เขายายเที่ยง...คืนตอนนี้ก็สายไป
หน้า 1 จาก 1
เขายายเที่ยง...คืนตอนนี้ก็สายไป
การไม่ยอมคายที่ดินบนเขายายเที่ยงแต่โดยดีของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ให้เห็นว่าเครือข่ายอำมาตย์มั่นใจในตัวเองมากแค่ ไหน จึงไม่ยี่หระกับกระแสสังคมที่ส่วนใหญ่รับไม่ได้กับเรื่องที่ผู้ใหญ่ระดับ องคมนตรีเข้าไปยึดครองพื้นที่ป่า
เรื่องนี้ยิ่งขุดลึกลงไปจะพบข้อเท็จ จริงที่ค้านกับคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการที่เห็นว่า พล.อ.สุรยุทธ์ขาดเจตนาในการบุกรุกพื้นที่ป่าเพราะซื้อมาเป็นทอดที่สาม
ประมาณว่าไม่ได้ถือจอบ แบกเสียมเข้าไปหักร้างถางพงไม่ถือว่ามีความผิด
พล.อ.สุ รยุทธ์เป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นหัวหน้าชุดปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ไม่รู้จริงๆใช่ไหมว่าที่ดินบนเขายายเที่ยงอยู่ในเขตป่าสงวนฯที่เป็นป่าต้น น้ำ
ในหนังสือ “เส้นทางเหล็ก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” เขียนไว้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ซื้อที่ดินผืนนี้เอาไว้ตั้งแต่เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์นั่งในตำแหน่งนี้เมื่อปี 2537-2539
ตามที่กล่าวอ้างกัน คนที่ครอบครองที่ดินผืนนี้เป็นคนแรกชื่อนายเบ้า ต่อมาขายให้กับนายนพดล พิทักษ์วาณิชย์ เมื่อปี 2538 ในราคา 600,000 บาท พ.อ.สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์ ซื้อต่อเป็นทอดที่สองในราคาเพียง 50,000 บาท ในปี 2540
แต่ข้อเท็จจริงจากปากคำของนายเบ้าบอกว่าขายที่ดินแปลงนี้ให้นายนพดลเมื่อปี 2536 ซึ่งตอนนั้นนายนพดลเดินทางมาพร้อมกับทหารอีก 2 คน
คำ ถามคือทหารที่มากับนายนพดลมีความเกี่ยวพันกับ พ.อ.สุรฤทธิ์หรือไม่ และ พ.อ.สุรฤทธิ์มีความเกี่ยวพันอะไรกับ พล.อ.สุรยุทธ์ เพราะข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า พ.อ.สุรฤทธิ์ขายที่ดินผืนนี้ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ตั้งแต่เมื่อไร ราคาเท่าไร แต่ที่ดินผืนนี้มีชื่อของ พ.อ.หญิงคุณหญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภริยา พล.อ.สุรยุทธ์ ถือครองในปี 2545
ที่น่าแปลกคือที่ดินผืนงามผืนนี้ยิ่งขายเปลี่ยนมือทำไมราคายิ่งลดลง
อัยการ น่าจะพิจารณาถึงเรื่องเหล่านี้เพื่อสืบดูก่อนจะชี้ขาดลงมาว่าไม่ส่งฟ้อง เพราะ พล.อ.สุรยุทธ์ขาดเจตนาในการบุกรุกพื้นที่ป่า เพราะมีข้อสงสัยว่าการถือครองที่ดินที่เปลี่ยนมือกันมานั้นอาจเข้าข่าย ลักษณะเป็น “นอมินี” ถือแทนกัน
ไม่รู้ว่ากินดีหมี ดีเสือที่ไหนมาถึงได้มั่นอกมั่นใจในอำนาจที่ถือครองอยู่ในมือกันนักถึงกล้า เดินสวนกระแสสังคม ทั้งที่รู้ว่ากรณีที่ดินเขายายเที่ยงนี้ฉายภาพความสองมาตรฐานในสังคมไทยให้ เห็นอย่างชัดเจน
ที่สำคัญยังฉายภาพความเป็นคนเหนือคนที่มีสิทธิพิเศษของเครือข่ายอำมาตย์ให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น
แม้ สุดท้าย พล.อ.สุรยุทธ์จะตัดสินใจคืนที่ดินเมื่อคณะกรรมการกรมป่าไม้ได้ข้อสรุปแนวทาง ปฏิบัติออกมา แต่ถึงตอนนั้นอาจจะสายเกินไป เพราะประชาชนคนไทยได้กระจ่างในความเป็นจริงไปแล้ว
งานนี้จึงได้ไม่เท่าสีย แม้ที่สุดอาจรักษาอำนาจในมือไว้ได้ แต่ใครจะยกย่องสรรเสริญ
ที่ มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 5 ฉบับที่ 242 วันที่ 16-22 มกราคม พ.ศ. 2553 หน้า 5 คอลัมน์ จับกระแสการเมือง โดย ทีมข่าวการเมือง
แหล่งที่มา
http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=5532
เรื่องนี้ยิ่งขุดลึกลงไปจะพบข้อเท็จ จริงที่ค้านกับคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการที่เห็นว่า พล.อ.สุรยุทธ์ขาดเจตนาในการบุกรุกพื้นที่ป่าเพราะซื้อมาเป็นทอดที่สาม
ประมาณว่าไม่ได้ถือจอบ แบกเสียมเข้าไปหักร้างถางพงไม่ถือว่ามีความผิด
พล.อ.สุ รยุทธ์เป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นหัวหน้าชุดปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ไม่รู้จริงๆใช่ไหมว่าที่ดินบนเขายายเที่ยงอยู่ในเขตป่าสงวนฯที่เป็นป่าต้น น้ำ
ในหนังสือ “เส้นทางเหล็ก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” เขียนไว้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ซื้อที่ดินผืนนี้เอาไว้ตั้งแต่เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์นั่งในตำแหน่งนี้เมื่อปี 2537-2539
ตามที่กล่าวอ้างกัน คนที่ครอบครองที่ดินผืนนี้เป็นคนแรกชื่อนายเบ้า ต่อมาขายให้กับนายนพดล พิทักษ์วาณิชย์ เมื่อปี 2538 ในราคา 600,000 บาท พ.อ.สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์ ซื้อต่อเป็นทอดที่สองในราคาเพียง 50,000 บาท ในปี 2540
แต่ข้อเท็จจริงจากปากคำของนายเบ้าบอกว่าขายที่ดินแปลงนี้ให้นายนพดลเมื่อปี 2536 ซึ่งตอนนั้นนายนพดลเดินทางมาพร้อมกับทหารอีก 2 คน
คำ ถามคือทหารที่มากับนายนพดลมีความเกี่ยวพันกับ พ.อ.สุรฤทธิ์หรือไม่ และ พ.อ.สุรฤทธิ์มีความเกี่ยวพันอะไรกับ พล.อ.สุรยุทธ์ เพราะข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า พ.อ.สุรฤทธิ์ขายที่ดินผืนนี้ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ตั้งแต่เมื่อไร ราคาเท่าไร แต่ที่ดินผืนนี้มีชื่อของ พ.อ.หญิงคุณหญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภริยา พล.อ.สุรยุทธ์ ถือครองในปี 2545
ที่น่าแปลกคือที่ดินผืนงามผืนนี้ยิ่งขายเปลี่ยนมือทำไมราคายิ่งลดลง
อัยการ น่าจะพิจารณาถึงเรื่องเหล่านี้เพื่อสืบดูก่อนจะชี้ขาดลงมาว่าไม่ส่งฟ้อง เพราะ พล.อ.สุรยุทธ์ขาดเจตนาในการบุกรุกพื้นที่ป่า เพราะมีข้อสงสัยว่าการถือครองที่ดินที่เปลี่ยนมือกันมานั้นอาจเข้าข่าย ลักษณะเป็น “นอมินี” ถือแทนกัน
ไม่รู้ว่ากินดีหมี ดีเสือที่ไหนมาถึงได้มั่นอกมั่นใจในอำนาจที่ถือครองอยู่ในมือกันนักถึงกล้า เดินสวนกระแสสังคม ทั้งที่รู้ว่ากรณีที่ดินเขายายเที่ยงนี้ฉายภาพความสองมาตรฐานในสังคมไทยให้ เห็นอย่างชัดเจน
ที่สำคัญยังฉายภาพความเป็นคนเหนือคนที่มีสิทธิพิเศษของเครือข่ายอำมาตย์ให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น
แม้ สุดท้าย พล.อ.สุรยุทธ์จะตัดสินใจคืนที่ดินเมื่อคณะกรรมการกรมป่าไม้ได้ข้อสรุปแนวทาง ปฏิบัติออกมา แต่ถึงตอนนั้นอาจจะสายเกินไป เพราะประชาชนคนไทยได้กระจ่างในความเป็นจริงไปแล้ว
งานนี้จึงได้ไม่เท่าสีย แม้ที่สุดอาจรักษาอำนาจในมือไว้ได้ แต่ใครจะยกย่องสรรเสริญ
ที่ มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 5 ฉบับที่ 242 วันที่ 16-22 มกราคม พ.ศ. 2553 หน้า 5 คอลัมน์ จับกระแสการเมือง โดย ทีมข่าวการเมือง
แหล่งที่มา
http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=5532
60 วันอันตราย
การเมืองไทยกำลังเดินเข้าสู่วิกฤตรอบใหม่ที่การต่อสู้จะดุเดือดเลือดพล่านเกินห้ามใจ
วัดเรตติ้งความรุนแรงสูงเกินมาตรฐานความปลอดภัย
วัดรังสีอำมหิตมีปริมาณความเข้มข้นสูงที่สุดในรอบ 3 ปี
จึงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากที่เหตุการณ์จะบานปลาย
และถ้ามีปัจจัยแทรกซ้อนก็อาจจะยกระดับการเผชิญหน้าไปสู่ภาวะจลาจล??
ถ้าหากมีการปะทะกันจนเกิดบาดเจ็บล้มตายอาจจะเกิดเหตุวุ่นวายกระจายเป็นวงกว้างจนเกินกว่าความสามารถในการควบคุม
และถ้าประเมินในแง่ร้ายสุดๆ ก็อาจจะเกิดรัฐประหารซ้ำรอย??
"แม่ลูกจันทร์" เชื่อว่าสถานการณ์ บ้านเมืองช่วง 2 เดือนจากนี้ไป คือตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิ้นเดือนมีนาคม จะเป็นช่วงวิกฤติ "60 วันอันตราย"
อันตราย...เพราะประเด็นความขัดแย้งหลายอย่างมาถึงจุดแตกหักพร้อมกัน!!
แต่ถ้าผ่านเดือนเมษายนไปได้ สถานการณ์ ตึงเครียดก็จะเริ่มคลี่คลาย
ย้อนกลับมาที่ประเด็นเดิม คือวิกฤติการเมืองที่เป็นเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งในสังคมไทย 3 เรื่องใหญ่ๆ บังเอิญมาถึงจุดแตกหักพร้อมกันในช่วงนี้พอดี
ได้แก่...
เรื่องที่ 1, คดีอัยการสูงสุดฟ้องยึดทรัพย์ เจ็ดหมื่นหกพันล้านบาทของ "อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร" จากการขายหุ้นชินคอร์ปให้ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลาบ่ายโมงตรง
ไม่ว่าผลการตัดสินคดีนี้จะออกมาอย่างไร ก็ต้องเกิดแรงสั่นสะเทือนทาง การเมืองอย่างมโหฬาร
เรื่องที่ 2, คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท และคดีเงินกองทุนพัฒนาการเมืองอีก 29 ล้านบาท ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการยักย้ายถ่ายเท สร้างหลักฐานเท็จเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง??
หลังจากเลื่อนแล้วเลื่อนอีกมากว่า 6 เดือน ก็มีการสรุปสำนวนคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ให้ที่ประชุมใหญ่ กกต.พิจารณา
ปรากฏว่า กกต.เสียงข้างมากไม่ กล้าตัดสินใจ
โยนเผือกร้อนให้ประธาน กกต. "อภิชาต สุขัคคานนท์" ตัดสินคนเดียว!!
ล่าสุด คาดว่าประธาน กกต.จะตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ฉลองเทศกาลวาเลนไทน์
ถ้าผลออกมาว่า "ไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์" เพราะหลักฐานไม่พอ
ประธาน กกต.ก็มีหวังโดนถล่มอ่วมอรไท
แต่ถ้าผลออกมา "ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์" เพราะหลักฐานชัดเจน
ก็จะมีผลกระทบต่ออนาคตรัฐบาล
การจะยุบ? หรือไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์? จึงเป็นเงื่อนไขให้ความขัดแย้งบานปลาย
เรื่องที่ 3, กรณีอื้อฉาวบ้านเขายายเที่ยง ของ "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" องคมนตรีที่กรมป่าไม้ขอเวลาตัดสินใจไม่เกิน 60 วัน
คาดว่ากรณีบ้านพักตากอากาศเขายายเที่ยง จะมีคำตอบชัดเจนกลางเดือนกุมภาพันธ์ หรือต้นเดือนมีนาคม
แต่เหตุที่ประเด็นบ้านเขายายเที่ยงของ "พล.อ.สุรยุทธ์" เป็นเงื่อนไขให้ความขัดแย้งบานปลาย เพราะมันโจ๋งครึ่มตำตาตำใจให้ เห็นการใช้กฎหมาย 2 มาตรฐานชัดเจน
ถ้ากรมป่าไม้ยังไม่รีบจัดการแก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมา
กรณีบ้านเขายายเที่ยงจะเป็นเชื้อปะทุให้ความขัดแย้งสุกงอม
สรุปว่า เมื่อคดียึดทรัพย์ คดียุบพรรค คดีเขายายเที่ยง 3 เรื่องใหญ่ๆโคจรเข้าสู่จุดไคลแมกซ์พร้อมกัน
60 วันอันตราย จึงประมาทไม่ได้ ทุกนาที.
"แม่ลูกจันทร์"
แหล่งที่มา http://www.thairath.co.th/today/view/59289
วัดเรตติ้งความรุนแรงสูงเกินมาตรฐานความปลอดภัย
วัดรังสีอำมหิตมีปริมาณความเข้มข้นสูงที่สุดในรอบ 3 ปี
จึงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากที่เหตุการณ์จะบานปลาย
และถ้ามีปัจจัยแทรกซ้อนก็อาจจะยกระดับการเผชิญหน้าไปสู่ภาวะจลาจล??
ถ้าหากมีการปะทะกันจนเกิดบาดเจ็บล้มตายอาจจะเกิดเหตุวุ่นวายกระจายเป็นวงกว้างจนเกินกว่าความสามารถในการควบคุม
และถ้าประเมินในแง่ร้ายสุดๆ ก็อาจจะเกิดรัฐประหารซ้ำรอย??
"แม่ลูกจันทร์" เชื่อว่าสถานการณ์ บ้านเมืองช่วง 2 เดือนจากนี้ไป คือตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิ้นเดือนมีนาคม จะเป็นช่วงวิกฤติ "60 วันอันตราย"
อันตราย...เพราะประเด็นความขัดแย้งหลายอย่างมาถึงจุดแตกหักพร้อมกัน!!
แต่ถ้าผ่านเดือนเมษายนไปได้ สถานการณ์ ตึงเครียดก็จะเริ่มคลี่คลาย
ย้อนกลับมาที่ประเด็นเดิม คือวิกฤติการเมืองที่เป็นเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งในสังคมไทย 3 เรื่องใหญ่ๆ บังเอิญมาถึงจุดแตกหักพร้อมกันในช่วงนี้พอดี
ได้แก่...
เรื่องที่ 1, คดีอัยการสูงสุดฟ้องยึดทรัพย์ เจ็ดหมื่นหกพันล้านบาทของ "อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร" จากการขายหุ้นชินคอร์ปให้ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลาบ่ายโมงตรง
ไม่ว่าผลการตัดสินคดีนี้จะออกมาอย่างไร ก็ต้องเกิดแรงสั่นสะเทือนทาง การเมืองอย่างมโหฬาร
เรื่องที่ 2, คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท และคดีเงินกองทุนพัฒนาการเมืองอีก 29 ล้านบาท ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการยักย้ายถ่ายเท สร้างหลักฐานเท็จเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง??
หลังจากเลื่อนแล้วเลื่อนอีกมากว่า 6 เดือน ก็มีการสรุปสำนวนคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ให้ที่ประชุมใหญ่ กกต.พิจารณา
ปรากฏว่า กกต.เสียงข้างมากไม่ กล้าตัดสินใจ
โยนเผือกร้อนให้ประธาน กกต. "อภิชาต สุขัคคานนท์" ตัดสินคนเดียว!!
ล่าสุด คาดว่าประธาน กกต.จะตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ฉลองเทศกาลวาเลนไทน์
ถ้าผลออกมาว่า "ไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์" เพราะหลักฐานไม่พอ
ประธาน กกต.ก็มีหวังโดนถล่มอ่วมอรไท
แต่ถ้าผลออกมา "ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์" เพราะหลักฐานชัดเจน
ก็จะมีผลกระทบต่ออนาคตรัฐบาล
การจะยุบ? หรือไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์? จึงเป็นเงื่อนไขให้ความขัดแย้งบานปลาย
เรื่องที่ 3, กรณีอื้อฉาวบ้านเขายายเที่ยง ของ "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" องคมนตรีที่กรมป่าไม้ขอเวลาตัดสินใจไม่เกิน 60 วัน
คาดว่ากรณีบ้านพักตากอากาศเขายายเที่ยง จะมีคำตอบชัดเจนกลางเดือนกุมภาพันธ์ หรือต้นเดือนมีนาคม
แต่เหตุที่ประเด็นบ้านเขายายเที่ยงของ "พล.อ.สุรยุทธ์" เป็นเงื่อนไขให้ความขัดแย้งบานปลาย เพราะมันโจ๋งครึ่มตำตาตำใจให้ เห็นการใช้กฎหมาย 2 มาตรฐานชัดเจน
ถ้ากรมป่าไม้ยังไม่รีบจัดการแก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมา
กรณีบ้านเขายายเที่ยงจะเป็นเชื้อปะทุให้ความขัดแย้งสุกงอม
สรุปว่า เมื่อคดียึดทรัพย์ คดียุบพรรค คดีเขายายเที่ยง 3 เรื่องใหญ่ๆโคจรเข้าสู่จุดไคลแมกซ์พร้อมกัน
60 วันอันตราย จึงประมาทไม่ได้ ทุกนาที.
"แม่ลูกจันทร์"
แหล่งที่มา http://www.thairath.co.th/today/view/59289
อำนาจรัฐ
ถ้อยแถลงของ มร.โดนัลด์ อาร์ สไวท์เซอร์ ประธานกรรมการบริษัทจีเทค คอร์ปอเรชั่น ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังเข้าพบ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อวันก่อน น่าจะเป็นแนวทางยุติข้อพิพาทหวยออนไลน์ในระดับหนึ่ง
"ผม เดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ เพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์อันเกี่ยวเนื่องกับการลงทุน ของจีเทค ผ่านการร่วมลงทุนกับล็อกซเล่ย์ในนามบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด
เมื่อครั้งเราชนะการแข่งขันการประมูลโครงการ จ้างบริการระบบเกมสลากเพื่อสนับสนุนแผนรัฐบาลในการออกสลากออนไลน์ เรารู้สึกยินดีและตื่นเต้นอย่างมาก
จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลได้แสดงเจตจำนงที่จะล้มเลิกโครงการดังกล่าว ทำให้เรารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง แต่เราก็ให้ความเคารพในความประสงค์ของรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องนี้ รัฐบาลขอให้เราทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อหาแนวทางที่เป็นธรรม และเป็นประโยชน์ กับทุกฝ่าย ซึ่งเรายินดีที่จะทำตามที่รัฐบาลต้องการ
เราเชื่อมาตลอดว่ารัฐบาลจะส่งสัญญาณให้เราดำเนินโครงการตามสัญญา
ซึ่ง แอลจีทีมีกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและรัฐบาลย่อมตระหนักถึงการลงทุนที่ แอลจีทีมีให้กับโครงการดังกล่าวมาตลอด แอลจีทีก็ได้ดำเนินการทุกอย่างตามพันธะที่กำหนดไว้ในสัญญา
การยกเลิก โครงการนี้ของรัฐบาล จะส่งผลให้แอลจีทีประสบความเสียหายเป็นเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งแอลจีทีสมควรได้รับการชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวอย่างเป็นธรรม"
แปลว่ารัฐบาลจะต้องจ่ายค่าชดเชยสถานเดียว
ไม่ ใช่จะเอาเครื่องดังกล่าวไปขายตั๋วโดยสาร ออกสลากเลข 6 ตัว อย่างที่ออกข่าวมั่วๆกันไปแล้ว และก็แปลว่า เราต้องเสียค่าโง่อีก ตามระเบียบ
บนความพิสดารที่ว่า แทนที่รัฐบาลจะได้เงินสัมปทานเข้ารัฐ นำไปใช้ประโยชน์กับสังคมเป็นจำนวนมหาศาล กลับต้องเอาเงินภาษีอากรของประชาชนไปชดเชยให้กับความเสียหาย อยู่บนความต้องการของรัฐบาล แต่ไม่ใช่ความต้องการของประชาชน
เจ้ามือหวยใต้ดินสบายไป
ไม่ รู้ว่า ประธานจีเทคที่บินตรงมาจากอเมริกาเขาจะมองประเทศไทย มองรัฐบาลไทยอย่างไรในสภาวะที่ต้องต่อสู้กับอำนาจรัฐ ในประเทศที่กำลังพัฒนา ก็ต้องทำใจเป็นธรรมดา
นั่นหมายความว่าความน่า เชื่อถือในการลงทุนของจีเทค กับรัฐบาลไทยคงจะเหลือน้อยเต็มที และเป็นตัวอย่างให้นักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในบ้านเราต้องคิดหน้า คิดหลังเช่นเดียวกับที่มาบตาพุด
ความเสื่อมโทรมที่มีต้นตอมาจาก วิกฤติการเมืองกำลังกัดกร่อนระบบความถูกต้อง ระบบมาตรฐานและกฎกติกา เพียงแค่เพื่อสนองกิเลสตัณหาของคนบางกลุ่ม ทำเอาบ้านเมืองล่มจม.
หมัดเหล็ก
แหล่งที่มา http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/59309
"ผม เดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ เพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์อันเกี่ยวเนื่องกับการลงทุน ของจีเทค ผ่านการร่วมลงทุนกับล็อกซเล่ย์ในนามบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด
เมื่อครั้งเราชนะการแข่งขันการประมูลโครงการ จ้างบริการระบบเกมสลากเพื่อสนับสนุนแผนรัฐบาลในการออกสลากออนไลน์ เรารู้สึกยินดีและตื่นเต้นอย่างมาก
จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลได้แสดงเจตจำนงที่จะล้มเลิกโครงการดังกล่าว ทำให้เรารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง แต่เราก็ให้ความเคารพในความประสงค์ของรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องนี้ รัฐบาลขอให้เราทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อหาแนวทางที่เป็นธรรม และเป็นประโยชน์ กับทุกฝ่าย ซึ่งเรายินดีที่จะทำตามที่รัฐบาลต้องการ
เราเชื่อมาตลอดว่ารัฐบาลจะส่งสัญญาณให้เราดำเนินโครงการตามสัญญา
ซึ่ง แอลจีทีมีกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและรัฐบาลย่อมตระหนักถึงการลงทุนที่ แอลจีทีมีให้กับโครงการดังกล่าวมาตลอด แอลจีทีก็ได้ดำเนินการทุกอย่างตามพันธะที่กำหนดไว้ในสัญญา
การยกเลิก โครงการนี้ของรัฐบาล จะส่งผลให้แอลจีทีประสบความเสียหายเป็นเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งแอลจีทีสมควรได้รับการชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวอย่างเป็นธรรม"
แปลว่ารัฐบาลจะต้องจ่ายค่าชดเชยสถานเดียว
ไม่ ใช่จะเอาเครื่องดังกล่าวไปขายตั๋วโดยสาร ออกสลากเลข 6 ตัว อย่างที่ออกข่าวมั่วๆกันไปแล้ว และก็แปลว่า เราต้องเสียค่าโง่อีก ตามระเบียบ
บนความพิสดารที่ว่า แทนที่รัฐบาลจะได้เงินสัมปทานเข้ารัฐ นำไปใช้ประโยชน์กับสังคมเป็นจำนวนมหาศาล กลับต้องเอาเงินภาษีอากรของประชาชนไปชดเชยให้กับความเสียหาย อยู่บนความต้องการของรัฐบาล แต่ไม่ใช่ความต้องการของประชาชน
เจ้ามือหวยใต้ดินสบายไป
ไม่ รู้ว่า ประธานจีเทคที่บินตรงมาจากอเมริกาเขาจะมองประเทศไทย มองรัฐบาลไทยอย่างไรในสภาวะที่ต้องต่อสู้กับอำนาจรัฐ ในประเทศที่กำลังพัฒนา ก็ต้องทำใจเป็นธรรมดา
นั่นหมายความว่าความน่า เชื่อถือในการลงทุนของจีเทค กับรัฐบาลไทยคงจะเหลือน้อยเต็มที และเป็นตัวอย่างให้นักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในบ้านเราต้องคิดหน้า คิดหลังเช่นเดียวกับที่มาบตาพุด
ความเสื่อมโทรมที่มีต้นตอมาจาก วิกฤติการเมืองกำลังกัดกร่อนระบบความถูกต้อง ระบบมาตรฐานและกฎกติกา เพียงแค่เพื่อสนองกิเลสตัณหาของคนบางกลุ่ม ทำเอาบ้านเมืองล่มจม.
หมัดเหล็ก
แหล่งที่มา http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/59309
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ