RedCyberClub Forum
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

แก๊ส น้ำตามีผลต่อสุขภาพเราอย่างไร? ป้องกัน และ ปฐมพยาบาล

Go down

แก๊ส น้ำตามีผลต่อสุขภาพเราอย่างไร? ป้องกัน และ ปฐมพยาบาล Empty แก๊ส น้ำตามีผลต่อสุขภาพเราอย่างไร? ป้องกัน และ ปฐมพยาบาล

ตั้งหัวข้อ by dimistry Thu Mar 04, 2010 7:29 pm

ที่มา http://medicarezine.com/2010/02/tear-gas/

ใน สถานะการณ์บ้านเมืองของเราที่มีความขัด แย้งกัน ในด้านความคิดอุดมการณ์กันอย่างมากมาย การชุมนุมทางการเมืองจึงเป็นสิ่งที่เราได้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง ในบางครั้งก็มีการใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมกันบ้าง ครั้งนี้ผมจึงขอนำเสนอบทความ เกี่ยวกับแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยในเรื่องที่เกี่ยวกับผลที่อาจจะเกิดกับ สุขภาพของคนเราและการป้องกัน การแก้พิษ การปฏิบัติตัวเมื่อโดนแก๊สน้ำตา มาติดตามกันครับ

แก๊ส น้ำตามีผลต่อสุขภาพเราอย่างไร? ป้องกัน และ ปฐมพยาบาล 2010-025

การปกป้องตนเองจากแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย

สิ่งแรกที่ท่านควรระลึก ไว้เสมอก็คือ การโดนแก๊สน้ำตาไม่ ใช่สิ่งที่แย่ที่สุดที่ท่านจะได้รับ แม้ว่าสถานการณ์ขณะนั้นจะดูน่ากลัวหรือน่าตกใจเพียงใด ถ้าท่านระมัดระวัง และองอาจ ท่านจะสามารถอยู่รอดได้อย่างมีปัญหาน้อยที่สุด ข้อมูลที่จะกล่าวถึงนี้ได้รับมาจากการสนทนากับผู้เชี่ยวชาญ และจากประสบการณ์ตรงของผู้เชี่ยวชาญด้านแก๊สน้ำตาจากหลายๆ แหล่ง (ข้อมูลหลักๆ มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา)

อะไรคือแก๊สน้ำตา
แก๊ส น้ำตา (CS, CN, CX) และ สเปรย์พริกไทย (OC) เป็นสารเคมีที่เป็นอาวุธ ที่ใช้โดยตำรวจหรือทหารเพื่อใช้ในการสลายฝูงชน หรือทำให้ฝูงชนอ่อนกำลังลง มันเป็นสารที่ทำให้เยื่อบุต่างๆ เช่นในช่องปาก จมูก คอ และผิวหนังเกิดการระคายเคือง มันผสมอยู่ในตัวทำละลาย และถูกขับเคลื่อนออกมาโดยตัวยิงหรือตัวขับเคลื่อน สารบางอย่างที่เป็นองค์ประกอบได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถก่อให้เกิดมะเร็ง ความผิดปกติของทารกในครรภ์ หรือแม้แต่การกลายพันธุ์ของยีนส์ ในเมืองซีแอตเทิล (Seattle, USA) สารแก๊สน้ำตามีองค์ประกอบของ Methylene Chloride ที่เป็นสารที่มีพิษมากสามารถทำให้เกิด อาการสติมึนงง ปวดหัว ปวดเสียวแขนขา ใจสั่น เห็นภาพหลอน หูแว่ว รอบเมนส์ผิดปกติ แท้งกะทันหัน และมีผลต่างๆ ต่อระบบทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ
มันจะถูกใช้อย่างไร

แก๊ส น้ำตาและสเปรย์พริกไทยอาจ จะถูกฉีดออกมาจาหัวฉีดเล็กๆ หรือหัวฉีดใหญ่ๆ แบบหัวฉีดดับเพลิงก็ได้ แก๊สน้ำตามักนิยมบรรจุในกระป๋องแล้วยิงเข้ามาในหมู่คน บางครั้งก็โดนตัวคนตรงๆ โปรดจำไว้ว่า

อย่าหยิบกระป๋องแก๊สน้ำตาโดยใช้มือเปล่าโดยไม่สวมถุงมือ เพราะมันร้อนมาก

และ จงจำไว้ว่าในขณะที่คุณหยิบมันขึ้นมาขว้างออกไป ขณะนั้นคุณอาจจะได้รับควันของแก๊สน้ำตาจำนวนมากได้


แก๊สน้ำตาและสเปรย์ พริกไทยมีผลต่อเราอย่างไร
แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย เป็นสารระคายเคืองต่อผิวหนัง ก่อให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน มีน้ำและสารคัดหลั่งจำนวนมากไหลจากตา จมูก ปาก และทางเดินหายใจ สเปรย์พริกไทยเป็นสารที่นิยมกันมากเพราะมันก่อให้เกิดความเจ็บปวดได้อย่าง ทันที และยากที่จะกำจัดออกจากผิวหนัง และสามารถก่อให้เกิดแผลแบบไฟไหม้น้ำร้อนลวก ระดับที่ 1 ได้
ถ้าคุณโดน แก๊สน้ำตาหรือสเปรย์พริกไทย คุณจะมีอาการ

* ปวดแสบปวดร้อนที่ ตา จมูก ปาก ผิวหนัง
* มีน้ำตาไหลออกมากทำให้การมองเห็นแย่ลง
* น้ำมูกไหล
* น้ำลายไหลออกมาก
* ไอ หายใจลำบาก
* สับสน งุนงง บางครั้งเอะอะโวยวาย
* อาการโกรธหงุดหงิดอย่างรุนแรง เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยเมื่อโดนสเปรย์พริกไทย การเตรียมตัวเตรียมใจไว้ การมีสติจะช่วยให้เราหายจากอาการได้เร็ว และกลับมาทำภารกิจของเราต่อได้อย่างรวดเร็ว


ข่าวดีก็คือ อาการทั้งหมดที่ว่ามานี้ในคนส่วนใหญ่จะเป็นเพียงชั่วคราวเท่า นั้นไม่มีผลตกค้างถาวร อาการไม่สบายจากแก๊สน้ำตา จะดำรงอยู่ประมาณ 5-30 นาทีแล้วหายไปเอง แต่อาการไม่สบายจากสเปรย์พริกไทยจะ อยู่ประมาณ 20 นาที ถึง 2 ชั่วโมง จึงจะหาย อาการจากทั้งสองสารจะหายเร็วขึ้นถ้าได้รับการดูแลรักษา (สเปรย์พริกไทยจะซึมจากผิวหนังเข้าสู่ปลายประสาทจนทำให้เกิดอาการ อาการจึงจะดำรงอยู่ต่ออีกเป็นชั่วโมงแม้ว่าได้รับการล้างออกจากผิวหนังไป แล้วก็ตาม)
การป้องกัน


ในคนที่มีสุขภาพดีส่วนใหญ่ อาการที่เกิดจากแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยจะเป็นอยู่ชั่วคราว แต่อย่างไรก็ตาม ในคนบางคนผลดังกล่าวอาจจะตกค้างอยู่นานมาก หรือแม้แต่อันตรายต่อชีวิตก็ได้

บุคคลที่มีภาวะดังต่อไปนี้ ควรระวังและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนี้ โดยการไม่เสี่ยงที่จะได้รับสารแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย และจงจำไว้ว่า ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด พฤติกรรมของตำรวจและทหารนั้นไม่สามารถคาดเดาได้เลย เพราะฉะนั้นการที่เราจะหลีกเลี่ยงการโดนแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก

บุคคลที่มีภาวะดังต่อไปนี้ ควรระวังและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนี้ คือ

* มีประวัติโรคทางปอดอยู่เดิม เช่นโรคหอบ โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) เพราะมีความเสี่ยงที่โรคจะกำเริบหรือมีผลเสียหายถาวรได้เมื่อได้รับ แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย
* ผู้ที่อ่อนแอทั้งหลายเช่น เด็กทารก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ
* ใครก็ตามที่มีโรคที่ต้องได้รับยาที่ทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายต่ำ เช่น การได้รับยากดภูมิ การได้ยาเคมีบำบัด การได้รับการฉายแสงรักษามะเร็ง
* ผู้หญิงที่อาจจะตั้งครรภ์ หรือพยายามที่จะตั้งครรภ์ เพราะอาจจะแท้งกะทันหันหรือมีลูกออกมาพิการได้
* มารดาที่ให้นมบุตร อาจส่งต่อสารพิษเข้าไปให้ลูกได้
* คนที่เป็นโรคผิวหนัง เช่น สิวชนิดรุนแรง โรคสะเก็ดเงิน โรคภูมิแพ้ผิวหนัง อาจเกิดอาการกำเริบรุนแรงขึ้นได้
* โรคทางตา เช่น โรคตาอักเสบ อาจเกิดอาการกำเริบรุนแรงขึ้นได้
* คนที่ใส่ Contact Lens อาจจะเกิดการระคายเคืองตาอย่างรุนแรงได้ จากการที่สารเคมีโดนเก็บกักไว้ใต้ Contact Lens ทำให้กระจกตามีโอกาสโดนสารเคมีนานขึ้น

การปกป้อง

* หลีกเลี่ยงการใช้ น้ำมัน โลชั่น เพราะมันอาจจะเก็บกักสารเคมีไว้ในผิวได้นานขึ้นทำให้เราได้รับการระคายเคือง จากสารเคมีมากขึ้น ควรสระผมอาบน้ำล้างตัวด้วยสบู่อ่อนก่อนการเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่จลาจล พื้นที่ชุมนุม (เพื่อลดน้ำมันที่ ผิวกาย)
* แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดแบบไม่มีน้ำมันผสม แทนการใช้แบบมีน้ำมันผสม แต่จะให้เลือกระหว่างการไม่ใช้เลยกับการใช้แบบมีน้ำมันผสม ควรเลือกแบบใช้ เพราะการโดนแก๊สน้ำตาบนผิวที่มีการไหม้จากแดด เป็นสิ่งที่แย่ยิ่งกว่า
* เราแนะนำให้ใส่เสื้อผ้าให้ปกปิดผิวหนังมากที่สุด เพื่อที่จะปกป้องเราจากแสงแดดและสารเคมี
* หน้ากากกันแก๊สน้ำตาใช้ได้ผลดีมาก ในกรณีที่เราใส่ให้แนบแน่นกับหน้าอย่างดี ถ้าไม่มีอาจใช้แว่นตาสำหรับว่ายน้ำแทนก็อาจจะช่วยได้บ้าง

ถ้าโดนโจม ตีด้วยแก๊สน้ำตาแล้วเราควรต้องทำอย่างไร

* พยายามสงบสติอารมณ์ การตื่นเต้นตกใจจะยิ่งเพิ่มการระคายเคืองจากสารเคมี พยายามหายใจช้าๆ และจำไว้ว่ามันจะมีอาการแค่ชั่วคราวเท่านั้น
* ถ้าคุณเห็นแก๊สน้ำตากำลังพุ่งเข้ามา รีบเตือนเพื่อนๆ และรีบพยายามสวมใส่สิ่งป้องกันตัว และถ้าสามารถหนีได้ควรหนี และควรหนีขึ้นไปที่เหนือลม
* เมื่อโดนสารเคมีเข้าไปแล้วให้รีบไปล้างจมูก บ้วนปาก ไอเอาเสมหะออกมา พยายามอย่ากลืน
* ถ้าคุณใส่ Contact Lens ควรพยายามถอดออก หรือให้คนอื่นช่วยถอดออกให้ (ด้วยนิ้วมือที่สะอาด)
* อย่าเช็ดหรือถูผิวหนังที่โดนแก๊สน้ำตา

สูตรในการแก้พิษ (สำหรับสเปรย์พริกไทย)

แม้ว่าจะไม่ได้ผลอย่าง 100% แต่มันจะช่วยให้ดีขึ้นเร็วขึ้นบ้าง

สำหรับปากและตา
เราแนะนำใช้ สารละลายที่เกิดจาก ยาลดกรด (Antacid) ครึ่งหนึ่งผสมกับน้ำครึ่งหนึ่ง ใส่ลงในขวดที่มีจุกสเปรย์หรือจุกริน ใช้เทล้างตาข้างที่โดนสารเคมี โดยให้ผู้บาดเจ็บนอนตะแคงหน้าด้านนั้นลงแล้วเทน้ำยาที่เตรียมไว้ลงไปล้างตา จากด้านในออกไปด้านนอก (ผู้บาดเจ็บอาจจะลืมตาเองไม่ได้ เราอาจจะต้องช่วยเปิดตาให้ แม้ว่าการเปิดตาจะสร้างความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นบ้างแต่เมื่อล้างแล้ว ผู้บาดเจ็บนั้นก็จะสบายขึ้น) สำหรับในช่องปากเราสามารถเอาสารละลายนี้มาอมบ้วนปากได้เช่นกัน
สำหรับผิว หนัง

เราแนะนำให้ใช้ Canola Oil ที่ชุบชุ่มในผ้าก็อสหรือเศษผ้า เช็ดผิวหนังที่โดนสารเคมี แล้วตามด้วยการเช็ดด้วยผ้าชุบแอลกอฮอล์ที่สำหรับใส่แผลอีกที แต่ระวังอย่าให้เข้าตาเพราะแอลกอฮอล์เข้าตาจะแสบมาก

หลังจากนี้ แนะนำให้สั่งน้ำมูก ล้างจมูก ไอเพื่อเอาเสมหะออกมา (คุณคงไม่อยากกลืนมันลงไป) เดินโดยการกางแขนออกไปทั้งสองข้าง พยายามอย่าเอามือไปสัมผัสที่หน้าหรือตาของตนเอง ถอดเสื้อผ้าที่เลอะสารเคมีออก อาบน้ำฝักบัวด้วยน้ำเย็น จนร่างกายสะอาดปราศจากสารเคมีที่มีอันตรายนี้

ข้อมูลนี้มาจากทีมงาน ปฐมพยาบาลซึ่งประกอบ ด้วยนักเคลื่อนไหวสากลซซึ่งทำหน้าที่จัดหาและสนับสนุนการดูแลสุขภาพบนท้อง ถนนในเมืองทั้งหลาย รวมทั้งซีแอตเทิล (Seattle), วอชิงตัน ดีซี (Washington DC), ลอนดอน (London), ฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia), วิเซอร์ (Windsor), คานาดอ (Canada) และ สอสแองเจลลีส (Los Angeles)

ที่มา http://medicarezine.com/2010/02/tear-gas/
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ