สงครามกลางเมือง รวันดา
หน้า 1 จาก 1
สงครามกลางเมือง รวันดา
หลายคนมองว่าการเมืองไทยเข้าใกล้ภาวะสงครามกลางเมืองเข้าไปทุกที ทำให้เริ่มมีการหยิบยกสงครามกลางเมืองในอดีตของรวันดามาเตือนใจ
Content by VoiceTV
26 เมษายน 2553 เวลา 19:09 น.
แก้ไขล่าสุดโดย RED LETTER เมื่อ Sat May 08, 2010 8:07 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
RED LETTER- จำนวนข้อความ : 266
Join date : 24/09/2009
มาดูหนัง เต็มๆ เรื่อง Hotel Rwanda กานดีก่า...
***อ่านรายละเอียดความเปนมา ของเรื่อง รวันดา...ได้ที่ด้านล่าง ก่อนดูหนัง..ก็ดีนะ..
Hotel Rwanda Part 1
Hotel Rwanda Part 2
Hotel Rwanda Part 3
Hotel Rwanda Part 4
Hotel Rwanda Part 5
Hotel Rwanda Part 6
Hotel Rwanda Part 7
Hotel Rwanda Part 8
Hotel Rwanda Part 9
Hotel Rwanda Part 10
Hotel Rwanda Part 11
Hotel Rwanda Part 12
Hotel Rwanda Part 1
Hotel Rwanda Part 2
Hotel Rwanda Part 3
Hotel Rwanda Part 4
Hotel Rwanda Part 5
Hotel Rwanda Part 6
Hotel Rwanda Part 7
Hotel Rwanda Part 8
Hotel Rwanda Part 9
Hotel Rwanda Part 10
Hotel Rwanda Part 11
Hotel Rwanda Part 12
แก้ไขล่าสุดโดย RED LETTER เมื่อ Sat May 08, 2010 8:03 pm, ทั้งหมด 3 ครั้ง
RED LETTER- จำนวนข้อความ : 266
Join date : 24/09/2009
Hotel Rwanda....
จากคุณ Chopper: กรณีของประเทศรวันดา ชาวฮูตู (Hutu) ได้จัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์ที่ชื่อว่า Radio Télévision Libre des Mille Collines ปลุกเร้าผู้ฟังให้หยิบอาวุธและออกไปตามท้องถนนเพื่อสังหารชาวทุตซี่ (Tutsi) หรือที่เรียกว่า "แมลงสาป" พร้อมทั้งแจ้งที่อยู่ของเป้าหมายและบริเวณที่ชาวทุตซี่หลบซ่อนตัวอยู่เพื่อ ให้สามารถฆ่าได้อย่างรวดเร็ว
นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน (พ.ศ.2537/ค.ศ.1994) เรื่องราวการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อันน่าเศร้า และ แสนโหดร้าย
หนังเรื่องนี้เล่าถึงเรื่องของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นในรวันดา ประเทศเล็กๆในทวีปแอฟริกา
ในรวันดา ประกอบไปด้วย 2 ชนเผ่า คือ ฮูตู และ ทุตซี่ บัตรประชาชนของชาวรวันดาจะมีข้อความแบ่งแยกอย่างชัดเจนว่าเป็นเผ่าอะไร
ฮูตูเป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ก่อน ส่วนทุซซี่อพยพมาจากเอธิโอเปีย
หลังสงครามโลก รวันดาตกเป็นอาณานิคมของเบลเยี่ยม แต่เบลเยี่ยมกลับไปผูกสัมพันธ์และให้ความสำคัญกับเผ่าทุตซี่มากกว่า
รัฐบาลทุตซี่กดขี่ข่มเหงชาวฮูตู จนทำให้เผ่าฮูตูต้องลุกขึ้นปฏิวัติต่อต้านเบลเยี่ยมและเผ่าทุตซี่
การปฏิวัติสำเร็จ ชาวทุตซี่อพยพไปอยู่ที่อูกันดา และตั้ง RPF กลุ่มกองกำลังแนวหน้ารักชาติรวันดา เพื่อต่อต้านเผ่าฮูตู
เรื่องราวใน Hotel Rwanda เริ่มต้นจากตรงนี้...
มีการเจรจาสงบศึกระหว่างทั้งสองเผ่า เซ็นสัญญากันเรียบร้อย ทุกอย่างเหมือนจะผ่านไปได้อย่างราบรื่น
แต่แล้ว ประธานาธิบดี จูเวนัล ฮับยาริมานา ของรัฐบาลฮูตู กลับถูกลอบสังหาร ทำให้ชาวฮูตูโกรธแค้นมาก เพราะคิดว่าเป็นการกระทำของเผ่าทุตซี่ แล้วการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ก็เริ่มต้นขึ้น
Hotel Rwanda เล่าเรื่องผ่าน Paul Rusesabagina ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมแห่งหนึ่งในรวันดา พอลเป็นชาวฮูตู...แต่มีภรรยาและเพื่อนบ้านมากมายเป็นทุตซี่
พอลได้ช่วยเหลือชาวทุตซี่ให้รอดพ้นจากการถูกสังหารนับพันคน การช่วยเหลือครั้งนี้เรียกได้ว่าเอาชีวิตเข้าแลก...
ชาวฮูตูที่ช่วยเหลือพวกทุตซี่ ก็ย่อมเป็นศัตรูของชาวฮูตูด้วยกันเอง
เหตุการณ์ครั้งนี้มีคนตายร่วม 8 แสนคน ทุตซี่ 750,000 และ ชาวฮูตูอีก 50,000
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ น่ากลัวยิ่งกว่าสงคราม เพราะนี่คือการฆ่าไม่เลือก...ลูกเล็กเด็กแดง ผู้หญิง คนแก่ ขอให้เป็นทุตซี่...ถ้าโดนจับได้ ก็ถูกฆ่าหมด
ภาพศพนอนตายอยู่เกลื่อนเมือง ดูแล้วหดหู่เหลือเกิน โดยเฉพาะฉากที่ขับรถตู้กลับโรงแรมหลังจากไปซื้อของนั่น...ดูแล้วเกินทนจริงๆ
และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น...ชาวรวันดาถูกโลกภายนอกทิ้งให้อยู่ในความ หวาดกลัว
เหล่าประเทศผู้นำรวมทั้ง UN ต่างก็รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ แต่กลับพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" และไม่พยายามเข้ามาช่วยระงับสถานการณ์เลย
เรื่องราวอันแสนโหดร้าย เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อนนี่เอง แต่น้อยคนนักที่จะรับรู้ ว่ามีเคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น
และคงจะเป็นแบบที่ตัวละครในเรื่องว่าไว้ คือ คนที่บังเอิญได้รับรู้ ก็คงจะแค่อุทาน "ทำไมมันโหดร้ายอย่างนี้นะ" แล้วก็นั่งกินข้าวกันต่อไป...
หลายๆคนบอกว่า เพราะรวันดาเป็นแค่ประเทศเล็กๆที่ไม่มีอะไร แล้วมันเรื่องอะไร ที่เหล่าประเทศใหญ่ๆที่มีอะไรทั้งหลาย จะต้องลำบาก เสียเวลา เสียเงินมาช่วย เพราะช่วยแล้วก็ไม่ได้อะไร...
สิ่งที่ประเทศเหล่านั้นทำ ก็แค่อพยพคนของประเทศตัวเอง พากลับประเทศ...เท่านั้นเอง
หลังจากเหตุการณ์ยุติลง มีชาวทุตซี่เหลือรอดแค่แสนกว่าคนเท่านั้น
เรื่องราวไม่ได้จบเพียงแค่นี้...เพราะหลังจากนั้นกลุ่ม RPF ก็ไล่สังหารชาวฮูตูเป็นการแก้แค้น
แม้แต่ในปัจจุบัน ชาวทุตซี่บางส่วนก็ยังโกรธแค้นชาวฮูตู ในขณะที่ชาวฮูตูเองก็ยังไม่ลืม ความลำบากเมื่อครั้งที่ชาวทุตซี่เป็นรัฐบาลปกครองประเทศ
เหตุการณ์ในหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง Paul Rusesabagina ก็มีตัวตนอยู่จริง ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเบลเยี่ยม
ก็ขอแนะนำให้ดู แล้วจะรู้ว่า เหตุการณ์เลวร้ายขนาดนี้ก็เคยเกิดขึ้นบนโลกกลมๆของเรา และที่สำคัญมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี่เอง...
การที่ 16 องค์กรภาคประชาชน เห็นพ้องต้องกัน ก็เพราะมองออกว่าปชช.ตกเป็นเหยื่อข้อมูลจากรัฐ
คนที่มีวุฒิภาวะดูแล้วน่าจะได้สติ แต่เกรงว่าคนไม่มีวุฒิภาวะดูแล้วจะยิ่งเสียสติไปกันใหญ่
จตุพรแจง...ราวันดา 26-04-2010
mp3 http://www.mediafire.com/?15yzbkywzty
wmv http://www.mediafire.com/?rwomemmdm3y
นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน (พ.ศ.2537/ค.ศ.1994) เรื่องราวการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อันน่าเศร้า และ แสนโหดร้าย
หนังเรื่องนี้เล่าถึงเรื่องของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นในรวันดา ประเทศเล็กๆในทวีปแอฟริกา
ในรวันดา ประกอบไปด้วย 2 ชนเผ่า คือ ฮูตู และ ทุตซี่ บัตรประชาชนของชาวรวันดาจะมีข้อความแบ่งแยกอย่างชัดเจนว่าเป็นเผ่าอะไร
ฮูตูเป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ก่อน ส่วนทุซซี่อพยพมาจากเอธิโอเปีย
หลังสงครามโลก รวันดาตกเป็นอาณานิคมของเบลเยี่ยม แต่เบลเยี่ยมกลับไปผูกสัมพันธ์และให้ความสำคัญกับเผ่าทุตซี่มากกว่า
รัฐบาลทุตซี่กดขี่ข่มเหงชาวฮูตู จนทำให้เผ่าฮูตูต้องลุกขึ้นปฏิวัติต่อต้านเบลเยี่ยมและเผ่าทุตซี่
การปฏิวัติสำเร็จ ชาวทุตซี่อพยพไปอยู่ที่อูกันดา และตั้ง RPF กลุ่มกองกำลังแนวหน้ารักชาติรวันดา เพื่อต่อต้านเผ่าฮูตู
เรื่องราวใน Hotel Rwanda เริ่มต้นจากตรงนี้...
มีการเจรจาสงบศึกระหว่างทั้งสองเผ่า เซ็นสัญญากันเรียบร้อย ทุกอย่างเหมือนจะผ่านไปได้อย่างราบรื่น
แต่แล้ว ประธานาธิบดี จูเวนัล ฮับยาริมานา ของรัฐบาลฮูตู กลับถูกลอบสังหาร ทำให้ชาวฮูตูโกรธแค้นมาก เพราะคิดว่าเป็นการกระทำของเผ่าทุตซี่ แล้วการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ก็เริ่มต้นขึ้น
Hotel Rwanda เล่าเรื่องผ่าน Paul Rusesabagina ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมแห่งหนึ่งในรวันดา พอลเป็นชาวฮูตู...แต่มีภรรยาและเพื่อนบ้านมากมายเป็นทุตซี่
พอลได้ช่วยเหลือชาวทุตซี่ให้รอดพ้นจากการถูกสังหารนับพันคน การช่วยเหลือครั้งนี้เรียกได้ว่าเอาชีวิตเข้าแลก...
ชาวฮูตูที่ช่วยเหลือพวกทุตซี่ ก็ย่อมเป็นศัตรูของชาวฮูตูด้วยกันเอง
เหตุการณ์ครั้งนี้มีคนตายร่วม 8 แสนคน ทุตซี่ 750,000 และ ชาวฮูตูอีก 50,000
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ น่ากลัวยิ่งกว่าสงคราม เพราะนี่คือการฆ่าไม่เลือก...ลูกเล็กเด็กแดง ผู้หญิง คนแก่ ขอให้เป็นทุตซี่...ถ้าโดนจับได้ ก็ถูกฆ่าหมด
ภาพศพนอนตายอยู่เกลื่อนเมือง ดูแล้วหดหู่เหลือเกิน โดยเฉพาะฉากที่ขับรถตู้กลับโรงแรมหลังจากไปซื้อของนั่น...ดูแล้วเกินทนจริงๆ
และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น...ชาวรวันดาถูกโลกภายนอกทิ้งให้อยู่ในความ หวาดกลัว
เหล่าประเทศผู้นำรวมทั้ง UN ต่างก็รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ แต่กลับพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" และไม่พยายามเข้ามาช่วยระงับสถานการณ์เลย
เรื่องราวอันแสนโหดร้าย เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อนนี่เอง แต่น้อยคนนักที่จะรับรู้ ว่ามีเคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น
และคงจะเป็นแบบที่ตัวละครในเรื่องว่าไว้ คือ คนที่บังเอิญได้รับรู้ ก็คงจะแค่อุทาน "ทำไมมันโหดร้ายอย่างนี้นะ" แล้วก็นั่งกินข้าวกันต่อไป...
หลายๆคนบอกว่า เพราะรวันดาเป็นแค่ประเทศเล็กๆที่ไม่มีอะไร แล้วมันเรื่องอะไร ที่เหล่าประเทศใหญ่ๆที่มีอะไรทั้งหลาย จะต้องลำบาก เสียเวลา เสียเงินมาช่วย เพราะช่วยแล้วก็ไม่ได้อะไร...
สิ่งที่ประเทศเหล่านั้นทำ ก็แค่อพยพคนของประเทศตัวเอง พากลับประเทศ...เท่านั้นเอง
หลังจากเหตุการณ์ยุติลง มีชาวทุตซี่เหลือรอดแค่แสนกว่าคนเท่านั้น
เรื่องราวไม่ได้จบเพียงแค่นี้...เพราะหลังจากนั้นกลุ่ม RPF ก็ไล่สังหารชาวฮูตูเป็นการแก้แค้น
แม้แต่ในปัจจุบัน ชาวทุตซี่บางส่วนก็ยังโกรธแค้นชาวฮูตู ในขณะที่ชาวฮูตูเองก็ยังไม่ลืม ความลำบากเมื่อครั้งที่ชาวทุตซี่เป็นรัฐบาลปกครองประเทศ
เหตุการณ์ในหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง Paul Rusesabagina ก็มีตัวตนอยู่จริง ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเบลเยี่ยม
ก็ขอแนะนำให้ดู แล้วจะรู้ว่า เหตุการณ์เลวร้ายขนาดนี้ก็เคยเกิดขึ้นบนโลกกลมๆของเรา และที่สำคัญมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี่เอง...
การที่ 16 องค์กรภาคประชาชน เห็นพ้องต้องกัน ก็เพราะมองออกว่าปชช.ตกเป็นเหยื่อข้อมูลจากรัฐ
คนที่มีวุฒิภาวะดูแล้วน่าจะได้สติ แต่เกรงว่าคนไม่มีวุฒิภาวะดูแล้วจะยิ่งเสียสติไปกันใหญ่
จตุพรแจง...ราวันดา 26-04-2010
mp3 http://www.mediafire.com/?15yzbkywzty
wmv http://www.mediafire.com/?rwomemmdm3y
RED LETTER- จำนวนข้อความ : 266
Join date : 24/09/2009
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ