาจากดาดฟ้าตึกที่มีทหารซุ่มอยู่และคอยยิงลงมาเรื่อยๆ ผมจึงรู้ว่าที่ตรงนั้นไม่ปลอดภัยแล้ว ผมจึงถอยมาหลบหลังรถกระบะที่อยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์ (อนุสาวรีย์มีร่องรอยกระสุน m16 หลายจุดเหมือนกัน) แกนนำแม้จะประกาศว่า มีการเจรจาหยุดยิง แต่ทหาร ณ จุดที่เกิดเหตุไม่เชื่อ ยังยิงเป็นระยะๆ อีกสักพัก เสียงปืนถึงจะสงบ จากนั้นบนเวทีก็มีการชี้แจงเรื่องเจรจาหยุดยิง และอื่นๆ อีกมากมาย ที่บ้านก็โทรศัพท์มารายงานยืนว่ามีการเจรจาหยุดยิงจริง ไก่อู พ.อ.สรรเสริญ เป็นคนพูดจริง
เมื่อผมได้ยินเช่นนั้นและ เหตุการณ์สงบลงจริง เสียงปืนหยุด ผมจึงคิดว่าคืนนี้ทหารคงไม่ทำอะไรแล้ว เท่านั้นล่ะครับ ระหว่างทางที่จะเดินกลับบ้านไปเรียก taxi เห็นคนยืนเข้าแถวรับอาหารอยู่ ผมก็ไม่รอช้ารีบไปยืนต่อแถวรับอาหารมารับประทานทันที เมื่อทานเสร็จก็ไปต่อแถวเอามากินอีกจาน ถึงค่อยเดินออกมาเรียก taxi
ภาพเปรียบเทียบจาก clip เสื้อแดงถูกยิง
อธิบาย ลักษณะการโดนยิง จะได้ไม่ต้องมาถามกันว่า โดนยิงข้างหน้า หรือข้างหลัง ผมเห็นหลายๆกระทู้พูดถึงเรื่องนี้
คนเสื้อแดงที่ถูกยิงเดินมาด้านขวามือของตัวเอง (ด้านซ้ายของภาพหัวข้อกระทู้ผม) ในช่วงที่ถูกยิง ผู้ล่วงลับกำลังหันหัวมาเหลียวมองข้างหลังพร้อมหันตัวกลับหลัง ในช่วงระหว่างนั้นเองก็ถูกยิง เข้าที่ท้ายทอยเยื้องไปทางด้านหลัง (รูเข้าเล็ก) และรูออกใหญ่
ภาพบาดแผล
สำหรับมือปืนชุดดำ อยู่ตรงแยกคอกวัวครับ อย่านำมาปนกัน
ตรงแยกถนนดินสอ ไม่มีผู้ชุมนุมถืออาวุธปืนต่อสู้ครับ
มี แต่การ์ดที่ยึดปืนได้นำไปส่งที่รถแกนนำ
ที่ผมทราบเพราะผมอยู่ใน เหตุการณ์
เครดิตภาพ คุณ ขนมสาคู
เครดิตภาพ คุณ ขนมสาคู คลิกที่ภาพดูภาพเต็มๆนะครับ
มีคำถามว่า
ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผู้ตายถึงถูกยิง (ทำไมถึงเลือกยิงผู้ตาย)
ตรงนี้ไม่รู้ใครจะรู้จริงหรือเปล่า เพราะมันคงยากที่จะหาคำตอบ
หรือแค่ jackpot หรือเพราะ ถือธง(เด่น) หรือเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแกนนำ(ระดับกลางหรือล่าง)เพราะถือธง
คำตอบของผู้อยู่ในเหตุการณ์
น่าจะเป็นความโชคร้ายของเพื่อนเสื้อแดงคนนี้ครับ และคนอื่นๆ ด้วย เพราะเหตุการณ์การยิงครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีสองศพที่ถูกแบกออกมาครับ
ส่วนประเด็นการ เสียชีวิตของนาย Hiro Muramoto ความเป็นไปได้ที่น่าจะถูกยิงจากปืนทหารมีความเป็นไปได้สูง เพราะปรากฎภาพรถหุ้มเกราะให้เห็นอยู่ กับภาพเหตุการณ์ที่มีระเบิดแล้วนาย Hiro Muramoto เดินสวนออกมาทางเสื้อแดง และถ่ายภาพเสื้อแดงก่อนที่จะล้มลง ประกอบกับถ้าได้ดู clip ตัวตัดจาก france24.com จะเห็นได้ชัดว่า มีทหารหลายนายได้ซุ่มยิงตามด้านข้างของตึกครับ
เช่นเดียวกัน ผมก็ยังไม่เห็นเสื้อแดงคนไหนใช้อาวุธปืนเข้าไปยิงต่อสู้ เพราะเห็นมีแต่เสื้อแดงแบกศพ แบกร่างคนเจ็บออกมาเป็นระยะ ประกอบกับแกนนำบนรถบรรทุกเมื่อรู้ว่ามีคนตายและคนเจ็บจากการถูกยิง ก็ประกาศให้พี่น้องเสื้อแดงถอยออกมาครับ
มีคำถามต่อมาว่า:
คนในแนวกระสุนที่คุณอ้าง ช่างใจถึงจริงๆ ไม่มีใครหลบสักเท่าไหร่เลย จนกระทั่งมีคนล้ม ถึงรู้สึกตัว
เกิน ไปมากครับ ภาพมันฟ้อง ว่าที่คุณฟ้องด้วยภาพ มันฟ้องตัวมันเอง
อย่า เอาแค่เสียงปืนจังหวะที่ทหารด้านโน้นยิง มาสรุป ยามนั้นกระสุนไม่ได้ มีทางเดียวครับ
ดูภาพของคุณสิงห์สนามหลวงชัดๆ อีกที
ไม่มี ใครหลบจริงจังในแนวกระสุนที่คุณอ้างเลย
คำตอบที่ได้รับ:
คุณไม่เห็นจริงหรือครับ เมื่อเสียงปืนยิงรัวมาเป็นชุด สองสามช็อตสุดท้ายคนเริ่มก้มหลบ โดยที่ยังไม่รู้เลยว่ามีคนถูกยิงแล้ว และส่วนใหญ่คนเสื้อแดงจะยืนอยู่ตามแนวกำบังนะครับ (พวกรถทหารต่างๆ) ขนาดผมยืนอยู่หลังรถหุ้มเกราะผมยังก้มหลบนั่งยองๆ เลย เหมือนตัวอย่างภาพนี้ครับ
และสาเหตุที่อ้างว่าทำไมเสื้อแดงถึงตายไม่เยอะ ทั้งๆ ที่ได้รับบาดเจ็บมากมาย
ก็เป็นเพราะว่า คนเสื้อแดงไม่ได้วิ่งไล่ตามทหาร แต่ยืนหลบตามเกราะกำบัง อาทิเช่น
รถเกราะ รถทหาร เสาไฟ ตาม clip ที่ถ่ายโดยชาวต่างชาติชื่อ Tony Joh ที่
Thai Army Opens Fire on Red Protesters in Bangkok 2010 Pt1
ตามภาพนี้
ตอบว่า ชื่อ นวสันต์ ภู่ทองถามว่า ผู้ตายชื่ออะไรครับ
ขอบคุณ คุณสิงห์สนามหลวง จากพันทิพย์
แก้ไขล่าสุดโดย dimistry เมื่อ Thu Apr 15, 2010 10:53 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
Re: คนเดียวกันรึป่าว (แดงเทียม)
ชันสูตรศพม็อบ แดง โดนกระสุน9 อีกรายโรคประจำตัว
ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11ราย รวมทั้งผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น สามารถแบ่งกลุ่มได้ 3 กลุ่ม 8 รายโดนกระสุนความเร็วสูง กลุ่มที่สอง 1รายถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่หน้าอก และโดนหัวใจ มีการฉีกขาด และกลุ่ม3ตายเพราะโรคประจำตัว...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (12 เม.ย.) พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ พร้อมคณะกรรมการตรวจชันสูตรศพ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังร่วมชันสูตรศพโดยพล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง11ราย ที่ทำการชันสูตรศพนั้น มี1ราย ที่เป็นผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากต้องขออนุญาตฝ่ายญาติของผู้เสียชีวิต รัฐบาลญี่ปุ่น กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งความประสงค์ว่ายังไม่ให้เปิดเผยรายละเอียด จึงเหลือผู้เสียชีวิตทั้งหมด10ราย ที่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ดังนี้
1.นาย ทศชัย เมฆงามฟ้า อายุ 44 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทะลุหัวใจเข้าทางด้านหน้า บริเวณหน้าอกซ้ายทะลุเข้าด้านหลัง
2.นายสวาท วงงาม อายุ 43 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง กระสุนปืนเข้าจากศีรษะ ทะลุด้านหน้า
3.นาย ยุทธนา ทองเจริญพูนพร อายุ 23 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง กระสุนปืนเข้าจากบริเวณด้านหลังทะลุด้านหน้า
4.นายจรูญ ฉายแม้น อายุ 46 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายปอดและตับ กระสุนปืนเข้าบริเวณด้านหน้าขวาทะลุผ่านปอด ผ่านตับ เข้ากระดูกสันหลัง
5.นาย วสันต์ ภู่ทอง อายุ 39 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง กระสุนปืนเข้าศีรษะจากด้านหลังทะลุด้านหน้า
6.นายอำพน ตติยรัตน์ อายุ 36 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง กระสุนปืนเข้าศีรษะจากด้านหลังมาด้านหน้า
7.นายไพรศล ทิพย์ลม อายุ 37 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง กระสุนปืนเข้าบริเวณศีรษะด้านหน้า กลางหน้าผาก ออกท้ายทอยด้านหลัง
8.นายธวัฒนะชัย กลัดสุข อายุ 36 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืน ทะลุปอดและเส้นเลือดใหญ่ เสียโลหิตปริมาณมาก กระสุนปืนเข้าจากด้านหน้าทะลุปอด ตับ เส้นเลือดแดงใหญ่ ออกด้านหลัง 9.ชายไทยไม่ทราบชื่อ เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืน ทะลุหลอดเลือดแดงใหญ่ ช่องอก และปอด เสียโลหิตปริมาณมาก กระสุนปืนเข้าบริเวณด้านหน้าผ่านช่องอก ผ่านปอด เส้นเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด
10.นายมนต์ชัย แซ่จอง อายุ 54 ปี เสียชีวิตจากระบบการหายใจล้มเหลว
นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตร.กล่าวว่า ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11ราย รวมทั้งผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น สามารถแบ่งกลุ่มได้3 กลุ่ม ประกอบไปด้วย ผู้เสียชีวิตกลุ่มแรกจำนวน 8 ราย ที่คณะกรรมการสันนิษฐานว่า น่าจะเสียชีวิตจากกระสุนปืนที่มีความเร็วสูง ในจำนวนดังกล่าวมี 5 ราย ที่ถูกกระสุนปืนเข้าทางศีรษะ อีก 3 ราย กระสุนเข้าที่หน้าอก และหน้าท้อง กลุ่มที่สอง 1รายถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่หน้าอก และโดนหัวใจ มีการฉีกขาดของหัวใจ มากแต่คณะกรรมการยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าโดนอาวุธปืนความเร็วสูง หรือกระสุนปืนความเร็วต่ำ ขณะที่กลุ่มสุดท้าย1ราย คือนายมนต์ชัย เสียชีวิตจากการตายของโรคตัวเอง ซึ่งพบว่าเป็นโรคปอด ลักษณะถุงลมโป่งพอง มีลักษณะตับแข็ง เชื่อได้ว่าตายจากระบบการหายใจล้มเหลว
พล.ต.ท. นพ.จงเจตน์ กล่าวต่อว่า ในจำนวนผู้ตายที่เชื่อได้ว่าถูกกระสุนปืนจำนวน9ราย ไม่ร่วมผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นและผู้เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว นั้นมีเพียง1รายที่พบเศษหัวกระสุนติดอยู่คือนายวสันต์ ภู่ทอง แต่ไม่ใช่ทั้งหัวกระสุน เป็นเพียงการพบเศษบางส่วน ขณะที่รายอื่นพบเพียงส่วนของโลหะ ส่วนข้อสันนิษฐานว่าผู้ตายทั้งหมดถูกยิงเข้าจุดที่สำคัญดังนั้นผู้กระทำการ ต้องมีความเชี่ยวชาญในการก่อเหตุใช่หรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ ต้องไปสันนิษฐานเอง ทางคณะกรรมการพิจารณาและแถลงจากหลักฐาน ที่มีข้อมูลเท่านั้น จะไม่มีการสันนิษฐานในประเด็นอื่น ต้องรอทางคณะกรรมการสอบสวนอื่นที่อาจมีการดำเนินการหลังจากนี้ แต่ส่วนใหญ่เป็นการยิงจากระยะไกล มีเพียงรายเดียวที่น่าจะเป็นระยะใกล้ประมาณไม่เกิน1เมตร หรือระยะประชิด คือ รายชายไทยไม่ทราบชื่อ
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย ตัวแทนจากกลุ่ม นปช. กล่าวว่า ประเด็นของการชันสูตรจากคณะกรรมการชุดนี้คือ 1.สามารถบอกได้คือสาเหตุการเสียชีวิตคืออะไร ที่พิจารณาจากสภาพศพ 2.บุคคลที่เสียชีวิตคือใครตามรายชื่อ สามารถรู้ได้หมดนอกจากชายไม่ทราบชื่อ ส่วนประเด็นที่3.คือเรื่องพฤติกรรมการเสียชีวิต ส่วนที่จะบอกว่าถูกยิงอย่างไร ด้วยกระสุนอะไรนั้น ต้องปล่อยให้เป็นความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจากทีมสืบสวน และเจ้าหน้าที่ พฐ. ที่ต้องเอาความเห็นของคณะกรรมการชุดนี้ไปพิจารณาประกอบ เนื่องจากเป็นเรื่องของพฤติกรรมการตาย ก่อนจะได้รายละเอียดที่ชัดเจนขึ้น ทั้งเรื่องของชนิดปืน ชนิดกระสุน
ส.ส.จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย ตัวแทนจากกลุ่ม นปช.กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมาคือการเสียชีวิตของทั้ง11ราย และตัดออกในส่วนของผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นและผู้ที่เสียชีวิตโดยโรคนั้น มีเพียง1รายจาก9รายเท่านั้น ที่ผ่านการรักษาในลักษณะการเจาะเลือดออกจากปอดคือนายจรูญ ฉายแม้น ที่โรงพยาบาลกลาง ส่วนที่เหลือไม่มีการรักษาซึ่งพอจะสันนิษฐานได้ว่ามีการตายทันทีมั่นใจว่า คณะกรรมการชุดนี้มีการพิจารณาอย่างโปร่งใส เพราะเป็นเรื่องของความเห็นทางวิชาการ ผ่านการถกเถียงที่เป็นวิทยาศาสตร์ ที่ยืนยันได้
ส่วน นพ.เชิดชัย ตัยติศิรินทร์ ตัวแทน นปช.กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้มีคุณวุฒิและทำงานตรงไปตรงมา เชื่อได้ว่าผลทั้งหมดที่ออกมามีความโปร่งใส ส่วนนี้จะเป็นหลักฐานที่จะนำไปฟ้องร้องเพื่อดำเนินการทางกฎหมายในอนาคต ผลการพิสูจน์ครั้งนี้ทำให้เชื่อได้แล้วว่ามีคนตายจริง ส่วนใหญ่ถูกอาวุธยิงที่ศีรษะ และทรวงอกและเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายฮิโรยูริ มูราโมโต อายุ 42 ปี ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น ผลการชันสูตรระบุว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากบาดแผลกระสุนปืนทะลุปอด หลอดเลือดแดงใหญ่ เลือดออกในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ ส่วนผู้เสียชีวิตที่เหลืออีก10 ราย ตอนนี้ศพอยู่ที่ รพ.ศิริราช 2 ราย รพ.รามา 2 ราย รพ.วชิระพยาบาล 2 ราย และผู้เสียชีวิตที่เป็นทหารศพอยู่ที่ รพ.วชิระ 2 ราย รพ.พระมุงกุฎเกล้า 2 ราย
แหล่งที่มา ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/content/pol/76479
ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11ราย รวมทั้งผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น สามารถแบ่งกลุ่มได้ 3 กลุ่ม 8 รายโดนกระสุนความเร็วสูง กลุ่มที่สอง 1รายถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่หน้าอก และโดนหัวใจ มีการฉีกขาด และกลุ่ม3ตายเพราะโรคประจำตัว...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (12 เม.ย.) พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ พร้อมคณะกรรมการตรวจชันสูตรศพ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังร่วมชันสูตรศพโดยพล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง11ราย ที่ทำการชันสูตรศพนั้น มี1ราย ที่เป็นผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากต้องขออนุญาตฝ่ายญาติของผู้เสียชีวิต รัฐบาลญี่ปุ่น กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งความประสงค์ว่ายังไม่ให้เปิดเผยรายละเอียด จึงเหลือผู้เสียชีวิตทั้งหมด10ราย ที่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ดังนี้
1.นาย ทศชัย เมฆงามฟ้า อายุ 44 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทะลุหัวใจเข้าทางด้านหน้า บริเวณหน้าอกซ้ายทะลุเข้าด้านหลัง
2.นายสวาท วงงาม อายุ 43 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง กระสุนปืนเข้าจากศีรษะ ทะลุด้านหน้า
3.นาย ยุทธนา ทองเจริญพูนพร อายุ 23 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง กระสุนปืนเข้าจากบริเวณด้านหลังทะลุด้านหน้า
4.นายจรูญ ฉายแม้น อายุ 46 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายปอดและตับ กระสุนปืนเข้าบริเวณด้านหน้าขวาทะลุผ่านปอด ผ่านตับ เข้ากระดูกสันหลัง
5.นาย วสันต์ ภู่ทอง อายุ 39 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง กระสุนปืนเข้าศีรษะจากด้านหลังทะลุด้านหน้า
6.นายอำพน ตติยรัตน์ อายุ 36 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง กระสุนปืนเข้าศีรษะจากด้านหลังมาด้านหน้า
7.นายไพรศล ทิพย์ลม อายุ 37 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง กระสุนปืนเข้าบริเวณศีรษะด้านหน้า กลางหน้าผาก ออกท้ายทอยด้านหลัง
8.นายธวัฒนะชัย กลัดสุข อายุ 36 ปี เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืน ทะลุปอดและเส้นเลือดใหญ่ เสียโลหิตปริมาณมาก กระสุนปืนเข้าจากด้านหน้าทะลุปอด ตับ เส้นเลือดแดงใหญ่ ออกด้านหลัง 9.ชายไทยไม่ทราบชื่อ เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืน ทะลุหลอดเลือดแดงใหญ่ ช่องอก และปอด เสียโลหิตปริมาณมาก กระสุนปืนเข้าบริเวณด้านหน้าผ่านช่องอก ผ่านปอด เส้นเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด
10.นายมนต์ชัย แซ่จอง อายุ 54 ปี เสียชีวิตจากระบบการหายใจล้มเหลว
นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตร.กล่าวว่า ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11ราย รวมทั้งผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น สามารถแบ่งกลุ่มได้3 กลุ่ม ประกอบไปด้วย ผู้เสียชีวิตกลุ่มแรกจำนวน 8 ราย ที่คณะกรรมการสันนิษฐานว่า น่าจะเสียชีวิตจากกระสุนปืนที่มีความเร็วสูง ในจำนวนดังกล่าวมี 5 ราย ที่ถูกกระสุนปืนเข้าทางศีรษะ อีก 3 ราย กระสุนเข้าที่หน้าอก และหน้าท้อง กลุ่มที่สอง 1รายถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่หน้าอก และโดนหัวใจ มีการฉีกขาดของหัวใจ มากแต่คณะกรรมการยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าโดนอาวุธปืนความเร็วสูง หรือกระสุนปืนความเร็วต่ำ ขณะที่กลุ่มสุดท้าย1ราย คือนายมนต์ชัย เสียชีวิตจากการตายของโรคตัวเอง ซึ่งพบว่าเป็นโรคปอด ลักษณะถุงลมโป่งพอง มีลักษณะตับแข็ง เชื่อได้ว่าตายจากระบบการหายใจล้มเหลว
พล.ต.ท. นพ.จงเจตน์ กล่าวต่อว่า ในจำนวนผู้ตายที่เชื่อได้ว่าถูกกระสุนปืนจำนวน9ราย ไม่ร่วมผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นและผู้เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว นั้นมีเพียง1รายที่พบเศษหัวกระสุนติดอยู่คือนายวสันต์ ภู่ทอง แต่ไม่ใช่ทั้งหัวกระสุน เป็นเพียงการพบเศษบางส่วน ขณะที่รายอื่นพบเพียงส่วนของโลหะ ส่วนข้อสันนิษฐานว่าผู้ตายทั้งหมดถูกยิงเข้าจุดที่สำคัญดังนั้นผู้กระทำการ ต้องมีความเชี่ยวชาญในการก่อเหตุใช่หรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ ต้องไปสันนิษฐานเอง ทางคณะกรรมการพิจารณาและแถลงจากหลักฐาน ที่มีข้อมูลเท่านั้น จะไม่มีการสันนิษฐานในประเด็นอื่น ต้องรอทางคณะกรรมการสอบสวนอื่นที่อาจมีการดำเนินการหลังจากนี้ แต่ส่วนใหญ่เป็นการยิงจากระยะไกล มีเพียงรายเดียวที่น่าจะเป็นระยะใกล้ประมาณไม่เกิน1เมตร หรือระยะประชิด คือ รายชายไทยไม่ทราบชื่อ
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย ตัวแทนจากกลุ่ม นปช. กล่าวว่า ประเด็นของการชันสูตรจากคณะกรรมการชุดนี้คือ 1.สามารถบอกได้คือสาเหตุการเสียชีวิตคืออะไร ที่พิจารณาจากสภาพศพ 2.บุคคลที่เสียชีวิตคือใครตามรายชื่อ สามารถรู้ได้หมดนอกจากชายไม่ทราบชื่อ ส่วนประเด็นที่3.คือเรื่องพฤติกรรมการเสียชีวิต ส่วนที่จะบอกว่าถูกยิงอย่างไร ด้วยกระสุนอะไรนั้น ต้องปล่อยให้เป็นความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจากทีมสืบสวน และเจ้าหน้าที่ พฐ. ที่ต้องเอาความเห็นของคณะกรรมการชุดนี้ไปพิจารณาประกอบ เนื่องจากเป็นเรื่องของพฤติกรรมการตาย ก่อนจะได้รายละเอียดที่ชัดเจนขึ้น ทั้งเรื่องของชนิดปืน ชนิดกระสุน
ส.ส.จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย ตัวแทนจากกลุ่ม นปช.กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมาคือการเสียชีวิตของทั้ง11ราย และตัดออกในส่วนของผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นและผู้ที่เสียชีวิตโดยโรคนั้น มีเพียง1รายจาก9รายเท่านั้น ที่ผ่านการรักษาในลักษณะการเจาะเลือดออกจากปอดคือนายจรูญ ฉายแม้น ที่โรงพยาบาลกลาง ส่วนที่เหลือไม่มีการรักษาซึ่งพอจะสันนิษฐานได้ว่ามีการตายทันทีมั่นใจว่า คณะกรรมการชุดนี้มีการพิจารณาอย่างโปร่งใส เพราะเป็นเรื่องของความเห็นทางวิชาการ ผ่านการถกเถียงที่เป็นวิทยาศาสตร์ ที่ยืนยันได้
ส่วน นพ.เชิดชัย ตัยติศิรินทร์ ตัวแทน นปช.กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้มีคุณวุฒิและทำงานตรงไปตรงมา เชื่อได้ว่าผลทั้งหมดที่ออกมามีความโปร่งใส ส่วนนี้จะเป็นหลักฐานที่จะนำไปฟ้องร้องเพื่อดำเนินการทางกฎหมายในอนาคต ผลการพิสูจน์ครั้งนี้ทำให้เชื่อได้แล้วว่ามีคนตายจริง ส่วนใหญ่ถูกอาวุธยิงที่ศีรษะ และทรวงอกและเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายฮิโรยูริ มูราโมโต อายุ 42 ปี ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น ผลการชันสูตรระบุว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากบาดแผลกระสุนปืนทะลุปอด หลอดเลือดแดงใหญ่ เลือดออกในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ ส่วนผู้เสียชีวิตที่เหลืออีก10 ราย ตอนนี้ศพอยู่ที่ รพ.ศิริราช 2 ราย รพ.รามา 2 ราย รพ.วชิระพยาบาล 2 ราย และผู้เสียชีวิตที่เป็นทหารศพอยู่ที่ รพ.วชิระ 2 ราย รพ.พระมุงกุฎเกล้า 2 ราย
แหล่งที่มา ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/content/pol/76479
Re: คนเดียวกันรึป่าว (แดงเทียม)
"หมอเสื้อแดง"เชื่อผลชันสูตรศพเหยื่อปะทะถูกยิงด้วย กระสุนจริง เล็งใช้ข้อมูลฟ้องล่าอาชญากรมาลงโทษ
ผลชันสูตรชี้8ใน11ศพเหยื่อปะทะถูกยิง ด้วย"กระสุนจริง"จากระยะไกลถูกอวัยวะสำคัญ ญาตินักข่าวญี่ปุ่นขอปิดข้อมูล หมอนปช.ยอมรับผล เล็งใช้ฟ้องหาตัวอาชญากร
พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ8) รพ.ตำรวจ พร้อมด้วยคณะกรรมการตรวจชันสูตรพลิกศพเหตุการณ์จราจลที่เกิดขึ้นบริเวณถ.ราช ดำเนิน จำนวน 12 ราย ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ชันสูตรศพจากสถาบันนิติเวชวิทยา สมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย และผู้เข้าสังเกตุการณ์จากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่ง ชาติ(นปช.) 2 ราย
พล.ต.ท.จงเจตน์ แถลงข่าวว่า สถาบันนิติเวชได้ชันสูตรพลิกศพจำนวน 11 ราย จากเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มนปช.เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา โดย1รายเป็นผู้สื่อข่าวชายญี่ปุ่นชื่อนายฮิโรยูริ มูราโมโตะ ( Mr.Hiroyuri Muramoto ) อายุ 43 ปี ซึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืน แต่ไม่สามารถเผยแพร่รายละเอียดของการเสียชีวิตได้ เนื่องจากเอกสิทธิ์ของครอบครัวผู้เสียชีวิต ส่วนผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ นั้น แบ่งกลุ่มได้เป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกมี 8 ราย แพทย์ที่ชันสูตรมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าเสียชีวิตจากกระสุนยิงด้วยความ เร็วสูง โดย 5 รายถูกยิงเข้าที่ศรีษะ อีก 3รายถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก หน้าท้อง นอกจากนี้ มี1รายถูกยิงเข้าที่หน้าอกกระสุนทะลุหัวใจ แต่ไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นกระสุนความเร็วสูงหรือต่ำ และรายสุดท้ายเสียชีวิตจากโรคประจำตัวถุงลมป่องพอง ตับแข็ง และหัวใจล้มเหลว จึงสรุปได้ว่าทั้ง 9 ราย ถูกกระสุนปืนยิง และมี 1 รายมีเศษหัวกระสุนติดอยู่ในศพ นอกจากนี้ มีเพียงรายเดียวเท่านั้น ที่ถูกยิงจากระยะใกล้ น่าจะไม่เกิน 1 เมตร เป็นระยะประชิด คือชายไทยที่ไม่ทราบชื่อ
พล.ต.ท.จงเจตน์ ได้แจกแจงสาเหตุการตายของแต่ละคนดังนี้ 1. นายฮิโรยูริ เสียชีวิตจากกระสุนปืนยิงทะลุปอด หลอดเลือดแดงใหญ่ เลือดออกในช่องเยื้อหุ้มหัวใจ 2. นายทศชัย เมฆงามฟ้า อายุ 44 ปี บาดแผลกระสุนปืนทะลุหัวใจ เข้าหน้าอกซ้ายไปทะลุหลัง 3.นายสวาท วงงาม อายุ 43 ปี บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมองจากด้านหลังทะลุด้านหน้า 4. นายยุทธนา ทองเจริญพูลพร อายุ 23 ปี มีบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมองจากด้านหลังทะลุด้านหน้า 5.นายจรูญ ฉายแม้น อายุ 46 ปี กระสุนปืนทำลายปอดและตัว โดยกระสุนเข้าด้านขวาทะลุปอดและตับและทะลุหลัง 5. นายวสันต์ ภู่ทอง อายุ39 ปี บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง ด้านหลังศรีษะทะลุด้านหน้า 6. นายอำพน ตติยรัตน์ อายุ 26 ปี บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมองจากด้านหลักศรีษะทะลุด้านหน้า 7. นายไพรศล ทิพย์ลม อายุ 37 ปี บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง จากศรีษะด้านหน้าทะลุท้ายทอย 8. นายธวัฒนะชัย กลัดสุข อายุ 36 ปี บาดแผลกระสุนปืนทะลุปอดและเส้นเลือดแดงใหญ่เสียโลหิตปริมาณมาก กระสุนเข้าไปตัดเส้นเลือดแดงใหญ่และทะลุหลัง 9. นายมนต์ชัย แซ่จอง อายุ 54 ปี ระบบการหายใจล้มเหลว ส่วนชายไทยไม่ทราบชื่อบาดแผลกระสุนปืนทะลุหลอดเลือดแดงใหญ่ช่องอกและปอดเสีย โลหิตปริมาณมาก กระสุนเข้าด้านหน้าผ่านช่องอก ปอด เส้นเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด อย่างไรก็ตามมีญาติมาติดต่อและทราบชื่อคือนายสยาม วัฒนนุกุล อายุ 53 ปี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นถูกยิงด้วยอาวุธปืนด้วยกระสุนจริง ใช่หรือไม่ พล.ต.ท.จงเจตน์ กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นถูกยิงด้วยกระสุนจริง แต่คณะแพทย์ไม่ได้มีหน้าที่ระบุว่าใครเป็นยิง เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือนักแม่นปืน แต่บอกได้ว่า กระสุนมีความเร็วสูง
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ตัวแทนจากนปช.ซึ่งร่วมเป็นคณะแพทย์ผู้ตรวจศพ กล่าวว่า ในการชันสูตรพลิกศพแพทย์ทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีวุฒิภาวะ จึงสามารถบอกได้ว่าการชันสูตรครั้งนี้มีความโปร่งใส มั่นใจได้ว่าการทำงานตรงไปตรงมา เป็นเรื่องความเห็นทางวิชาการที่ยืนยันได้ ซึ่งผลการชันสูตรครั้งนี้ จะเป็นหลักฐานที่นำใช้ฟ้องร้องหาอาชญากรมาลงโทษในอนาคต ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ที่รพ.อื่น ชันสูตรก็มีนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำเป็นคณะกรรมการเช่นเดียวกัน จึงยืนยันว่าผลชันสูตรโปร่งใส ทุกขั้นตอน
แหล่งที่มา มิติชน http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1271063112&grpid=00&catid=no
ผลชันสูตรชี้8ใน11ศพเหยื่อปะทะถูกยิง ด้วย"กระสุนจริง"จากระยะไกลถูกอวัยวะสำคัญ ญาตินักข่าวญี่ปุ่นขอปิดข้อมูล หมอนปช.ยอมรับผล เล็งใช้ฟ้องหาตัวอาชญากร
พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ8) รพ.ตำรวจ พร้อมด้วยคณะกรรมการตรวจชันสูตรพลิกศพเหตุการณ์จราจลที่เกิดขึ้นบริเวณถ.ราช ดำเนิน จำนวน 12 ราย ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ชันสูตรศพจากสถาบันนิติเวชวิทยา สมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย และผู้เข้าสังเกตุการณ์จากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่ง ชาติ(นปช.) 2 ราย
พล.ต.ท.จงเจตน์ แถลงข่าวว่า สถาบันนิติเวชได้ชันสูตรพลิกศพจำนวน 11 ราย จากเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มนปช.เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา โดย1รายเป็นผู้สื่อข่าวชายญี่ปุ่นชื่อนายฮิโรยูริ มูราโมโตะ ( Mr.Hiroyuri Muramoto ) อายุ 43 ปี ซึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืน แต่ไม่สามารถเผยแพร่รายละเอียดของการเสียชีวิตได้ เนื่องจากเอกสิทธิ์ของครอบครัวผู้เสียชีวิต ส่วนผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ นั้น แบ่งกลุ่มได้เป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกมี 8 ราย แพทย์ที่ชันสูตรมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าเสียชีวิตจากกระสุนยิงด้วยความ เร็วสูง โดย 5 รายถูกยิงเข้าที่ศรีษะ อีก 3รายถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก หน้าท้อง นอกจากนี้ มี1รายถูกยิงเข้าที่หน้าอกกระสุนทะลุหัวใจ แต่ไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นกระสุนความเร็วสูงหรือต่ำ และรายสุดท้ายเสียชีวิตจากโรคประจำตัวถุงลมป่องพอง ตับแข็ง และหัวใจล้มเหลว จึงสรุปได้ว่าทั้ง 9 ราย ถูกกระสุนปืนยิง และมี 1 รายมีเศษหัวกระสุนติดอยู่ในศพ นอกจากนี้ มีเพียงรายเดียวเท่านั้น ที่ถูกยิงจากระยะใกล้ น่าจะไม่เกิน 1 เมตร เป็นระยะประชิด คือชายไทยที่ไม่ทราบชื่อ
พล.ต.ท.จงเจตน์ ได้แจกแจงสาเหตุการตายของแต่ละคนดังนี้ 1. นายฮิโรยูริ เสียชีวิตจากกระสุนปืนยิงทะลุปอด หลอดเลือดแดงใหญ่ เลือดออกในช่องเยื้อหุ้มหัวใจ 2. นายทศชัย เมฆงามฟ้า อายุ 44 ปี บาดแผลกระสุนปืนทะลุหัวใจ เข้าหน้าอกซ้ายไปทะลุหลัง 3.นายสวาท วงงาม อายุ 43 ปี บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมองจากด้านหลังทะลุด้านหน้า 4. นายยุทธนา ทองเจริญพูลพร อายุ 23 ปี มีบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมองจากด้านหลังทะลุด้านหน้า 5.นายจรูญ ฉายแม้น อายุ 46 ปี กระสุนปืนทำลายปอดและตัว โดยกระสุนเข้าด้านขวาทะลุปอดและตับและทะลุหลัง 5. นายวสันต์ ภู่ทอง อายุ39 ปี บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง ด้านหลังศรีษะทะลุด้านหน้า 6. นายอำพน ตติยรัตน์ อายุ 26 ปี บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมองจากด้านหลักศรีษะทะลุด้านหน้า 7. นายไพรศล ทิพย์ลม อายุ 37 ปี บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง จากศรีษะด้านหน้าทะลุท้ายทอย 8. นายธวัฒนะชัย กลัดสุข อายุ 36 ปี บาดแผลกระสุนปืนทะลุปอดและเส้นเลือดแดงใหญ่เสียโลหิตปริมาณมาก กระสุนเข้าไปตัดเส้นเลือดแดงใหญ่และทะลุหลัง 9. นายมนต์ชัย แซ่จอง อายุ 54 ปี ระบบการหายใจล้มเหลว ส่วนชายไทยไม่ทราบชื่อบาดแผลกระสุนปืนทะลุหลอดเลือดแดงใหญ่ช่องอกและปอดเสีย โลหิตปริมาณมาก กระสุนเข้าด้านหน้าผ่านช่องอก ปอด เส้นเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด อย่างไรก็ตามมีญาติมาติดต่อและทราบชื่อคือนายสยาม วัฒนนุกุล อายุ 53 ปี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นถูกยิงด้วยอาวุธปืนด้วยกระสุนจริง ใช่หรือไม่ พล.ต.ท.จงเจตน์ กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นถูกยิงด้วยกระสุนจริง แต่คณะแพทย์ไม่ได้มีหน้าที่ระบุว่าใครเป็นยิง เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือนักแม่นปืน แต่บอกได้ว่า กระสุนมีความเร็วสูง
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ตัวแทนจากนปช.ซึ่งร่วมเป็นคณะแพทย์ผู้ตรวจศพ กล่าวว่า ในการชันสูตรพลิกศพแพทย์ทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีวุฒิภาวะ จึงสามารถบอกได้ว่าการชันสูตรครั้งนี้มีความโปร่งใส มั่นใจได้ว่าการทำงานตรงไปตรงมา เป็นเรื่องความเห็นทางวิชาการที่ยืนยันได้ ซึ่งผลการชันสูตรครั้งนี้ จะเป็นหลักฐานที่นำใช้ฟ้องร้องหาอาชญากรมาลงโทษในอนาคต ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ที่รพ.อื่น ชันสูตรก็มีนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำเป็นคณะกรรมการเช่นเดียวกัน จึงยืนยันว่าผลชันสูตรโปร่งใส ทุกขั้นตอน
แหล่งที่มา มิติชน http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1271063112&grpid=00&catid=no
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|