ก่อนการเจรจาวันยุบสภา

[libertythai]

ก่อนการเจรจาวันยุบสภา
by นักเลง โบราณ



จากการออกมาแถลงข่าวว่าจะให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ของนายอภิสิทธิ์ในวันนี้ ไม่เป็นเรื่องที่แปลกใจเท่าไรนัก เพราะเป็นการตัดสินใจในสภาพบังคับ ส่วนใครบังคับใครมาอย่างไรนั้น ขอให้ไปหาข่าวกันเอาเอง แต่ที่เคยประเมินเอาไว้ก่อนหน้านี้ไว้นานแล้วว่า “การยุบสภาจะเป็นการซื้อเวลาของฝ่ายอำมาตย์เพื่อหาวิธีจัดการกับประชาชนเท่า นั้น”
บทเรียนของเรื่องนี้ อยู่ไม่ไกล เหตุการณ์วันเคลื่อนไหวใหญ่ของประชาชนเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 หลังความรู้สึกแห่งชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตยเบ่งบานพร้อมกับการ “ร่วงหล่นของแกนนำหัวก้าวหน้า กรรมกร ชาวนา นักศึกษาปัญญาชนและนักการเมืองในซีกฝ่ายประชาธิปไตย” ดังวลีที่คุ้นเคยที่ว่า “ถีบลงเขา เผาลงถังแดง” คนหัวก้าวหน้าเหล่านี้สาบสูญไปทีละคน สองคน จนในที่สุด เกิดโศกนาฏกรรม 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 คนหนุ่มสาวหัวก้าวหน้าพากันหนีหายจากสังคมไปเป็นจำนวนมากพร้อมกับการเริ่ม ต้นสถาปนาระบอบอำมาตยาธิปไตยเต็มรูปแบบขึ้นมาอีกครั้ง...นี่คือความห่วงใย ที่มีต่อแกนนำทั้งหลายเนื่องจากเห็นธาตุแท้ของเหล่าอำมาตย์ว่า เจ้าเล่ห์ โหดร้ายเพียงใด

ความเจ้าเล่ห์ของนายอภิสิทธิ์ ในการกำหนดวันเลือกตั้งเอาไว้ในวันที่ 14 พฤศจิกายน แทนที่จะบอกถึงวันที่จะประกายุบสภาแล้วปล่อยให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา มาตรา ๑๐๘
พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่
การยุบสภาผู้แทนราษฎรให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า สี่สิบห้าวันแต่ไม่เกิน หกสิบวันนับแต่วันยุบสภาผู้แทนราษฎร และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
การยุบสภาผู้แทนราษฎรจะกระทำได้เพียงครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน
เมื่อนับปฏิทิน จะพบว่า วันที่นายอภิสิทธิ์ยุบสภาคือวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของงบประมาณและเริ่มการทำงานใหม่ของข้าราชการที่ได้รับ การโยกย้าย ซึ่งเป็นท่าทีที่นายอภิสิทธิ์แสดงออกไว้เมื่อการเจรจากับแกนนำ นปช.ก่อนเหตุการณ์ล้มฆ่าประชาชนวันที่ 10 เมษายน
ความเป็นจริงแล้ว ข้อเสนอที่จะนายอภิสิทธิ์ยุบสภามีการเลื่อนจากเดิมที่เป็นเงื่อนไข เรียกร้องให้ยุบสภาทันทีมาเป็น ยุบสภาภายใน 30 วัน ที่ทาง นปช.แสดงความปรารถนาดีเมื่อคณะทูตประเทศต่าง ๆ ได้เดินทางเข้าไปเยี่ยมพื้นที่การชุมนุม แต่รัฐบาลได้ปฏิเสธและเกิดเหตุการณ์ยิงลั่นสนั่นเมืองเมื่อวันที่ 28 เมษายน จนมีพลทหารเสียชีวิตไปอีก 1 นาย จากการที่ทหารยิงกันเอง แล้วมาวันนี้ นายอภิสิทธิ์มาแถลงข่าวเสนอ “วันเลือกตั้ง” แบบมีเล่ห์เหลี่ยมไม่จริงใจ และเมื่อถอดความจริงออกมาแล้ว จะเห็นได้อย่างชัดเจนถึงก้นบึ่งของความเป้นทรราษฎร์
ความจริงแล้ว สภาพของนายอภิสิทธิ์ในตอนนี้ สมควรที่จะแสดงความจริงใจ โปร่งใส ด้วยการ ยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน, ยุติการเสนอข่าวผ่านโทรทัศน์ข้างเดียว และยกเลิกการปิดกั้นการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนด้วยการปลดปล่อย เสรีภาพการรับรู้คืนสู่ประชาชนเป็นเบื้องต้น ก่อนการเจรจาเพื่อหาข้อยุติวิกฤติต่าง ๆ เพราะตราบใดที่รัฐบาลยังแสดงออกถึงความเป็นเผด็จการเต็มรูปแบบอย่างนี้ ก็คงยากที่จะมีการเจรจา