มหาบุรุษจอมลวงโลก
2 posters
หน้า 1 จาก 1
มหาบุรุษจอมลวงโลก
จงอย่าได้ถามว่า ประเทศชาติจะทำอะไรให้แก่ท่าน แต่จงถามตัวท่านเองว่าท่านจะทำอะไรให้แก่ประเทศชาติได้บ้าง ?
นี้คือสุนทรพจน์ตอนหนึ่งของ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ กล่าวในวันเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ในสภาซีเนต
เมื่อ วันที่ 20 มกราคม 2504 เป็น สุนทรพจน์ที่ปลุกให้คนอเมริกันมีจิตสำนึกในความรักชาติและทำเพื่อประเทศชาติ
จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสหรัฐอเมริกาจึงเป็นประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก ผู้นำสหรัฐอเมริกาหลายท่าน
ก็ได้สร้างตำนานจนประชาชนยกย่องว่าเป็นบิดาหรือมหาบุรุษ
คำว่ามหาบุรุษ หรือผู้ที่จะได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดา ของชาติหนึ่งชาติใดนั้น เขาผู้นั้นจะต้องมีระบบคิด
และทัศนะคติที่สูงส่ง ในการทำเพื่อประเทศชาติและมวลมนุษยชาติ
ตัวอย่างของมหาบุรุษ
มหาตมะ คานที ท่านมีชื่อเต็มว่า โมฮันดาส ครามจันทร์ คานที ท่านเป็นผู้นำในการต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย
ท่านเอาชีวิตทั้งหมดเข้าแลกกับ การได้เอกราชของประเทศอินเดีย จนอินเดียได้รับเอกราชในปี 2490
ท่านเป็นต้นแบบอหิงสา ของนักต่อสู้ทั้งโลก มาติน ลูเธอร์คิงส์ กล่าวถึงคานทีว่า พระเยซูมอบคำสอนแก่ข้าพเจ้า คานที
มอบวิธีการ ส่วนไอน์สไตน์ ได้กล่าวถึงคานทีว่า คนรุ่นอนาคตจะไม่มีทางเชื่อเลยว่ามีคนแบบนี้อยู่จริงบนโลกมนุษย์นี้
ท่านได้ทิ้งข้อคิดปรัชญาที่มีคุณค่ามหาศาล แก่มนุษยชาติ ท่านเปรียบได้ว่าเป็นบิดาของชาวอินเดีย
มหาตมะ คานที..ท่านได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับชาวอินเดียถึงเพียงนี้ ท่านยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ แต่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ,
กฎหมายอาญา , และกฎหมายแพ่งและพานิชย์ที่ว่าด้วยการเสียภาษีของอินเดีย
ไม่มีมาตราหนึ่งมาตราใด ที่จะระบุในการให้สิทธิประโยชน์แก่ตระกูลคานที เลยแม้แต่มาตราเดียว
อับราฮัม ลินคอน ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา ท่านประกาศปลดปล่อยทาส ในปี คศ.1863
ท่านเอาชีวิตเข้าขับเคลื่อนแนวคิด มนุษย์ทุกคน มีความเป็นคนเท่ากัน ท่านต่อสู้เพื่อการเลิกทาสในอเมริกาจนสำเร็จ
?มนุษย์ต้องเลิกทำกับมนุษย์เหมือนสัตว์ ? ท่านได้สร้างมรดกปรัชญาทิ้งไว้ให้มนุษยชาติ เป็นหลักการประชาธิปไตยของโลกคือ
?การปกครอง ของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน?
อับราฮัม ลินคอน..ท่านได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับสหรัฐอเมริกาถึงเพียงนี้ ท่านยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ แต่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ,
กฎหมายอาญา , และกฎหมายแพ่งและพานิชย์ที่ว่าด้วยการเสียภาษีของอเมริกา
ไม่มีมาตราหนึ่งมาตราใด ที่จะระบุในการให้สิทธิประโยชน์แก่ตระกูล ลินคอร์น เลยแม้แต่มาตราเดียว
ลีกวนยู ท่านนำสิงค์โปร แยกออกจากมาเลเซียทั้งน้ำตาเพราะปัญหาทางเชื้อชาติ โดยที่สิงค์โปร
ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเลย ต้องอาศัยน้ำของมาเลเซีย และข้าวจากไทย แต่ลีกวนยูใช้เวลาเพียง
สี่สิบกว่าปี นำพาสิงค์โปรสู่ความมั่งคั่งเป็นผู้นำเศรษฐกิจในภูมิภาค ในปัจจุบันเฉพาะกองทุนเทมาเส็กแห่งเดียว
มีถึงสองล้านล้านบาท มากกว่างบประมาณของไทยทั้งประเทศ
ถ้าสมมุติว่าในปัจจุบันผืนแผ่นดินสิงค์โปรจมหายไปในมหาสมุทร , ท่านเชื่อหรือไม่ว่าประชาชนของประเทศสิงค์โปร
จะมีอสังหาริมทรัพย์และที่ดินอยู่ทั่วโลก มากกว่าที่จมหายไปในมหาสมุทร เพราะประชาชนสิงค์โปรเป็นเจ้าของทรัพย์สิน
และมีหุ้นอยู่ในบริษัท Land and Houses ทั่วโลก
ลีกวนยู..ท่านได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับสิงค์โปรถึงเพียงนี้ ท่านยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ และในปัจจุบันท่านก็ยังมีชีวิตอยู่
แต่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ , กฎหมายอาญา , และกฎหมายแพ่งและพานิชย์ที่ว่าด้วยการเสียภาษีของสิงค์โปร
ไม่มีมาตราหนึ่งมาตราใด ที่จะระบุในการให้สิทธิประโยชน์แก่ตระกูลลี เลยแม้แต่มาตราเดียว
โฮจิมินห์ ท่าน ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อปลดแอกชาติและประชาชน ท่านต่อสู้ตั้งแต่หนุ่มจนแก่เพื่อเอกราชของเวียดนาม
และขับไล่จักรวัตินิยมอเมริกาผู้รุกราน ท่านต้องหนีเจียงไคเช็ค มาบวชเป็นพระที่ จ.นครพนม และกลับเวียดนาม
ในปี พศ.2484 ท่านรวบรวมชาวเวียดนามตั้งเป็นฝ่าย เวียดมินห์ พอจักรพรรดิ์ บ๋าวได๋ สละราชสมบัติใน
วันที่ 2 กันยายน 2488 ท่านได้นำชาวเวียดนามผู้รักชาติเข้าต่อสู้จนชนะมหาอำนาจฝรั่งเศส ในสมรภูมิศึกเดียนเบียนฟู
เมื่อปีพศ. 2497 และท่านได้ประกาศอิสระภาพในปีเดียวกัน คำประกาศอิสระภาพของท่านที่เฉลียงตึกโรงละครในกรุงฮานอย
มีใจความว่า.. ? ทุกคนถือกำเนิดเท่าเทียมกัน มีสิทธิเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง สิทธิเหล่านี้ได้แก่สิทธิแห่งการดำรงชีวิต
มีเสรีภาพ และแสวงหาความสุข ? หลังจากได้เอกราชแล้วโฮจิมินห์ก็มอบประเทศคืนให้แก่ชาวเวียดนาม
ให้ประชาชนชาวเวียดนามไปตัดสินกันเองว่าจะให้ประเทศปกครองในระบอบใด ท่านมิได้หวงในอำนาจ
และหวังผลประโยชน์ใด ๆ และที่สำคัญท่านไม่เคยทวงบุญคุณแผ่นดิน เหมือนกับผู้ที่ชอบโปรโมทตัวเอง
ว่ามีบุญญาธิการในบางประเทศ
แต่แล้วสงครามเวียดนามก็ได้อุบัติขึ้นอีก ในปี พศ. 2502 โดยการรุกรานของอเมริกา ท่านก็นำการต่อสู้
จนสามารถขับไล่ จักรวัตินิยมอเมริกาได้สำเร็จ ในปีพศ. 2518 แต่เสียดายท่านถึงแก่อสัญกรรมเสียก่อน
ในวันที่ 2 กันยายน 2512 ที่บ้านพักในกรุงฮานอย ถึงแม้ว่าท่านไม่ทันได้เห็นชัยชนะด้วยตาตนเอง
แต่วีรกรรมของท่านได้ฝังลึกอยู่ในจิตใจของชาวเวียดนามทุกคน เพราะท่านคือผู้รักชาติที่ยิ่งใหญ่ ความรักชาติ
และพลเมืองของโฮจิมินห์ลึกซึ้งสุดที่จะประมาณได้ ชาวเวียดนามทั้งชาติต่างให้เกียรติและยกย่องว่าท่านคือบิดาของชาติอย่างแท้ จริง
โฮจิมินห์.. ท่านได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับชาวเวียดนามถึงเพียงนี้ ท่านยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ แต่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ , กฎหมายอาญา ,
และกฎหมายแพ่งและพานิชย์ที่ว่าด้วยการเสียภาษีของเวียดนาม
ไม่มีมาตราหนึ่งมาตราใด ที่จะระบุในการให้สิทธิประโยชน์แก่ตระกูลโฮจิมินห์ เลยแม้แต่มาตราเดียว
ความแตกต่างระหว่างมหาบุรุษที่แท้จริงกับมหาบุรุษ จอมลวงโลก
1.มหาบุรุษ..คือผู้ที่ เสียสละตนเอง มีระบบคิดที่สูงส่ง มหาบุรุษจะทำภารกิจเพื่อเพื่อนมนุษย์เป็นภารกิจที่ 1
(มหาบุรุษที่สร้างมายาภาพจะไม่ยอมเสียสละตนเอง จะสร้างอำนาจและความร่ำรวยเพื่อตัวเองและครอบครัวเป็นภารกิจที่ 1)
2.มหาบุรุษ..คือผู้มีอุดมการณ์ที่ชัดเจน เพื่อการปลดปล่อยมนุษยชาติ (มหาบุรุษจอมลวงโลก มือจะถือดาบ แต่ปากคาบคัมภีร์ )
3.มหาบุรุษ..จะต้องเป็นนักอภิวัฒน์สังคม หรือปฏิวัติสังคม ด้วยการเอาชีวิตทั้งหมด ไปผลักดันสังคมทั้งระบบจนสำเร็จ
หรือวางรากฐานไว้ให้ทำต่อจนสำเร็จ
(มหาบุรุษจอมลวงโลก จะวางรากฐานและผลักดันสังคมไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อสายตระกูล สายโลหิตตนเอง)
4.มหาบุรุษ..คือผู้ที่ขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด เป็นการยกระดับสังคมให้ดีขึ้น เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
(มหาบุรุษจอมลวงโลก จะเสนอวิธีคิดแบบโบราณ เพื่อผลักดันให้สังคมถอยหลัง ในขณะเดียวกันเขาก็จะใช้วิธีคิดแทนประชาชน
โดยตัวเขาเองและบรรดาเครือข่ายของเขา เช่นเหล่าอำมาตย์,นักวิชาการ,พรรคการเมืองที่เขาเลี้ยงไว้ออกมาเสนอแนวคิด
และนโยบายต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนเดินตามไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการ เพราะถ้าประชาชนฉลาดก้าวหน้าและคิดเอง ได้เมื่อไร
ประชาชนก็จะรู้ว่าเงินภาษีอากรที่ควรจะนำมาพัฒนาประเทศชาติ มันกลับใหลไปรวมอยู่ที่ครอบครัวของใคร)
5.มหาบุรุษ..คือผู้ที่เป็นต้นแบบของปรัชญาที่ก้าวหน้ากว่าแบบเก่า และมีวิธีการปฏิบัติการให้สังคมอื่นนำไปศึกษา
(มหาบุรุษจอมลวงโลกจะใช้ปรัชญาที่เป็นนามธรรมโบราณในลัทธิพราห์มคือไม่ สามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ในทางวิทยาศาสตร์ มาครอบงำวิธีคิดของประชาชนให้งมงาย)
6.มหาบุรุษ..หรือบิดาของชาติหนึ่งชาติใดนั้นคือผู้ที่ได้รับความรัก และเทิดทูนจากประชาชนอย่างแท้จริง ตรงไปตรงมา
( มหาบุรุษจอมลวงโลกจะพยายามยัดเยียด , บังคับ โหมกระหน่ำโฆษณาชวนเชื่อตนเอง ต่อสื่อสาธารณะ
ให้เกินมนุษย์ธรรมดาให้เป็นเรื่องบุญญาธิการ สร้างมายาภาพ ขึ้น ในสมองของประชาชน เป็นมายากลทางการเมือง
สร้างภาพลวงตา หลอกลวงเพื่อการสืบสายมรดกอำนาจ แก่สายโลหิตของตน)
7.มหาบุรุษ..คือผู้สร้างคุณประโยชน์ให้แผ่นดิน (มหาบุรุษจอมลวงโลกจะทวงบุญคุณแผ่นดิน)
8.มหาบุรุษ..คือผู้ที่มีจิตใจที่เป็นสากล และได้รับการยกย่องจากสังคมโลก
(มหาบุรุษจอมปลอมจะไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมโลก เขามีจิตใจที่ดูกถูกเหยียดหยามประชาชน
ว่าเป็นเพียงธุลีดิน อยู่ใต้เท้าพวกเขาไปชั่วลูกชั่วหลาน)
9.นับตั้งแต่มีโลกใบนี้มา ไม่เคยมีมหาบุรุษคนใดในโลกที่ห้ามมิให้ผู้คนวิจารณ์ตนเอง แม้แต่ศาสดาต่าง ๆ
ในทุกๆ ศาสนาของโลกก็ไม่มีบทบัญญัติข้อบังคับหรือเอาผิดใด ๆ ต่อผู้วิพากษ์วิจารณ์
ย้อนกลับมาดูประเทศไทยกับคำพังเพยที่ได้ยินมาหลายสิบปีว่า
?ทำดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย? และนี่คือ วาทะกรรมที่สกัดกั้นไม่ให้ประเทศไทยมีมหาบุรุษที่แท้จริง
มีแต่มหาบุรุษที่เก่งในการสร้างมายาภาพใช้วาทะกรรมหลอกลวงผู้คน ในประเทศไทยจึงไม่ค่อยมีใครกล้าทำความดี
พอมีใครจะทำความดีและสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติก็ต้องถูกสกัดกั้นและ ทำลาย เช่น.
ท่านปรีดี พนมยงค์ , ดร.ป๋วย อึ้งภากร , และดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นต้น
ก็อยากจะถามว่า..การที่เขาเหล่านั้นได้สร้างความดีและ คุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ มันไปบดบังบารมีของใครหรือ..?
นี้คือสุนทรพจน์ตอนหนึ่งของ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ กล่าวในวันเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ในสภาซีเนต
เมื่อ วันที่ 20 มกราคม 2504 เป็น สุนทรพจน์ที่ปลุกให้คนอเมริกันมีจิตสำนึกในความรักชาติและทำเพื่อประเทศชาติ
จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสหรัฐอเมริกาจึงเป็นประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก ผู้นำสหรัฐอเมริกาหลายท่าน
ก็ได้สร้างตำนานจนประชาชนยกย่องว่าเป็นบิดาหรือมหาบุรุษ
คำว่ามหาบุรุษ หรือผู้ที่จะได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดา ของชาติหนึ่งชาติใดนั้น เขาผู้นั้นจะต้องมีระบบคิด
และทัศนะคติที่สูงส่ง ในการทำเพื่อประเทศชาติและมวลมนุษยชาติ
ตัวอย่างของมหาบุรุษ
มหาตมะ คานที ท่านมีชื่อเต็มว่า โมฮันดาส ครามจันทร์ คานที ท่านเป็นผู้นำในการต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย
ท่านเอาชีวิตทั้งหมดเข้าแลกกับ การได้เอกราชของประเทศอินเดีย จนอินเดียได้รับเอกราชในปี 2490
ท่านเป็นต้นแบบอหิงสา ของนักต่อสู้ทั้งโลก มาติน ลูเธอร์คิงส์ กล่าวถึงคานทีว่า พระเยซูมอบคำสอนแก่ข้าพเจ้า คานที
มอบวิธีการ ส่วนไอน์สไตน์ ได้กล่าวถึงคานทีว่า คนรุ่นอนาคตจะไม่มีทางเชื่อเลยว่ามีคนแบบนี้อยู่จริงบนโลกมนุษย์นี้
ท่านได้ทิ้งข้อคิดปรัชญาที่มีคุณค่ามหาศาล แก่มนุษยชาติ ท่านเปรียบได้ว่าเป็นบิดาของชาวอินเดีย
มหาตมะ คานที..ท่านได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับชาวอินเดียถึงเพียงนี้ ท่านยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ แต่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ,
กฎหมายอาญา , และกฎหมายแพ่งและพานิชย์ที่ว่าด้วยการเสียภาษีของอินเดีย
ไม่มีมาตราหนึ่งมาตราใด ที่จะระบุในการให้สิทธิประโยชน์แก่ตระกูลคานที เลยแม้แต่มาตราเดียว
อับราฮัม ลินคอน ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา ท่านประกาศปลดปล่อยทาส ในปี คศ.1863
ท่านเอาชีวิตเข้าขับเคลื่อนแนวคิด มนุษย์ทุกคน มีความเป็นคนเท่ากัน ท่านต่อสู้เพื่อการเลิกทาสในอเมริกาจนสำเร็จ
?มนุษย์ต้องเลิกทำกับมนุษย์เหมือนสัตว์ ? ท่านได้สร้างมรดกปรัชญาทิ้งไว้ให้มนุษยชาติ เป็นหลักการประชาธิปไตยของโลกคือ
?การปกครอง ของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน?
อับราฮัม ลินคอน..ท่านได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับสหรัฐอเมริกาถึงเพียงนี้ ท่านยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ แต่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ,
กฎหมายอาญา , และกฎหมายแพ่งและพานิชย์ที่ว่าด้วยการเสียภาษีของอเมริกา
ไม่มีมาตราหนึ่งมาตราใด ที่จะระบุในการให้สิทธิประโยชน์แก่ตระกูล ลินคอร์น เลยแม้แต่มาตราเดียว
ลีกวนยู ท่านนำสิงค์โปร แยกออกจากมาเลเซียทั้งน้ำตาเพราะปัญหาทางเชื้อชาติ โดยที่สิงค์โปร
ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเลย ต้องอาศัยน้ำของมาเลเซีย และข้าวจากไทย แต่ลีกวนยูใช้เวลาเพียง
สี่สิบกว่าปี นำพาสิงค์โปรสู่ความมั่งคั่งเป็นผู้นำเศรษฐกิจในภูมิภาค ในปัจจุบันเฉพาะกองทุนเทมาเส็กแห่งเดียว
มีถึงสองล้านล้านบาท มากกว่างบประมาณของไทยทั้งประเทศ
ถ้าสมมุติว่าในปัจจุบันผืนแผ่นดินสิงค์โปรจมหายไปในมหาสมุทร , ท่านเชื่อหรือไม่ว่าประชาชนของประเทศสิงค์โปร
จะมีอสังหาริมทรัพย์และที่ดินอยู่ทั่วโลก มากกว่าที่จมหายไปในมหาสมุทร เพราะประชาชนสิงค์โปรเป็นเจ้าของทรัพย์สิน
และมีหุ้นอยู่ในบริษัท Land and Houses ทั่วโลก
ลีกวนยู..ท่านได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับสิงค์โปรถึงเพียงนี้ ท่านยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ และในปัจจุบันท่านก็ยังมีชีวิตอยู่
แต่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ , กฎหมายอาญา , และกฎหมายแพ่งและพานิชย์ที่ว่าด้วยการเสียภาษีของสิงค์โปร
ไม่มีมาตราหนึ่งมาตราใด ที่จะระบุในการให้สิทธิประโยชน์แก่ตระกูลลี เลยแม้แต่มาตราเดียว
โฮจิมินห์ ท่าน ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อปลดแอกชาติและประชาชน ท่านต่อสู้ตั้งแต่หนุ่มจนแก่เพื่อเอกราชของเวียดนาม
และขับไล่จักรวัตินิยมอเมริกาผู้รุกราน ท่านต้องหนีเจียงไคเช็ค มาบวชเป็นพระที่ จ.นครพนม และกลับเวียดนาม
ในปี พศ.2484 ท่านรวบรวมชาวเวียดนามตั้งเป็นฝ่าย เวียดมินห์ พอจักรพรรดิ์ บ๋าวได๋ สละราชสมบัติใน
วันที่ 2 กันยายน 2488 ท่านได้นำชาวเวียดนามผู้รักชาติเข้าต่อสู้จนชนะมหาอำนาจฝรั่งเศส ในสมรภูมิศึกเดียนเบียนฟู
เมื่อปีพศ. 2497 และท่านได้ประกาศอิสระภาพในปีเดียวกัน คำประกาศอิสระภาพของท่านที่เฉลียงตึกโรงละครในกรุงฮานอย
มีใจความว่า.. ? ทุกคนถือกำเนิดเท่าเทียมกัน มีสิทธิเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง สิทธิเหล่านี้ได้แก่สิทธิแห่งการดำรงชีวิต
มีเสรีภาพ และแสวงหาความสุข ? หลังจากได้เอกราชแล้วโฮจิมินห์ก็มอบประเทศคืนให้แก่ชาวเวียดนาม
ให้ประชาชนชาวเวียดนามไปตัดสินกันเองว่าจะให้ประเทศปกครองในระบอบใด ท่านมิได้หวงในอำนาจ
และหวังผลประโยชน์ใด ๆ และที่สำคัญท่านไม่เคยทวงบุญคุณแผ่นดิน เหมือนกับผู้ที่ชอบโปรโมทตัวเอง
ว่ามีบุญญาธิการในบางประเทศ
แต่แล้วสงครามเวียดนามก็ได้อุบัติขึ้นอีก ในปี พศ. 2502 โดยการรุกรานของอเมริกา ท่านก็นำการต่อสู้
จนสามารถขับไล่ จักรวัตินิยมอเมริกาได้สำเร็จ ในปีพศ. 2518 แต่เสียดายท่านถึงแก่อสัญกรรมเสียก่อน
ในวันที่ 2 กันยายน 2512 ที่บ้านพักในกรุงฮานอย ถึงแม้ว่าท่านไม่ทันได้เห็นชัยชนะด้วยตาตนเอง
แต่วีรกรรมของท่านได้ฝังลึกอยู่ในจิตใจของชาวเวียดนามทุกคน เพราะท่านคือผู้รักชาติที่ยิ่งใหญ่ ความรักชาติ
และพลเมืองของโฮจิมินห์ลึกซึ้งสุดที่จะประมาณได้ ชาวเวียดนามทั้งชาติต่างให้เกียรติและยกย่องว่าท่านคือบิดาของชาติอย่างแท้ จริง
โฮจิมินห์.. ท่านได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับชาวเวียดนามถึงเพียงนี้ ท่านยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ แต่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ , กฎหมายอาญา ,
และกฎหมายแพ่งและพานิชย์ที่ว่าด้วยการเสียภาษีของเวียดนาม
ไม่มีมาตราหนึ่งมาตราใด ที่จะระบุในการให้สิทธิประโยชน์แก่ตระกูลโฮจิมินห์ เลยแม้แต่มาตราเดียว
ความแตกต่างระหว่างมหาบุรุษที่แท้จริงกับมหาบุรุษ จอมลวงโลก
1.มหาบุรุษ..คือผู้ที่ เสียสละตนเอง มีระบบคิดที่สูงส่ง มหาบุรุษจะทำภารกิจเพื่อเพื่อนมนุษย์เป็นภารกิจที่ 1
(มหาบุรุษที่สร้างมายาภาพจะไม่ยอมเสียสละตนเอง จะสร้างอำนาจและความร่ำรวยเพื่อตัวเองและครอบครัวเป็นภารกิจที่ 1)
2.มหาบุรุษ..คือผู้มีอุดมการณ์ที่ชัดเจน เพื่อการปลดปล่อยมนุษยชาติ (มหาบุรุษจอมลวงโลก มือจะถือดาบ แต่ปากคาบคัมภีร์ )
3.มหาบุรุษ..จะต้องเป็นนักอภิวัฒน์สังคม หรือปฏิวัติสังคม ด้วยการเอาชีวิตทั้งหมด ไปผลักดันสังคมทั้งระบบจนสำเร็จ
หรือวางรากฐานไว้ให้ทำต่อจนสำเร็จ
(มหาบุรุษจอมลวงโลก จะวางรากฐานและผลักดันสังคมไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อสายตระกูล สายโลหิตตนเอง)
4.มหาบุรุษ..คือผู้ที่ขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด เป็นการยกระดับสังคมให้ดีขึ้น เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
(มหาบุรุษจอมลวงโลก จะเสนอวิธีคิดแบบโบราณ เพื่อผลักดันให้สังคมถอยหลัง ในขณะเดียวกันเขาก็จะใช้วิธีคิดแทนประชาชน
โดยตัวเขาเองและบรรดาเครือข่ายของเขา เช่นเหล่าอำมาตย์,นักวิชาการ,พรรคการเมืองที่เขาเลี้ยงไว้ออกมาเสนอแนวคิด
และนโยบายต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนเดินตามไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการ เพราะถ้าประชาชนฉลาดก้าวหน้าและคิดเอง ได้เมื่อไร
ประชาชนก็จะรู้ว่าเงินภาษีอากรที่ควรจะนำมาพัฒนาประเทศชาติ มันกลับใหลไปรวมอยู่ที่ครอบครัวของใคร)
5.มหาบุรุษ..คือผู้ที่เป็นต้นแบบของปรัชญาที่ก้าวหน้ากว่าแบบเก่า และมีวิธีการปฏิบัติการให้สังคมอื่นนำไปศึกษา
(มหาบุรุษจอมลวงโลกจะใช้ปรัชญาที่เป็นนามธรรมโบราณในลัทธิพราห์มคือไม่ สามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ในทางวิทยาศาสตร์ มาครอบงำวิธีคิดของประชาชนให้งมงาย)
6.มหาบุรุษ..หรือบิดาของชาติหนึ่งชาติใดนั้นคือผู้ที่ได้รับความรัก และเทิดทูนจากประชาชนอย่างแท้จริง ตรงไปตรงมา
( มหาบุรุษจอมลวงโลกจะพยายามยัดเยียด , บังคับ โหมกระหน่ำโฆษณาชวนเชื่อตนเอง ต่อสื่อสาธารณะ
ให้เกินมนุษย์ธรรมดาให้เป็นเรื่องบุญญาธิการ สร้างมายาภาพ ขึ้น ในสมองของประชาชน เป็นมายากลทางการเมือง
สร้างภาพลวงตา หลอกลวงเพื่อการสืบสายมรดกอำนาจ แก่สายโลหิตของตน)
7.มหาบุรุษ..คือผู้สร้างคุณประโยชน์ให้แผ่นดิน (มหาบุรุษจอมลวงโลกจะทวงบุญคุณแผ่นดิน)
8.มหาบุรุษ..คือผู้ที่มีจิตใจที่เป็นสากล และได้รับการยกย่องจากสังคมโลก
(มหาบุรุษจอมปลอมจะไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมโลก เขามีจิตใจที่ดูกถูกเหยียดหยามประชาชน
ว่าเป็นเพียงธุลีดิน อยู่ใต้เท้าพวกเขาไปชั่วลูกชั่วหลาน)
9.นับตั้งแต่มีโลกใบนี้มา ไม่เคยมีมหาบุรุษคนใดในโลกที่ห้ามมิให้ผู้คนวิจารณ์ตนเอง แม้แต่ศาสดาต่าง ๆ
ในทุกๆ ศาสนาของโลกก็ไม่มีบทบัญญัติข้อบังคับหรือเอาผิดใด ๆ ต่อผู้วิพากษ์วิจารณ์
ย้อนกลับมาดูประเทศไทยกับคำพังเพยที่ได้ยินมาหลายสิบปีว่า
?ทำดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย? และนี่คือ วาทะกรรมที่สกัดกั้นไม่ให้ประเทศไทยมีมหาบุรุษที่แท้จริง
มีแต่มหาบุรุษที่เก่งในการสร้างมายาภาพใช้วาทะกรรมหลอกลวงผู้คน ในประเทศไทยจึงไม่ค่อยมีใครกล้าทำความดี
พอมีใครจะทำความดีและสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติก็ต้องถูกสกัดกั้นและ ทำลาย เช่น.
ท่านปรีดี พนมยงค์ , ดร.ป๋วย อึ้งภากร , และดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นต้น
ก็อยากจะถามว่า..การที่เขาเหล่านั้นได้สร้างความดีและ คุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ มันไปบดบังบารมีของใครหรือ..?
Re: มหาบุรุษจอมลวงโลก
ขอให้เป็น(คน)สุดท้ายทีมาลวงปวงข้านะ จะลวงโลกมาสักกี่สิบปีก็ขอให้มันสิ้นไปพร้อมตัวของท่านเถอะ .....
แพม- จำนวนข้อความ : 8
Join date : 01/06/2010
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ