วิวัฒนาการของ Windows จาก Longhorn ถึง Vista

[dimistry]

วิวัฒนาการของ Windows จาก Longhorn ถึง Vista

เรียบเรียงจากบทความ Road to Gold: The Long Road to Windows Vista
จาก [You must be registered and logged in to see this link.]

เส้น ทางการพัฒนาอันยาวนานของ Vista นั้น แรกเริ่มเดิมทีมันถูกพัฒนาขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคม ปี 2001 ก่อนหน้าที่ Windows XP จะเสร็จสมบูรณ์ซะอีก ในตอนนั้น Microsoft ได้ตั้งโปรเจค Windows ตัวใหม่ไว้ 2 ตัวด้วยกัน ชื่อว่า Longhorn กับ Blackcomb โดยกะจะให้ Longhorn เป็น Windows XP ที่พัฒนาขึ้น โดยจะออกวางขายในปี 2003 และ Blackcomb จะออกหลังจากนั้น

ชื่อ Longhorn มีที่มาจาก มีรีสอร์ตสำหรับเล่นสกีอยู่ที่ British Canada ชื่อว่า Whistler Blackcome โดย Longhorn นั้นเป็นชื่อของบาร์ที่อยู่ระหว่างภูเขา 2 ลูกชื่อ Whistler กับ Blackcomb

พอมาในปี 2002 Longhorn ก็ถูกเลื่อนการวางจำหน่ายออกไปเป็นปี 2004 เนื่องจากติดปัญหาการพัฒนา จนกระทั่งเดือนตุลาคม 2002 Longhorn Alpha ก็ปรากฏกาย...
[You must be registered and logged in to see this link.]

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงจาก XP ก็อย่างเช่น

- Explorer View แบบใหม่ ที่เอาไว้แสดงรายละเอียดของไฟล์
- Sidebar แถบที่อยู่ด้านข้างของจอ เอาไว้ใส่ของเล่น
- User Interface ตัวใหม่ที่ชื่อ Avalon โดยมีการใช้การ์ดจอช่วยประมวลผมภาพ
- Visual Style ตัวใหม่ชื่อ Plex เป็นสีออกน้ำเงินฟ้าๆ
[You must be registered and logged in to see this link.]

ในรูปนี้คือ Visual Style ทีชื่อ Plex ซึ่งหลังจากที่มันออกมาก็ถูกวิจารณ์เละเทะว่าไม่สวยเอาซะเลย (แต่ก็ได้รับการปรับปรุงให้สวยขึ้นในภายหลัง)
[You must be registered and logged in to see this link.]

มาถึงปี 2003 ในที่สุด Longhorn ก็ถูกเลื่อนอีกจนได้ โดยในปีนี้ Microsoft ได้บอกว่า ใน Longhorn จะมีส่วนที่เอาไว้ตรวจจับโปรแกรมที่ไม่ปลอดภัยอย่างพวกไวรัสได้ (ซึ่งทีหลังก็กลายมาเป็น Windows Defender)

ในเดือนมีนาคมปี 2003 Microsoft ได้ออกมาพูดถึง File System ตัวใหม่ ที่มีชื่อว่า WinFS ซึ่งภายหลังถูกตัดออกไปเพราะพัฒนาไม่ทัน (จนกระทั่งตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เห็นแม้แต่เงา)

นอกจากนี้ Microsoft ยังมีแผนที่จะออก Windows Server รุ่นใหม่ โดยใช้ชื่อว่า Windows Longhorn Server
[You must be registered and logged in to see this link.]

Longhorn build 4015 มีการพัฒนาคุณสมบัติที่ชื่อ Libraries เป็น Virtual Folder แบบหนึ่ง ที่เอาไว้เชื่อม Folder จริงๆ จากไดรฟ์มารวมไว้ที่เดียวกัน แต่ Microsoft คิดยังไงไม่รู้ ก็ตัดมันออกไป กลับมาใช้เป็น My Documents, My Pictures ตามเดิม (ซึ่งตัว Library นี้ก็กลับมา Windows 7)

ในงาน WinHEC 2003 นั้น ทาง Microsoft ได้ออกมาประกาศว่า OS ตัวใหม่ที่จะออกนี้ จะใช้ความสามารถของการ์ดจอได้เต็มที่ มีการใส่ระบบ 3D เข้ามาในตัว OS ด้วย โดยเฉพาะในส่วนของ UI ต่างๆ จะเห็นเป็น 3D วูบวาบๆ ให้ผู้ใช้ต้องตื่นตะลึง

ในเดือนพฤษภาคม UI แต่เดิมที่ชื่อ Avalon ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Aero

ในรูปนี้คือ Aero Concept ที่ออกแบบไว้ รวมทั้งมีวีดีโอออกมาให้ดูด้วย
[You must be registered and logged in to see this link.]

ผู้คนตั้งความหวังไว้กับ Windows Longhorn มาก โดยเฉพาะในเรื่องความสามารถที่เพิ่มขึ้น ทั้งวีดีโอและภาพที่ปล่อยออกมา เหมือนกับจะเป็น OS แห่งยุคใหม่ที่หลายคนรอคอย

ในช่วงท้ายๆ ปี 2003 Microsoft เริ่มพัฒนา Windows XP Service Pack 2 พร้อมๆกับเงามืดที่เริ่มคืบคลานเข้ามา
[You must be registered and logged in to see this link.]

ในปี 2004 มีการปล่อย Screenshot และ Video ปลอมๆ ของ Longhorn ออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นแค่ภาพ Concept ที่แต่งขึ้น แต่ในตอนนั้นยังไม่ค่อยมีใครรู้ว่าโดนภาพหลอก

ในกลาง เดือนกุมภาพันธ์ มี Hacker เจาะเข้าระบบของ Microsoft และสามารถนำเอา Source Code ของ Windows NT 4.0 กับ Windows 2000 ออกไปได้ แต่ทาง Microsoft ก็ออกมาบอกว่า ของ Longhorn ยังอยู่ดีมีสุข ไม่ได้ถูกเอาไปด้วย

Longhorn ถูกเลื่อนการวางจำหน่ายเป็นปี 2006 พร้อมกันนี้ก็ได้มีการประกาศว่าจะออก Microsoft Office 12 ภายในปีเดียวกัน (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Office 2007)

ใน Longhorn build 4074 มีการเปลี่ยน Theme เป็นสีดำ ตั้งแต่ขั้นตอนการ Setup เลย ที่พัฒนาเป็นแบบ Graphic Mode มีสีสันสวยงาม คล้ายๆ กับที่เห็นใน Vista ตัวจริง
[You must be registered and logged in to see this link.]

เปลี่ยน Visual Style เป็น 2 แบบ คือ Slate สีดำ กับ Jade สีเทา
[You must be registered and logged in to see this link.]

การพัฒนาของ Windows Longhorn เป็นไปอย่างช้ามาก ความคืบหน้าแต่ละอย่างที่ปล่อยออกมาก็ไม่เห็นจะเหมือนกับ Video หรือภาพที่เอามาโปรโมท จนคนเริ่มสงสัยและไม่ค่อยเชื่อใจ Microsoft

ภาพโปรโมท 1
[You must be registered and logged in to see this link.]

ภาพโปรโมท 2
[You must be registered and logged in to see this link.]

ถ้าดูในฝั่ง Server ที่เห็นชัดในกระทู้คงเป็น Windows 2000 นะแต่ยังไม่เห็น 2003 กับ 2008 server แล้วก็จะมี Home Server Edition ด้วย โหลดมาเก็บไว้แต่ลงไม่ได้ มันเรียกร้อง hardware สูงทีเดียว -0-
ข้อเสริมภาพประกอบ การใช้แรมของ Windows ด้วยภาพนี้ครับ (แถม linux มาหน่อยคงไม่เป็นไรนะ)
[You must be registered and logged in to see this link.]

แต่ใน Longhorn build 4058 มันกลับไม่เป็นอย่างที่หลายคนฝัน
[You must be registered and logged in to see this link.]

โลกแห่งความจริงมันช่างโหดร้าย T-T
Longhorn ที่ปล่อยออกมา ช่างไม่มีวี่แววที่จะใกล้เคียงกับในภาพโปรโมทเลย
[You must be registered and logged in to see this link.]

Longhorn beta 1 ออกมาในวันที่ 30 มิถุนายน 2005 พร้อมกับการประกาศข่าวดังแห่งปี ถึง Spec คอมที่ต้องการใช้สำหรับ Longhorn ตัวเต็มที่จะออกในปี 2006

Longhorn hardware recommendations:
Desktop CPU: 3 GHz Intel Pentium 4 processor with HyperThreading Technology 530 (or higher) or 3 GHz Intel Xeon processor with 2 MB L2 cache, or AMD Athlon 64, Sempron, or Opteron 100, 200, or 800 processor, single or dual-core versions.
Mobile CPU: 1.86 GHz Intel Pentium M processor 750 (or higher), or AMD Turion 64 Mobile Technology, Mobile Sempron, or Mobile Athlon 64 processor.
RAM: 512 MB of RAM or more, all platforms.
Microsoft ประกาศ Spec นี้ในปี 2005 ทำให้คนด่ากับแหลกราญ
ใน ที่สุด หน้าตาที่แท้จริงของ UI ตัวใหม่ที่ชื่อ Aero ก็ถูกเปิดเผย มันจะเปลี่ยนจากขอบหน้าต่างทึบแบบเดิมๆ ไปเป็นกรอบใสๆ ในรูปที่เห็นคือภาพ Concept
[You must be registered and logged in to see this link.]

ในเดือนพฤษภาคม ปี 2005 Microsoft ได้ออกมาบอกว่า จะมีคุณสมบัติใหม่คือภาพ Desktop แบบเคลื่อนไหวได้ มีชื่อว่า Aurora (ภายหลังพัฒนาไม่ทัน เลยเอามาใส่ใน Windows Ultimate Extras ชื่อ DreamScene)

ใน Longhorn build 5048 มีการใส่ช่อง Search เข้ามาใน Start Menu ซึ่งเป็นความคิดที่สุดยอดมากๆ นอกจากนั้นยังมีการเพิ่ม Feature หลายๆ อย่างเข้ามา เช่น รองรับไฟล์รูปประเภท Raw หรือมีการสนับสนุน RSS

ใน ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม Longhorn build 5023 ก็ได้หลุดรั่วออกมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เช่น ภาพ Animation ตอน Copy ไฟล์, Control Panel ที่ถูกจัดกลุ่มใหม่, IE7 ที่หน้าตาใกล้สมบูรณ์ รวมถึงหน้าตาของ Start Menu ที่ถูกปรับปรุง

ในที่สุด Windows Longhorn ก็ได้ชื่ออย่างเป็นทางการแล้วว่า Windows Vista หลังจากนั้นไม่นาน Vista Beta 1 ก็ถูกปล่อยออกมาให้ทดสอบกัน
[You must be registered and logged in to see this link.]

Vista Beta 1 หน้าตาเริ่มคล้ายตัวที่วางขายจริงเข้าเรื่อยๆ แล้ว
[You must be registered and logged in to see this link.]

ในเดือนสิงหาคม 2005 เจ้า Sidebar ที่ก่อนหน้านี้ถูกตัดออกไป ก็กลับคืนมาแล้ว แถมกลับมาคราวนี้สามารถลากของเล่นที่อยู่ใน Sidebar ออกมาวางในหน้าจอได้ด้วย

ใน Vista build 5219 ก็มีการโชว์ความสามารถให้ชื่อ Windows Flip 3D เป็นการเอาหน้าจอโปรแกรมที่เปิดไว้ออกมาวางซ้อนกัน ซึ่งเป็น 1 ในจุดขายของ Vista ถึงขนาดทำเป็นปุ่มลงใน Quick Launch เลย (แต่จนแล้วจนรอดคนก็ไม่สนใจมันเท่าไหร่ ใน Windows 7 มันก็เลยถูกปลดประจำการออกไปจาก Taskbar แต่เรียกใช้ได้โดยกดปุ่ม Windows+Tab)
[You must be registered and logged in to see this link.]

ซึ่งใน build 5219 นี้ก็ได้มีการปรับปรุง UI ไปเยอะมาก ทั้งในส่วนของ Sidebar, Virtual Folder ต่างๆ เช่น Games Explorer รวมถึงการปรับปรุงหน้าตาของเกมในตำนานที่ติดมากับ Windows ที่แทบจะไม่เคยพัฒนาเลยจาก Windows รุ่นก่อนๆ ให้ดูสวยงามขึ้นผิดหูผิดตามาก

ในรูปนี้ คงถูกใจใครหลายๆ คน ^^
[You must be registered and logged in to see this link.]

ในวันที่ 14 ตุลาคม 2005 Windows Vista build 5231 ก็ได้มาพร้อมกับความสามารถใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Windows Media Player 11, Media Center, Windows Digital Gallery (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Photo Gallery), Mobility Center, Network Center (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Network and Sharing Center), Computers and Devices (ถูกเอาออกไป แล้วกลับเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่ใน Windows 7), ความสามารถใหม่ๆ ใน IE 7 , Windows Antispyware (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Windows Defender), และอื่นๆ อีกมากมาย
[You must be registered and logged in to see this link.]

Windows Explorer มี Navigation Pane ที่ด้านซ้าย สามารถลาก Folder มาใส่ได้
[You must be registered and logged in to see this link.]

ในช่วงท้ายปี 2005 Microsoft ได้ออกมาประกาศรูปแบบของ Aero Interface ในแบบ Basic คือจะไม่มีความใส เป็นกรอบทึบๆ ไปเหมือน XP
[You must be registered and logged in to see this link.]

มีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ชื่อ Parental Control เอาไว้ให้ผู้ปกครองบล็อกไม่ให้เด็กใช้คอมเล่นเกมในเวลาที่กำหนด (แต่เท่าที่เห็นมา ส่วนมากจะมีแต่เด็กสอนผู้ใหญ่หัดใช้คอมซะมากกว่า -_-")
[You must be registered and logged in to see this link.]

พอมาถึงปี 2006 เป็นปีที่ Windows Vista,Office 12 จะออก ก็ได้มีการทำเว็บต้อนรับ

ใน วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2006 Vista February CTP ก็ได้ปล่อยให้กับนักทดสอบ ซึ่งในเวอร์ชันนี้ก็ได้มีการแบ่ง Version ของ Vista มาในแผ่นด้วย เพื่อให้นักทดสอบได้รู้ความแตกต่างของแต่ละรุ่น

สังเกตว่า Interface ของ Vista ตอนนี้เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว เหลือแต่พัฒนาในส่วนของระบบ
[You must be registered and logged in to see this link.]

และแล้ว ในที่สุด Microsoft ก็ได้ออกมาบอกว่า ในวันที่ 25 ตุลาคม 2006 Windows Vista ตัวสมบูรณ์จะถูกปล่อยออกสู่ผู้ผลิต Hardware ต่างๆ (อย่างที่รู้จักกันดีในชื่อ Windows Vista RTM)

Vista build ต่างๆ ได้ถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆ มี Review เยอะแยะมากมาย ทั้งในหนังสือ,Internet เกี่ยวกับ OS ตัวใหม่นี้ ท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องไปลอกไอเดียหลายๆ อย่างมากจาก OS X โดยเฉพาะ Sidebar Gadget ที่คล้ายกับ Widgets
[You must be registered and logged in to see this link.]

กลางปี 2006 เวลาที่ Vista ใกล้จะออก ก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในหลายๆ อย่าง
14 กันยายน 2006 Vista RC 1 ออก
6 ตุลาคม 2006 Vista RC 2 ออก
ซึ่ง จุดประสงค์ที่ออกมาก็เพื่อบอกให้นักทดสอบรู้ว่า เนี่ย จะมีคอมเมนต์อะไรอีกมั้ย ถ้ามีก็รีบๆ บอกมาเลย ไม่งั้นเวลาตัวเต็มออกก็จะเอาแบบที่เป็นตอนนี้เลยนะ
เหลือเวลาอีกไม่นาน การพัฒนาที่แสนยาวนานก็จะสิ้นสุด
ทว่า... Microsoft งานเข้า!!!
[You must be registered and logged in to see this link.]

เรื่องของเรื่องก็คือ Microsoft โดนฟ้องข้อหาผูกขาด (ซึ่งก็โดนด่าอยู่ประจำ) ซึ่งบางอย่างก็ฟ้อง บางอย่างก็มีบริษัทที่เสียผลประโยช์ออกมาแสดงความไม่พอใจ อย่างเช่น

- [Adobe] บ่นเรื่องที่ใส่ความสามารถในการเซฟไฟล์เป็น .xps (ซึ่งทำมาแข่งกับ .pdf)
- [Google] บอกว่า Search Bar ใน IE7 นั้นมันใส่ Search ของ Microsoft มาแต่แรก ทำให้ไม่ยุติธรรมกับเจ้าอื่น
- [McAfee/Symantec] ไม่พอใจที่ Microsoft ใส่ Windows Defender เข้ามากับ Vista

แต่อันที่ Microsoft ถูกฟ้อง คือ
- ใน EU โดนเรื่องใส่ Windows Media Player เข้ามา (ทำให้ต้องออก Windows N Edition)
- ในเกาหลี โดนเรื่องใส่ Windows Messenger เข้ามา (ทำให้ต้องออก Windows K Edition)

Microsoft เลยต้องหัวปั่นนั่งแก้ Vista เป็นการใหญ่ ทำให้ Microsoft ต้องเลื่อนการส่ง Volume Licence ให้กับลูกค้า จากเดิมเดือนพฤศจิกายน ไปเป็นเดือนมกราคมแทน

ในที่สุด หลังจากผ่านการพัฒนาอย่างยาวนาน และการเลื่อนแล้วเลื่อนอีก
Windows Vista RTM ก็ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2006
พร้อมกับเปิดศักราชใหม่ของ Windows NT รุ่นที่ 6 ซึ่งภายหลังก็ได้พัฒนามาเป็น Windows 7 ให้พวกเราได้ใช้กัน
... ในที่สุดก็จบซะที สำหรับการพัฒนาอันยาวนาน *0* ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและให้กำลังใจครับ ^^
[You must be registered and logged in to see this link.]

แถมหน่อย...
บางคนอาจจะสงสัยว่า อ้าว แล้วเจ้า Blackcomb ที่พัฒนามาด้วยกันตั้งแต่เริ่มต้นล่ะ หายไปไหน
Blackcomb นั้น เป็นชื่อ Codename ของ Windows ที่จะพัฒนาต่อจาก Longhorn (Vista) ซึ่งภายหลังถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Vienna ในปี 2006 และในปี 2008 ก็ถูกเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น

Windows 7
ข้อมูลจาก [You must be registered and logged in to see this link.]

จากคุณ : Bigta-GS