มาร์ค...ลืมคำ (สตอ..สุดๆๆ)
2 posters
หน้า 1 จาก 1
มาร์ค...ลืมคำ (สตอ..สุดๆๆ)
หลังเหตุการณ์นองเลือด 10 เม.ย. จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าสถานการณ์อาจจะย้อนกลับไปจุดวิกฤตเช่นนั้นอีกครั้ง
เพราะ ศอฉ.ออกมาประกาศกร้าวว่ายอมไม่ได้ที่จะให้ ม็อบแดงยึดพื้นที่เพิ่ม
มี การส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธเข้าตรึงพื้นที่สีลม ระบุว่าทหารจำเป็นต้องใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัว
มองได้อย่างเดียวว่า หากผู้ชุมนุมล่วงล้ำเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะ
อาจ มีผู้บาดเจ็บล้มตายขึ้นอีก!!
ท่าทีของศอฉ.ก็คือท่าทีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ซึ่งดูแล้วไม่รู้ร้อนรู้หนาว และปฏิเสธความรับผิดชอบกรณีเกิดการสูญเสียที่ถนนดินสอและสี่แยกคอกวัว
ถึง เวลานี้บอกได้ว่านายอภิสิทธิ์คนใหม่เปลี่ยนไปมาก หลังก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
โดยเฉพาะแนวคิดการสลายม็อบจนมี คนล้มตาย
สมัยที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์เคยแถลงประณามรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ส่งกำลังเข้าสลายการชุมนุมหน้ารัฐสภาเมื่อ 7 ตุลา ว่าเป็นรัฐบาลที่ เดินข้ามกองเลือดประชาชนเข้าสภา
เรียกร้องให้นายกฯ สมชายลาออกและยุบสภาทันที
แต่หลังเหตุการณ์ 10 เมษาเลือด นายอภิสิทธิ์เหมือนลืมคำพูดนั้นไปแล้ว
โดยอ้างว่าจำเป็นต้องบังคับ ใช้กฎหมาย
ซัดผู้ก่อการร้ายว่าเป็นตัวการก่อเหตุ
อีกเรื่อง ที่นายกฯ ลืมคำ ก็สมัยเป็นผู้นำฝ่ายค้านอีกเช่นกัน อภิปรายในสภาโจมตีรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ที่โดนม็อบเหลืองชุมนุมขับไล่
ระบุว่าไม่ต้องมี ม็อบเป็นแสนคนออกมากดดันให้ยุบสภา แค่คนคนเดียวออกมาเรียกร้องก็ต้องรับฟัง
แต่ ทุกวันนี้นายอภิสิทธิ์ไม่ฟังม็อบแดงเลย
ทำเหมือนว่าเสื้อแดงพรึบที่ ราชประสงค์ไม่มีสิทธิ์มีเสียง!?
เรื่องสุดท้ายกรณี 2 อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ทำเรื่องขอเข้าเฝ้าฯ พึ่งพระบารมีเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งใน บ้านเมือง
นาย อภิสิทธิ์โจมตีว่าดึงฟ้าต่ำ ดึงสถาบันมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง
คงลืม เหตุการณ์ช่วงม็อบเหลืองขับไล่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ใหม่ๆ
นาย อภิสิทธิ์ก็อยู่ในกลุ่มที่ออกมาเรียกร้องขอนายกฯ พระราชทาน โดยอ้างว่าเพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง เช่นกัน
น่าจะมีคนใกล้ตัวช่วย นายอภิสิทธิ์ทบทวนว่าเคยพูดอะไรไว้ในอดีตบ้าง
เพราะเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยวิพากษ์วิจารณ์ไว้ย้อนกลับเข้าหาตัวทั้งสิ้น
ตรงนี้แสดงให้ เห็นว่าคนเราเมื่ออยู่ในอำนาจ
มักมีอะไรมาบังตาจนลืมเลือนตัวตนคน เดิม
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd2Iyd3dNakl5TURRMU13PT0=
บทความ จุดยืน..อภิสิทธิ์ ในอดีต
เหตุการณ์รุนแรง ๗ ตุลา กรณีสลายการชุมนุมวันนายกฯ สมชายแถลงนโยบาย (๙ ต. ค. ๕๑)
- ให้ผู้แทนฯ เดินผ่านกองเลือดเพียงเพื่อเข้าสภา : ปชป. ทำไม่ได้
- สลายการชุมนุมตามมาตรฐานสากล ?
- ความรับผิดชอบต่อเลือดเนื้อคนไทยด้วยกันอยู่ตรงไหน ?
- อย่าโยนให้ตำรวจ อย่าป้ายสีผู้บาดเจ็บล้มตาย
- ต้องมีการสอบสวนอย่างเป็นกลาง....ยุบสภาฯ ดีที่สุด
- ต่างประเทศต้องรู้ว่าคนไทยรักสันติ เมืองไทยเที่ยวได้ ลงทุนได้
- ไม่ได้เป็นใจกับพันธมิตรในการปิดล้อมรัฐสภา
* จากข่าวยามเช้า ทางสถานีวิทยุ FM 101 วันที่ ๙ ต.ค. ๕๑
- ให้ผู้แทนฯ เดินผ่านกองเลือดเพียงเพื่อเข้าสภา : ปชป. ทำไม่ได้
ประเด็น : สาเหตุที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าร่วมประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ ๗ ต.ค. ๕๑ นั้น เพื่อแสดงจุดยืนการต่อต้านการกระทำที่รุนแรงของตำรวจต่อประชาชนกรณีสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อให้รัฐบาลเข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
คำต่อคำ : "…เริ่มดึกๆ ก็ต้องมีการคุยกันแล้ว ประธานวิปมาถามผมว่าแล้วจะเอาอย่างไร ผมก็บอกว่าเราจะไปพูดอะไรล่วงหน้าได้อย่างไร เราไม่รู้ว่าตอนเช้าจะเกิดอะไรขึ้น นายกฯ สมชายก็บอกกับผมในการประชุม 6 พรรค 7 พรรคนั้น 6 พรรครัฐบาลบวกผมนั้นว่าจะยังใช้วิธีเจรจากับพันธมิตรอยู่ คือ ณ วันจันทร์ก่อนหัวค่ำนะฮะ เพราะฉะนั้นเขาอาจจะเจรจากันก็ได้ หรือทางเจ้าหน้าที่เขาก็อาจจะมีวิธีที่ให้เราเข้าประชุมได้ ผมก็บอกกับวิปว่าถ้าเขาสามารถที่จะทำให้เราเข้าประชุมได้เราก็เข้าประชุม ถ้าการกระทำนั้นอยู่ในกรอบปกติทุกอย่างนะครับ
เช้านั้นตื่นขึ้นมา ...ผมก็เริ่มดูข่าว ก็พอดีเกิดการยิงแก๊สน้ำตาอะไรต่างๆ บอกคุณสุภาพเลยนะฮะ ผมก็คิดในใจแล้ว อ้าว ยุ่งแล้วทีนี้ เราจะตัดสินใจอย่างไร และผมก็บอกกับตัวเองว่าถ้าตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเหมือนกับที่สากลเขาทำกันนั้นแล้วเคลียร์พื้นที่ได้ เอาหล่ะ ปวดแสบ ปวดร้อน แสบตากัน แต่ว่าเคลียร์พื้นที่ได้ ไม่ได้มีความรุนแรงเกินกว่าเหตุ ผมยืนยันเลยนะครับ ที่ประชุมพรรคจะว่าอย่างไรนั้น ผมยืนยันเลยว่าผมจะต้องบอกกับที่ประชุมพรรคว่าเราต้องเข้าประชุม
แม้ว่าแน่นอน ถ้าเป็นอย่างนั้นต้องไม่ถูกใจคนอีกจำนวนหนึ่งถูกไม๊ครับ แต่จุดที่ทำให้ผมต้องเริ่มคิดก็คือทันทีที่มีข่าวว่าคนขาขาด เพราะทันทีที่มีข่าวว่าคนขาขาดนั้น ในสามัญสำนึกของผมและผมคิดว่าปุถุชนทั่วไป ถ้าใช้แก๊สน้ำตาทำไมขาขาดได้ ต่อมาก็ได้ตรวจสอบว่ามีการเปิดประตูทางด้านถนนราชวิถีแล้วก็เริ่มมี ส.ส. เข้าไป เราก็ให้คนเข้าไปคุย โทรเข้าไปคุยกับคนที่เข้าไป ท่านก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ จะเป็น ส.ส. นั้น บอกถามเขาว่าเป็นอย่างไร สิ่งที่เขาตอบกลับมาให้เราก็คือว่ามีเลือด มีกองเลือด มีอะไรต่างๆ เราก็บอกว่า เอ๊ะ อย่างนี้มันไม่ใช่แล้วนะครับ พวกผมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ประชาชนเลือกให้ผมมาทำหน้าที่ตรงนี้ ผมจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ ประชาชนเขาเต็มใจให้ไปทำ แต่จะให้เดินผ่านกองเลือดเข้าไปเพียงเพื่อที่จะเข้าไปตรงนั้น แล้วตำรวจจะมาอ้างว่าที่ต้องทำคนขาขาดนั้นเพื่อที่จะให้ผมเข้าไปประชุมนั้น ผมบอกว่ามันไม่ใช่
...ผมบอกว่าอย่างนี้มันไม่ใช่แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็มาคุยกันในพรรคฯ บอกเอ๊ะ เราจะทำอย่างไร เราไม่ได้ขัดขวางการทำหน้าที่ของสภาฯ หรือรัฐบาล เพราะรัฐบาลกับวุฒิสภานั้น คุณสุภาพก็เคยเป็นนักการเมือง พวกเราก็ไม่เก่งเลขหรอกครับ แต่พอบวกเลขได้ อย่างไรเขาก็ประชุมได้ครับ แล้วนายกฯ ก็ยืนอ่านเสร็จ จบเขาก็ถือว่าแถลงนโยบายแล้ว คุณสุภาพก็ทราบ ทำข่าวมานาน เพราะฉะนั้นประชาธิปัตย์เข้าหรือไม่เข้านั้นมันไม่ได้ขัดขวางการที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายได้หรือไม่ แต่ประชาธิปัตย์บอกว่าถ้ารัฐบาลอยากแถลงนโยบายเริ่มต้นเป็นรัฐบาลเลือดนั้น ประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย
...ก่อนที่จะคิดว่าจะต้องไปแถลงนโยบายแล้วก็ทำให้เกิดการปะทะกันอีกไม่รู้กี่รอบ 3 รอบ 4 รอบ แล้ววันนี้ก็มาเรียกร้องบอกมาเจรจากัน คุณสุภาพครับ ผมนั้นถูกดึงเข้าไปเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้รัฐบาลผมก็ร่วมมือมาตลอด แล้วผมก็ถูกคนที่เขาไม่ค่อยเชื่อรัฐบาลด่าว่าผมตลอดนะครับ บอกว่าไปเจรจาได้อย่างไร เขาไม่น่าไว้ใจนะ เขาอย่างนั้นอย่างนี้ ผมยืนยันมาตลอด ทุกครั้งประชุม 4 ฝ่ายผมก็เดินออกมาบอกผมต้องให้เกียรติ ถามว่าท่านรักษาเกียรติไม๊ครับ แล้ววันนี้คุณยิงเขาเสร็จคุณก็บอกกลับมาเจรจาใหม่ เป็นไปได้เหรอครับ... ฝ่ายโน้นเขาไม่มีความจริงใจนี่ครับ บอกกับผมว่าจะเจรจา เสร็จแล้วก็ไปยิง"
ผู้ดำเนินรายการ : ถ้าเหตุการณ์วันนั้นมีการเจรจาขอเปิดทางก่อน ?
คำต่อคำ : "...ก็ทำตามหลักสากล แล้วผมก็ได้เรียนคุณสุภาพแล้ว ผมก็บอกกับวิปว่าถ้ารัฐบาลเขาเปิดให้เราเข้าไปได้ตามหลักสากลแล้วเราก็ต้องเข้าครับ เราจะไม่เข้าได้อย่างไร ไม่มีเหตุผล แต่จะให้ผมเดินผ่านเลือดเนื้อของคนเข้าไปนั้นมันไม่ใช่ครับ ผมก็เจ็บปวดนะครับ คุณสุภาพนึกภาพสิครับ คุณสุภาพเป็นผม พอคนขาขาด คนบาดเจ็บ ตำรวจมาแถลงว่าต้องทำอย่างนี้เพื่อให้ผมเข้าไปสภาฯ ออกจากสภาฯ คุณสุภาพจะรู้สึกอย่างไรครับ"
ผู้ดำเนินรายการ : Motto ของประชาธิปัตย์คือเป็นพรรคที่เคารพระบอบประชาธิปไตย เมื่อตัดสินใจไม่เข้าร่วมประชุม สมาชิกมีการโต้แย้งหรือไม่
คำต่อคำ : "คือมีบางคนก็บอกว่าเราเข้าไปพูดแล้วก็เดินออกมาได้ไม๊ เดี๋ยวคนจะไม่เข้าใจ ผมก็บอกว่าจริงๆ แล้วคุณสุภาพครับ ถ้าพวกผมคิดถึงตัวเองกัน เดินเข้าไปแล้วก็ได้พูดอะไรเยอะแยะไปหมดแล้วถ่ายทอดโทรทัศน์ทั้งประเทศ โถ เป็นนักการเมืองใครจะไม่อยาก ยิ่งพวกผมโอกาสที่จะได้พูดอะไรกับประชาชนยาวๆ ให้รู้ให้ทราบถึงความคิดของเราแล้วทำไมจะไม่อยากครับ แต่ว่าทำได้ไม๊ล่ะครับในภาวะที่บอกว่าต้องทำอย่างนี้เพื่อจะให้ได้เข้าไปพูดนั้น ผมก็บอกว่าก็ไม่เป็นไรหรอก รัฐบาลก็พูดไปฝ่ายเดียวเถอะเพราะท่านก็ทำได้อยู่แล้ว แล้วท่านก็ทำจริงๆ แล้วก็ด่าพวกผมด้วยระหว่างที่พวกผมไม่เข้าไป ด่าแล้วก็ถ่ายทอดวิทยุ ถ่ายทอดโทรทัศน์ ไม่เป็นไรครับ อยากเอารัดเอาเปรียบกันเชิญครับ" *
ผู้ดำเนินรายการ : แปลว่าเยื่อใยไมตรีที่จะพยายามจะสมานฉันท์ ประชุม 3 ฝ่าย 4 ฝ่าย แก้ปัญหาร่วมกันนั้น สะบั้นแล้วใช่ไหม ?
คำต่อคำ : "ก็ฝ่ายโน้นเขาไม่มีความจริงใจนี่ครับ บอกกับผมว่าจะเจรจา เสร็จแล้วก็ไปยิง"
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
- สลายการชุมนุมตามมาตรฐานสากล ?
ประเด็น : วิธีการสลายการชุมนุมของตำรวจเมื่อวันที่ ๗ ต.ค. ๒๕๕๑ เป็นการกระทำที่รุนแรงและเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล จนก่อให้เกิดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
คำต่อคำ : "แล้วตรงนี้ผมอยากจะเรียนอย่างนี้ครับว่า เรื่องนี้นั้นผมถึงบอกว่าหลังจากที่เกิดเหตุอย่างนั้นแล้วต้องมีการสอบ ต้องมีการแสดงความรับผิดชอบก่อน เรื่องอื่นจะมาก่อนได้อย่างไร แล้วปล่อยให้ลุกลามบานปลายอย่างนี้ แล้วแก๊สน้ำตาที่มาแถลงกันบอกมาตรฐานสากล เอาภาพมาดูได้ไม๊ครับ ผมขอภาพที่ว่ามาตรฐานสากลที่วิถีหรือวิธีการยิงแก๊สน้ำตาที่ปฏิบัติการณ์กันไปเมื่อวันอังคารนั้นกับที่สากลเขาทำนั้นใช่ไม๊ครับ เขาทำ 2 อย่างนะครับคุณสุภาพครับ เขามีอย่างหนึ่งคือยิงลงพื้นถ้าอยู่เหนือลม กับสองก็คือว่าถ้าทิศทางลมไม่เป็นใจเขาจะยิงขึ้นฟ้าให้มันค่อยตกลงไป ไม่ใช่ยิงใส่คนครับ ภาพที่เห็นมันฟ้องอยู่แล้วครับว่ายิงไปทางไหนนะครับ แล้วก็ผมก็ไปเยี่ยมคุณแม่ของคนที่ลูกสาวเขาเสียชีวิตนะครับเมื่อวานนี้ ...เขานั้นไม่ได้อยู่ในจุดที่มีปัญหาเลยนะครับ เขาอยู่ห่างมากนะครับ เขาเข้าไปนั้นส่วนใหญ่ก็คือเข้าไปเพื่อไปช่วยดูแลอะไรใครต่อใครนะครับ แล้วเขาบอกว่าตำรวจนี่เขายังไม่เห็นเลยครับ แนวตำรวจเขาก็ยังไม่เห็นเลยครับ เขาอยู่หลังไปมากเลยตรงแยกเหตุที่เกิดตรง บชน. เห็นรถบรรทุกที่อยู่นั้นก็อยู่ไกลพอสมควร แต่ว่าแก๊สน้ำตามาก่อนแล้วก็ระเบิดตามไปนั้นก็ไกลมากครับ แล้วผมคุยกับบรรดาคนที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ เขาก็บอก บางคนนั้นคนที่ผมสงสารที่สุด ผู้ชายคนหนึ่ง ผมไปเยี่ยมที่รพ.วชิระ เขาบอกเขาไม่เป็นไรแล้ว เขาวิ่งหนีออกมาแล้ว เขาหันไปเห็นคนแก่ก็เลยต้องวิ่งกลับเข้าไปอุ้มออกมาก็เลยถูกยิงใส่หลัง..."
ผู้ดำเนินรายการ : ถ้าเหตุการณ์วันนั้นมีการเจรจาขอเปิดทางก่อน ?
คำต่อคำ : "...ก็ทำตามหลักสากล แล้วผมก็ได้เรียนคุณสุภาพแล้ว ผมก็บอกกับวิปว่าถ้ารัฐบาลเขาเปิดให้เราเข้าไปได้ตามหลักสากลแล้วเราก็ต้องเข้าครับ เราจะไม่เข้าได้อย่างไร ไม่มีเหตุผล แต่จะให้ผมเดินผ่านเลือดเนื้อของคนเข้าไปนั้นมันไม่ใช่ครับ ผมก็เจ็บปวดนะครับ คุณสุภาพนึกภาพสิครับ คุณสุภาพเป็นผม พอคนขาขาด คนบาดเจ็บ ตำรวจมาแถลงว่าต้องทำอย่างนี้เพื่อให้ผมเข้าไปสภาฯ ออกจากสภาฯ คุณสุภาพจะรู้สึกอย่างไรครับ"
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
- ความรับผิดชอบต่อเลือดเนื้อคนไทยด้วยกันอยู่ตรงไหน ?
ประเด็น : สืบเนื่องจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของตำรวจเมื่อวันที่ ๗ ต.ค. ๕๑ นั้น นายกฯ และผู้เกี่ยวข้องควรแสดงความรับผิดชอบและสืบหาตัวผู้กระทำผิดอย่างจริงจังให้เร็วที่สุด แต่จนถึงวันนี้ นายกฯ ก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ
คำต่อคำ : "...แล้วผมก็ต้องถามต่อว่าจนถึงวันนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันน่าเสียใจที่สุดคืออะไร เช้านั้นคนขาขาด รัฐบาลคิดอย่างเดียวว่าฉันจะต้องแถลงนโยบายจะได้เข้าไปมีอำนาจ ใช้งบประมาณหรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่สนใจว่าเข้าไปแล้วรู้ว่าเหตุการณ์จะต้องรุนแรงขึ้น ขาไปเข้าไปก็คนก็ขาขาด ขากลับออกมาคนเสียเลือดเนื้อไปอีกเท่าไหร่ แล้วมาบอกว่าจะนำมาเป็นบทเรียน จริงๆ มันต้องเรียนตั้งแต่ตอนสายแล้วครับ เช้าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ สายคุณก็รู้อยู่แล้ว แล้วคุณก็รู้ว่าคุณกำลังสร้างเงื่อนไขความรุนแรงเพิ่มเติมขึ้น ท่านประธานชัยก็ดีนะฮะ หรือหลายๆ คนที่อยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติก็ต้องรู้ว่าจะมีความรุนแรงขึ้น แล้วทำเพื่ออะไรครับ
ที่ร้ายกว่านั้นก็คือว่าพอตอนบ่ายออกมาได้แล้วก็ถือว่าภารกิจลุล่วงแล้ว ปล่อยให้ตอนเย็นมีคนตายได้อีกครับ ความรับผิดชอบต่อประชาชนอยู่ตรงไหนครับ ความรับผิดชอบต่อเลือดเนื้อคนไทยด้วยกันอยู่ตรงไหน
...ถามว่ารัฐบาลจำเป็นต้องแถลงนโยบายไม๊ จำเป็นครับ ถามว่าจำเป็นต้องแถลงเดี๋ยวนั้น ที่นั่นหรือไม่ ผมก็ยืนยันได้ว่าไม่ใช่ แล้วผมก็ให้คนพยายามเช็คไปว่า มีการเจรจาบ้างไม๊ก่อนที่จะทำอะไรอย่างนี้ ไม่มี พอมีข่าวว่าคนขาขาด ผมบอกเลยนะครับ ถ้าผมเป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผมไม่มีสั่งหรอกครับ บอกลุยเข้าไปเลย ผมต้องถามก่อนว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ผมต้องเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนถึงวันนี้นายสมชายยังไม่เอ่ยปากเสียใจเลยนะครับ แล้วก็กลับยืนยันทันที นายบรรหารออกมาบอกว่าละมุนละม่อมแล้ว ขาขาดนี่นะครับ...
ผมถึงบอกว่าวันนี้ผมไม่ต้องการคนหน้าเนื้อใจเสือ ควรแสดงความรับผิดชอบมาครับ
...ผมก็บอกว่าความเป็นจริงวันนี้ก็คือว่าสังคมไทยต้องอยู่กับความถูกต้อง แล้วผมจะเตือนคุณสมชายในฐานะนายกรัฐมนตรีว่าถ้าไม่มีการแสดงความรับผิดชอบแบบอารยประเทศแล้ว วัฒนธรรมทางการเมืองในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงครับ จากนี้ไปจะมีแต่ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นไปอีก ถึงท่านอยู่ท่านก็ปกครองไม่ได้ บริหารไม่ได้ แล้วอยู่ไปเพื่ออะไร เพราะฉะนั้นกลับตัวกลับใจเสียเถอะครับ"
ผู้ดำเนินรายการ : การที่เมื่อวานท่านนายกฯ ออกมาเยี่ยมตำรวจและผู้บาดเจ็บนั้น ยังไม่ใช่การแสดงความรับผิดชอบหรือ ?
คำต่อคำ : "ท่านก็ยังปล่อยให้ลูกน้องท่านมาให้ร้ายประชาชนอยู่นี่ครับ มีการสอบสวนไม๊ล่ะครับ ผมเห็นนะครับ เมื่อวานท่านก็พยายามไปเยี่ยมพันธมิตร ก็อยากจะแสดงตัวเป็นคนใต้ ผมฟังพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านรับสั่งว่าคนใต้นั้นรักความยุติธรรม ผมถามนายสมชายครับ ในฐานะคนใต้นะครับ เพราะผมนั้นไม่ใช่คนใต้หรอกครับ แต่ผมมีโอกาสไปใต้บ่อย ไปนครศรีธรรมราชบ่อย ถามใจตัวเองสิครับว่านี่คือลักษณะของคนรักความยุติธรรมหรือเปล่า ที่ท่านทำอยู่ทั้งหมดนี้ว่ารักความยุติธรรมจริงหรือเปล่า"
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
- อย่าโยนให้ตำรวจ อย่าป้ายสีผู้บาดเจ็บล้มตาย
ผู้ดำเนินรายการ : ที่จริงผมไม่มีหน้าที่ต้องปกป้องรัฐบาลหรือปกป้องใคร แต่ว่าเมื่อเปิดโอกาสให้คุณอภิสิทธิ์พูดอยู่ฝ่ายเดียวนั้น จะขอซักถามค้านว่า กรณีอย่างนี้เป็นไปได้ไหมครับว่า รัฐบาลก็ออกว่า ก็เป็นเรื่องของตำรวจเขา เช่นเรื่องที่ตำรวจเขาออกมาแถลงเมื่อวานว่าเป็นระเบิดของฝ่ายที่พันธมิตรอาจจะซุกมาเอง
คำต่อคำ : ...ถ้ารัฐบาลจะบอกว่าเป็นเรื่องของตำรวจเขานะครับ ผมก็บอกว่าท่านก็ลาออกไป ให้ตำรวจปกครองประเทศไปเลย ครั้งแรกที่เกิดขึ้นตอนเช้าผมไม่ว่าเพราะอันนั้นอ้างได้ว่ามอบตำรวจเขาไปให้ดูแล เขาทำอาจจะผิดพลาดหรืออะไรก็แล้วแต่แล้วผมไม่รู้ ในฐานะรัฐบาล ในฐานะอะไรผมไม่รู้ แต่ ณ 7 โมงเช้าวันนั้น คุณรู้แล้วว่ามีคนขาขาด ถ้าคุณไม่รู้ก็แย่แล้วเพราะคนทั้งประเทศเขารู้ แล้วคุณจะบอกว่าเพราะฉะนั้นอีก 24 ชั่วโมงหรือ 48 ชั่วโมงที่ตามมา ความสูญเสีย ความบาดเจ็บ ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องของตำรวจ แล้วคุณบริหารประเทศได้อย่างไรครับ ผมถามคุณสุภาพครับ ระหว่างการที่ไปอ่านเอกสารอยู่ 33 หน้านั้นกับการที่เห็นว่าคนไทยนั้นได้สูญเสียขาขาดแล้วนั้น คุณสุภาพเป็นนายกฯ คุณสุภาพจะทำอะไรครับ จะปล่อยไปอีก 24 ชั่วโมงแล้วถึงมาบอกว่าเป็นเรื่องของตำรวจเหรอครับ ผมบอกครั้งแรกไม่เป็นไร ครั้งแรกไปว่าไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าการปฏิบัติการจะมีความผิดไปจากนโยบายที่ตัวเองมอบหมายหรือเปล่า ไม่ว่ากันนะครับ แต่พอเกิดขึ้นแล้วต้องสอบสิครับ นี่มีการสอบหรือยังครับ ที่มายืนยันว่าตรงนั้นตรงนี้พันธมิตรหรือเปล่า มือที่สามหรือเปล่า NBT นี่พอขาขาดปั๊บเอาเลยครับ มือที่สาม แล้วก็มีกระบวนการเวปไซต์ที่เชียร์รัฐบาล เอาเลยครับ เอาขอทานขาขาดเอาอะไรมา คุณทำได้อย่างไร คุณทำได้อย่างไรผมถาม
...ผมถามคุณสุภาพเลยครับ ผมถึงบอกว่าผมไม่อยากยุ่งครับ ใครจะมาตอบโต้การเมืองอะไรกับผม ผมถามว่าความเป็นมนุษย์ของคนเราขณะนี้ คุณยังเล่นการเมืองกันอีกเหรอครับ คุณยังคิดแค่ว่าคุณมีหน้าที่มาปกป้องว่าคุณไม่ผิด คุณไม่ผิด คุณไม่ผิด แล้วคุณรับผิดชอบอะไร
คำต่อคำ : "ตอนนี้เลวร้ายที่สุดที่ผมได้ยิน ข้อแก้ตัวก็บอกว่า โอ๊ย พวกที่ขาขาด ระเบิดหรือตายไปนั้นเป็นเพราะตัวเองพกระเบิดเองหรือเปล่า ผมถามคุณสุภาพนะครับว่า คุณเป็นรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยหรือเปล่า คนไทยเสียชีวิตอย่างนี้ คุณคิดอย่างเดียวว่าจะปกป้องตัวเองแม้กระทั่งใส่ร้ายคนที่เขาสูญเสีย อย่าว่าแต่เป็นคนไทยหรือเปล่าเลย บางทีต้องถามว่าเป็นคนหรือเปล่า
...แล้วเลวร้ายที่สุดคือกระบวนการเมื่อวานก็คือว่าคนตายแล้วยังไปป้ายสีเขาอีกครับ ลำดับมาตลอดสิครับคุณสุภาพ ตอนแรกพอคนตั้งข้อสังเกตว่า เอ๊ะ ทำไมขาขาดได้ ตำรวจก็บอกว่าแก๊สน้ำตาก็ไม่สามารถทำให้คนขาขาดได้ คนก็ตั้งข้อสังเกตว่าแสดงว่าต้องมีระเบิด พวกผมรู้ไม๊ว่าต้องมีระเบิด รู้ครับ เพราะว่าตอนบ่าย ตอนเย็นหลังจากที่เราไปเยี่ยมคนเจ็บ พวกเราจำนวนหนึ่งก็เข้าไปสังเกตการณ์อยู่แถวบริเวณหน้าสภาฯ โดนครับ โดนสะเก็ดครับ รู้ว่าไม่ใช่แก๊สน้ำตานะครับ พอพิสูจน์ชัดว่ามีอาวุธอื่น ตำรวจก็เริ่มบอกว่า ตอนแรกก็มีภาพลงหนังสือพิมพ์ ก็บอกว่าภาพตัดต่อหรือเปล่า มีแต่มือถืออะไร พอเอาภาพเคลื่อนไหวมาดูอีกบอกว่านี่ไงก็คนโยนเข้าไป ยืนอยู่ทางฝ่ายตำรวจก็บอกอีกว่าไม่รู้เป็นตำรวจหรือเปล่า แล้วผมก็งงว่าถ้าตำรวจยืนกันเป็นแถวแล้วมีคนถือของอันนี้อยู่แล้วโยนเข้าไป ทำไมตำรวจไม่จับล่ะครับ
ที่ผมรับไม่ได้ขณะนี้ก็คือว่านอกจากไม่มีกระบวนการในการที่จะเอาข้อเท็จจริงออกมาอย่างเป็นกลาง แสดงความรับผิดชอบจริงๆ กลับกลายเป็นกระบวนการพยายามที่จะสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองต่อ อันนี้มันก็ชัด แล้วผมถามว่า เอาเถอะท่านจะเอาชนะด้วยวิธีการบิดเบือนข้อมูล อาศัยสื่อของรัฐหรืออะไร แล้วบ้านเมืองเป็นอย่างไรคุณสนใจไม๊ หรือคุณสนใจเพียงแค่ว่าทำทุกอย่างเพื่อจะล้มกระบวนการยุติธรรมให้ได้ในที่สุด"
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
- ต้องมีการสอบสวนอย่างเป็นกลาง....ยุบสภาฯ ดีที่สุด
ผู้ดำเนินรายการ : ค่ะ ตอนนี้นะคะ ดิฉันก็อยากจะเห็นคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ การรับผิดชอบสูงสุดนี่อย่างไรคะ ท่านนายกรัฐมนตรีควรแสดงความรับผิดชอบด้วย เหมือนที่เขาเรียกร้องว่าควรจะลาออกหรือยุบสภา อย่างนั้นใช่ไม๊คะ
คำต่อคำ : ผมนั้นไม่อยากเรียกร้องให้ลาออก เพราะเดี๋ยวก็หาว่าผมมีส่วนได้เสีย ผมบอกยุบสภาก็ดีที่สุด
ผู้ดำเนินรายการ : อ๋อ ค่ะ ยุบสภาน่าจะดีที่สุด อย่างนั้นใช่ไม๊คะ
คำต่อคำ : ครับ แต่ว่าผมก็เรียนอย่างนี้นะครับ ที่ผมรับไม่ได้ขณะนี้ก็คือว่า นอกจากไม่มีกระบวนการในการที่จะเอาข้อเท็จจริงออกมาอย่างเป็นกลาง แสดงความรับผิดชอบจริง ๆ กลับกลายเป็นกระบวนการที่พยายามที่จะสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองต่อ อันนี้มันก็ชัด แล้วผมถามว่า เอาเถอะ ท่านจะเอาชนะด้วยวิธีการบิดเบือนข้อมูล อาศัยสื่อของรัฐ หรืออะไร แล้วบ้านเมืองเป็นอย่างไรครับ คุณสนใจไม๊ครับ หรือคุณสนใจเพียงแค่ว่า ทำทุกอย่างนั้นเพื่อจะล้มกระบวนการยุติธรรมให้ได้ในที่สุด
คำต่อคำ : "...ผมนั้นไม่อยากเรียกร้องให้ลาออกเพราะเดี๋ยวก็หาว่าผมมีส่วนได้เสีย ผมบอกยุบสภาก็ดีที่สุด ...ถ้ายุบสภาก็เลือกตั้งครับ ก็ต้องเป็นไปตามกติกา ผมบอกว่าอาจจะไม่ใช่ทางเดียวก็ได้ แต่ผมถามหาว่าความรับผิดชอบวันนี้อยู่ตรงไหนนะครับ..."
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
- ต่างประเทศต้องรู้ว่าคนไทยรักสันติ เมืองไทยเที่ยวได้ ลงทุนได้
ประเด็น : ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ได้ส่งจดหมายชี้แจงสถานการณ์ดังกล่าวไปยังทูตต่างประเทศในไทยโดยมีใจความว่า แม้พรรคฯ จะไม่เห็นด้วยกับหลายเรื่องที่พันธมิตรฯ ทำ แต่การกระทำของตำรวจเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลเข้าไปแถลงนโยบายซึ่งพรรคฯ เข้าใจว่าเป็นเรื่องสำคัญนั้น ไม่เป็นไปตามหลักสากลและได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง ทั้งนี้เพื่อต้องการให้นานาประเทศทราบว่าโดยปกติคนไทยไม่ได้ป่าเถื่อน เป็นคนรักสันติ ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนในเมืองไทยได้ ตลอดจนไม่ต้องการให้รัฐบาลไทยให้ร้ายคนไทยด้วยกัน
คำต่อคำ : "...เมื่อวานก็ไปชี้แจงต่างประเทศ แล้วก็มีข่าวอยู่จริงเท็จไม่ทราบที่บอกว่ามีทูตของไทยนี่แหละที่ท้วงติงว่าไปชี้แจงในสิ่งที่มันไม่น่าเชื่อถือ ...ผมก็บอกว่าในส่วนของประชาธิปัตย์นั้นได้กล่าวโทษนายกรัฐมนตรีไปแล้วอย่างที่ผมบอก เหตุการณ์ครั้งแรกนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าไม่รู้ แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งแรกต้องถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ วันนี้ก็จะมีการไปยื่นหนังสือเพิ่มเติมในส่วนของตำรวจถึงกรรมการสิทธิมนุษยชนและผมก็ได้ทำหนังสือชี้แจงทูตทั่วโลกครับว่าคนไทยไม่ได้ป่าเถื่อนแต่ความรุนแรงมาจากฝ่ายรัฐ
...สรุปว่าพรรคประชาธิปัตย์นั้น แม้จะไม่เห็นด้วยกับหลายสิ่งหลายอย่างที่พันธมิตรทำ แต่เหตุการณ์ในเช้าของวันที่ 7 ขณะพันธมิตรชุมนุมอยู่ที่สภาฯ นั้นยังเป็นการชุมนุมโดยสงบ และรัฐบาลต้องการแถลงนโยบายซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่การสลายการชุมนุมโดยไม่เป็นไปตามหลักของสากลไม่ว่าจะเป็นวิธีการใช้แก๊สน้ำตา แล้วนำมาสู่ทั้งการสูญเสียชีวิต อวัยวะและคนบาดเจ็บมากถึง 400 กว่าคนใน 1 วันนั้นย่อมเป็นตัวบ่งบอกแล้วว่าไม่ใช่เป็นเรื่องของการใช้การสลายการชุมนุมตามหลักของสากล ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง …ผมไม่ต้องการให้รัฐบาลไทยให้ร้ายคนไทยด้วยกันครับ ผมต้องการให้ต่างประเทศได้รับทราบว่าคนไทยโดยปกตินั้นไม่ใช่คนป่าเถื่อน เป็นคนที่รักสันติ แต่มีการใช้กำลังโดยไม่ชอบ เป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ทั่วโลกควรจะรู้อันนี้ครับ แล้วถ้าหากเขาจะลงโทษเขาจะได้ไม่ต้องมากลัวคนไทยครับ เขามาท่องเที่ยวเมืองไทยได้ มาลงทุนในเมืองไทยได้เพราะคนไทยรักสงบ แต่รัฐบาลไหนที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ไม่เคารพสิทธิมนุษยชนแล้ว ชาวโลกเขาจะประนามด้วยกันครับ
ผู้ดำเนินรายการ : ครับ หนังสือที่ออกไปนั้นในฐานะผู้นำฝ่ายค้านของรัฐสภา
คำต่อคำ : "หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครับ ผมไม่ต้องการให้ชาวโลกมีความรู้สึกว่าอยู่ดีๆ คนไทยไม่เคารพกฎหมายแล้วก็มาทำอะไรกันจนเหมือนกับจลาจลนะครับ ภาพของเหตุการณ์ที่แท้จริงก็คือว่าขณะนั้นการชุมนุมอยู่ในวิสัยที่จะต้องใช้กระบวนการเจรจาเหมือนที่นายกฯ บอกกับผมว่าจะทำวันจันทร์"
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
- ไม่ได้เป็นใจกับพันธมิตรในการปิดล้อมรัฐสภา
ประเด็น : กรณีมีผู้กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีส่วนรู้เห็นกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในการเคลื่อนขบวนสู่รัฐสภาเพื่อขัดขวางไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบายและทำงานได้นั้น พรรคฯ ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ทั้งสิ้น
คำต่อคำ : "ผมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังเลยดีกว่านะครับ จะได้ไม่ต้องมาอะไรกัน เหตุการณ์ก็คือเมื่อวันจันทร์บ่าย เราประชุมที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมเรื่องเขตการค้าเสรีอาเซียน ...ญี่ปุ่น แล้วต่อด้วยการประชุมหัวหน้าพรรค 6 พรรค 7 พรรคอะไรที่ว่านั้น ก็คือรัฐบาล ...ฝ่ายค้าน ประชุมกันจนถึงประมาณ 6 โมงเย็น ผมก็ออกมา แล้วก็ทุกคนก็ออกมา หลังจากนั้นพอประมาณสักค่ำๆ ก็มีข่าวเรื่องพันธมิตรจะเคลื่อนหรือเคลื่อนไปรัฐสภา ซึ่งก็ขอยืนยันว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจเกี่ยวข้องอะไรด้วยทั้งสิ้น ... ความที่ต้องนั่งประชุม 7 พรรคตามที่มีเรื่องหลายเรื่องเข้ามา ผมก็นั่งเตรียมอภิปรายอยู่จนถึงดึกดื่นนะครับ ซึ่งถ้าผมวางแผนแล้วผมจะนั่งทำไมครับ ผมก็นอนเลยฮะ เช้าขึ้นมาตื่น ผมก็ทำจนดึกจนดื่น..."
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
* จากข่าวยามเช้า ทางสถานีวิทยุ FM 101 วันที่ ๙ ต.ค.๕๑
ที่มา http://www.abhisit.org/visiondetail.php?cate_id=111
- ให้ผู้แทนฯ เดินผ่านกองเลือดเพียงเพื่อเข้าสภา : ปชป. ทำไม่ได้
- สลายการชุมนุมตามมาตรฐานสากล ?
- ความรับผิดชอบต่อเลือดเนื้อคนไทยด้วยกันอยู่ตรงไหน ?
- อย่าโยนให้ตำรวจ อย่าป้ายสีผู้บาดเจ็บล้มตาย
- ต้องมีการสอบสวนอย่างเป็นกลาง....ยุบสภาฯ ดีที่สุด
- ต่างประเทศต้องรู้ว่าคนไทยรักสันติ เมืองไทยเที่ยวได้ ลงทุนได้
- ไม่ได้เป็นใจกับพันธมิตรในการปิดล้อมรัฐสภา
* จากข่าวยามเช้า ทางสถานีวิทยุ FM 101 วันที่ ๙ ต.ค. ๕๑
- ให้ผู้แทนฯ เดินผ่านกองเลือดเพียงเพื่อเข้าสภา : ปชป. ทำไม่ได้
ประเด็น : สาเหตุที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าร่วมประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ ๗ ต.ค. ๕๑ นั้น เพื่อแสดงจุดยืนการต่อต้านการกระทำที่รุนแรงของตำรวจต่อประชาชนกรณีสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อให้รัฐบาลเข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
คำต่อคำ : "…เริ่มดึกๆ ก็ต้องมีการคุยกันแล้ว ประธานวิปมาถามผมว่าแล้วจะเอาอย่างไร ผมก็บอกว่าเราจะไปพูดอะไรล่วงหน้าได้อย่างไร เราไม่รู้ว่าตอนเช้าจะเกิดอะไรขึ้น นายกฯ สมชายก็บอกกับผมในการประชุม 6 พรรค 7 พรรคนั้น 6 พรรครัฐบาลบวกผมนั้นว่าจะยังใช้วิธีเจรจากับพันธมิตรอยู่ คือ ณ วันจันทร์ก่อนหัวค่ำนะฮะ เพราะฉะนั้นเขาอาจจะเจรจากันก็ได้ หรือทางเจ้าหน้าที่เขาก็อาจจะมีวิธีที่ให้เราเข้าประชุมได้ ผมก็บอกกับวิปว่าถ้าเขาสามารถที่จะทำให้เราเข้าประชุมได้เราก็เข้าประชุม ถ้าการกระทำนั้นอยู่ในกรอบปกติทุกอย่างนะครับ
เช้านั้นตื่นขึ้นมา ...ผมก็เริ่มดูข่าว ก็พอดีเกิดการยิงแก๊สน้ำตาอะไรต่างๆ บอกคุณสุภาพเลยนะฮะ ผมก็คิดในใจแล้ว อ้าว ยุ่งแล้วทีนี้ เราจะตัดสินใจอย่างไร และผมก็บอกกับตัวเองว่าถ้าตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเหมือนกับที่สากลเขาทำกันนั้นแล้วเคลียร์พื้นที่ได้ เอาหล่ะ ปวดแสบ ปวดร้อน แสบตากัน แต่ว่าเคลียร์พื้นที่ได้ ไม่ได้มีความรุนแรงเกินกว่าเหตุ ผมยืนยันเลยนะครับ ที่ประชุมพรรคจะว่าอย่างไรนั้น ผมยืนยันเลยว่าผมจะต้องบอกกับที่ประชุมพรรคว่าเราต้องเข้าประชุม
แม้ว่าแน่นอน ถ้าเป็นอย่างนั้นต้องไม่ถูกใจคนอีกจำนวนหนึ่งถูกไม๊ครับ แต่จุดที่ทำให้ผมต้องเริ่มคิดก็คือทันทีที่มีข่าวว่าคนขาขาด เพราะทันทีที่มีข่าวว่าคนขาขาดนั้น ในสามัญสำนึกของผมและผมคิดว่าปุถุชนทั่วไป ถ้าใช้แก๊สน้ำตาทำไมขาขาดได้ ต่อมาก็ได้ตรวจสอบว่ามีการเปิดประตูทางด้านถนนราชวิถีแล้วก็เริ่มมี ส.ส. เข้าไป เราก็ให้คนเข้าไปคุย โทรเข้าไปคุยกับคนที่เข้าไป ท่านก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ จะเป็น ส.ส. นั้น บอกถามเขาว่าเป็นอย่างไร สิ่งที่เขาตอบกลับมาให้เราก็คือว่ามีเลือด มีกองเลือด มีอะไรต่างๆ เราก็บอกว่า เอ๊ะ อย่างนี้มันไม่ใช่แล้วนะครับ พวกผมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ประชาชนเลือกให้ผมมาทำหน้าที่ตรงนี้ ผมจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ ประชาชนเขาเต็มใจให้ไปทำ แต่จะให้เดินผ่านกองเลือดเข้าไปเพียงเพื่อที่จะเข้าไปตรงนั้น แล้วตำรวจจะมาอ้างว่าที่ต้องทำคนขาขาดนั้นเพื่อที่จะให้ผมเข้าไปประชุมนั้น ผมบอกว่ามันไม่ใช่
...ผมบอกว่าอย่างนี้มันไม่ใช่แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็มาคุยกันในพรรคฯ บอกเอ๊ะ เราจะทำอย่างไร เราไม่ได้ขัดขวางการทำหน้าที่ของสภาฯ หรือรัฐบาล เพราะรัฐบาลกับวุฒิสภานั้น คุณสุภาพก็เคยเป็นนักการเมือง พวกเราก็ไม่เก่งเลขหรอกครับ แต่พอบวกเลขได้ อย่างไรเขาก็ประชุมได้ครับ แล้วนายกฯ ก็ยืนอ่านเสร็จ จบเขาก็ถือว่าแถลงนโยบายแล้ว คุณสุภาพก็ทราบ ทำข่าวมานาน เพราะฉะนั้นประชาธิปัตย์เข้าหรือไม่เข้านั้นมันไม่ได้ขัดขวางการที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายได้หรือไม่ แต่ประชาธิปัตย์บอกว่าถ้ารัฐบาลอยากแถลงนโยบายเริ่มต้นเป็นรัฐบาลเลือดนั้น ประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย
...ก่อนที่จะคิดว่าจะต้องไปแถลงนโยบายแล้วก็ทำให้เกิดการปะทะกันอีกไม่รู้กี่รอบ 3 รอบ 4 รอบ แล้ววันนี้ก็มาเรียกร้องบอกมาเจรจากัน คุณสุภาพครับ ผมนั้นถูกดึงเข้าไปเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้รัฐบาลผมก็ร่วมมือมาตลอด แล้วผมก็ถูกคนที่เขาไม่ค่อยเชื่อรัฐบาลด่าว่าผมตลอดนะครับ บอกว่าไปเจรจาได้อย่างไร เขาไม่น่าไว้ใจนะ เขาอย่างนั้นอย่างนี้ ผมยืนยันมาตลอด ทุกครั้งประชุม 4 ฝ่ายผมก็เดินออกมาบอกผมต้องให้เกียรติ ถามว่าท่านรักษาเกียรติไม๊ครับ แล้ววันนี้คุณยิงเขาเสร็จคุณก็บอกกลับมาเจรจาใหม่ เป็นไปได้เหรอครับ... ฝ่ายโน้นเขาไม่มีความจริงใจนี่ครับ บอกกับผมว่าจะเจรจา เสร็จแล้วก็ไปยิง"
ผู้ดำเนินรายการ : ถ้าเหตุการณ์วันนั้นมีการเจรจาขอเปิดทางก่อน ?
คำต่อคำ : "...ก็ทำตามหลักสากล แล้วผมก็ได้เรียนคุณสุภาพแล้ว ผมก็บอกกับวิปว่าถ้ารัฐบาลเขาเปิดให้เราเข้าไปได้ตามหลักสากลแล้วเราก็ต้องเข้าครับ เราจะไม่เข้าได้อย่างไร ไม่มีเหตุผล แต่จะให้ผมเดินผ่านเลือดเนื้อของคนเข้าไปนั้นมันไม่ใช่ครับ ผมก็เจ็บปวดนะครับ คุณสุภาพนึกภาพสิครับ คุณสุภาพเป็นผม พอคนขาขาด คนบาดเจ็บ ตำรวจมาแถลงว่าต้องทำอย่างนี้เพื่อให้ผมเข้าไปสภาฯ ออกจากสภาฯ คุณสุภาพจะรู้สึกอย่างไรครับ"
ผู้ดำเนินรายการ : Motto ของประชาธิปัตย์คือเป็นพรรคที่เคารพระบอบประชาธิปไตย เมื่อตัดสินใจไม่เข้าร่วมประชุม สมาชิกมีการโต้แย้งหรือไม่
คำต่อคำ : "คือมีบางคนก็บอกว่าเราเข้าไปพูดแล้วก็เดินออกมาได้ไม๊ เดี๋ยวคนจะไม่เข้าใจ ผมก็บอกว่าจริงๆ แล้วคุณสุภาพครับ ถ้าพวกผมคิดถึงตัวเองกัน เดินเข้าไปแล้วก็ได้พูดอะไรเยอะแยะไปหมดแล้วถ่ายทอดโทรทัศน์ทั้งประเทศ โถ เป็นนักการเมืองใครจะไม่อยาก ยิ่งพวกผมโอกาสที่จะได้พูดอะไรกับประชาชนยาวๆ ให้รู้ให้ทราบถึงความคิดของเราแล้วทำไมจะไม่อยากครับ แต่ว่าทำได้ไม๊ล่ะครับในภาวะที่บอกว่าต้องทำอย่างนี้เพื่อจะให้ได้เข้าไปพูดนั้น ผมก็บอกว่าก็ไม่เป็นไรหรอก รัฐบาลก็พูดไปฝ่ายเดียวเถอะเพราะท่านก็ทำได้อยู่แล้ว แล้วท่านก็ทำจริงๆ แล้วก็ด่าพวกผมด้วยระหว่างที่พวกผมไม่เข้าไป ด่าแล้วก็ถ่ายทอดวิทยุ ถ่ายทอดโทรทัศน์ ไม่เป็นไรครับ อยากเอารัดเอาเปรียบกันเชิญครับ" *
ผู้ดำเนินรายการ : แปลว่าเยื่อใยไมตรีที่จะพยายามจะสมานฉันท์ ประชุม 3 ฝ่าย 4 ฝ่าย แก้ปัญหาร่วมกันนั้น สะบั้นแล้วใช่ไหม ?
คำต่อคำ : "ก็ฝ่ายโน้นเขาไม่มีความจริงใจนี่ครับ บอกกับผมว่าจะเจรจา เสร็จแล้วก็ไปยิง"
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
- สลายการชุมนุมตามมาตรฐานสากล ?
ประเด็น : วิธีการสลายการชุมนุมของตำรวจเมื่อวันที่ ๗ ต.ค. ๒๕๕๑ เป็นการกระทำที่รุนแรงและเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล จนก่อให้เกิดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
คำต่อคำ : "แล้วตรงนี้ผมอยากจะเรียนอย่างนี้ครับว่า เรื่องนี้นั้นผมถึงบอกว่าหลังจากที่เกิดเหตุอย่างนั้นแล้วต้องมีการสอบ ต้องมีการแสดงความรับผิดชอบก่อน เรื่องอื่นจะมาก่อนได้อย่างไร แล้วปล่อยให้ลุกลามบานปลายอย่างนี้ แล้วแก๊สน้ำตาที่มาแถลงกันบอกมาตรฐานสากล เอาภาพมาดูได้ไม๊ครับ ผมขอภาพที่ว่ามาตรฐานสากลที่วิถีหรือวิธีการยิงแก๊สน้ำตาที่ปฏิบัติการณ์กันไปเมื่อวันอังคารนั้นกับที่สากลเขาทำนั้นใช่ไม๊ครับ เขาทำ 2 อย่างนะครับคุณสุภาพครับ เขามีอย่างหนึ่งคือยิงลงพื้นถ้าอยู่เหนือลม กับสองก็คือว่าถ้าทิศทางลมไม่เป็นใจเขาจะยิงขึ้นฟ้าให้มันค่อยตกลงไป ไม่ใช่ยิงใส่คนครับ ภาพที่เห็นมันฟ้องอยู่แล้วครับว่ายิงไปทางไหนนะครับ แล้วก็ผมก็ไปเยี่ยมคุณแม่ของคนที่ลูกสาวเขาเสียชีวิตนะครับเมื่อวานนี้ ...เขานั้นไม่ได้อยู่ในจุดที่มีปัญหาเลยนะครับ เขาอยู่ห่างมากนะครับ เขาเข้าไปนั้นส่วนใหญ่ก็คือเข้าไปเพื่อไปช่วยดูแลอะไรใครต่อใครนะครับ แล้วเขาบอกว่าตำรวจนี่เขายังไม่เห็นเลยครับ แนวตำรวจเขาก็ยังไม่เห็นเลยครับ เขาอยู่หลังไปมากเลยตรงแยกเหตุที่เกิดตรง บชน. เห็นรถบรรทุกที่อยู่นั้นก็อยู่ไกลพอสมควร แต่ว่าแก๊สน้ำตามาก่อนแล้วก็ระเบิดตามไปนั้นก็ไกลมากครับ แล้วผมคุยกับบรรดาคนที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ เขาก็บอก บางคนนั้นคนที่ผมสงสารที่สุด ผู้ชายคนหนึ่ง ผมไปเยี่ยมที่รพ.วชิระ เขาบอกเขาไม่เป็นไรแล้ว เขาวิ่งหนีออกมาแล้ว เขาหันไปเห็นคนแก่ก็เลยต้องวิ่งกลับเข้าไปอุ้มออกมาก็เลยถูกยิงใส่หลัง..."
ผู้ดำเนินรายการ : ถ้าเหตุการณ์วันนั้นมีการเจรจาขอเปิดทางก่อน ?
คำต่อคำ : "...ก็ทำตามหลักสากล แล้วผมก็ได้เรียนคุณสุภาพแล้ว ผมก็บอกกับวิปว่าถ้ารัฐบาลเขาเปิดให้เราเข้าไปได้ตามหลักสากลแล้วเราก็ต้องเข้าครับ เราจะไม่เข้าได้อย่างไร ไม่มีเหตุผล แต่จะให้ผมเดินผ่านเลือดเนื้อของคนเข้าไปนั้นมันไม่ใช่ครับ ผมก็เจ็บปวดนะครับ คุณสุภาพนึกภาพสิครับ คุณสุภาพเป็นผม พอคนขาขาด คนบาดเจ็บ ตำรวจมาแถลงว่าต้องทำอย่างนี้เพื่อให้ผมเข้าไปสภาฯ ออกจากสภาฯ คุณสุภาพจะรู้สึกอย่างไรครับ"
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
- ความรับผิดชอบต่อเลือดเนื้อคนไทยด้วยกันอยู่ตรงไหน ?
ประเด็น : สืบเนื่องจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของตำรวจเมื่อวันที่ ๗ ต.ค. ๕๑ นั้น นายกฯ และผู้เกี่ยวข้องควรแสดงความรับผิดชอบและสืบหาตัวผู้กระทำผิดอย่างจริงจังให้เร็วที่สุด แต่จนถึงวันนี้ นายกฯ ก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ
คำต่อคำ : "...แล้วผมก็ต้องถามต่อว่าจนถึงวันนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันน่าเสียใจที่สุดคืออะไร เช้านั้นคนขาขาด รัฐบาลคิดอย่างเดียวว่าฉันจะต้องแถลงนโยบายจะได้เข้าไปมีอำนาจ ใช้งบประมาณหรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่สนใจว่าเข้าไปแล้วรู้ว่าเหตุการณ์จะต้องรุนแรงขึ้น ขาไปเข้าไปก็คนก็ขาขาด ขากลับออกมาคนเสียเลือดเนื้อไปอีกเท่าไหร่ แล้วมาบอกว่าจะนำมาเป็นบทเรียน จริงๆ มันต้องเรียนตั้งแต่ตอนสายแล้วครับ เช้าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ สายคุณก็รู้อยู่แล้ว แล้วคุณก็รู้ว่าคุณกำลังสร้างเงื่อนไขความรุนแรงเพิ่มเติมขึ้น ท่านประธานชัยก็ดีนะฮะ หรือหลายๆ คนที่อยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติก็ต้องรู้ว่าจะมีความรุนแรงขึ้น แล้วทำเพื่ออะไรครับ
ที่ร้ายกว่านั้นก็คือว่าพอตอนบ่ายออกมาได้แล้วก็ถือว่าภารกิจลุล่วงแล้ว ปล่อยให้ตอนเย็นมีคนตายได้อีกครับ ความรับผิดชอบต่อประชาชนอยู่ตรงไหนครับ ความรับผิดชอบต่อเลือดเนื้อคนไทยด้วยกันอยู่ตรงไหน
...ถามว่ารัฐบาลจำเป็นต้องแถลงนโยบายไม๊ จำเป็นครับ ถามว่าจำเป็นต้องแถลงเดี๋ยวนั้น ที่นั่นหรือไม่ ผมก็ยืนยันได้ว่าไม่ใช่ แล้วผมก็ให้คนพยายามเช็คไปว่า มีการเจรจาบ้างไม๊ก่อนที่จะทำอะไรอย่างนี้ ไม่มี พอมีข่าวว่าคนขาขาด ผมบอกเลยนะครับ ถ้าผมเป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผมไม่มีสั่งหรอกครับ บอกลุยเข้าไปเลย ผมต้องถามก่อนว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ผมต้องเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนถึงวันนี้นายสมชายยังไม่เอ่ยปากเสียใจเลยนะครับ แล้วก็กลับยืนยันทันที นายบรรหารออกมาบอกว่าละมุนละม่อมแล้ว ขาขาดนี่นะครับ...
ผมถึงบอกว่าวันนี้ผมไม่ต้องการคนหน้าเนื้อใจเสือ ควรแสดงความรับผิดชอบมาครับ
...ผมก็บอกว่าความเป็นจริงวันนี้ก็คือว่าสังคมไทยต้องอยู่กับความถูกต้อง แล้วผมจะเตือนคุณสมชายในฐานะนายกรัฐมนตรีว่าถ้าไม่มีการแสดงความรับผิดชอบแบบอารยประเทศแล้ว วัฒนธรรมทางการเมืองในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงครับ จากนี้ไปจะมีแต่ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นไปอีก ถึงท่านอยู่ท่านก็ปกครองไม่ได้ บริหารไม่ได้ แล้วอยู่ไปเพื่ออะไร เพราะฉะนั้นกลับตัวกลับใจเสียเถอะครับ"
ผู้ดำเนินรายการ : การที่เมื่อวานท่านนายกฯ ออกมาเยี่ยมตำรวจและผู้บาดเจ็บนั้น ยังไม่ใช่การแสดงความรับผิดชอบหรือ ?
คำต่อคำ : "ท่านก็ยังปล่อยให้ลูกน้องท่านมาให้ร้ายประชาชนอยู่นี่ครับ มีการสอบสวนไม๊ล่ะครับ ผมเห็นนะครับ เมื่อวานท่านก็พยายามไปเยี่ยมพันธมิตร ก็อยากจะแสดงตัวเป็นคนใต้ ผมฟังพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านรับสั่งว่าคนใต้นั้นรักความยุติธรรม ผมถามนายสมชายครับ ในฐานะคนใต้นะครับ เพราะผมนั้นไม่ใช่คนใต้หรอกครับ แต่ผมมีโอกาสไปใต้บ่อย ไปนครศรีธรรมราชบ่อย ถามใจตัวเองสิครับว่านี่คือลักษณะของคนรักความยุติธรรมหรือเปล่า ที่ท่านทำอยู่ทั้งหมดนี้ว่ารักความยุติธรรมจริงหรือเปล่า"
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
- อย่าโยนให้ตำรวจ อย่าป้ายสีผู้บาดเจ็บล้มตาย
ผู้ดำเนินรายการ : ที่จริงผมไม่มีหน้าที่ต้องปกป้องรัฐบาลหรือปกป้องใคร แต่ว่าเมื่อเปิดโอกาสให้คุณอภิสิทธิ์พูดอยู่ฝ่ายเดียวนั้น จะขอซักถามค้านว่า กรณีอย่างนี้เป็นไปได้ไหมครับว่า รัฐบาลก็ออกว่า ก็เป็นเรื่องของตำรวจเขา เช่นเรื่องที่ตำรวจเขาออกมาแถลงเมื่อวานว่าเป็นระเบิดของฝ่ายที่พันธมิตรอาจจะซุกมาเอง
คำต่อคำ : ...ถ้ารัฐบาลจะบอกว่าเป็นเรื่องของตำรวจเขานะครับ ผมก็บอกว่าท่านก็ลาออกไป ให้ตำรวจปกครองประเทศไปเลย ครั้งแรกที่เกิดขึ้นตอนเช้าผมไม่ว่าเพราะอันนั้นอ้างได้ว่ามอบตำรวจเขาไปให้ดูแล เขาทำอาจจะผิดพลาดหรืออะไรก็แล้วแต่แล้วผมไม่รู้ ในฐานะรัฐบาล ในฐานะอะไรผมไม่รู้ แต่ ณ 7 โมงเช้าวันนั้น คุณรู้แล้วว่ามีคนขาขาด ถ้าคุณไม่รู้ก็แย่แล้วเพราะคนทั้งประเทศเขารู้ แล้วคุณจะบอกว่าเพราะฉะนั้นอีก 24 ชั่วโมงหรือ 48 ชั่วโมงที่ตามมา ความสูญเสีย ความบาดเจ็บ ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องของตำรวจ แล้วคุณบริหารประเทศได้อย่างไรครับ ผมถามคุณสุภาพครับ ระหว่างการที่ไปอ่านเอกสารอยู่ 33 หน้านั้นกับการที่เห็นว่าคนไทยนั้นได้สูญเสียขาขาดแล้วนั้น คุณสุภาพเป็นนายกฯ คุณสุภาพจะทำอะไรครับ จะปล่อยไปอีก 24 ชั่วโมงแล้วถึงมาบอกว่าเป็นเรื่องของตำรวจเหรอครับ ผมบอกครั้งแรกไม่เป็นไร ครั้งแรกไปว่าไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าการปฏิบัติการจะมีความผิดไปจากนโยบายที่ตัวเองมอบหมายหรือเปล่า ไม่ว่ากันนะครับ แต่พอเกิดขึ้นแล้วต้องสอบสิครับ นี่มีการสอบหรือยังครับ ที่มายืนยันว่าตรงนั้นตรงนี้พันธมิตรหรือเปล่า มือที่สามหรือเปล่า NBT นี่พอขาขาดปั๊บเอาเลยครับ มือที่สาม แล้วก็มีกระบวนการเวปไซต์ที่เชียร์รัฐบาล เอาเลยครับ เอาขอทานขาขาดเอาอะไรมา คุณทำได้อย่างไร คุณทำได้อย่างไรผมถาม
...ผมถามคุณสุภาพเลยครับ ผมถึงบอกว่าผมไม่อยากยุ่งครับ ใครจะมาตอบโต้การเมืองอะไรกับผม ผมถามว่าความเป็นมนุษย์ของคนเราขณะนี้ คุณยังเล่นการเมืองกันอีกเหรอครับ คุณยังคิดแค่ว่าคุณมีหน้าที่มาปกป้องว่าคุณไม่ผิด คุณไม่ผิด คุณไม่ผิด แล้วคุณรับผิดชอบอะไร
คำต่อคำ : "ตอนนี้เลวร้ายที่สุดที่ผมได้ยิน ข้อแก้ตัวก็บอกว่า โอ๊ย พวกที่ขาขาด ระเบิดหรือตายไปนั้นเป็นเพราะตัวเองพกระเบิดเองหรือเปล่า ผมถามคุณสุภาพนะครับว่า คุณเป็นรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยหรือเปล่า คนไทยเสียชีวิตอย่างนี้ คุณคิดอย่างเดียวว่าจะปกป้องตัวเองแม้กระทั่งใส่ร้ายคนที่เขาสูญเสีย อย่าว่าแต่เป็นคนไทยหรือเปล่าเลย บางทีต้องถามว่าเป็นคนหรือเปล่า
...แล้วเลวร้ายที่สุดคือกระบวนการเมื่อวานก็คือว่าคนตายแล้วยังไปป้ายสีเขาอีกครับ ลำดับมาตลอดสิครับคุณสุภาพ ตอนแรกพอคนตั้งข้อสังเกตว่า เอ๊ะ ทำไมขาขาดได้ ตำรวจก็บอกว่าแก๊สน้ำตาก็ไม่สามารถทำให้คนขาขาดได้ คนก็ตั้งข้อสังเกตว่าแสดงว่าต้องมีระเบิด พวกผมรู้ไม๊ว่าต้องมีระเบิด รู้ครับ เพราะว่าตอนบ่าย ตอนเย็นหลังจากที่เราไปเยี่ยมคนเจ็บ พวกเราจำนวนหนึ่งก็เข้าไปสังเกตการณ์อยู่แถวบริเวณหน้าสภาฯ โดนครับ โดนสะเก็ดครับ รู้ว่าไม่ใช่แก๊สน้ำตานะครับ พอพิสูจน์ชัดว่ามีอาวุธอื่น ตำรวจก็เริ่มบอกว่า ตอนแรกก็มีภาพลงหนังสือพิมพ์ ก็บอกว่าภาพตัดต่อหรือเปล่า มีแต่มือถืออะไร พอเอาภาพเคลื่อนไหวมาดูอีกบอกว่านี่ไงก็คนโยนเข้าไป ยืนอยู่ทางฝ่ายตำรวจก็บอกอีกว่าไม่รู้เป็นตำรวจหรือเปล่า แล้วผมก็งงว่าถ้าตำรวจยืนกันเป็นแถวแล้วมีคนถือของอันนี้อยู่แล้วโยนเข้าไป ทำไมตำรวจไม่จับล่ะครับ
ที่ผมรับไม่ได้ขณะนี้ก็คือว่านอกจากไม่มีกระบวนการในการที่จะเอาข้อเท็จจริงออกมาอย่างเป็นกลาง แสดงความรับผิดชอบจริงๆ กลับกลายเป็นกระบวนการพยายามที่จะสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองต่อ อันนี้มันก็ชัด แล้วผมถามว่า เอาเถอะท่านจะเอาชนะด้วยวิธีการบิดเบือนข้อมูล อาศัยสื่อของรัฐหรืออะไร แล้วบ้านเมืองเป็นอย่างไรคุณสนใจไม๊ หรือคุณสนใจเพียงแค่ว่าทำทุกอย่างเพื่อจะล้มกระบวนการยุติธรรมให้ได้ในที่สุด"
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
- ต้องมีการสอบสวนอย่างเป็นกลาง....ยุบสภาฯ ดีที่สุด
ผู้ดำเนินรายการ : ค่ะ ตอนนี้นะคะ ดิฉันก็อยากจะเห็นคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ การรับผิดชอบสูงสุดนี่อย่างไรคะ ท่านนายกรัฐมนตรีควรแสดงความรับผิดชอบด้วย เหมือนที่เขาเรียกร้องว่าควรจะลาออกหรือยุบสภา อย่างนั้นใช่ไม๊คะ
คำต่อคำ : ผมนั้นไม่อยากเรียกร้องให้ลาออก เพราะเดี๋ยวก็หาว่าผมมีส่วนได้เสีย ผมบอกยุบสภาก็ดีที่สุด
ผู้ดำเนินรายการ : อ๋อ ค่ะ ยุบสภาน่าจะดีที่สุด อย่างนั้นใช่ไม๊คะ
คำต่อคำ : ครับ แต่ว่าผมก็เรียนอย่างนี้นะครับ ที่ผมรับไม่ได้ขณะนี้ก็คือว่า นอกจากไม่มีกระบวนการในการที่จะเอาข้อเท็จจริงออกมาอย่างเป็นกลาง แสดงความรับผิดชอบจริง ๆ กลับกลายเป็นกระบวนการที่พยายามที่จะสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองต่อ อันนี้มันก็ชัด แล้วผมถามว่า เอาเถอะ ท่านจะเอาชนะด้วยวิธีการบิดเบือนข้อมูล อาศัยสื่อของรัฐ หรืออะไร แล้วบ้านเมืองเป็นอย่างไรครับ คุณสนใจไม๊ครับ หรือคุณสนใจเพียงแค่ว่า ทำทุกอย่างนั้นเพื่อจะล้มกระบวนการยุติธรรมให้ได้ในที่สุด
คำต่อคำ : "...ผมนั้นไม่อยากเรียกร้องให้ลาออกเพราะเดี๋ยวก็หาว่าผมมีส่วนได้เสีย ผมบอกยุบสภาก็ดีที่สุด ...ถ้ายุบสภาก็เลือกตั้งครับ ก็ต้องเป็นไปตามกติกา ผมบอกว่าอาจจะไม่ใช่ทางเดียวก็ได้ แต่ผมถามหาว่าความรับผิดชอบวันนี้อยู่ตรงไหนนะครับ..."
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
- ต่างประเทศต้องรู้ว่าคนไทยรักสันติ เมืองไทยเที่ยวได้ ลงทุนได้
ประเด็น : ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ได้ส่งจดหมายชี้แจงสถานการณ์ดังกล่าวไปยังทูตต่างประเทศในไทยโดยมีใจความว่า แม้พรรคฯ จะไม่เห็นด้วยกับหลายเรื่องที่พันธมิตรฯ ทำ แต่การกระทำของตำรวจเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลเข้าไปแถลงนโยบายซึ่งพรรคฯ เข้าใจว่าเป็นเรื่องสำคัญนั้น ไม่เป็นไปตามหลักสากลและได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง ทั้งนี้เพื่อต้องการให้นานาประเทศทราบว่าโดยปกติคนไทยไม่ได้ป่าเถื่อน เป็นคนรักสันติ ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนในเมืองไทยได้ ตลอดจนไม่ต้องการให้รัฐบาลไทยให้ร้ายคนไทยด้วยกัน
คำต่อคำ : "...เมื่อวานก็ไปชี้แจงต่างประเทศ แล้วก็มีข่าวอยู่จริงเท็จไม่ทราบที่บอกว่ามีทูตของไทยนี่แหละที่ท้วงติงว่าไปชี้แจงในสิ่งที่มันไม่น่าเชื่อถือ ...ผมก็บอกว่าในส่วนของประชาธิปัตย์นั้นได้กล่าวโทษนายกรัฐมนตรีไปแล้วอย่างที่ผมบอก เหตุการณ์ครั้งแรกนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าไม่รู้ แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งแรกต้องถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ วันนี้ก็จะมีการไปยื่นหนังสือเพิ่มเติมในส่วนของตำรวจถึงกรรมการสิทธิมนุษยชนและผมก็ได้ทำหนังสือชี้แจงทูตทั่วโลกครับว่าคนไทยไม่ได้ป่าเถื่อนแต่ความรุนแรงมาจากฝ่ายรัฐ
...สรุปว่าพรรคประชาธิปัตย์นั้น แม้จะไม่เห็นด้วยกับหลายสิ่งหลายอย่างที่พันธมิตรทำ แต่เหตุการณ์ในเช้าของวันที่ 7 ขณะพันธมิตรชุมนุมอยู่ที่สภาฯ นั้นยังเป็นการชุมนุมโดยสงบ และรัฐบาลต้องการแถลงนโยบายซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่การสลายการชุมนุมโดยไม่เป็นไปตามหลักของสากลไม่ว่าจะเป็นวิธีการใช้แก๊สน้ำตา แล้วนำมาสู่ทั้งการสูญเสียชีวิต อวัยวะและคนบาดเจ็บมากถึง 400 กว่าคนใน 1 วันนั้นย่อมเป็นตัวบ่งบอกแล้วว่าไม่ใช่เป็นเรื่องของการใช้การสลายการชุมนุมตามหลักของสากล ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง …ผมไม่ต้องการให้รัฐบาลไทยให้ร้ายคนไทยด้วยกันครับ ผมต้องการให้ต่างประเทศได้รับทราบว่าคนไทยโดยปกตินั้นไม่ใช่คนป่าเถื่อน เป็นคนที่รักสันติ แต่มีการใช้กำลังโดยไม่ชอบ เป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ทั่วโลกควรจะรู้อันนี้ครับ แล้วถ้าหากเขาจะลงโทษเขาจะได้ไม่ต้องมากลัวคนไทยครับ เขามาท่องเที่ยวเมืองไทยได้ มาลงทุนในเมืองไทยได้เพราะคนไทยรักสงบ แต่รัฐบาลไหนที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ไม่เคารพสิทธิมนุษยชนแล้ว ชาวโลกเขาจะประนามด้วยกันครับ
ผู้ดำเนินรายการ : ครับ หนังสือที่ออกไปนั้นในฐานะผู้นำฝ่ายค้านของรัฐสภา
คำต่อคำ : "หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครับ ผมไม่ต้องการให้ชาวโลกมีความรู้สึกว่าอยู่ดีๆ คนไทยไม่เคารพกฎหมายแล้วก็มาทำอะไรกันจนเหมือนกับจลาจลนะครับ ภาพของเหตุการณ์ที่แท้จริงก็คือว่าขณะนั้นการชุมนุมอยู่ในวิสัยที่จะต้องใช้กระบวนการเจรจาเหมือนที่นายกฯ บอกกับผมว่าจะทำวันจันทร์"
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
- ไม่ได้เป็นใจกับพันธมิตรในการปิดล้อมรัฐสภา
ประเด็น : กรณีมีผู้กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีส่วนรู้เห็นกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในการเคลื่อนขบวนสู่รัฐสภาเพื่อขัดขวางไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบายและทำงานได้นั้น พรรคฯ ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ทั้งสิ้น
คำต่อคำ : "ผมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังเลยดีกว่านะครับ จะได้ไม่ต้องมาอะไรกัน เหตุการณ์ก็คือเมื่อวันจันทร์บ่าย เราประชุมที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมเรื่องเขตการค้าเสรีอาเซียน ...ญี่ปุ่น แล้วต่อด้วยการประชุมหัวหน้าพรรค 6 พรรค 7 พรรคอะไรที่ว่านั้น ก็คือรัฐบาล ...ฝ่ายค้าน ประชุมกันจนถึงประมาณ 6 โมงเย็น ผมก็ออกมา แล้วก็ทุกคนก็ออกมา หลังจากนั้นพอประมาณสักค่ำๆ ก็มีข่าวเรื่องพันธมิตรจะเคลื่อนหรือเคลื่อนไปรัฐสภา ซึ่งก็ขอยืนยันว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจเกี่ยวข้องอะไรด้วยทั้งสิ้น ... ความที่ต้องนั่งประชุม 7 พรรคตามที่มีเรื่องหลายเรื่องเข้ามา ผมก็นั่งเตรียมอภิปรายอยู่จนถึงดึกดื่นนะครับ ซึ่งถ้าผมวางแผนแล้วผมจะนั่งทำไมครับ ผมก็นอนเลยฮะ เช้าขึ้นมาตื่น ผมก็ทำจนดึกจนดื่น..."
<< แสดงความคิดเห็นของท่าน / ดูประเด็นต่อเนื่อง >>
(กลับไปด้านบน)
* จากข่าวยามเช้า ทางสถานีวิทยุ FM 101 วันที่ ๙ ต.ค.๕๑
ที่มา http://www.abhisit.org/visiondetail.php?cate_id=111
RED LETTER- จำนวนข้อความ : 266
Join date : 24/09/2009
Similar topics
» ดาวประกายพรึก เดลินิวส์”ยก“สื่อนอกทุกสำนัก”วิเคราะห์ตรงกัน
» ย้อนรอย ดูผลงาน พธม กู้ชาติ กับซากของ ธรรเนียบรัฐบาล
» ย้อนรอย ดูผลงาน พธม กู้ชาติ กับซากของ ธรรเนียบรัฐบาล
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ