RedCyberClub Forum
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

ข้อมูลที่เปิดเผยในหลักฐานราชการเกี่ยวกับในหลวงที่คนไทยไม่รู้

Go down

ข้อมูลที่เปิดเผยในหลักฐานราชการเกี่ยวกับในหลวงที่คนไทยไม่รู้ Empty ข้อมูลที่เปิดเผยในหลักฐานราชการเกี่ยวกับในหลวงที่คนไทยไม่รู้

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sun Nov 15, 2009 12:23 am

ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลัพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม

ด้วยปวงข้าพระพุทธเจ้า รู้สึกน้อมสำนึกในพระมหากรุณาเป็นล้นพ้น จึงใคร่ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำเสนอพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ และพระราชบุญญาธิการอันเกริกไกรของพระองค์ท่านผู้เป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ ทั่วสากลโลก น้อมถวายพระเกียรติให้ปรากฎไปทั้งสากลจักรวาล

ด้วยว่าพระราชบุญญาธิการ และพระราชกรณียกิจดังกล่าว หน่วยงานราชการ และภาคเอกชนต่างทราบกันดี เพราะมีบันทึกไว้ทั้งเอกสารราชการและเอกสารชั้นต้นต่างๆ แต่จะหาใครถวายความจงรักภักดีถวายพระเกียรตินั้น หาไม่ได้เลย ปวงข้าพระพุทธเจ้าจึงน้อมใจถวายพระเกียรติยศให้ทั้ง3โลกรับรู้พระราชบุญญา บารมี และพระมหากรุณาธิคุณให้แผ่ไพศาล ดังต่อไปนี้

1. ต่างชาติเทิดพระเกียรติให้ในหลวงทรงเป็นนักลงทุนที่ร่ำรวยมั่งคั่งเป็นอันดับ1ในตลาดหุ้นไทย

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก สำนักข่าวอันดับ1ในโลกเศรษฐกิจการเงินการลงทุนของโลก เทิดพระเกียรติยกย่องให้ในหลวงของปวงชนชาวไทย เป็นนักลงทุนที่มั่งคั่งที่สุดในตลาดหุ้นไทย
http://www.bloomberg...r=world_indices

โดยทรงถือครองหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังต่อไปนี้

*1.1 SAMCO เจ้าของหมู่บ้านสัมมากร บ้านระดับเศรษฐีอยู่
1. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 197,414,850 43.87


2. ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม 45,847,050 10.19


3. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี 25,000,000 5.56

http://www.set.or.th...e=th&country=TH

*1.2 TIC-ไทยประกันภัย
1. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 3,526,567 18.56
16. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี 214,755 1.13


http://www.set.or.th...e=th&country=TH

*1.3 APRINT นิตยสารแพรว ร้านหนังสือนายอินทร์

10. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช 3,157,895 1.58


15. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี 1,263,158 0.63




http://www.set.or.th...e=th&country=TH

*1.4 MINT-พิซซ่าฮัท ไอศกรีมสเวนเซ่นส์

12. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 72,470,861 2.24

http://www.set.or.th...e=th&country=TH

*1.5SINGER-จักรเย็บผ้าซิงเกอร์

16. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 1,383,770 0.51

http://www.set.or.th...e=th&country=TH

*1.6 DVS-เทเวศร์ประกันภัย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 27,600 0.23%
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 11,787,261 98.227%
ผู้ถือหุ้นอื่นๆ 185,139 1.543%
รวม 12,000,000 100.00%


http://www.deves.co....areholder04.asp
เพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์เมื่อเร็วๆนี้

*1.7 SCC-ปูนซิเมนต์ไทย นอกจากขายปูนแล้ว ก็ยังถือหุ้นโตโยต้าประเทศไทย 10% คูโบต้าประเทศไทย 10%

1. สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์* 360,000,000 30.00
6. บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด 23,220,000 1.94
*นิตยสารFORBES และFORTUNEถือกันว่าสำนักงานฯมีในหลวงมีพระราชอำนาจในการจัดการเต็มที่ จึงนับเป็นพระราชทรัพย์ อย่างไรก็ตามกระทรวงต่างประเทศของไทยชี้แจงว่า สำนักงานฯเป็นสมบัติของชาติ

http://www.set.or.th...e=th&country=TH


1.8SCB-ธนาคารไทยพาณิชย์
1. สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 511,107,666 19.65


2. สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 211,834,292 8.14
9. บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด** 81,410,200 3.13
**เป็นบริษัทโฮลดิ้งสำหรับการลงทุนของสำนักงานทรัพย์สินฯ
http://www.set.or.th...e=th&country=TH

1.9CNT คริสเตียนี่&นีลเซ่น บริษัทรับเหมาก่อสร้าง
1. บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด*** 339,353,981 84.59

1.10 TPC ไทยพลาสติกเคมีภัณฑ์

1. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) 393,789,820 45.00


2. บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด 197,781,250 22.60



http://www.set.or.th...e=th&country=TH

***ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2537 เป็นบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้น 100% ดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลและตรวจสอบของคณะกำกับดูแลของสำนักงาน ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานทรัพย์สินฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 มีทุนจดทะเบียน 11,621.57 ล้านบาท ทุนชำระแล้ว 11,240.95 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 24,601.92 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 14,183.56 ล้านบาท

ทำหน้าที่บริหารการลงทุนในหุ้นอื่น ๆ นอกจาก ปูนซิเมนต์ไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และ เทเวศประกันภัย

2.พสกนิกรน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สำนักงานทรัพย์สินฯจึงยกเว้นการเสียภาษีเข้ารัฐ http://www.crownprop....th/th/main.php

ข้อมูลจากเวบไซต์ของสำนักงานทรัพย์สินฯระบุว่า

ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้รับการยกเว้นภาษีอากร
ทรัพย์สินส่วนพระองค์ จะต้องเสียภาษีอากร

ส่วนว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของแผ่นดินหรือของพระมหากษัตริย์ กฎหมายฉบับปีพ.ศ.2491ระบุไว้ว่า

*มาตรา 6 รายได้จากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่กล่าวในมาตรา 5 วรรคสองนั้นจะจ่ายได้ก็แต่เฉพาะในประเภทรายจ่ายที่ต้องจ่ายตามข้อผูกพัน รายจ่ายที่จ่ายเป็นเงินเดือนบำเหน็จ บำนาญ เงินรางวัล เงินค่าใช้สอย เงินการจร เงินลงทุน และรายจ่ายในการพระราชกุศลเหล่านี้ เฉพาะที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว เท่านั้น

?รายได้ซึ่งได้หักรายจ่ายตามความในวรรคก่อนแล้ว จะจำหน่ายให้สอยได้ก็แต่โดยพระมหากษัตริย์ ตามพระราชอัธยาศัย?


ดังนั้นนิตยสารต่างประเทศคือFORBES และFORTUNE จึงเห็นว่า ในหลวงมีพระราชอำนาจเต็มในการจัดการทรัพย์สินของสำนักงานฯ จึงได้จัดให้พระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

อย่างไรก็ดีกระทรวงต่างประเทศของไทยเคยชี้แจงว่า เป็นความเข้าใจผิดของนิตยสารต่างประเทศ เพราะสำนักงานทรัพย์สินฯเป็นสมบัติของชาติ

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาตามแง่กฎหมายแล้ว ก็มักตีความกันว่า การชี้แจงว่าเป็นทรัพย์สินเป็นของแผ่นดินจึงตกไปตามนัยกฎหมายนี้

ส่วนเรื่องการยกเว้นภาษีให้สำนักงานทรัพย์สินฯนั้น ก็เนื่องจากพสกนิกรชาวไทยต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

3.FORBES เทิดพระเกียรติในหลวงของเรารวยที่สุดเหนือกษัตริย์ทั่วโลก นับเป็นบุญของพสกนิกรชาวไทยที่ได้เกิดใต้ร่มพระบารมีกษัตริย์เหนือกษัตริย์

http://www.forbes.co...est-royals.html

นิตยสารฟอร์บส์ยังจัดอันดับให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช แห่งราชอาณาจักรไทย เป็นพระราชวงศ์ที่มั่งคั่งที่สุดของโลก ในบรรดาพระราชวงศ์ที่ทรงมั่งคั่งที่สุดในโลก 15 พระราชวงศ์ประจำปี 2552 อันเป็นการรักษาอันดับที่ 1 ไว้ได้ต่อเนื่องจากปีก่อนนี้


โดยฟอร์บส์ระบุว่าทรงมีพระราชทรัพย์รวม 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว1,020,000ล้านบาท)ลดลงจากปีก่อนราว 5 พันล้านเหรียญ(ราว170,000ล้านบาท)ทั้งนี้เนื่องจากการลดลงของมูลค่า สินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์และราคาหุ้นที่ถือโดยสำนักงานทรัพย์สินส่วน พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสำนักงานที่พระองค์ท่านมีพระราชอำนาจในการจัดการ

วิกฤตการณ์ทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศได้มีผลกระทบต่อพระราชทรัพย์ให้ลดลงไปด้วย

ฟอร์บส์รายงานว่า พระเจ้าอยู่หัวของไทยทรงครองสิริราชย์สมบัติยาวนานที่สุดในโลก พระองค์ได้รับการเคารพสักการะเยี่ยงพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ทรงพระราชสมภพในสหรัฐอเมริกา ได้รับการศึกษาในสวิตเซอร์แลนด์ ทรงพระราชอำนาจในราชณาจักรที่แบ่งแยกคนในชาติออกเป็นชนชั้นสูง ชนชั้นกลาง และประชาชนในชนบท

วิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลกสร้างผลกระทบให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในราชอาณาจักร ไทย พระราชวงศ์ไทยมีอำนาจจัดการทรัพย์สินในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ รวมทั้งการลงทุนภาคเอกชน เช่น เครือซิเมนต์ไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และการเป็นเจ้าของที่ดินมหาศาล รวมทั้งที่ดินกว่า3,500 เอเคอร์ในเขตกรุงเทพฯที่จัดการดูแลโดยสำนักงานทรัพย์สินฯ

อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยย้ำว่าทรัพย์สินดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนพระองค์ แต่ถูกจัดการเพื่อประเทศชาติ

ฟอร์บส์ระบุด้วยว่า ความมั่งคั่งของราชวงศ์มาจากมรดกตกทอดหรือตำแหน่งทางอำนาจ มักจะถูกแบ่งปันกันในเครือญาติ และหลายๆครั้งที่มันหมายถึงเงินที่ถูกควบคุมโดยราชวงศ์ในรูปของกองมรดก (trust) สำหรับประเทศหรืออาณาเขต และด้วยเหตุผลนี้ ราชวงศ์ทั้ง 15 ราชวงศ์ในรายชื่อนี้ขาดคุณสมบัติที่จะถูกจัดอันดับประจำปีของเราในบุคคลที่ ร่ำรวยที่สุด ไม่ว่าเขาจะมีสินทรัพย์เท่าไร

ยกตัวอย่างเช่น กษัตริย์ Mswati ที่ 3 ของ Swaziland เป็นผู้รับผลประโยชน์ของ 2 กองทุนที่จัดตั้งขึ้นโดยบิดาของเขาใน trust ของประเทศ Swaziland ในช่วงที่ครองราชย์เขามีอำนาจตัดสินใจเบ็ดเสร็จในการใช้เงินที่เป็นรายได้ จาก trust นั้น ซึ่งทำให้เขาสามารถสร้างราชวังให้กับมเหสี 13 พระองค์และพำนักอยู่ในโรงแรมระดับ 5 ดาวเมื่ออยู่ต่างประเทศ

เช่นเดียวกัน เรารวมทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ของไทยในส่วนของ ทัรพย์สินของกษัตริย์ภูมิพลเพราะพระองค์เป็นผู้มีอำนาจเต็มในกองมรดก (trustee) อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยไม่เห็นด้วยและออกมาประกาศว่าทรัพย์สินของสำนักงาน ทรัพย์สินไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สมบัติส่วนพระองค์ของกษัตริย์ แต่สำนักงานทรัพย์สินครอบครองและบริหารทรัพย์สินของสถาบันกษัตริย์ในนามของ ประชาชนชาวไทย

ตรงกันข้าม ราชวัง Buckingham และเครื่องเพชรของราชวงศ์ถือว่าเป็นสมบัติของชนชาติอังกฤษ ไม่ใช่ของพระราชินี Elizabeth เพราะฉะนั้นมันไม่ถูกนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินของพระองค์ แต่ทรัพย์สมบัติของพระองค์มาจากอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษและสก๊อตแลนด์ ภาพศิลปะ อัญมนี และแสตมป์สะสมโดยพระอัยกา

3.ในหลวงเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ ทรงเป็นพระราชวงศ์ที่มั่งคั่งที่สุดของโลก2ปีซ้อนจัดโดยForbes

1.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช, ราชณาจักรไทย
พระราชทรัพย์: 30 พันล้านดอลลาร์ (ลดลงจากปีก่อน 5 พันล้านดอลลาร์)

พระชนมายุ:81

2.Sultan Haji Hassanal Bolkiah, บรูไน
พระราชทรัพย์: 20 พันล้านดอลลาร์ (ไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อน)

พระชนมายุ: 62

3.Sheikh Khalifa Bin Zayed Al Nahayan, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
พระราชทรัพย์: 18 พันล้านดอลลาร์ (ลดลง 5 พันล้านดอลลาร์)

พระชนมายุ: 61

4.King Abdullah bin Abul Aziz, ซาอุดิอาระเบีย
พระราชทรัพย์: 17 พันล้านดอลลาร์ (ลดลง 4 พันล้านดอลลาร์)

พระชนมายุ: 85

5.Sheikh Mohammed Bin Rashid Al Maktoum, ดูไบ
พระราชทรัพย์: 12 พันล้านดอลลาร์ (ลดลง6 พันล้านดอลลาร์)

พระชนมายุ: 59

6.เจ้าชายฮานส์-อาดัมที่ 2 แห่งลิกเตนสไตน์
พระราชทรัพย์: ๑๒๒,๕๐๐ ล้านบาท (ลดลงจากปีที่แล้ว ๕๒,๕๐๐ ล้านบาท)
พระชนมายุ: 64 พรรษา

7.King Mohammed VI, โมร็อคโค
พระราชทรัพย์: 2.5 พันล้านดอลลาร์ (เพิ่ม1 พันล้านดอลลาร์)

พระชนมายุ: 45

8.Sheikh Hamad bin Khalifa Al Thani, การ์ตาร์
พระราชทรัพย์: 2 พันล้านดอลลาร์ (ไม่เปลี่ยนแปลง)

พระชนมายุ: 57

9.Prince Albert II, โมนาโค
พระราชทรัพย์: 1 พันล้านดอลลาร์ (ลดลง400ล้านดอลลาร์)

พระชนมายุ: 51

10.Prince Karim Al Husseini, Aga Khan
พระราชทรัพย์: 800 ล้านดอลลาร์ (ลดลง 200 ล้านดอลลาร์)

พระชนมายุ: 72

11.Sultan Qaboos bin Said, โอมาน
พระราชทรัพย์: 700 ล้านดอลลาร์(ลดลง400ล้านดอลลาร์)

พระชนมายุ: 68

12.Queen Elizabeth II, สหราชอาณาจักร
พระราชทรัพย์: 450 ล้านดอลลาร์ (ลดลง200 ดอลลาร์)

พระชนมายุ: 83

13.Sheikh Sabah Al-Ahmad Al-Jaber Al Sabah, คูเวต
พระราชทรัพย์: 400 ล้านดอลลาร์ (ลดลง 100 ล้านดอลลาร์)

พระชนมายุ: 80

14.Queen Beatrix Wilhelmina Armgard,เนเธอร์แลนด์
พระราชทรัพย์: 200 ล้านดอลลาร์ (ลดลง100 ล้านดอลลาร์)

พระชนมายุ: 71

15.King Mswati III, สวาซิแลนด์
พระราชทรัพย์:100 ล้านดอลลาร์(ลดลง 100 ล้านดอลลาร์)

พระชนมายุ: 41


กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง กรณีบทความพิเศษของนิตยสาร Forbes เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุด

เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ฟอร์บสได้จัดอันดับให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยเป็นกษัตริย์ที่ร่ำ รวยที่สุดในโลก โดยอ้างว่าก่อนหน้านั้นนับเฉพาะทรัพย์สินส่วนพระองค์มีอยู่ราว 5 พันล้านดอลลาร์ เป็นอันดับที่ 5 ของโลก แต่ฟอร์บส์เห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมีพระราชอำนาจในการจัดการ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ด้วย จึงนำทรัพย์สินดังกล่าวมารวมเป็น 35 พันล้านเหรียญฯจึงถือว่าร่ำรวยที่สุดในโลก

อย่างไรก็ตามกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงว่า กรณีที่นิตยสาร Forbes ได้เผยแพร่บทความพิเศษเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ประจำปี พ.ศ. 2551 และได้จัดให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอยู่ ในลำดับแรก ของพระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดนั้น สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ชี้แจงว่า บทความดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เนื่องจากว่า ทรัพย์สินที่บทความนำมาประเมินนั้น ในความเป็นจริง มิใช่ทรัพย์สินส่วนพระองค์ แต่เป็นของแผ่นดิน ซึ่งเป็นไปในทำนองเดียวกันกับพระมหากษัตริย์ในประเทศอื่น ที่บทความเดียวกันนี้ไม่ได้จัดอันดับฐานะความร่ำรวย เพราะทรัพย์สินต่างๆ ไม่ใช่ของกษัตริย์ หากแต่เป็นของคนทั้งชาติ

สำนักงานทรัพย์สินฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า "ที่ดิน" ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ส่วนใหญ่หน่วยงานราชการ องค์กรสาธารณะกุศลเป็นผู้ใช้ประโยชน์ และจัดให้ประชาชน ที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย รวมทั้งชุมชนอีกกว่าหนึ่งร้อยแห่ง เช่าในอัตราที่ต่ำ มีเพียงส่วนน้อยประมาณ 7% ของที่ดิน ที่จัดให้เอกชนเช่าและจัดเก็บในอัตราเชิงพาณิชย์

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงไปยังนิตยสาร Forbes แล้ว

อย่างไรก็ดีแม้กระทรวงต่างประเทศชี้แจงไปในปีที่แล้ว แต่มาในปีนี้ฟอร์บสยังคงจัดอันดับให้ในหลวงเป็นกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดของ โลกต่อเนื่องเป็นปีที่2 โดยฟอร์บสอ้างว่า เพราะในหลวงมีพระราชอำนาจในการจัดการในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

4.พสกนิกรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จัดสรรเงินภาษีให้สำนักพระราชวังปีหน้า3พันล้านบาท

เวบไซต์ของสำนักงบประมาณ
http://www.bb.go.th/...00/00000038.PDF

เปิดเผยว่า งบประมาณ ของสำนักพระราชวัง ที่ประกาศใน "งบประมาณโดยสังเขป" ประจำปี 53 อยู่ที่ 2,364.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนนี้ 13.3% โดยเมื่อปีที่แล้ว งบนี้อยู่ที่ 2,086.3 ล้านบาท

งบประมาณของสำนักพระราชวัง

ปี 2502--------32,836,049 บาท
ปี 2522-------126,185,900 บาท
ปี 2523-------141,151,100 บาท
ปี 2524-------165,683,100 บาท
ปี 2525-------184,922,000 บาท
ปี 2526-------235,286,000 บาท
ปี 2527-------312,911,700 บาท
ปี 2528-------281,435,000 บาท
ปี 2529-------340,980,000 บาท
ปี 2530-------387,734,790 บาท
ปี 2531-------358,685,300 บาท

ปี 2533-------450,372,100 บาท
ปี 2534-------517,515,900 บาท
ปี 2535-------623,176,400 บาท
ปี 2536-------829,365,200 บาท
ปี 2537-------815,711,600 บาท
ปี 2538-------933,229,700 บาท
ปี 2539-------907,461,000 บาท
ปี 2540-------944,400,000 บาท
ปี 2541-------987,516,500 บาท
ปี 2542-------961,575,400 บาท
ปี 2543------1,028,315,500 บาท
ปี 2544------1,058,540,000 บาท
ปี 2545------1,136,536,600 บาท
ปี 2546------1,209,861,700 บาท
ปี 2547------1,275,948,400 บาท
ปี 2548------1,501,472,900 บาท
ปี 2549------1,676,888,800 บาท
ปี 2550------1,945,122,400 บาท
ปี 2551------2,086,310,000 บาท
ปี 2552-------2,086,310,000 บาท
ปี2553-------2,364.610,000 บาท
ปี2554----ประมาณการณ์เพิ่มขึ้นเป็น3,303 ล้านบาทเศษ*

http://www.sameskybo...showtopic=35415

ทั้งนี้งบประมาณที่พสกนิกรน้อมถวายด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนี้ก็เพื่อ
: ความสะดวกแด่พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ เช่น

4. งบเงินอุดหนุน 835,519,200 บาท
4.1 เงินอุดหนุนทั่วไป 835,519,200 บาท
1) เงินอุดหนุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในพระราชฐานที่ประทับ 308,000,000 บาท
2) เงินอุดหนุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในพระราชฐานที่ประทับสมเด็จพระบรมโอรสาธิร
าชฯ
สยามมกุฏราชกุมาร 198,000,000 บาท
3) เงินอุดหนุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในพระองค์ 65,625,000 บาท
4) เงินอุดหนุนเพื่อเป็นเงินปีพระบรมวงศานุวงศ์ 57,856,000 บาท
5) เงินอุดหนุนเพื่อเป็นค่าใช้ายในพระราชฐานต่างจังหวัด 110,000,000 บาท
6) เงินอุดหนุนเพื่อเป็นเงินเบี้ยหวัดข้าราชการฝ่ายใน 8,908,200 บาท
7) เงินอุดหนุนเพื่อเป็นเงินพระราชกุศลตามพระราชอัธาศัย 9,900,000 บาท
8) เงินอุดหนุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายประสานงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี 19,380,000 บาท
9) เงินอุดหนุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายประสานงานโครงการอนุรักษ์พนธุกรรมพืชอันเน
ื่องมา
จากพระราชดําริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 25,350,000 บาท
10) เงินอุดหนุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงพระราชฐานและซ่อมเครื่องตกแต
่ง 11,000,000 บาท
11) เงินอุดหนุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงพระตําหนักจิตรลดารโหฐานพร้อ

จัดหาซ่อม ทําเครื่องใช้เครื่องตกแต่ง 16,500,000 บาท
12) เงินอุดหนุนโครงการบูรณาการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต 5,000,000 บาท

5. งบรายจ่ายอื่น 3,500,000 บาท
1) ค่าใช้จ่ายที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ข้าราชการสํานักพระราชวังเดินทางไป
ต่างประเทศ
2,000,000 บาท
2) ค่าใช้จ่ายในการจัดการปัญหาแมลงและสัตว์รบกวนในเขตพระราชฐาน 1,000,000 บาท
3) ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบบริหารความรู้ภายในองค์กรสํานักพระราชวัง 500,000 บาท

5.พสกนิกรน้อมใจจัดสรรงบประมาณจากภาษีให้โครงการตามพระราชดำริทุกปี และโครงการตามพระราชดำรินั้น ใช้เงินจากงบประมาณแผ่นดินที่ประชาชนจ่ายภาษี

http://www.bb.go.th/...lue51/25004.pdf

คนมักเข้าใจผิดๆว่าสำนักงานโครงการพระราชดำรินั้น เป็นโครงการที่ในหลวงใช้จ่ายเงินส่วนพระองค์เพื่อพสกนิกร ความจริงคือ

5.1ใช้งบประมาณแผ่นดินจากภาษีประชาชน
5.2โครงการต่างๆที่ว่า6พันกว่าโครงการนั้น ก็ใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนผ่านโครงการของหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ

(รายละเอียดครับ)
กรม : สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ผลผลิต : โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์

1. งบบุคลากร 5 2,598,800 บาท
1.1 เงินเดือนและค่าจ้างประจำ 4 2,760,100 บาท
1.1.1 เงินเดือน 3 8,863,600 บาท
(1) อัตราเดิม 3 3,096,600 บาท
(2) เงินประจำตำแหน่ง 2 ,274,000 บาท
(3) เงินค่าตอบแทนรายเดือนสำหรับข้าราชการ 3 ,324,000 บาท
(4) เงินช่วยเหลือการครองชีพข้าราชการระดับต้น 1 69,000 บาท
1.1.2 ค่าจ้างประจำ 3 ,896,500 บาท
(1) อัตราเดิม (ค่าจ้างประจำ) 3 ,575,600 บาท
(2) เงินช่วยเหลือการครองชีพพิเศษ 3 20,900 บาท
1.2 ค่าตอบแทนพนักงานราชการ 9 ,838,700 บาท
1.2.1 ค่าตอบแทนพนักงานราชการ 9 ,838,700 บาท
(1) ค่าตอบแทนพนักงานราชการ 9 ,838,700 บาท
2. งบดำเนินงาน 2 6,644,900 บาท
2.1 ค่าตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ 2 4,350,500 บาท
2.1.1 ค่าตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ 2 4,350,500 บาท
(1) ค่าอาหารทำการนอกเวลา 3 00,000 บาท
(2) ค่าเช่าบ้าน 4 1,900 บาท
(3) รายการค่าตอบแทนอื่น ๆ 1 ,780,700 บาท
(4) ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พักและค่าพาหนะ 7 ,368,500 บาท
(5) ค่าใช้จ่ายในการสัมมนาและฝึกอบรม 1 ,556,000 บาท
(6) ค่าประชาสัมพันธ์ 9 ,220,000 บาท
(7) ค่าใช้สอยอื่น ๆ 1 ,661,500 บาท
(8) วัสดุสำนักงาน 7 21,900 บาท
(9) วัสดุเชื้อเพลิงและหล่อลื่น 3 00,000 บาท
(10) วัสดุงานบ้านงานครัว 1 00,000 บาท
(11) วัสดุไฟฟ้าและวิทยุ 1 00,000 บาท
(12) วัสดุโฆษณาและเผยแพร่ 2 00,000 บาท
(13) วัสดุคอมพิวเตอร์ 9 00,000 บาท
(14) วัสดุยานพาหนะและขนส่ง 1 00,000 บาท
รายละเอียดงบประมาณจำแนกตามงบรายจ่าย

กรม : สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
2.2 ค่าสาธารณูปโภค 2 ,294,400 บาท
2.2.1 ค่าสาธารณูปโภค 2 ,294,400 บาท
(1) ค่าโทรศัพท์ 8 21,700 บาท
(2) ค่าน้ำประปา 6 2,000 บาท
(3) ค่าไปรษณีย์โทรเลข 1 83,800 บาท
(4) ค่าไฟฟ้า 1 ,085,700 บาท
(5) ค่าบริการสื่อสารและโทรคมนาคม 1 41,200 บาท


ตัวอย่างบางตอนว่าเงินที่มาทำโครงการพระราชดำริมาจากไหน

นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2550 กรมชลประทานได้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 33,835 ล้านบาท โดยแผนงานในปี 2550 กรมชลฯ มีการดำเนินโครงการขนาดใหญ่จำนวน 9 โครงการ รวมเป็นเงิน 8,243 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่เปิดโครงการโดยคณะกรรมการประสานงานโครงการอันเนื่อง มาจากพระราชดำริจำนวน 4 โครงการ

5.ในหลวงทรงเป็นพระราชบิดาของครอบครัวตัวอย่าง

พระราชโอรส พระราชธิดา ของในหลวงทรงมีชีวิตสมรสที่ไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่ก็เป็นไปอย่างอิสระ ทรงให้อิสระในการเลือกคู่สมรสเยี่ยงครอบครัวยุคใหม่พึงเป็น

พระราชธิดาพระองค์โตลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อสมรสกับชาวอเมริกัน แม้ต้องหย่าในภายหลัง แต่พสกนิกรชาวไทยก็ยังเทิดเกียรติทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์เยี่ยงพระราชวงศ์ ชั้นสูง มีผลงานการแสดงภาพยนตร์ให้พสกนิกรได้ชื่นชมพระบารมี เด็กนักเรียนได้เจียดค่าขนมไปชมภาพยนตร์ที่ท่านแสดงเป็นตัวเอก เพื่อจะได้ซึมซาบในพระอัจริยภาพ พระธิดาของท่านเองก็มีผลงานทางด้านการแสดง และปรากฎคลิปการแสดงเป็นที่ปรากฎในอัจริยภาพไปทั่วโลกให้พสกนิกรชื่นชม

พระราชโอรสพระองค์เดียว รัชทายาทของไทยมีชีวิตสมรสและครอบครัวอันอบอุ่นดังปรากฎอยู่บนบิลบอร์ดข้าง ทางด่วน พระองค์ท่านยังมีโอรสที่อยู่ในต่างประเทศอีก 4 พระองค์ให้พสกนิกรได้ถวิลหาและติดตามข่าวคราวอยู่เป็นระยะไม่ขาดสาย แสดงถึงความผูกพันของปวงชนชาวไทยที่มีต่อพระราชวงศ์

พระราชธิดาองค์กลางพึงพอใจที่จะเป็นโสด และเสกสมรสกับประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่ง พระองค์ท่านได้รับความโปรดปรานจากพระราชบิดาให้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หลาย หลักทรัพย์ อันจะทำให้มีพระราชทรัพย์เสด็จพระราชกุศลต่อปวงชนชาวไทยต่อไป

พระราชธิดาองค์เล็กแม้จะทรงหย่ากับพระสวามีนายทหารอากาศ และพระพลานามัยไม่ดีนัก แต่พสกนิกรก็สบายใจเมื่อได้เห็นนายแพทย์ท่านหนึ่งคอยรับใช้ใกล้ชิดเวลา ติดตามชมข่าวพระราชสำนักอยู่เสมอ

ทุกพระองค์ทรงพระราชกรณียกิจเหนื่อยยากไปยังต่างประเทศทั่วโลก และพสกนิกรชาวไทยก็ได้ติดตามเสมอในข่าวรอบสองทุ่ม ทำให้พสกนิกรชาวไทยได้เปิดหูเปิดตาเสมือนกับได้ท่องเที่ยวไปทั่วทุกมุมโลก นับเป็นบุญอันน่าอิจฉาของทุกผู้ทุกนามที่เกิดมาใต้พระบรมโพธิสมภารเป็นที่ ยิ่งแล้ว

ปวงข้าพระพุทธเจ้ารู้สึกน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จึงได้รวบรวมพระราชกรณียกิจที่บันทึกไว้เป็นหลักฐานมาแสดงให้ปรากฎไปทั่ว สากลจักรวาล เพราะพระราชกรณียกิจ และพระราชบุญญาธิการทั้งปวงดังกล่าวมานี้มีหลักฐานบันทึกไว้ในเอกสารราชการ และเอกสารต่างๆอย่างชัดแจ้ง ควรที่พสกนิกรชาวไทยผู้จงรักภักดีจักได้บอกกล่าวแพร่กระจายเพื่อสรรเสริญพระ เกียรติให้กว้างไกลในทุกช่องทาง

หากผู้ใดอ่านแล้วไม่กระจายต่อ ก็โปรดถามตัวเองให้ดีเถิดว่า คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า หากเป็นคนไทยทำไมไม่ช่วยกันกระจายพระบารมีให้เกริกก้องฟ้าปรากฎแก่สามโลก ทั้งมนุษย์ และเทวดาจะได้แผ่พระเกียรติกำจายไปตลอดนิจนิรันดร์

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

พสกนิกรชาวไทยที่น้อมสำนึกในพระมหากรุณิคุณ และขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไทย

Code:
อ้างอิงจาก  http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=37647
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ