RedCyberClub Forum
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>>

หน้า 1 จาก 3 1, 2, 3  Next

Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>>

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 3:23 am

Thaksin's 24 Hours After the Coup 24 ชั่วโมงของทักษิณ ฉบับแปลไทย(ทั้งหมด 10 บท)

“24 ชั่วโมงของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร” หรือมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า “Thaksin’s 24 Hours After the Coup” หนังสือเล่มนี้เดิมต้นฉบับจัดพิมพ์เป็นภาษาจีนโดยหนังสือพิมพ์หมิงเป้าและเปิดตัวในงาน Hong Kong Book Fair ที่ฮ่องกงเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมาและจะมีการจัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษในอีก 3-4 เดือนข้างหน้าเพื่อวางจำหน่ายทั่วโลกให้ประชาคมโลกได้รับรู้ถึงบทบาทของ “ทหารพระราชา” ที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทย

สำหรับฉบับแปลเป็นภาษาไทยที่ผู้เขียนนำมาลงนี้ยังไม่มีรูปเล่มออกวางจำหน่ายตามท้องตลาดให้คนไทยได้หาซื้อจับจองมาเป็นเจ้าของเพราะประเทศไทยภายใต้ร่มธงทรราชย์ได้ริดรอนสิทธิและเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารของประชาชนไปหมดสิ้นแล้ว โอกาสที่หนังสือเล่มนี้จะออกมาให้คนไทยได้ยลโฉมคงจะไม่มี คงจะมีเพียงสื่อทางอินเตอร์เนตเท่านั้นที่ยังพอเป็นช่องทางให้คนไทยได้รับรู้ข่าวสาร ข้อคิดเห็นและความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอยู่บ้าง

หนังสือ ทักษิณ 24 ชั่วโมง หลังรัฐประหาร แบ่งออกเป็น 10 บท ดังนี้

บทที่ 1: เสียงโทรศัพท์ยามอรุณรุ่ง (4 ตอน)
บทที่ 2: ข่าวลือกลายเป็นความจริง (6 ตอน)
บทที่ 3: ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ (7 ตอน)
บทที่ 4: จากตำรวจถึงนายกรัฐมนตรี (6 ตอน)
บทที่ 5: การปกครองประเทศโดยซีอีโอ (5 ตอน)
บทที่ 6: บุญคุณและความแค้นต่อสื่อ (7 ตอน)
บทที่ 7: การรัฐประหารที่โรยด้วยกลีบดอกไม้ (4 ตอน)
บทที่ 8: ฟางเส้นสุดท้าย (6 ตอน)
บทที่ 9: กลับสู่จุดเดิม (6 ตอน)
บทที่ 10: บทส่งท้าย

คลิ๊กเพื่อเข้าสู่หน้าดาวน์โหลด หนังสือ ทักษิณ 24 ชั่วโมง หลังรัฐประหาร (ไฟล์ Zip)

http://www.esnips.com/doc/5766d16d-c70d-4c44-b81c-3cf59ed6ace8/หนังสือ-ทักษิณ-24-ชั่วโมง-หลังรัฐประหาร
ปล.โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


24 ชั่วโมงของทักษิณ คํานํา

ในประวัติศาสตรไทยแตไรมาไมเคยมีนายกรัฐมนตรีที่ถูกวิพากษวิจารณเชนทักษิณ เขาไดรับการวิจารณจาก นักวิชาการในเมือง แตกลับเปนที่ชื่นชมจากประชาชนในตางจังหวัด คนที่คัดคานทักษิณกลาววา เขาหยิ่งยะโส คอรรัปชั่น ทําลายประชาธิปไตย นําพาประเทศไปสูระบบพรรคการเมืองเดียว
สวนคนที่สนับสนุนเขากลาววา เขา เปนคนเรียบงาย เขาถึงชาวบาน เปนผูกลาหาญ ดูแลเอาใจใสคนจน และทําคุณประโยชนตอการพัฒนาเศรษฐกิจ ของประเทศอยางใหญหลวง การตัดสินใจดําเนินนโยบายในแตละเรื่องของเขาขณะที่ยังดํารงตําแหนง นายกรัฐมนตรีอยูนั้น ดูเหมือนไดรับการโตแยงและถกเถียงอยางไมมีที่สิ้นสุด แมกระทั้งรูปแบบของกาีีัีรเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ทําใหเขาออกจากตําแหนงนายกรัฐมนตรี ไดกอใหเกิดการอภิปรายอยางคึกคักอยางที่ ไมเคยเกิดขึ้นมากอนในเวทีระหวางประเทศ ประชาชนพินิจพิเคราะหประชาธิปไตย ผูคนพูดคุยและถกเถียง เกี่ยวกับการเมืองของเอเชีย ติดตามสถานการณของประเทศไทย และวิพากษวิจารณทักษิณ ทักษิณ ชินวัตร อายุ 58 ป เปนผูซึ่งสื่อมวลชนใหสมญานามวาเปน [b]“คนที่มีอํานาจและร่ํารวยที่สุดในประเทศไทย”
กอนที่เขาจะเขาสูการเมือง เขาเปนเศรษฐีรอยลานจากธุรกิจโทรคมนาคม และกอนที่เขาจะสูวงการธุรกิจ เขาเปน นายตํารวจยศพันโทที่ไดเคยไปเรียนที่สหรัฐอเมริกา กอนที่เขาจะเขาโรงเรียนตํารวจ เขาเปนลูกหลานใน ครอบครัวนักธุรกิจชาวจีนโพนทะเล จากเด็กธรรมดาคนหนึ่ง ดวยความมานะและความเฉลียวฉลาดของเขา ก็ คอยๆ กาวขึ้นสูยอดปรามิดแหงอํานาจและความร่ํารวย ในกระบวนดังกลาวนี้เต็มไปดวยความผิดหวังและ อุปสรรค แตเขาเปนคนที่เกงเรียนรูโดย “นําความผิดหวังเปลี่ยนเปนโอกาส” ไมยอมลมเหลว เขามีจิตวิญญาณที่ ไมยอมแพ ประสบการณในความสําเร็จ และอุปนิสัยที่มีเสนหของทักษิณก็อยูตรงนี้นี่เอง แมวาจะมีการคัดคานอยางหนักหนวง แตเพียงแคดูตัวเลขทางเศรษฐกิจและบันทึกทางการเมืองในระยะเวลา 6 ปที่ ผานมาของประเทศไทย ก็ตองยอมรับวา คนคนนี้เปนคนที่มีความสามารถอยางแนนอน มีความคิดปราดเปรียวฉับ ไว กลาสรางสรรคสิ่งใหม แมกระทั่งศัตรูทางการเมืองที่เคยโจมตีเขายังยอมรับในภายหลังวา เขาไดนําความ แตกตางมาสูเวทีการเมืองไทย พรรคไทยรักไทยที่เขากอตั้งเปนพรรคการเมืองที่มีแนวคิดบริหารประเทศดวย ความชัดเจนมากที่สุด เขาไดนําวิธีการบริหารบริษัทมาบริหารประเทศโดยลดการทุจริตของขาราชการ เขา ปราบปรามการคายาเสพติดและอาชาญากรรมแบบไมยั้งมือ ดวยเหตุนี้จึงกอใหเกิดการตําหนิวา “เมินเฉยตอสิทธิ มนุษยชน” เขาไดดําเนินนโยบายที่เปนประโยชนตอคนจนหลายนโยบาย อาจกลาวไดวา เขาเปนนักการเมืองที่มี จิตใจเมตตา แมวาเขาจะมีอุดมคติลอยๆไปบ้าง
นอกจากนี้ยังมีหลายสิ่งซึ่งเขาไมมีเหมือนกับนักการเมืองทั่วไปก็ คือ ทาทีที่เสแสรงและพูดซ้ําซากแตเรื่องเดิม อุปนิสัยของเขาเต็มไปดวยความนาเกรงขามและออนนอมเขากับคน งายเปนอยางยิ่ง คุณสมบัติสองประการนี้ประกอบขึ้นเปนตัวตนของเขาอยางนาอัศจรรย

วันที่ 19 กันยายน 2549 โชคชะตาของเขาก็ไดเปลี่ยนแปลงในชั่วขามคืน เขาถูกเนรเทศออกจากแผนดินเกิดโดยไร ความปราณี จากยอดเขาตกลงสูเหว นายกรัฐมนตรีของประเทศหนึ่งกลาย เปนผูลี้ภัยที่ไมสามารถกลับประเทศตน ได จนกระทั่งถึงปจจุบันนี้ เรื่องราวที่พิศดารเหลานี้ก็เพียงพอที่จะทําใหเขาถูกจดจําไวในประวัติ ศาสตร

ขอสรุปที่มีตอเขาตอนนี้ยังเร็วเกินไป ประวัติศาสตรจะถูกเขียนโดยผูชนะเสมอ คุณอาจจะมองเขาเปนผูแพ และ อาจมองเขาเปนผูที่ถูกทําราย แตไมวาจะอยางไรก็ตาม ในศตวรรษที่ 21 การเปลี่ยนแปลงอํานาจทางการเมืองโดย ใชกําลังทหาร เปนการไมปฏิบัติตามกฏแหงประชาธิปไตยและความหมายของเสรีภาพ แมวาจะการรัฐประหาร ครั้งนี้จะไมเสียเลือดเนื้อก็ตาม แตในประวัติศาสตรของมนุษยชาติ เราไมสามารถที่จะหาคําที่รุงโรจน และมี มนุษยธรรมอันสูงสงไปกวาคําวา “ประชาธิปไตย” และ “เสรีภาพ” อีกแลว คําแหลานี้ไดถูกคิดคน อธิบาย ใน ทายที่สุดไดนํามาปฏิบัติใหเปนจริงขึ้นเพื่อขจัดความรุนแรงและโหดรายให หมดสิ้น และใชรูปแบบที่มีเหตุผลและ สันติมาแกไขความขัดแยงและขอพิพาทที่มนุษยไดสรางขึ้น สิ่งนี้มีสวนที่เหมือนกับแนวคิดคุณคาของศาสนาพุทธที่เปนศาสนาประจําชาติ ของไทย อยางไรก็ตาม นอกจาก ศาสนาพุทธจะชวยลดความระดับของความรุนแรงของการรัฐประหารแลว ก็ไมไดให “ปรัชญาทางการเมือง” ใดๆ ตอเมืองพุทธที่มีเมตตาธรรมนี้ บางทีหากมองจากมุมของศาสนาและการนับถือแลว การเมืองก็เหมือนกับ เศรษฐกิจที่ตางก็จะตองรับผิดชอบตอการแยงชิงและการใชกําลังของโลกเรา มนุษยชาติสงเสริมการแกงแยงชิงดี แสวงหาของนอกกาย และบอยครั้งหลงทาง สูญเสียความรัก มันก็เหมือนกับที่นักการเมืองจํานวนหนึ่งที่ถกถียง กันไมหยุด หยอนวา [b]“ใครผิดใครถูก”
และไมยอมปลอยใหอํานาจในมือหลุดลอย มีใครบางที่จะสนใจความผาสุก ของชาวบานและทุกขสุขของคนจนอยางแทจริง?

หนังสือเลมนี้ผูเขียนไดเขียนขึ้นจากการสัมภาษณทักษิณแลวหลายครั้ง “คําบอกเลาของทักษิณ” ไดยอนรําลึกถึง ชีวิต ความคิดที่มีตอรัฐประหารและความเห็นคัดคานตอยุทธวิธีบริหารบานเมือง หนังสือเลมนี้อาจบอกความจริง สวนหนึ่ง แตอาจไมใชทั้งหมด ทักษิณก็มีขอจํากัดของตนเอง และขอจํากัดของยุคสมัย บทเรียนจากการ รัฐประหารของไทย มิเพียงเปนบทเรียนของเขา และของประเทศไทยเทานั้น แตยังเปนบทเรียนของโลกและของ มนุษยชาติอีกดวย


แก้ไขล่าสุดโดย dimistry เมื่อ Wed Apr 07, 2010 12:09 am, ทั้งหมด 2 ครั้ง
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 1 เสียงโทรศัพทยามรุงอรุณ

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 3:26 am

บทที่ 1 เสียงโทรศัพทยามรุงอรุณ


ตอนที่ 1

วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลาตีหา ทองฟาในมหานครนิวยอรกกําลังจะสวาง ดวงดาวคอยๆ ลับขอบฟา ทองฟาเปน สีครามและเงียบสงัด มีพยากรณอากาศวา วันนี้มีอุณภูมิโดยเฉลี่ย 23 องศาเซลเซียส ระดับความชื้น 78% นับเปน วันที่มีอากาศแจมใสวันหนึ่ง ลมในฤดูในไมรวงพัดปะทะเบาๆ กับใบหนา ชวงรุงสางเปนชวงที่มหานครนิวยอรก เงียบสงัดที่สุด ลมในชวงรุงสางพัดผานใบไมไป ทําใหไดยินเสียงนกรองในสวนสาธารณะ
หากเปนเมื่อ 5 ปกอน นี้ ยังสามารถขึ้นไปยืนอยูตึกที่สูงที่สุดของมหานครนิวยอรกได นั่นคือ ตึกเวิลดเทรดเซ็นเตอร ที่ซึ่งสามารถชม ทิวทัศนของฤดูใบไมรวงในสวนสาธารณะได
ปจจุบันนี้ สถานที่ที่นั้นเหลือเพียงแตหลุมใหญๆ 2 หลุม และปาย รําลึกที่สลักชื่อผูเสียชีวิต พรอมทั้งมีรั้วเหล็กกั้นไว เมื่อ 2-3 วันกอนที่นี่เพิ่งจัดงานรําลึกครบรอบ 5 ปของ เหตุการณ 9/11 ประธานาธิบดีบุชและภรรยาไดมาวางชอดอกไมดวยตนเอง คนจํานวนไมนอยจุดเทียนเพื่อรําลึก ถึงวิญญาณผูเสียชีวิต ปจจุบันนี้บนรั้วเหล็กที่กั้นสิ่งปรักหักพังของตึกเวิลดเทรดนั้นเต็มไปด วยดอกไมและธงชาติ สหรัฐฯ จํานวนมาก ตามแผนงานของมหานครนิวยอรก
หลังจาก 3 เดือน อเมริกาจะกอสราง “ตึกแหงเสรีภาพ” บนพื้นที่ของตึกเวิลดเทรดเดิม แตทวา หากไมเปลี่ยนแปลงความเคยชินที่ใชความรุนแรงและอาวุธแกไขปญหา มนุษยชาติก็ไมอาจมีเสรีภาพตลอดไป ความเจ็บปวดของมนุษยก็ไมมีทางสิ้นสุด

ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งมีอายุ 57 ป ณ ขณะนั้น กําลังนอนในหองเพรสซิเดนทเชี่ยลสวีทของ โรงแรมแกรนดไฮแอทนิวยอรก มานสีทึบกั้นหนาตางในหองทําใหแสงสวางของอรุณรุงไมสามารถเล็ดลอดเขา มาในหองนอนได ในหองเงียบสงัดจนไดยินเสียงหายใจเบาๆ ของคนที่กําลังหลับ เขานอนไมหลับพลิกตัว กลับไปกลับมา หัวคิ้วที่ขมวดอยูเผยใหเห็นรองรอยของความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยลามานาน ศีรษะกวางและใหญ รอยยนปรากฏเปนริ้วๆ ขอบใตตาดําคล้ํา มีถุงใตตาอยางชัดเจน รูปหนาทรงกลม/เหลี่ยม อาจเปนเพราะความขาว หมดจดของใบหนาจึง ทําใหดูเหมือนอายุยังไมมากนัก แตเมื่อดูโดยรวมแลว นี่เปนใบหนาที่บงบอกถึงความเหน็ดเหนื่อยตรากตรํา

หลังจากเกิดเรื่อง “รถวางระเบิด” เมื่อสองสัปดาหกอน ซึ่งเปนเรื่องที่พูดกันสับสนไปหมด ตั้งแต นั้นมา
เขาก็นอนอยางไมสบายใจ ทั้งกลางวันและกลางคืน เขาถูกลอมรอบไปดวยภัยคุกคามที่อาจรูไดวาจะมาจากไหน
ศัตรูที่ซอนตัวอยูในความมืดฉับพลันก็ออกมาสรางความตกใจใหกับเขา หลังจากเกิดเหตุการณดังกลาว

เขาไดกลาววา วันนั้นเปนวันที่เขารูสึกเครียดมากที่สุดตั้งแตรับตําแหนงนายกรัฐมนตรีมา และมันยังนากลัวกวาเมื่อ เทียบกับเรื่องที่เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงตอจากนี้

ตอนเชาของวันที่ 24 สิงหาคม 2549 ฝายตํารวจของไทยประกาศวา
พบรถยนตบรรทุกวัตถุระเบิดน้ําหนัก 67 กิโลกรัม บริเวณใตทางดวนแหงหนึ่งซึ่งมีระยะ 1 กิโลเมตรใกลกับที่พักของนายกรัฐมนตรีบริเวณเขตปริมณฑล เปนระเบิดทีเอ็นทีที่มีน้ําหนัก 5 กิโลกรัม และยังพบน้ํามันเบนซินผสมกับปุยซึ่งบรรจุในถุงจํานวนกวา 10 ถุง นอกจากนี้ยังมีระเบิดซีโฟร 3 ลูก รวมทั้งระเบิดพลาสติกจํานวนหนึ่ง และสายชนวนและทอนํา ฝายตํารวจกลาววา วัตถุระเบิดเหลานี้ซุกซอนอยูในสวนตางๆ ของรถ และติดตั้งติดกับรถมาอยางดี นอกจากนี้ตัวรถยังติดตั้ง remote sensing ดวย ซึ่งเพียงแคกลุมผูกอการรายกดปุมควบคุมในระยะไกล พลังของระเบิดก็จะสามารถทําลายสิ่งปลูก สรางในรัศมีหนึ่งกิโลเมตรใหกลายเปนผุยผงได ไมตองสงสัยเลยแมแตนิดวา
ระเบิดนี้มุงทํารายทักษิณ ตําแหนงที่รถจอด อยูก็เปนถนนสายที่ขบวนรถของนายกรัฐมนตรีจะตองผานทุกวัน เวลาก็ประจวบเหมาะพอดี 9 โมงซึ่งเปน เวลาที่นายกรัฐมนตรีมาทํางานที่ทําเนียบรัฐบาล

นายสุรพงษ สืบวงศลี โฆษกรัฐบาลออกมากลาวในงานแถลงขาว วา

“ในตอนนั้นลูกระเบิดไดเตรียมการไวอยางดีและพรอมที่จะระเบิด สายนําไฟฟาถูกเชื่อมตอกับทอลําเลียง และ ยังใชถุงทราย 7 ถุงเพื่อบังคับทิศทางระเบิด และรับประกันวาระเบิดจะตองมุงทิศทางไปยังขบวนรถของ นายกรัฐมนตรีแนนอน”

ตํารวจไดควบคุมตัวรอยโทธวัชชัย กลิ่นชนะซึ่งเปนผูขับรถยนตคนดังกลาวไดที่เกิดเหตุ และไดขับรถไปใตทาง ดวนนั้น แตวา ผูตองสงสัยปฏิเสธความผิด นายธวัชชัยยืนยันวา ตนไมทราบแผนการลอบสังหารนายกรัฐมนตรี เลย และไมรูดวยวามีระเบิดติดตั้งในรถคันดังกลาว สําหรับชื่อของระเบิดซีโฟรและทีเอ็นที ตนก็แทบจะไมเคย รูจัก แคมีเพื่อนหนึ่งฝากใหเขาขับรถคนนี้ไปที่ที่ใกลกับบานพักของนายกรัฐมนตรี เขาจึง “ทําตามอยางงงๆ” ขอแกตัวนี้เห็นไดชัดวาไมสามารถเชื่อถือได เนื่องจากเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีกลาววา เมื่อ 2-3 เดือนกอน
เห็นรถยนตสีเทาเงินคันหนึ่งตามขบวนรถนายกรัฐมนตรีอยางลับๆ ลอๆ และสามวันกอนเกิด เรื่อง รถยนตคันนี้ก็ขับกลับไปกลับมาและมีทาทางนาสงสัยบนถนนใกลกับบานพักของ นายกรัฐมนตรี และเชาตรู ของวันนั้น เมื่อเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยพบเห็นรถคันดังกลาวกําลังกลับรถไปมา จึงรีบแจงตํารวจทันที หลังจากที่ทักษิณรอดตายจากภัยนี้แลว ทักษิณก็ไดกลาวที่ทําเนียบรัฐบาลซึ่งรักษาความปลอดภัยอยางเขมงวดวา ในวันนั้นตนเคราะหดีที่สามารถรอดจากประตูนรกนั้นได สาเหตุสําคัญก็คือ ไดรับแจงจากสํานักขาวกรองไดทันเวลา
จึงไดออกจากที่พักกอนหนานั้น 1 ชั่วโมง ทักษิณยังบอกอีกวา เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยไดรูถึง
แผนการชั่วรายที่จะสังหารนายกรัฐมนตรีหลายครั้งในระยะ 2-3 เดือนนี้

สําหรับการบงการเบื้องหลังเหตุการณ ลอบสังหารนี้ ทักษิณเชื่อวาอยางนอยมีผูที่เกี่ยวของ 4 คน โดยเปนนายทหารระดับสูงทั้งยังอยูในตําแหนงและ เกษียณแลว แตความจริงจะเปนใครนั้น ยังไมสะดวกที่จะเปดเผย เพื่อความปลอดภัย ทักษิณไดยกเลิกกําหนดการตางๆ ในชวงบายวันนั้น เชน
การพบปะกับนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
กําหนดการเดินทางไปตรวจเยี่ยมภัยน้ําทวมในภาคเหนือก็ถูกเลื่อน ออกไป เมื่อสมาชิกพรรคไทยรักไทยมาใหกําลังใจทักษิณนั้นเขาไดบอกกับสมาชิกพรรควา ตอนนี้เขาเองยังเอาตัวไมรอด เกรงวาจะไมสามารถออกสูเวทีสาธารณะ
เพื่อรณรงคหาเสียงเลือกตั้งที่จะมาถึงได เขาเรงเพิ่มกําลังหนวย รักษาความปลอดภัยถึง 30 คน และจัดเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยจํานวนกวา 10 คนดูแลภรรยาและลูกของตน นี่ไมใชครั้งแรกที่ทักษิณเอาชีวิตรอดมาได ยอนกลับไปเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2544 เมื่อเขาไดดํารงตําแหนง นายกรัฐมนตรีเพียง 25 วัน เขาก็ไดรับรูรสชาติของการถูกลอบสังหาร ในวันนั้น เครื่องบินโบอิ้ง 747 ลําหนึ่งของ การบินไทยซึ่งบรรทุกผูโดยสารจํานวน 129 คน เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดเชียงใหม ผูโดยสารบนเครื่อง ซึ่งรวมทั้งทักษิณที่เพิ่งไดรับตําแหนงนายกรัฐมนตรีพรอมดวยลูกชาย รวมทั้งขาราชการจํานวน 20 คน เตรียมพรอมขึ้นเครื่อง วินาทีที่เครื่องบินเตรียมทะยานขึ้นสูทองฟานั้น
ที่นั่งชั้นหนึ่งหมายเลข 11A ที่เขาไดจองไว เกิดระเบิดขึ้นกะทันหัน ผูโดยสารที่อยูบริเวณรอบๆ ที่นั่งนั้นไดรับบาดเจ็บจํานวนมาก แตที่โชคดีก็คือ ที่นั่งนี้ไมมี ใครนั่งอยูในตอนนั้น ทักษิณผูซึ่งตรงตอเวลามาโดยตลอดตัดสินใจที่จะรอลูกชายซึ่งก็คือ นายพานทองแท ที่มาถึงชา วันนั้นลูกชายก็ไมทราบสาเหตุวาทําไมถึงมาชา 25 นาที
แตในที่สุดก็ไดชวยชีวิตพอของตนไวได ฝายทหารและตํารวจไดพบระเบิดฟอสฟอรัสขาวชนิดหนึ่งในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยระเบิดไดถูกติดตั้งไวใตที่นั่ง ของนายกรัฐมนตรีและลูกชาย ทั้งเวลาและสถานที่ชัดเจนเชนนี้จึงทําใหเกิดความคลางแคลงสงสัยวา มันเปนการ กระทําของ “หนอนบอนไส” อยางไรก็ตาม ทักษิณเปนนายกรัฐมนตรีไมถึง 1 เดือน สํานักขาวกรองแหงชาติยังไมไดรับแจงมากอนวากลุม อํานาจใดตองการทํารายทักษิณ ตํารวจสันนิษฐานวา ผูอยูเบื้องหลังการลอบสังหารอาจจะเปนผูคายาเสพติดใน ประเทศพมาและบริเวณสามเหลี่ยมทองคํา
เนื่องจากทักษิณมาเปนนายกรัฐมนตรีไมนานก็ไดประกาศวา งาน สําคัญของรัฐบาลใหมในอีก 4 ปขางนี้คือ
“ปราบปรามการคายาเสพติดใหหมดสิ้น” ดวยเหตุนี้ ทักษิณจึงพบปะกับ เจาหนาที่ระดับสูงของหนวยงานตางๆ
เพื่อเสนอวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการกวาดลางยาเสพติด ทาทีเชนนี้ของ
ทักษิณทําใหพวกคายาเสพติดเกลียดเขาเขากระดูกดํา 2 ปตอมา ก็มีขาวอันนาสะพรึงกลัวออกมาจากนอกประเทศ
วา พวกคายาเสพติดไดตั้งเงินรางวัลจํานวน 2 ลานดอลลารสหรัฐ แกมือปนที่สามารถฆาตัดหัวทักษิณได
และยังมี รายงานขาวอยางเปนตุเปนตะวา ขาวกรองที่สําคัญนี้ไดถูกสง มาถึงกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ. รมน.) และสํานักขาวกรอง โดยเจาหนาที่จากสถานทูตสหรัฐฯ ประจําประเทศไทย ผูที่ไดชวยชีวิตทักษิณคือชาว อเมริกันจริงหรือ รัฐบาลไทยปดปากเงียบไมพูดสักคํา รัฐมนตรีวาการกระทรวงกลาโหมพูดแตเพียงวา “มืดมีด ชาวตางชาติที่วางแผนมุงรายลอบสังหารทักษิณยังไมไดเขาประเทศไทย” ภาพอันนาสยดสยองของการเสียชีวิตของพวกคายาเสพติดที่มีมาอยางตอเนื่อง ทักษิณไดแสดงวาตนไมสะทก สะทาน เขากลาววาตนจะไมประนีประนอม เพราะ “เรามีการเตรียมพรอมปองกันไวแตแรกแลว ดังนั้น ผมเองไม หวงเลยแมแตนิด” หนึ่งในมาตรการเตรียมพรอมปองกันก็คือ เวลาออกเดินทางจะไมใชรถยนตที่หรูหรา แตจะ เปลี่ยนมาใชรถยนต กันกระสุน ทําเนียบรัฐบาลไดจัดซื้อรถยนตซึ่งภายนอกเหมือนกันทุกอยางจํานวนหลายคัน เลขทะเบียนรถของรถทุกคันก็เปนเลขเดียวกัน คนภายนอกก็ไมสามารถมองเห็นภายในของรถได อยางไรก็ตาม เจาหนาที่ตํารวจก็ยังไมกลาวางใจ จึงสงเจาหนาที่ตํารวจจํานวนกวา 1,000 นาย คอยอารักขาทักษิณเมื่อตองออกไป ประชุมหรือเปดตัวสูสาธารณะขางนอก แตทวา ภัยคุกคามเหลานี้ยังไมสามารถเทียบไดกับภัยอันตรายที่ไดรับครั้งนี้ สถานการณประเทศไทยในปจจุบัน เหมือนกับหมอตมน้ําที่กําลังเดือดปุดๆ บนเตาไฟ ภายในหมอเต็มไปดวยความอาฆาตแคนและความโกรธ คนที่ ตองการกําจัดเขาไมเพียงแตพวกคายาเสพติดนอกประเทศ แตยังมีกลุมพลังอํานาจไมวาจะพลังมืดหรือสวางที่ คัดคานการบริหารประเทศของเขาในชวงระยะกวา 5 ปที่ผานมา หากจะบอกวา ทักษิณกําลังนั่งอยูบนระเบิดที่ จวนจะระเบิดก็คงไมเกินความเปนจริงแมแตนิด 3


แก้ไขล่าสุดโดย dimistry เมื่อ Sat Apr 03, 2010 8:59 am, ทั้งหมด 6 ครั้ง
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 1 เสียงโทรศัพทยามรุงอรุณ

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 3:27 am

ตอนที่ 2

“คดีขายหุน” เปนมูลเหตุที่จุดชนวนใหเกิดวิกฤตการบริหารประเทศของทักษิณเมื่อตอนตนป วันที่ 23 มกราคม 2549 ลูกชายและลูกสาวของทักษิณ คือ นายพานทองแทและนางสาวพิณทองธา ไดนําหุนรอยละ 49.6 ซึ่งคิดเปน มูลคา 1,870 ลานดลลารสหรัฐ ของบริษัทชินคอรป (Shin Corp) ซึ่งเปนบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญอันดับหนึ่งของ ไทย ขายใหกับวิสาหกิจของสิงคโปรที่ชื่อเทมาเส็ก (Temasek) ตามกฎหมายของไทยที่ออกมาใหมวาดวยสัดสวน การถือครองหุนในธุรกิจโทรคมนาคมของเงินทุนตางชาตินั้น รายไดซึ่งมาจากการซื้อขายหุนที่ดําเนินการในนาม ของบุคคลธรรมดาจะสามารถเลี่ยงชําระภาษีได ดังนั้นการที่ลูกชายและลูกสาวของทักษิณซื้อขายหุนของตน ในทางกฎหมายก็ไมตองจายภาษี แตหากวาการซื้อขายหุนกระทําในนามของบริษัท ก็จําเปนที่ตองจายภาษีเปน จํานวนเงินประมาณ 450 ลานดอลลารสหรัฐ หลังจากที่เรื่องนี้ถูกสื่อมวลชนประโคมขาวออกมาเรื่องก็บานปลายขึ้น ผูคนตางกลาวหาครอบครัวทักษิณวาสราง แบบอยางการไมชําระภาษีใหกับประชาชน และหลีกเลี่ยงภาษี “เขาควรจะเปนตัวอยางที่ดีใหกับประชาชน แตเขา กลับไมเปน” ยังมีคนที่สงสัยทักษิณวา การที่เขาขายธุรกิจโทรคมนาคมซึ่งเปนเปนธุรกิจที่มีความสําคัญดาน ยุทธศาสตรของชาติใหกับบริษัทตางชาติ ทําใหสิงคโปรมีอิทธิพลเหนือธุรกิจโทรคมนาคมของไทย ซึ่งถือเปนการ คุกคามตอความมั่นคงของชาติ “เขาเลวยิ่งกวาซัดดัมจริงๆ” “เผด็จการอยางซัดดัม แมวาจะโหดรายทารุณ แตยัง รูจักใชอํานาจบาตรใหญนั้นทําสงครามเพื่อรักษาอํานาจอธิปไตยของประเทศตน” แตทักษิณกลับ “ขาย ผลประโยชนของชาติเพื่อผลประโยชนของครอบครัว” ชาวกรุงเทพฯ เริ่มเดินขบวนบนประทวงบนทองถนนเพื่อ “โคนลมทักษิณ” คนเดินขบวนคอยๆ เพิ่มขึ้นจากสอง พันคน เปนสองหมื่น และกลายเปนแสนกวาคน ในตอนแรกทักษิณไมไดตระหนักถึงความรุนแรงของปญหานี้ จากเศรษฐีที่ร่ํารวยไดผลิกผันตัวเองเขาสูเวทีการเมืองเปนตนมา เนื่องจากเขาร่ํารวยมหาศาล และมีผลประโยชน ทางธุรกิจซึ่งโยงใยสลับซับซอนจึงทําใหคนอิจฉาริษยา และฟองรองเขาตอศาลในหลายคดี ทักษิณไดอธิบายการ ซื้อขายครั้งนี้วา “การกระทําทางธุรกิจทั้งหมดนี้ลวนแลวแตโปรงใส ชอบดวยกฎหมายและไมใชปญหาการขาย ผลประโยชนของประเทศ...พวกลูกๆ ไดชวยผมตัดสินใจ เพียงเพราะหวังวาผมจะสามารถมุงทํางานดานการเมือง ได” สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพย (SEC) ไดตัดสินการซื้อขายหุนครั้งนี้วา “ไมผิด กฎหมาย” “แมวาในรายงานการซื้อขายหุนของนายพานทองแทที่นําสงคณะกรรมการกํากับ หลักทรัพยและตลาด หลักทรัพยจะเกิดขอผิดพลาดอยูบาง แตก็ไมไดเปนปญหารายแรง” หลังจากนั้น ศาลรัฐธรรมนูญไดตีกลับคําขอ ของสมาชิกวุฒิสภา 28 คนที่ขอใหดําเนินการตรวจสอบการซื้อขายทางธุรกิจของทักษิณตามกฎหมาย โดยให เหตุผลวา “คํายื่นอุทธรณคลุมเคลือไมชัดเจน” คําบอกเลาของทักษิณ หุนเปนของลูกๆ ผมตามกฎหมาย พวกเขาอายุ 20 ปเต็มแลว ซึ่งสามารถเปนผูถือหุนได แตวาไมวาลูกผมจะขายบริษัท ใหใคร เพียงแคเงินเขากระเปาครอบครัวเรา พวกพรรคการเมืองฝายคานก็ตองไมวางใจ และยังมีคนที่ไม อยากเห็นผมอยูในตําแหนงนี้ตอไปที่คอยหาโอกาสหาเรื่องผม พวกลูกผมชาเร็วจะตองขายบริษัทนี้ เนื่องจาก อนาคตของธุรกิจโทรคมนาคมขึ้นอยูกับรัฐบาล สองคือ ตองใชเงินลงทุนไปกับเทคโนโลยีใหมๆ มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้คาใชจายยังมหาศาลอีกดวย พวกเราไมคิดจะทําตอแลว แคคิดจะขายเทานั้น สวนหุนที่เราขายไปนั้น เปนเพียงหุนธรรมดาๆ ผูที่ถือหุนธรรมดามีวิธีไดเงินเพียง 2 วิธี คือ หนึ่ง รอเงินปนผล สอง คือ ขายหุนใหคนอื่น การซื้อขายหุนครั้งนี้ใสสะอาดอยางยิ่ง การกระทําของเราทั้งหมดลวนชอบดวยกฎหมาย มีการเจรจากับหลาย บริษัท ไมเฉพาะแตเพียงบริษัทของสิงคโปรเพียงบริษัทเดียว เราขายหุนใหกับสิงคโปร แตวาพนักงานและ ผูบริหารของบริษัทปจจุบันก็ยังเปนคนไทย ดานสิงคโปรไดแตสงฝายการเงินเขามาบริหารเทานั้น และมิใชการ ปญหาการขายผลประโยชนของประเทศ ทักษิณโลงอกไปเปราะหนึ่ง แตวาเขาก็พบวา ประเด็นรอนที่ผูคนพากันถกเถียงกลับไมใชเรื่องการขายหุนวา “ผิด กฎหมายหรือไม” แตเปนเรื่อง “มีคุณธรรมหรือไม” พลตรีจําลอง ศรีเมือง ผูนา “พันธมิตรประชาชนเพื่อ ํ ประชาธิปไตย” ซึ่งเปนแนวรวมตอตานรัฐบาล ไดกลาววา “แมวาโดยสวนตัวของทักษิณจะไมมีที่ที่จะใหถูก ประณามในทางกฎหมายได แตในดานคุณธรรมแลวไมสามารถรับได เราควรปฏิบัติตามคุณธรรม เพราะคุณธรรม สําคัญกวากฎหมายและบรรทัดฐาน โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี สมมุติวาเขาเปนคนธรรมดาก็แลวไป แตเพราะเขา เปนนายกรัฐมนตรีจึงจําเปนตองลาออก” ทักษิณปฏิเสธที่จะลาออก เขามีทาทีแข็งกราว “ยังไงก็จะไมลาออกเพียงเพราะเปนผลประโยชนสวนตัวของ นักการเมืองสวนหนึ่งและเปาหมายทางการเมือง และก็จะไมยอมแพคนสวนเดียวที่ไมตองการผม” ทักษิณตอบโต ผูชุมนุมประทวงวา “รัฐบาลตามกฎหมายจะถูกทําลายโดยผูนํากลุมผูประทวงจนทําใหไมสามารถที่ จะอยูตอไปได ผมจะไมใหเหตุการณนี้เกิดขึ้น มีแตคนโงเทานั้นที่เชื่อวาผูที่ยินดีเปนนายกรัฐมนตรีจะกระทําความผิด คนไทย จําเปนตองเรียนรูที่จะเคารพกฎหมาย” แตวาขาวลือและถอยคําใสรายที่วา นายกรัฐมนตรีเกี่ยวของกับการ คอรรัปชั่น เปนเผด็จการ และใชอํานาจเอื้อผลประโชยนสวนตัว รวมไปถึงขาวลือตางๆ ที่โจมตีตัวบุคคล ก็แพร สะพัดไปตามถนนตรอกซอกซอยของกรุงเทพฯ กลุมผูชุมนุมประทวงมาสมทบอยางไมขาดสายกอใหเกิดความไร ระเบียบ สรางความปนปวนใหกับเศรษฐกิจ หุนเริ่มตก คาเงินบาทเริ่มตก แมกระทั่งผูนําธุรกิจที่อยูวงนอกก็เริ่ม บนวา “การชุมนุมบนทองถนนจะทําใหนักลงทุนหนีกันไปหมด” เมื่อรัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีและ สารสนเทศและรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ประกาศลาออกอยางเปดเผยเพื่อแสดงรับผิดชอบตอ “คุณธรรมทาง การเมือง” คําพูดที่วา “ผูชุมนุมประทวงไมนากลัว” จึงเปนคําพูดที่ทักษิณตองเก็บกลับมาคิดใหมเพื่อเริ่มหาทาง แกไขปญหาอยางจริงจัง วันที่ 24 กุมภาพันธ ทักษิณก็ประกาศยุบสภาอยางฉับพลัน และจะใหมีการเลือกตั้งกอนเดือนเมษายน โฆษก รัฐบาลแถลงวา “หลังจากที่ประชาชนตางไดยินที่ไดเห็นการเดินขบวนประทวงตามทองถนน ก็ใหประชาชน ตัดสินใจดวยตนเองอีกครั้งเพื่อใหเราเห็นวา ประชาชนเชื่อใครกันแน หากประชาชนไมเลือกพรรคไทยรักไทย ทักษิณบอกวา เขาจะลาออกจากตําแหนงนายกรัฐมนตรี” ขอเสนอ นี้ถูกพรรคฝายคานคัดคานอยางรุนแรง โดยพรรคประชาธิปตย พรรคชาติไทย พรรคมหาชน สามพรรค รวมมือกันคัดคานการเลือกตั้ง พวกเขามองวา นี่เปน “กลเลหเพทุบาย” ของทักษิณ เนื่องจากโอกาสที่พรรคไทยรัก ไทยจะไดรับเลือกมีมาก พรรคไทยรักไทยเปนพรรคที่ทักษิณกอตั้งดวยมือของเขาเอง ในการเลือกตั้งปที่แลว พรรคไทยรักไทยไดที่นั่งในสภามากที่สุดในประวัติศาสตร คือ รอยละ 76 กลายเปนพรรคการเมืองพรรคแรกที่เขา มาบริหารประเทศเพียงพรรคเดียวในประวัติศาสตร 73 ปของการปกครองอันมีสถาบันพระมหากษัตริยอยูภายใต รัฐธรรมนูญ ดังนั้น เมื่อเขาสูสนามการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็เทากับตนยอมแพ หลังการเลือกตั้ง ทักษิณก็จะนั่งใน ตําแหนงนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง การเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน ปรากฏวา 278 เขตจากทั้งหมด 500 เขต มีเฉพาะผูสมัครรับเลือกตั้งจากพรรคไทย รักไทยเทานั้น ไมมีผูสมัครจากพรรคอื่น สภาวะการณที่พรรคไทยรักไทยลงเลนอยูพรรคเดียว จึงชนะการเลือกตั้ง ฝายคานก็ออกมาพูดวา“ ไมวาผลจะออกมาเปนอยางไร เราจะคัดคานอยางนี้ตอไป จนกวาทักษิณจะลาออก” วันที่ 4 เมษายน ทักษิณออกมาประกาศลาออก ซึ่งกอนหนานี้ 1 วัน ทักษิณไดออกมาพูดใหประชาชนยอมรับการ เลือกตั้ง แตแลวกลับเกิดการเปลี่ยนแปลงดั่งนิยาย ภายนอกประเทศคาดเดากันวา คงจะมีสวนเกี่ยวของกับพระ บรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ ผูทรงมีคุณธรรมและพระบารมีอันสูงสง ทักษิณพูดออก โทรทัศนวา “ การที่ผมตัดสินใจลาออกครั้งนี้ เพราะวาปนี้เปนปที่มีความสําคัญยิ่งของพระบาทสมเด็จพระ เจาอยูหัว ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 60 กวาวันที่จะถึงงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ป...เราไมมีเวลา ทะเลาะกันแลว หากทุกคนยังทะเลาะกันอยู ผูที่แพก็คือประเทศ...” ทักษิณประกาศวา เขาจะมอบอํานาจใหกับ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย รองนายกรัฐมนตรี สวนตัวเองจะขอพัก มีการกลาวกันวา คณะรัฐมนตรีหลายคนและ ผูบริหารระดับสูงของพรรคที่ติดตามสถานการณนี้ ก็ปลอยโฮออกมาเมื่อตอนที่ทักษิณประกาศลาออก ทักษิณ พรอมดวยภรรยาและลูกตางก็กอดคอกันรองไห สองวันตอมา รถกระบะคันหนึ่งมาเก็บของใชสวนตัวของทักษิณที่ตึกทําเนียบรัฐบาล หลังจากนั้นก็มีคนเห็น ทักษิณกําลังจูงมือลูกสาวเดินชอปปงที่หางสรรพสินคาเกสรพลาซา เขาใหสัมภาษณนักขาววา “ผมตกงานแลว อยามาตามผมอีกเลย ไปขุดคุยขาวใหมจากนักการเมืองจะคุมคากวา” และยังมีคนเห็นเขานั่งดื่มกาแฟที่โรงแรม แหงหนึ่งในกรุงเทพฯ มีเด็กสองคนจําเขาได จึงหยิบสมุดใหเขาเซ็นชื่อ เขาเขียนวา “หวังวาเมื่อพวกหนูโตขึ้นจะ กลายเปนผูมีความรูความสามารถที่สรางคุณประโยชน” นอกจากนี้ เขายังนัดกับบุคคลในคณะรัฐมนตรีเพื่อตี กอลฟ เมื่อเขาตีกอลฟออกไปไดสวย เขาก็บอกวา “วินาทีนี้เปนวินาทีที่รูสึกปลอดโปรงที่สุดใน 5 ปที่ผานมา” ดูไปแลว ทักษิณคิดที่จะออกจากเวทีการเมือง แตหลังจากนั้น 48 วัน เขาก็ขึ้นรถเมอซิเดสเบนซ S600 กลับมาที่ ทําเนียบรัฐบาล เหตุผลก็คือ ในชวงที่เขาพักรอน ศาลรัฐธรรมนูญไดตัดสินใหผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายนเปน โมฆะ เหตุผลก็คือ การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดการทุจริต เชน กลองใสบัตรเลือกตั้งวางหันทิศทางที่ผิดกฎ ดังนั้น คํา สัญญาของทักษิณที่วา เขาจะ “ไมรับตําแหนงนายกรัฐมนตรี” ก็มีอันตองหมดความหมายไป ประกอบกับ ภาคเหนือเกิดน้ําทวมใหญ งานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ก็ กําลังเขามาถึง เขาจึงไมสามารถปลอยใหตําแหนงนายกรัฐมนตรีวางอยู เขาจึงจําเปนตองกลับมาทํางานตอไปเพื่อ ประโยชนของประเทศชาติจนถึงชวงที่จะมีนายกรัฐมนตรีคนใหมหลังการเลือกตั้ง ในเดือนตุลาคม แตทวา สามวันตอมา เขาไดรับการเตือนจากนายไพโรจน วงศวิภานนทซึ่งเปนนักวิชาการที่มีชื่อเสียงของไทย วา “ ใหระวังถูก ลอบสังหาร อยาคิดวาการลอบสังหารจะไมเกิดในประเทศไทย” คําเตือนนี้ในที่สุดแลวไมใชแคพูดการพูดลอยๆ 7


แก้ไขล่าสุดโดย dimistry เมื่อ Sat Apr 03, 2010 3:43 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 1 เสียงโทรศัพทยามรุงอรุณ

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 3:31 am

ตอนที่ 3
ฝายทหารก็ไดรูฐานะที่แทจริงของรอยโทธวัชชัย กลิ่นชนะ นักโทษผูตองสงสัย เขาสังกัดกองอํานวยการรักษา ความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และเปนคนขับรถของพลเอกพัลลภ ปนมณี รองผูอํานวยการ กอ.รมน. จากนั้นพล เอกพัลลภจึงถูกสอบสวน เขาบอกวา เขาถูกใสราย คนขับรถของเขาไดลาออกเมื่อ 3 เดือนกอน โดยบอกวาจะไป ทํางานที่ภาคใต และเขาไมทราบขอเท็จจริงของการกระทําที่บาคลั่งเชนนี้ของลูกนอง และหากวารอยโทธวัชชัยจะ สังหารทักษิณจริง “ทําไมถึงขับรถผานหนาที่พักของทักษิณหลายครั้ง โดยไมไดจุดระเบิด” ดังนั้น “ ผมเห็นวานี่ เปนเรื่องที่ทักษิณสรางขึ้น” โดยมีจุดประสงคเพื่อกําจัดผม.....หากผมคิดจะฆาเขา ผมจะทําใหแนบเนียนกวานี้..... อยาลืมวาผมเคยเปนผูนําหนวยลอบสังหาร หากผมคิดจะสังหารทักษิณจริงๆ เขาอาจจะหนีไมรอดแน” คําพูดนี้ไมไดเปนเท็จ พลเอกพัลลภ ปนมณี เปนบุคคลทางทหารที่แปลกประหลาดคนหนึ่งของไทย ตอนที่เขาเพิ่ง จะจบการศึกษาจากโรงเรียนนายทหาร ก็ไดเขารวมในหนวยจูโจมลอบสังหาร และมีสวนในการลอบสังหาร นักการเมืองที่ประวัติไมดี เมื่อทศวรรษที่ 1980 เขาเคยเขารวมการรัฐประหารที่แทงกอนเกิดซึ่งกอการโดยกลุม ยังเติรกจนถูกจับ และหลังจากออกจากคุก เขาก็กลับมามีอํานาจอีกครั้ง และตั้งแตป 2539 เขาก็ไดเขาเขาสู กองทัพบกและอยูจนเกษียณ พลเอกพัลลภมีอุปนิสัยโหดเหี้ยม เมื่อเดือนเมษายน ป 2547 ขณะที่เขาดํารงตําแหนง ผูดูแลดาน ยุทธศาสตรการทหารในภาคใต เขาบัญชาการทหารอยางสุดโตงในการกวาดลางกลุมติดอาวุธมุสลิม ในมัสยึดเกรือเซะอันศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดปตตานี หลังจากฝนแหงกระสุนปนไดผานไป ปรากฏวามีชาวมุสลิม เสียชีวิต 32 คน เหตุการณนี้ในภายหลังถูกเรียกวา “เหตุการณเศราสลดที่มัสยิดเกรือเซะ” เหตุการณนี้ยังถูก ประนามทั้งในและนอกประเทศ เมื่อตนปนี้ พลเอกพัลลภอยูขางพลตรีจําลอง ศรีเมืองอยางเปดเผย ในขบวนการ “โคนลมทักษิณ” ซึ่งมีอานุภาพเกรียงไกร พลเอกพัลลภกลาววา “เปนเพื่อนรักและเปนเพื่อนนักเรียนโรงเรียน ทหารมาดวยกัน ยังไงผมตองสนับสนุนพลตรีจําลอง (ซึ่งขับไลทักษิณ) แนนอน” เขายังกลาวอีกวา “สถานการณ ของไทยยังไมนิ่ง และมีความเปนไปไดที่จะเกิดการรัฐประหาร” ขณะที่พลเอกพัลลภเรียกรองวาตนถูกใสรายอยูนั้น คนจํานวนมากเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่งกับ ”แผนการสังหาร นายกรัฐมนตรี” กลาวกันวา ตอนที่เจาหนาที่ตํารวจเรงตรวจคนบานของพลเอกพัลลภ ปรากฏวาไมพบสิ่งผิด กฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวของกับระเบิดดังกลาว นายอิทธิพลซึ่งเปนพี่ชายของผูตองสงสัยพูดดวยสีหนาตกตะลึงวา “ นายธวัชชัยเปนผูที่จงรักภักดีตอนายกทักษิณ เขาไมมีเจตนาที่จะสังหารทักษิณอยางแนนอน” ยังมีผูสงสัยวา หาก วา “รถวางระเบิด” เปนเรื่องนั้นจริงๆ แลวประชาชนที่อาศัยอยูใกลๆ ก็อาจจะชีวิตหาไมไปทั้งหมด โดยเฉพาะ ละแวกใกลๆ นั้นมีโรงเรียนอยูดวย แตวาในระหวางที่เจาหนาที่ตํารวจ “กูระเบิด” ก็ไมไดอพยพประชาชน โดยรอบออกไป อยางไรก็ตาม ก็ไดแจงสื่อมวลชนหลักใหเขามาทําขาวในที่เกิดเหตุ ฝายคานก็ยิ่งทําเรื่องนี้ใหเปนเรื่องใหญ โดยกลาววาทั้งหมดนี้ “แผนการทําลายตนเอง” ที่วางโดยทักษิณ เพื่อมุง เบี่ยงเบนความสนใจของผูคน และปดบังอําพรางการทุจริตคอรรัปชั่น ในคณะรัฐมนตรี และใหพลเอกพัลลภเปน “แพะรับบาป” ยังมีคนกลาวอีกวาคะแนนนิยมในการเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทยลดลง จึงใชเพทุบายเกาๆ ดั่ง เชนนายเฉิน สุยเปยนของไตหวัน การกระทําที่เรียกรองความสนใจจากประชาชนใน “คดีลอบยิง” ซึ่งเปนการ 8
# หลอกลวง ประชาชนเพื่อใหได “คะแนนเห็นใจ” สื่อของไทยบางสื่อก็สงสัยในเหตุการณนี้ หนังสือพิมพ ภาษาอังกฤษเดอะเนชั่น ไดวิจารณวา ทักษิณกลาววา เมื่อ 2-3 เดือนกอน เกิด “เหตุการณลอบสังหารที่ไมประสบความสําเร็จ” ที่มุงมายังเขาหลาย เหตุการณเพียงแตไมไดถูกเปดเผยออกมาเทานั้น ปญหานั้นไดมาถึงแลว หากเกิดภัยคุกคามถึงแกชีวิตเขาโดยที่ ประชาชนไมรูเรื่อง ทําไมนายกรัฐมนตรีจึงเลือกที่จะใหมีการเลือกตั้งในชวงนี้ (วันที่ 24 สิงหาคม เปนวันที่ พระราชบัญญัติที่พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ ทรงลงพระปรมาภิไธยมีผลบังคับใชวันแรก) และเปดเผยขาวที่ ละเอียดออนทางการเมืองตอประชาชน ? การเปลี่ยนแปลงของสถานการณดั่งเชนนิยายนี้ เห็นไดชัดวาจะ กอใหเกิดผลกระทบตอการเมืองระบอบประชาธิปไตยและการเลือกตั้งที่กําลังจะมา ถึงในวันที่ 15 ตุลาคม มีการพูดกันบอยครั้งวา เปาหมายของเหตุการณลอบสังหารที่ไมประสบความสําเร็จนี้ยิ่งขูขวัญมากขึ้น แตไมไดมุง เปาทําใหคนตาย นี่เปนเพทุบายที่เกิดอยางตอเนื่องในการเมืองไทย อํานาจทางการเมืองบางอยาง ครั้งแลวครั้งเลา ไดมาดวยการพลิกแพลงใชยุทธวิธีเพื่อใหชนะใจประชาชน พวกเขาก็จะสวมหนากากเปนผูถูกทําราย หรือใสราย ปายสีฝายตรงขาม หรือใชวิธีที่แยบยลเพื่อใหไดมาซึ่งเปาหมายทั้งสองประการ ทั้งหมดนี้ทําใหเราเขาใจแลววา การสอบสวนเรื่องเชนนี้มักจะสอบสวนเสร็จแลวก็แลวกันไป หนังสือพิมพก็เลิกพาดหัวขาวเกี่ยวกับเรื่องดังกลาว ภายในระยะเวลาอันสั้น การสอบสวนของเจาหนาที่ตํารวจก็ยุติลง ประชาชนก็ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นอยางรวดเร็ว เงื่อนงําของปญหาที่ไมไดรับการแกไขก็คอยๆ เลือนหายไปจากความทรงจําของผูคน วันที่ 25 สิงหาคม หนังสือพิมพบางกอกโพสต ไดลงบทความหัวขอ “แผนลอบวางระเบิดหรือการกุเรื่อง” โดยอาง ถึง คําพูดของอดีตผูรับผิดชอบของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) วา จริงๆ แลวแผนลอบวาง ระเบิดทั้งหมดเปนฝมือของรัฐบาลทักษิณซึ่งกําลังอยูในชวงวิกฤต ตองการเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชน ยิ่งกวานั้น ทักษิณสามารถประกาศสถานการณฉุกเฉินได ยังมีหนังสือพิมพฉบับหนึ่งซึ่งขี้นหัวขอขาวสะเทือน ขวัญวา “ทักษิณใชเงิน 20 ลานจงใจสรางปาหี่ทางการเมือง” 1 สัปดาหตอมา มหาวิทยาลัยกรุงเทพไดทําการ สํารวจความคิดเห็นประชาชน โดยประชาชนถึงรอยละ 49.8 ไมเชื่อวานี่เปนแผนลอบวางระเบิดนายกรัฐมนตรี และมีเพียงรอยละ 20.5 ที่เชื่อวานี่เปนแผนลอบสังหาร ความนาเชื่อถือของนายกรัฐมนตรีตกต่ําลงดวยเหตุนี้ และทําใหผูคนรูสึกเสียใจ หนึ่งปครึ่งตอมา ทักษิณยังไดรับ การสนับสนุนจากประชาชนใหดํารงตําแหนงนายกรัฐมนตรีตอ แตเพียง 2-3 เดือนตอมา เขาก็ถูกมองวาเปนคน หลอกลวง เปนนักวางแผน และเปนนักการเมืองที่ต่ําชา ทักษิณถูกกดดัน มีคนสงสัย และโจมตี โดยที่ประชาชน ไมสนใจวาเขาจะเปนจะตายอยางไร ตามรายงานขาว ลูกสาวของทักษิณ คือ นางสาวแพทองธาร ซึ่งกําลังเรียนอยู ที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยก็ไดรับความเดือดรอนไปดวย อาจารยซึ่งสอนวิชาการเมืองคนหนึ่งพูดตอหนานักศึกษา ในหองเรียนวา “ แพทองธาร เธอยังอยูที่นี่ไมยอมไปอีกเหรอ ? ฉันคิดวาเธอไสหัวไปแลวซะอีก! พอพูดถึงพอเธอ ฉันก็รูสึกขยะแขยง” แพทองธารก็โตกลับไปวา “ ก็แลวแตอาจารยจะพูด คงมีสักวันหนึ่งที่หนูพูดถึงอาจารย หนูก็ คงจะรูสึกขยะแขยงเหมือนกัน” เมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูทักษิณ เขาก็โกรธเปนฟนเปนไฟ เขากลาววา คิดไมถึงวาจะเกิด เรื่องแบบนี้ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดของไทย “ เอาความแตกตางทางความคิดทางการเมืองมาโจมตีคนใน ครอบครัวของนักการเมืองไดอยางไรกัน ! ” 9
# เชาของ วันที่ 28 สิงหาคม เจาหนาที่ตํารวจพบวัตถุตองสงสัยอีกครั้ง บริเวณที่ใกลกับที่พักของทักษิณ สืบทราบวา ชายคนหนึ่งขณะกําลังไปสงน้ําแข็งใหกับโรงแรมที่อยูใกลๆ ก็พบวัตถุตองสงสัยซึ่งมีลักษณะเปนหออยูริมถนน จึงรีบแจงเจาหนาที่ตํารวจ ตํารววจพบวา ภายในหอดังกลาวมีนาฬิกาปลุก 1 เรือน อิฐ 1 กอน สายไฟและถานเกาที่ ไมไดใชแลวจํานวนหนึ่ง รวมถึงกระดาษที่เขียนดวยลายมือวาตองการทํารายทักษิณ นี่ก็เปนพฤติกรรมขมขวัญอีก ครั้งหนึ่ง เจาหนาที่ตํารวจกลาววา “เปนการสรางสถานการณ เพื่อตองการใหบานเมืองวุนวาย” ตอมาวันที่ 4 กันยายน ตํารวจก็ออกหมายจับนายทหารจํานวน 4 นาย ในขอหามีสวนพัวพันกับแผนการลอบสังหารนายกรัฐน ตรี นายทหารทั้ง 4 นายนี้เปนทหารประจําการ โดยมียศเปนพลตรี 1 นาย พันเอก 1 นาย พันโท 1 นาย และ นายทหาร 1 นาย สามวันตอมา นายทหารผูตองสงสัย 3 นายถูกจับ แตทั้งสามนายก็ใหการปฏิเสธวามีสวน เกี่ยวของกับแผนการดังกลาว มีขาวลือวา เปนเวลานานมาแลวเมื่อทักษิณประสบกับเหตุการณที่ไมดี ก็มักจะใหนักโหราศาสตรทํานายดวงชะตา ให ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เขาประสบกับเหตุการณรายที่เอาชีวิตรอดมาได เขาจึงหวาดระแวงและรูสึกวากรุงเทพฯ เปนที่สถานที่ที่อันตรายอยางมาก เลากันวา หมอดูไดแนะนําทักษิณใหเปลี่ยนที่อยู “เดินทางไปตางจังหวัดเปนการ ชั่วคราว” แมวาทักษิณไมไดพิสูจนวาคําพูดนี้เปนจริง แตเขาก็รีบยายออกจากกรุงเทพฯ ไปตางจังหวัดอยาง รวดเร็ว ตอมาวันที่ 9 กันยายน เขาเดินทางโดยเครื่องบินพิเศษ “ไทยคูฟา” เดินทางเยือนประเทศฟนแลนด จากนั้น เดินทางตอไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อเขารวมการประชุมสหประชาชาติครั้งที่ 61 ซึงจัดขึ้นที่ มหานครนิวยอรค ใน ่ วันที่ 12 กันยายน10


แก้ไขล่าสุดโดย dimistry เมื่อ Sat Apr 03, 2010 3:43 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 1 เสียงโทรศัพทยามรุงอรุณ

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 3:34 am

ตอนที่ 4

ตอนนี้ทักษิณสามารถนอนหลับอยางสบายใจในมหานครนิวยอรคซึ่งเปนที่ที่ ปลอดภัย ผูนํารัฐบาลและประมุข ประเทศตางๆ กวา 80 ประเทศมารวมตัวกันที่การประชุมนี้ เจาหนาที่ขาวกรองของสหรัฐตางปฏิบัติงานอยาง เต็มที่ มีการวางกําลังรักษาความปลอดภัยอยางแนนหนาตามโรงแรมที่พักของคณะผูแทนจาก ประเทศตางๆ ไมมี แมกระทั่งการเดินขบวนตอตานรัฐบาล เขามีจิตใจแจมใสและปลอดโปรง อยางไรก็ตาม สถานการณ ภายในประเทศไทยยังคงวุนวาย ใน ระหวางการเยือนของเขา คณะกรรมการการเลือกตั้งไดประกาศอยางเปน ทางการวา จะเลื่อน การเลือกตั้งจากเดิมที่กําหนดไววันที่ 15 ตุลาคม อาจจะเลื่อนเปนวันที่ 19 หรือ 26 พฤศจิกายน กอนหนานี้ สมาชิกในคณะกรรมการการเลือกตั้ง 3 คน ถูกศาลอาญาตัดสินวาความผิดฐานมีสวนเกี่ยวของกับการ ทุจริตเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายน โดยเอื้อประโยชนใหกับผูสมัครรับเลือกตั้งพรรคไทยรักไทย ซึ่งถือเปนการ กระทําผิดกฎหมายเลือกตั้ง กรรมการฯ ทั้ง 3 คนถูกปลดออกจากตําแหนงและถูกจําคุก 4 ป สภาผูแทนราษฎรจึง ตองจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งอีกครั้ง ดวยเหตุนี้ การเลือกตั้งที่เดิมกําหนดไวเดือนตุลาคม จึงตอง เลื่อนออกไป นี่ไมใชขาวดี ทักษิณรูอยูแกใจ ความจริง การจัดการเลือกตั้งเดือนกันยายนจะสามารถจัดไดหรือไม นั้น ก็ไมมีใครคาดคะเนได ในระยะนี้เขามีความรูสึกไมคอยดีอยูตลอดเวลา สมองอันเหน็ดเหนื่อย แตก็มีสติอยูทุก วินาที ครุนคิดหาทางรับมืออยูตลอด กาวตอไปจะทําอยางไรดี ? จะเขาหรือออก ? ออกแลวจะเปนยังไง ? เขาแลว จะเปนยังไง ? การที่พรรคไทยรักไทยจะชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ไมมีเรื่องที่นาเปนหวงเทาใดนัก เรื่องนี้แมกระทั่งฝายคานยอมรู ดี เนื่องจาก ไมวาปญญาชนระดับหัวกะทิในกรุงเทพฯ จะรุมโจมตีแคไหน แตทักษิณและพรรคไทยรักไทยยังมี ฐานเสียงจากชนชั้นรากหญาในตางจังหวัดเปนจํานวนมหาศาล เรียกไดวา “รองตะโกนหนึ่งครั้ง มีเสียงตอบรับ เปนรอย” แมวาการเลือกตั้งในเดือนเมษายนจะเปนโมฆะ และรัฐบาลทักษิณมีขาวไมดีออกมาไมเวนแตละวันก็ ตาม พรรคไทยรักไทยก็ยังคงชนะการเลือกตั้งดวยคะแนนเสียงถึงรอยละ 57 ประเด็นก็ยอนกลับไปเหมือนกับที่ ผานมาก็คือ เพียงแคพรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้ง ไมวาทักษิณจะขึ้นมาเปนนายกรัฐมนตรีหรือไม ยอมตอง สงผลกระทบตอสถานการณทางการเมืองไมมากก็นอยเปนแน ยิ่งกวานั้น กอนหนานี้ 1 เดือน มีขาวออกมวา ทักษิณละจุดยืนเดิมที่จะ ” จะไมดํารงตําแหนงนายกรัฐมนตรี” และจะนําพรรคไทยรักไทยใหชนะการเลือกตั้ง สภาผูแทนราษฎร และพรอมดํารงตําแหนงนายกรัฐมนตรี ขาวนี้ทําใหฝายคานที่ตองการ “ขุดรากถอนโคน” รัฐบาลทักษิณถึงกับนั่งอยางไมเปนสุข ตอนบายของวันที่ 18 กันยายน ในระหวางที่ทักษิณกําลังกลาวสุนทรพจนที่คณะกรรมการความสัมพันธกับ ตางประเทศ (Council on Foreign Relations) ของสหรัฐอเมริกาอยูนั้น มีคนถามคําถามวา ทําไมคุณถึงไมตัดสินใจ ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งที่กําลังจะมาถึง ? มันสรางความวุยวายและยุงเหยิง เราอยาก ทราบเหตุผลที่คุณตัดสินใจชาเชนนี้ ? ทักษิณตอบวา ผมไมไดตัดสิน เพราะผมเองก็ยังสับสน (ผูฟงหัวเราะ) บางครั้งผมรูสึกวาผมควรเสียสละ ฝายคานรูวาพวกเขาไมมี ทางเอาชนะผม เพราะพลังประชาชนเขมแข็งมาก เรายังคงไดรับการสนับสนุนจากประชาชนอยางเหนียวแนน แต วา ยังมีคนที่ไมมีความสุขที่เห็นรัฐบาลของผม อยางเชน นักธุรกิจจํานวนหนึ่งที่เสียผลประโยชนจากการปฏิรูป ผูอยูเบื้อง หลังการคาเสพติดและหวยเถื่อน รวมถึงเจาพอวงการสื่อมวลชน พวกเขารวมกลุมกันเพื่อใหผมลงจาก ตําแหนง หากวาผมยอม ก็เทากับวา ผมยอมกมหัวใหกับคนที่เสียผลประโยชนแลวลุกขึ้นมาตอตานผม ดังนั้น ตอนนี้ผมไดแตพูดอยางชัดเจนวา ขณะนี้ผมก็ยังเปนผูลงสมัครเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทย ยังคงเปนหัวหนา พรรคไทยรักไทยตอไป และจะนําพรรคไทยรักไทยเขาสูสนามเลือกตั้งในฐานะผูนําพรรคการเมือง แตจะดํารง ตําแหนงนายกรัฐมนตรีหรือไม ผมกําลังคิดอยู เพราะตอนนี้ผมสับสนมาก ผมอาจจะใหคําตอบที่ชัดเจนไดในวันที่ กําหนดวันเลือกตั้ง นี่ไมใชคําพูดแบบขอไปทีของนักวางกลยุทธ ตอนนี้ทักษิณยังไมไดตัดสินใจ บางที่อาจจะจริง บางครั้งอํานาจก็ เหมือนกับปศาจเมดูซาในเทพนิยายกรีก ไมวาใครก็ตามที่สบตากับดวงตาที่สวยงามคูนั้นของเมดูซา ก็จะกลายเปน หินทันที เนื่องจากหากเคยชิมรสชาติของการเปนนักปกครอง หรือผูบัญชาการ ซึ่งกําหนดชะตาขีวิตของผูคนเปน ลานเปนสิบลานคนมากอน ก็ยากที่จะตานทานแรงดึงดูดของอํานาจได ในหนาประวัติศาสตรของโลก ผูนําทาง การเมืองที่ไมไดถูกบีบใหอยูในภาวะจํายอม แตยอมละทิ้งอํานาจดวยความสมัครใจ มีจํานวนนอยมาก สําหรับ ทักษิณ เขายืนยันมาโดยตลอดวาเขาไมผิด “ไมเคยทําเรื่องใดๆ ที่เปนการทําลายประเทศชาติ” สําหรับ “เรื่องการ ขายหุน” ซึ่งถูกวิพากษวิจารณมากนั้น เขาไดกลาวในสุนทรพจนนี้วา พวกเขาโจมตีวาผมหลีกเลี่ยงภาษี คนจํานวนหนึ่งกลาววา “ คุณขายกวยเตี๋ยว ยังตองเสียภาษีเลย ขายบริษัทกลับไม เสียภาษีเหรอ ? “ แตวา การขายกวยเตี๋ยว สิ่งที่คุณขายก็คือ สินคาซึ่งจะตองจายภาษี แตกฎหมายกําหนดไววา ทรัพยสินและกําไรที่ไดจากการขายหุนไมตองเสียภาษี สําหรับเรื่องนี้ ผมเคยเสนอใหมีการอภิปรายอยางเปดเผย ในที่ประชุมรัฐสภา แตฝายคานไมตกลง พวกเขาบอกวาไมมีประโยชน ดังนั้น ผมจึงทําไดแตเพียงยุบสภา เพื่อให ประชาชนติดสินวาผมควรจะอยูในตําแหนงนี้ตอไปหรือไม ในความเปนจริง การขายหุนครั้งนี้ไดสราง คุณประโยชนทางเศรษฐกิจตอประเทศชาติ เงินเกือบ 2,000 ลานดอลลารสหรัฐ ไหลเขาประเทศไทย ทําใหคาเงิน บาทแข็งคาขึ้นกวาเดิม... ทักษิณยังกลาวอีกวา กระบวนการเลือกตั้งในระบบประชาธิปไตยที่มีอิสระเสรีและความยุติธรรม ไมควรถูกปฏิเสธเพียงเพราะมีคน จํานวนหนึ่งไมชอบผลการเลือกตั้ง เมื่อประชาชนไดแสดงเสียงโดยผานการเลือกตั้ง ความตั้งใจของประชาชนก็ ควรไดรับความเคารพ ไมใชไดรับความเสียหายจากการชุมนุมประทวงบนทองถนน ประชาธิปไตยที่สุกงอมจะ จะตองพึ่งพาการสรางสรรคและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประชาชน สมาชิกในสังคมทุกหมูเหลาสามารถ ยอมรับและเคารพกฎและเกมสของประชาธิปไตย .....วันนี้ปญหาพื้นฐานที่สังคมเอเชียประสบอยูก็คือ พลังอํานาจ ของการคัดคานประชาธิปไตยที่ยังคงรวมตัวกัน พวกเขาเรียนรูที่จะใชประโยชนจากจุดออนของประชาธิปไตย ซึ่ง ความจริงก็คือ ความโอบออมอารีของประชาธิปไตย พวกเขาใชอํานาจโจมตีระบอบของเรา เห็นไดชัดวา นี่ทําใหผูที่ชุมนุมตอตานรัฐบาลในกรุงเทพฯ แสดงความไมพอใจ และทําใหผลเลือกตั้งเมื่อเดือน เมษายนที่พรรคไทยรักเปนผูชนะตองเปนโมฆะ มีคนถามวา อํานาจที่ทําใหผลการเลือกตั้งครั้งที่ผานมาไมเปนที่ยอมรับ นั้น จะยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้ที่กําลังจะมาถึงไดหรือไม ? สถานการณทางการเมืองของไทยจะมั่นคงขึ้น เมื่อไร ? ทักษิณตอบวา ฝายคานไมมีอํานาจยับยั้งการเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายน สาเหตุที่พวกเขาทําเชนนี้เพราะวา กลัววาจะพายแพการ เลือกตั้ง แตวาครั้งนี้ พรรคฝายคานไดกลาววา พวกเขาจะเขารวมลงเลือกตั้ง หากทุกพรรคลงเลือกตั้ง ก็ไมมีปญหา รัฐบาลใหมที่ไดจากการเลือกตั้งก็จะเริ่มทํางานกอนขึ้นปใหม ผมคิดวา ภายใน 3 เดือน สถานการณของประเทศ ไทยจะกลับมาเปนปกติ 3 เดือน สถานการณทางการเมืองก็จะกลับมาเปนปกติ การเลือกตั้งจะพิสูจนใหเห็นความจริงโดยเร็ววัน ! การฟน ธงเชนนี้ผิดพลาดอยางมหันต ทักษิณไมเพียงตัดสินสถานการณภายในประเทศผิดพลาด แตยังไมรูวาตนกําลังตก อยูในภาวะอันตราย เปรียบเหมือนสัตวที่เขาสูบวงแลว แตมันกลับเออระเหยลอยชาย เมื่อกลาวสุนทรพจนจบ ทักษิณก็กลับเขาโรงแรมที่พัก มีผูเห็นวา การกลาวสุนทรพจนของทักษิณในหัวขอ “อนาคตประชาธิปไตยของไทย” ที่ที่ประชุมคณะกรรมการความสัมพันธกับตางประเทศ มีจุดประสงคเพื่อ แสวงหาแรงสนับสนุนจากแวดวงการศึกษาและสื่อมวลชน เนื่องจากคณะกรรมการความสัมพันธกับตางประเทศ เปนหนึ่งใน Think Tank ที่มีอิทธิพลตอรัฐบาลสหรัฐฯ ไมวาพรรคการเมืองใดเขามาควบคุมอํานาจก็ตาม ใน คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลที่ผานๆ มา รวมทั้งประธานาธิบดีตางก็มีสมาชิกของคณะกรรมการนี้อยูดวยสวนหนึ่ง ทําใหคณะกรรมการนี้อยูเหนือการสับเปลี่ยนหมุนเวียนของพรรคการเมือง และกลายเปน “องคกรเหล็ก” ของ รัฐบาลสหรัฐฯ การกลาวสุนทรพจนที่จัดขึ้นครั้งนี้ซึ่งมีนาย Maurice R. Greenberg รองประธานกิตติมศักดิ์ของ คณะกรรมการเปนประธานจัดงาน ประสบผลสําเร็จดวยดี เวลาผานไป 1 ชั่วโมง บรรยากาศในที่ ประชุมเต็มไป ดวยความยินดีปรีดา แตทักษิณจิตใจยังฟุงซาน เวลา 2 ทุม ทักษิณนั่งอยูหนาที่โตะทํางาน เขาเปดการประชุม teleconference กับคณะรัฐมนตรีที่กรุงเทพฯ ซึ่งการ เลือกตั้งกําลังจะมาถึง และบรรยากาศของการเมืองภายใน ประเทศอยูในภาวะตึงเครียด มีขาวออกมาวา วันที่ 20 กันยายน ฝายคานจํานวน 1 แสนคนจะรวมตัวกันเดินขบวน “ลมทักษิณ” เจาหนาที่ตํารวจก็เตรียมพรอมเหตุการณ ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได เวลาเที่ยงคืน การประชุมสิ้นสุดลง ทักษิณก็นอนหลับพักผอน ตามกําหนดการแลว เขาจะตองตื่น 7 โมงเชา และ 8 โมงเชา รถก็จะมุงหนาไปยังที่ประชุมสหประชาชาติซึ่งอยูไมไกลจากโรงแรม ตั้งแตวันที่ 19 กันยายน เปนตนมา การประชุมสหประชาชาติครั้งที่ 61 ก็เริ่มตนขึ้นดวยการกลาวสุนทรพจน และอภิปรายตามปกติ วันนั้น ประธานาธิบดีบุช และประธานาธิบดีของอิหรานจะขึ้นกลาวสุนทรพจนดวย คนจํานวนไมนอยที่รอดูเกมสที่นา สนุกของสองผูนําซึ่งจะขึ้นกลาวสุนทรพจนในวันเดียวกัน ทักษิณก็มีกําหนดการขึ้นกลาวสุนทรพจนในวันที่ 20 กันยายน ในหัวขอ “ประชาธิปไตยของไทย” เวลาตีหาของวันรุงขึ้น ทักษิณกําลังอยูในภวังค ความคุนเคยในชีวิตประจําวันของเขาในหลายปที่ผานมาก็คือ การ ไมนอนดึก ไมวาจะยุงแคไหนก็ตาม เขาจะพยายามเขานอนกอนเที่ยงคืน อยางนอยตองนอน 5 ถึง 6 ชั่วโมง ตื่นมาตอนเชา ปกติก็จะตองออกกําลังกายสักพัก เขาชอบวายน้ํา มีเพียงการปฏิบัติเชนนี้ เขาจึงมีแรงตอสูมาอยาง ยาวนาน ไมถูกแรงกดดันอันหนักหนวงมาโจมตีได โทรศัพทมือถือดังขึ้น “ตูด ๆ ๆ ๆ” เสียงโทรศัพททําใหเขาตื่นขึ้น ใครโทรมาแตเชา รบกวนการนอนหลับของเขานะ ? “ฮัลโหล ?” “ฉันเอง” เสียงที่เขาไดยิน คือ เสียงที่คุนเคยของภรรยา “พวกเขาอาจจะกอรัฐประหาร” พวกเขาเปนใครกัน ? คําบอกเลาของทักษิณ หลังจากที่รับโทรศัพทจากภรรยาแลว ผมก็รูสึกตกใจ กอนที่ผมจะไปประชุมที่นิวยอรก ก็มีลางสังหารณ ผมจึงให เพื่อนรัฐมนตรีคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของพวกเขา แตพวกเขาใชวิธีอื่นหลอกพวกเรา พวกเขาตั้งใจและ ตระเตรียมการมาเปนอยางดี ผมวางใจงายไปหนอย ไมใชวาผมมั่นใจเกินไป แตเปนเพราะผมคิดวา คนที่ ตรงไปตรงมาและซื่อสัตยไมนาทําเรื่องเชนนี้ นี่มันศตวรรษที่ 21 แลวนะ ยุคสมัยที่อาศัยอาวุธยึดอํานาจมันหมด ไปแลว ผมคิดไมถึงวาพวกเขาจะทําเชนนี้ นึกไมถึงวาจะกลาเชนนี้ คําบรรยายใตภาพ (1) ภาพหนา 2 (หลังเกิดการรัฐประหาร รถถังก็ออกมาตรึงอยูบนถนน) (21) ภาพหนา 21 วันที่ 3 เมษายน 2549 ทักษิณ ชินวัตร หัวหนาพรรคไทยรักไทย กําลังให สัมภาษณนักขาว ณ ที่ ทําการพรรค เขาปฏิเสธทที่จะลาออก เขากลาววา “ผมจะรับขอเสนอใดๆ ที่ทําใหประชาชนในชาติปรองดองกัน” เพื่อ หยุดยั้งวิกฤตทางการเมืองที่ดําเนินมาเกือบ 2 เดือน
********************************


แก้ไขล่าสุดโดย dimistry เมื่อ Sat Apr 03, 2010 3:43 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 2 ขาวลือกลายเปนความจริง

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 3:39 am

บทที่ 2 ขาวลือกลายเปนความจริง

ตอนที่ 1

ในยามพลบค่ํา ณ กรุงเทพมหานครที่ฟายังคงสวางอยู ขณะนั้นเปนเดือนกันยายนซึ่งตรงกับฤดูฝนพอดี ในอากาศจึงเต็มไปดวยกรุนไอของความชื้น ประจวบกับเปนชวง การจราจรคับคั่งที่สุดของวัน รถเล็กใหญที่ดูราวฝูงมดที่ออกจากรังตางเคลื่อนตัวอยางชาๆ กลางถนนสายแคบซึ่ง ขนาบดวยตึกระฟาทั้งสองขางทาง รถไฟลอยฟาไดทอดตัวผานอากาศอันอบอุนแหงเขตรอนชื้น—กระแส แรงผลักดันของทุนนิยมอันมีพลัง หากปราศจากพระราชวังและวัดที่มียอดสีทองและสีแดงซึ่งกระจายตัวอยูในหมู สิ่งกอสรางสถาปตยกรรมสไตลตะวันตกแลว มองดูเพินๆ จากภายนอก กรุงเทพ (City of Angel) อันเปนประเทศ แหงพุทธศาสนาในแดนตะวันออกแหงนี้ ก็ไมไดแตกตางจากเมืองคอนกรีตและเหล็กของประเทศกําลังพัฒนา ทั้งหลายซักเทาไรเนื่องจากผูคนในเมืองนี้ตางลุมหลงอยูในยุคของวัตถุ นิยมกันทั่วหนา แตทวา หากพิจารณาอยาง ละเอียด ก็ยังสามารถสัมผัสถึงสิ่งที่นครแหงนี้ตางจากเมืองอื่นไดอยางงายดาย กลาวคือ ตามถนนและตรอกซอย ตางๆ ในกรุงเทพฯ เราจะเห็นพระสงฆในจีวรสีเหลืองในทุกหนทุกแหง ในกรุงเทพฯ มีวัดอยูจํานวน 300 แหง พระสงฆ 6 หมื่นกวารูป ไมวาฤดูกาลจะเปลี่ยนแปลงไปอยางไร บรรดาพระสงฆก็มักจะเดินเทาเปลาไปตามทอง ถนนอันวุนวาย ดวยอากัปกิริยาที่สงบและสายตาที่มีสมาธินั้น แทบจะมองไมออกเลยวาทานมีความรูสึกอยางไร ตอเหตุการณรอยแปดที่เกิดขึ้นรอบขาง อารมณที่มาจากจิตวิญญาณทางพุทธศาสนาในสวนลึกเปนเสมือนหมอกที่ ปกคลุมบนแมน้ําเจาพระยาและไดนําความเย็นสบายมาใหกับเมืองพุทธศานา แหงนี้ ทวา เมื่อเร็วๆมานี้ แมแตพระสงฆที่ไดตัดขาดกับทางโลกแลวก็ยังรูสึกไดถึงความไมปกติที่ เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ มี ผูคนพากันซุบซิบและลือถึงขาวที่นากังวลกันตามทองถนน ลานและสวนสาธารณะตางๆ และหนึ่งสัปดาหกอน หนานี้ อยูดีๆ ก็มีรถถังปรากฎขึ้นมาบนทองถนน จส. รอย ไดรับโทรศัพทแจงสถานการณดังกลาวจํานวนสิบกวา รายในทันที ผูเห็นเหตุการณผูหนึ่งไดโทรมาดวยน้ําเสียงสั่นเครือวา “ตายแลว..คงไมเกิดการรัฐประหารขึ้นอีก หรอกนะ” ผูสื่อขาวไดรีบโทรไปถามฝายทหาร โดยไดคําตอบดังนี้ “หลังจากที่กองทัพฝกซอมเสร็จก็จะกลับคาย ไมตองตกใจไป” อยางไรก็ตาม คําตอบนี้ก็ไมทําใหประชาชนแคลงความสงสัยในใจได ในชวง 9 เดือนกวาที่ผาน มา วิกฤตทางการเมืองเลวรายลงทําใหกองทัพ ตํารวจ พระราชวังและรัฐบาลตางเริ่มกังวลมากขึ้นทุกวัน เมื่อ พิจารณาจากเคาลางตางๆ ก็พอจะทราบวาเรื่องราวคงไมสามารถแกไขโดยแนวทางที่ปกติได เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ทักษิณไดประกาศจะนําพรรคไทยรักไทยลงเลือกตั้งครั้งตอไปในฐานะผูนําพรรค ไทยรักไทย หลังจาก นั้น 2 วัน ก็ไดเกิดเหตุการณ “ระเบิดรถยนต” อันสะเทือนขวัญขึ้น บรรยากาศในกรุงเทพฯ ตึงเครียดมาก แมกระทั่งประชาชนธรรมดายังรูสึกถึงสายอัสนีที่ซอนเรนอยูในชั้นเมฆ สองสามเดือนมานี้ ขาวลือที่วากําลังจะเกิดการรัฐประหารก็เริ่มหนาหนูมากขึ้น ขาวลือที่วาเริ่มมีการวางแผนกอ การรัฐประหารเพื่อโคนลมอํานาจทางการเมืองของทักษิณนั้นมีมาตั้งแตเดือน กุมภาพันธ 2549 และตอมาหลังจาก ที่ทักษิณไดกลับเขามากุมอํานาจทางการเมืองในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีใน เดือนพฤษภาคม ขาวลือเรื่องการ กอรัฐประหารก็แพรสะพัดขึ้นอีกครั้ง และในเดือนมิถุนายน พลเอกเปรม ติลสูลานนท วัย 86 ป ที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่ง ของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ประธานองคมนตรีและอดีตผูบัญชาการทหารบก ไดสวมชุดทหารเกา ออกมาขอใหนักเรียนโรงเรียนนายทหาร “ทํางานสนองและรับใชพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว มิใชนักการเมือง ที่มาจากการเลือกตั้ง” พรอมทาทางที่ปลุกเราความฮึกเหิม ตอมาเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายทวีวุฒิ จุลวัจนะ ผู เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยทานหนึ่งของไทยไดลงจดหมายเปดผนึกในเว็บไซ ตการเมืองที่มีชื่อเสียงเว็บหนึ่ง โดยอางถึงขาวจากฝายทหารวากองทัพกําลังดําเนินการวางแผนกอการรัฐประหา รอยางลับๆ พรอมกับเตรียมขับ ไลทักษิณออกจากประเทศ หลังจากนั้น ในวันที่ 20 กรกฎาคม นายทหารบกระดับชั้นกลางที่สนับสนุนทักษิณ จํานวน 129 นาย ไดถูกสั่งใหยายออกจากกรุงเทพฯ ซึ่งหลายคนไดมองวาเปนการโหมโรงกอนการรัฐประหารจริง อยางไรก็ตาม การรัฐประหารก็ยังไมไดเกิดขึ้น ไมวาจะเปนพรรคไทยรักไทยของทักษิณหรือพรรคฝายคานอื่นๆ ตางก็วุนอยูกับการหาเสียงสําหรับการเลือกตั้งที่กําลังจะเกิดขึ้น ขณะที่ ทุกคนตางก็ยังพะวาพะวงใจอยูกับขาวลือที่ ยังไมปรากฎความจริง จนสุดทายก็ทําใหเกิด ความเขาใจผิดวาสิ่งที่ไมเกิดขึ้นในวันนี้ก็คงไมมีวันเกิดขึ้นในอนาคต แตแลวในวันที่ 19 กันยายน เวลา 8.00 น. (ซึ่งตรงกับวันที่ 18 กันยายน เวลา 20.00 น. ณ กรุงนิวยอรก) สิ่งที่เปน หวงนั้นไดมาแลวจริงๆ ขณะที่ทักษิณซึ่งอยูไกลถึงสหรัฐฯ กําลังประชุมทางไกลผานระบบ Tele-Conference บรรดาสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่เปนฝายทหาร ซึ่งรวมถึงผูบัญชาการทหารสามเหลาทัพ ทหารเรือ บกและอากาศ ตางก็ไมไดเขารวมการประชุม พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผูบัญชาการทหารบกไดชี้แจงวาเปนเพราะประกาศเรียก ประชุมมาคอนขางกระทันหัน จึงเขาประชุมไมทัน หลังจากนั้น ขาวลือเรื่องก็กอรัฐประหารก็แพรกระจายอยาง รวดร็วไปทุกหนทุกแหงในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอยางยิ่งทุกซอกทุกมุมในตลาดหุน ในตอนบายวันเดียวกันกอนที่ พายุไตฝุนจะเขา (การกอรัฐประหาร) ก็ไดมีขาวลับจากฝายทหารหลุดออกมาวาพลเอกสนธิ ผูบัญชาการทหารบก ไดมีคําสั่งใหนายทหารบางสวนอยูประจํากองกําลังเพื่อรอประกาศสําคัญ ตอมาก็มีขาวลืออีกวาหลังจากกองกําลัง รถหุมเกราะตอบโตเร็วภายใตกองทัพภาคที่ 2 และ 3 รวมถึงกองกําลังหนวยรบพิเศษที่อยูรอบเขตกรุงเทพฯ ฝกซอมเสร็จในตอนเชาแลวมิไดกลับไปคายของตนตามปกติ ผูที่เปนหูเปนตาซึ่งมีความรวดเร็วของทักษิณนั่งไมติดตั้งแตตนแลวจึง รีบรายงานใหพจมาน ดามาพงศ ภรรยาของ ทักษิณทราบในทันทีเนื่องจากทักษิณอยูที่นิวยอรก มีเพียงภรรยาและญาติที่สนิทสองสามคนที่รูทางติดตอกับ ทักษิณได พจมานเปนผูหญิงประเภทที่หากเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้นมากลางดึกก็จะเปนคนแรก ที่โดดขึ้นจากเตียงและ ยกปนขึ้นมาเพื่อสองสอดดู ความปลอดภัย หลอนถูกมองวาเปนมันสมองที่แทจริงและเปนกุนซือผูอยูเบื้องหลัง ของทักษิณมาโดยตลอด จากลางสังหรณของผูหญิง หลอนไดลวงรูถึงความนากลัวของสิ่งที่กําลังกาวเขามาตั้งแต ตนแลว และเปนคนแรกที่โทรศัพทถึงสามีที่กําลังนอนหลับสนิทอยูอีกซีกโลกหนึ่ง เพื่อแจงขาวอันนาสะพรึงกลัวนี้


แก้ไขล่าสุดโดย dimistry เมื่อ Sat Apr 03, 2010 3:44 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 2 ขาวลือกลายเปนความจริง

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 3:40 am

ตอนที่ 2

ทักษิณนั่งอยูบนขอบเตียงโดยรูสึกวาสมองโลงเปลาซักสองสามวินาที ทามกลางความตกใจอยางสุดขีด บางคราว ก็รูสึกชาและมึนงงเสมือนวากําลังอยูในหวงแหงความฝนที่ไมสามารถควบคุม อะไรได ไมรูวาจะทําอยางไรตอไป และไมคิดวาจะตองทําอยางไรตอไป---การหลบหนี ความทุกขทั้งมวลในจิตใตสํานึกนั้นเปนสัญชาตญาณของ มนุษยเพื่อปกปองตนเองในการรับมือกับเหตุฉุกเฉิน เขานั่งอยูอยางนิ่งเงียบเหมือนทอนไมโดยไมไดเปดไฟ หอง อันมืดสนิทปกคลุมไปดวยความหนาวเหน็บราวกับเรือที่จมอยูใตมหาสมุทร สําหรับการเจรจาเมื่อหนึ่งเดือนกอน หนานี้ซึ่งไดบอกลวงหนาถึงพายุระลอกนี้ มาถึงตอนนี้ราวกับวาคลื่นน้ําระลอกใหญไดพัดผานโขดหินแลว ภาพ เรื่องราวตางๆ ไดประติดประตอและปรากฎตัวอยางชัดเจนในหัวสมองของเขา ทันใดนั้นเขาก็พบวาตนเองไดถูก หลอกแลว หนึ่งเดือนกอนหนานี้ ทักษิณไดพบหารือกับพลเอกสนธิฯ ผูบัญชาการทหารบกหนึ่งครั้งที่หองทํางานของ นายกรัฐมนตรี ทักษิณทราบดีวาเบื้องหลังของการตอสูทางการเมืองครั้งนี้ ยังมี ชนชั้นหนึ่งที่มีบารมีและไมมีใคร สามารถสั่นคลอนได ซึ่งนั่นก็คือ กองทัพ ที่จะสามารถแสดงบทบาทพลิกสถานการณในยามคับขัน บรรดา นายทหารที่ถือกระบอกปนเหลานี้ ดูเผินๆ เหมือนจะอยูในตําแหนงที่เปนอิสระเหนือรัฐบาล แตที่แทจริงแลวแค เพียงกระดิกนิ้วหัวแมมือเพียงนิ้วเดียวก็สามารถที่จะขับเขาใหตกจากที่นั่ง ตําแหนงนายกรัฐมนตรีได สิ่งที่เขากังวล ไมใชพรรคฝายคานซึ่งก็เหมือนกับเขาที่ลวนแตเปนสวนประกอบที่ขับความ เดนใหแกผูมีอํานาจสูงสุด ซึ่งไม แสดงตัวออกมา แตที่สิ่งที่เขากังวลกลับเปนทาทีของฝายทหาร--ฝายทหารเคยชินกับการ ใชวิธีการรัฐประหารโดย ขับไลนายกรัฐมนตรีที่พวกเขาไมถูกใจออกไป การหารือในครั้งนี้เปนเหตุมาจากการพิจารณารายชื่อการแตงตั้งนายทหาร นับตั้งแตมีขาววาออกมาวาฝายทหาร อาจจะเขามายุงเกี่ยวในวิกฤตการเมืองครั้งนี้ ทักษิณก็ไดมองเห็นลวงหนาแลววาสุดทายสถานการณคงตองพัฒนา ไปเปนการแยงชิงอํานาจโดยมีกองทัพเปนผูบัญชาการ ใครที่สามารถควบคุมกองทัพไดก็จะเปนผูชนะ ตามจาก ขาวลือซึ่งยังไมมีขอพิสูจนที่สื่อออกขาวกันอยางกวางขวางนั้น ทําใหในเดือนกันยายน ทักษิณไดใชสิทธิพิเศษ ของนายกรัฐมนตรีเสนอชื่อนายทหารที่ฝกอบรมในโรงเรียนนายทหารซึ่งสนับสนุนตน จํานวนรอยกวาคนใหขึ้น ดํารงตําแหนงที่สําคัญในกองพลที่หนึ่ง (ทักษิณยังไดพยายามที่จะเลื่อนตําแหนงใหพลตรีพฤณฑ สุวรรณทัต ขึ้น ดํารงตําแหนงผูบัญชาการกองพลที่หนึ่งที่ดูแลความสงบในเขตกรุงเทพฯและต องการให พลตรีดาวพงษ รัตน สุวรรณ ซึ่งเปนพันธมิตรมารับผิดชอบในกองพลทหารราบที่หนึ่งดวย โดยแตเดิมนั้น พลเอก พรชัย กรานเลิศ ผูชวยผูบัญชาการทหารบกก็เปนคนของเขา ดังนั้นหากสามารถเปลี่ยนนายทหารระดับกลางและระดับสูงภายใน กองทัพบกใหเปนพวกตนได ก็สามารถมีอํานาจในการบังคับบัญชากองทัพที่ดูแลความสงบในกรุงเทพฯไดอยาง มั่นคง มีการพูดกันวา เพราะเรื่องนี้เองที่ทําใหทักษิณมีเรื่องที่ผิดใจกันกับฝายทหารและทําเนีย บองคมนตรี) หองทํางานของนายกรัฐมนตรีปูดวยพรมที่คอนขางหนาจึงทําใหไมไดยินเสียง ฝเทา บนโตะทํางานสีน้ําตาลแดง ตัวใหญมีเอกสารวางอยูจํานวนหนึ่ง เครื่องคอมพิวเตอร 1 เครื่อง และเครื่องพรินเตอรเลเซอร 1 เครื่อง โดยโตะได หันหนาไปทางพระบรมฉายาลักษณของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวซึ่งแขวนอยู เครื่องปรับอากาศกําลังทํางานอยู อากาศอันรอนระอุของพระอาทิตยไดถูกกั้นไวภายนอกกระจกหอง ภายในหองอันเย็นสบายและสงบเงียบ ทั้ง สองนั่งเผชิญหนากัน พลเอกสนธิซึ่งอยูในชุดทหารนิ่งเงียบอยางสุขุม พลเอกสนธิมีอายุมากกวาทักษิณ 4 ป เกิดในครอบครัวมุสลิมบริเวณใกลๆกับกรุงเทพฯ โดยบรรพบุรุษไดเคย ดํารงตําแหนงจุฬาราชมนตรีคนแรกของไทย ตัวพลเอกสนธิเองจบการศึกษาจากโรงเรียนนายรอยพระ จุลจอมเกลา เหลาทหารราบ ซึ่งเปนโรงเรียนนายทหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย หลังจากเขารวมใน สงครามเวียดนามก็ไดไปศึกษาตอที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยเปนผูบัญชาการกองกําลังทหารราบสงครามพิเศษ โดยไดรับการแตงตั้งจากทักษิณใหดํารงตําแหนงผูบัญชาการทหารบกในวันที่ 1 ตุลาคม 2548 ซึ่งทําใหบุคคล มากมายตางพากันตกใจ เนื่องจากบรรดาทหารในกองทัพไทยสวนใหญจะเปนชาวพุทธ พลเอกสนธินับเปนผู บัญชาการทหารบกคนแรกที่เปนชาวมุสลิม นักวิเคราะหใหความเห็นวา เหตุผลหลักที่ทําใหทักษิณเลือกพลเอก สนธิเนื่องจากตองการใชประโยชนจากประสบการณการรบในสนามรบที่ช่ําชอง และลัทธิความเชื่อของมุสลิม เพื่อแกปญหาชาวมุสลิมที่กอความไมสงบในภาคใตของไทยซึ่งยืดเยื้อมาเป นเวลานาน ดูจากภายนอกแลว พลเอก สนธิดูไมเหมือนผูที่จะวางแผนทรยศโดยลุกขึ้นมากอ การรัฐประหาร ทั้งภาพลักษณ และการพูดจาของนายทหาร ระดับมืออาชีพทานนี้ลวนแตแสดงออกถึงบุคลิกที่สุภาพออนโยน แมตอนถอดชุดทหารแลวก็กลับดูเหมือน ศาสตราจารยในมหาวิทยาลัย “คุณคิดจะกอรัฐประหารโคนลมผมหรือเปลา” ทักษิณถามอยางตรงไปตรงมา “จะเปนไปไดอยางไร ผมไมมีทางทําอยางนั้นหรอก” พลเอกสนธิตอบดวยเสียงเบาๆ ตามปกติ ระหวางที่เขาพูดนั้น สายตาเขามักจะมองกมลงโดยไมรูตัว และกวาดตามองเปนครั้งคราว เหมือนกับ แมลงปอบินระน้ํา น้ําเสียงก็คอนขางแผวเบา น้ําเสียงอยูในโทนเดียวตลอด คําพูดที่ออกมาจากปากเขาไมวาจะเปน คําพูดที่แสดงถึงความสนิทคุนเคยหรือคําพูดที่นากลัว ก็ลวนแตพูดออกมาอยางชาๆ ไมรีบรอน นี่ไมใชผูที่กระหายในเลือด เมื่อเขาไดรับภารกิจใหแกไขสถานการณความไมสงบในภาคใตของไทย เขาไดกลาว วา “แมจะตองมีการปะทะกันทางวาจาระหวางเจรจา ก็จะไมใชกําลังอาวุธมาสงบสถานการณ” สําหรับขาวลือ เรื่องการกอรัฐประหารที่แพรกระจายไปอยางรวดเร็วนั้น เขาไดเปดเผยทาทีวา “ฝายทหารจะไมเขาไปยุงเกี่ยว การ กอรัฐประหารเปนสิ่งที่ลาสมัยอยางมาก” แตเนื่องจากสถานการณทางการเมืองแยลง เขาก็ไดเคยกลาวอยางออมๆ วา “ในฐานะที่เปนนักรบของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว พวกเราอยากที่จะชวยพระองคในการขจัดความกังวล และ ความทุกขยากทั้งปวง ฝายทหารจะปฏิบัติตามพระราชประสงคของพระองคอยางเครงครัด” ทักษิณถอนหายใจ เขาไมสามารถจะแนใจไดวาคําสัญญาของพลเอกสนธินั้นเชื่อถือไดเพียงใด “คุณตองจําไววา ผมเปนคนที่แตงตั้งคุณเปนผูบัญชาการทหารบก ผมสนับสนุนคุณ ก็เพราะหวังใหคุณทุมเทกําลังในการแกปญหา ภาคใต คุณอยาเขามายุงเรื่องการเมือง ขอใหสัญญากับผมดวยความเปนสุภาพบุรุษของคุณและความเปนพี่นองวา คุณจะไมเขามายุงเรื่องการเมือง หากคุณสัญญา ผมจะขยายระยะเวลาใหคุณอยูในตําแหนงนานขึ้นอีก 1 ป” “ผมสัญญา” คําตอบที่สั้นแตหนักแนน พลเอกสนธิยืนขึ้นพรอมกับสีหนาที่ปราศจากความรูสึกใดๆ และจับมือกับทักษิณ โคงคํานับ 1 ครั้ง และเดินออกไป การหารืออันเต็มไปเสียงฟาอึมครึ้มที่เปนลางบอกถึงฝนที่กําลังจะตกนั้น ก็ไดสิ้นสุดลง บัดนี้ เรื่องราวไดเปนที่กระจางแลววา พลเอกสนธิไดหลอกเขา ทรยศเขา ในสุดทายทักษิณก็ไดประจักษถึงความ จริง ภายใตภาพลักษณอันสุภาพออนโยนของผูบัญชาการทหารบกทานนี้ ไดซอนจิตใจอันเด็ดเดี่ยวที่สุด มี ความสามารถแบกรับภาระกิจอันยากลําบากและกลาตัดสินใจดวยความกลาหาญเปนที่ สุด รวมทั้งในการกระทํา ทุกอยางก็ยอมเสียสละอยางถึงที่สุดดวย นายทหารเกาที่เคยรวมรบสงครามเวียดนามทานนี้ นายพลที่กลาวไว หลายครั้งวาไมคิดจะเขามาเกี่ยวของกับการเมืองทานนี้ นายทหารไทยที่เงียบๆ ไมคอยเปนขาวทานนี้ ภายใน ระยะเวลาเพียงคืนเดียวเขากลับทําใหคนทั้งโลกจําเขาไดอยางแมนยํา ที่นาแปลกก็คือ ในการเจรจาที่ไมมีบุคคลที่สามเขามาเปนพยานนั้น เรื่องที่ผานการถายทอดจากบุคคลที่เกี่ยวของ อีกคนกลับแตกตางกันราวกับเปนเรื่องราโชมอนอีกตนฉบับหนึ่ง เมื่อพลเอกสนธิใหสัมภาษณสื่อหลังจากนั้น ก็ ไดกลาวถึงเหตุการณตอนที่หารือกับทักษิณวา “ตอนนั้นทานทักษิณถามผมวา คุณจะกอการรัฐประหารหรือไม ผมก็ตอบไปอยางชัดเจนวา ผมจะทํา ผมไมเสียใจที่ตอบไปเชนนั้น หากยอนเวลากลับไปได ผมก็จะตอบทาน เชนเดิม” พลเอกสนธิยังกลาวอีกวาระหวางเขากับผูมีบุญคุณที่แตงตั้งเขาขึ้นมานั้น แทบจะไมมี “ความไวเนื้อเชื่อ ใจ” ระหวางกัน กอนเกิดการรัฐประหาร มีครั้งหนึ่งเขาไดตามทักษิณไปเยือนประเทศพมา มีคนเตือนใหเขา ระมัดระวัง ดังนั้น เขาจึงไดสั่งใหลูกนองพกปนไปดวย โดยสวนตัวเขาเองไดนั่งตรงขางประตูเครื่องบิน “เพื่อจะ ไดจัดการกับเรื่องฉุกเฉินที่เกิดขึ้นไดอยางทันทวงที” สุดทายแลวไมทราบวาใครที่โกหก สมมุติวาเปนจริงดังเชนที่พลเอกสนธิเลาวาเขาไดพูดตอหนาทักษิณวา “ผมจะ โคนลมคุณ” ถาเปนเชนนั้น ทักษิณก็ตองรีบจัดการโตตอบในทันทีถึงจะถูก ทักษิณก็ควรรีบจัดการคนที่เปน อันตรายตออํานาจทางการเมืองในปจจุบันของเขา โดยการปลดออกจากตําแหนงและลงโทษทางวินัยในทันที แต ทวา ทักษิณกลับไมรูสึกอะไร อีกทั้งในชวงหนึ่งเดือนหลังจากนั้นกลับแกลงเปนหูหนวกตาบอดเหมือนไมมี อะไร ไมดําเนินการอะไรทั้งสิ้น นั่งรอใหศัตรูมาทํารายตนเองจนถึงแกความพายแพ ปฏิกริยาตอบสนองเชนนี้ออกจะ แปลกประหลาดเกินไปกระมัง


แก้ไขล่าสุดโดย dimistry เมื่อ Sat Apr 03, 2010 3:44 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 2 ขาวลือกลายเปนความจริง

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 3:41 am

ตอนที่ 3

หลังจากไดฟงโทรศัพทจากภรรยา ทักษิณก็นิ่งอึ้งไป ราวกับวาเวลายาวผานไปนานหมื่นกวาป---ทั้งที่จริงๆ แลว ผานไปเพียงแคสิบกวาวินาที ทันใดนั้นเขาก็มีสติกลับมาโดยรีบยกโทรศัพทขึ้นมาโทรหาบุคคลคนตางๆ ไมวาจะ เปน ฝายขาวกรอง ฝายทหาร รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กรมตํารวจ ขาราชการ ผูใหญตามพื้นที่ เปนรายชื่อที่ยาวมาก แมกระทั่งเขาเองก็ยังไมทราบไดโทรศัพทไปทั้งหมดกี่ครั้งภายในสอง ชั่วโมงกวา ณ ขณะนี้สิ่งที่ทักษิณตองการอยางเรงดวนก็คือ ตองการตรวจสอบใหแนใจวาวาขาวที่ตนไดจากภรรยานั้นเปน ความจริงหรือไมโดยสอบถามจากบุคคลหลายๆคน แตคําตอบที่ไดนั้นชางนางงงวย บางคนบอกวาเปนเรื่องจริง บางคนกลับบอกวาเปนขาวลือ บางคนก็ไมทราบอะไรเลย บรรดาสมาชิกคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลทักษิณตางแทบ จะรูเรื่องเมื่อนาทีที่เกิดการรัฐประหารขึ้นกันทั้งนั้น สวนฝายขาวกรองของรัฐบาลนั้น กอนเกิดเรื่องก็ไมไดรายงาน ขาวที่เปนประโยชนและเชื่อถือใดๆ เลย คําบอกเลาของทักษิณ แนนอนวาผูที่รับผิดชอบฝายขาวกรองนั้นมีปญหา แตวาหนวยงานตางๆ ของรัฐบาลไทยก็ลวนแตขาด ประสิทธิภาพทั้งนั้น และนี่ไมใชเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงวันสองวัน จึงไมอาจแกไขไดในชวงขามคืน ระบบขาราชการ ไทยก็ตองไดรับการปรับและปฏิรูปทั้งระบบเสียใหม สิ่งนี้ไมใชปญหาของกระทรวงใดหรือคนใดคนหนึ่ง แตตอง มีระบบมารองรับ หากไมมีระบบมาประกันและพึ่งตัวบุคคลเทานั้น พอบุคคลนั้นลงจากตําแหนง สิ่งที่เขาไดเคย ริเริ่มไวก็จะหายไปเชนกัน ความรูสึกกระสับกระสายไดแพรกระจายไปทั่วรางกายของเขา เขารูสึกเสียใจที่ไดคาดการณผิดอยางมาก การประชุมคณะรัฐมนตรีผานระบบ Tele -Conference เมื่อ 5 ชั่วโมงที่ แลว ผูบัญชาการทหารบก เรือและอากาศลวนไมไดเขารวมประชุม ผูใดก็ตามที่มีไวตอความรูสึกยอมตองรูสึกได วามันเปนสัญญาณบอกถึงความผิดปกติ แนนอนวาเขาไดสังเกตเห็นแลว แตทวากลับเพิกเฉยมิไดสนใจ อีกทั้งยัง เขานอนอยางไมไดตะขิดตะขวงใจเลย สิ่งนี้เปนความผิดที่ยากจะอภัยไดอยางยิ่ง ทักษิณถือโทรศัพทเดินไปมาในหอง เขาไดสั่งใหพลตํารวจเอกชิดชัย วรรณสถิตย รองนายกรัฐมนตรีซึ่งอยูใน ประเทศไทยรีบควบคุมสถานการณ เขายังไดติดตอกับรัฐมนตรีวาการกระทรวงการตางประเทศซึ่งขณะนั้นอยูใน กรุงปารีส รัฐมนตรีวาการกระทรวงการตางประเทศก็รูสึกตกใจเชนเดียวกับเขา เขาพบวา รัฐมนตรีกระทรวงที่สําคัญของไทยหลายทานลวนแตไมไดอยูในประเทศในขณะนั้น ดร. กันตธีร ศุภมงคล รัฐมนตรีวาการกระทรวงการตางประเทศกําลังรวมงานนิทรรศการวัฒนธรรม ไทย-ฝรั่งเศส ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปนประธาน ณ กรุงปารีส คุณหญิงสุดารัตน เกยุราพันธุ รัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณกําลังพักรอนอยูกับครอบครัวที่ ประเทศฝรั่งเศส พลอากาศเอกคงศักดิ์ วันทนา ประธานกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย อดีตรัฐมนตรีวาการ กระทรวงมหาดไทยไดบินจากกรุงเทพฯ ไปประเทศเยอรมนีแลว ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรีไปติดตามเขาไปประชุมที่กรุงนิวยอรก นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีวาการกระทรวงการคลังไดรวมประชุมประจําปของธนาคารโลก ที่ประเทศสิงคโปร นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ รัฐมนตรีวาการกระทรวงพาณิชยก็อยูที่กรุงปารีสเชนเดียวกัน แลวเขาก็คิดขึ้นมาทันทีถึงคําเตือนของหมอดูที่ไดโทรมาเตือนเขาเมื่อสองสัป ดาหที่ผานมาวา “ใหระมัดระวัง ศัตรู กําลังคิดจะโจมตีทานแตวาพวกเขาจะไมฆาหรือทํารายทานใหบาดเจ็บ” คําทํานายอันโชครายนี้ชางแมนยําจริงๆ ศัตรูไมมีทางทํารายเขาได—และก็ไมไดตั้งใจจะทํารายเขาดวย พวกนั้นตองการที่จะขับไลเขาออกนอกประเทศ เพราะการขังนายกรัฐมนตรีซึ่งเปนที่รักของประชาชนผูยากไรไวในประเทศ รังแตจะกอใหเกิดความวุนวาย ในขณะนี้ ทักษิณพรอมที่จะสูแตไมมีกําลังและอํานาจก็ครอบคลุมไปไมถึง ดูตามรูปการณแลว เรื่องราวทั้งหมด ไดผานการวางแผนอยางละเอียดถี่ถวน ฝายทหารไดเลือกหวงเวลาที่เหมาะสมแลวจริงๆ เขาคิด นอกจากจะเลือก เวลาที่เหมาะสมแลวยังกลาที่จะเสี่ยงทําความผิดอันใหญหลวง โดยกลับไปเดินเสนทางเกาเมื่อ 73 ปกอน ในยุค ศตวรรษที่ 21 อีกดวย คําบอกเลา...ของทักษิณ เกี่ยวกับขาวนี้ในขณะนั้น บางก็วาไมแนใจ บางก็วาแนนอน ถึงแมวาขาพเจาจะอยูที่กรุงนิวยอรกแตก็พยายาม ควบคุมสถานการณใหไดมากที่สุด แตทวามันก็ไดสายไปแลว วันที่เกิดรัฐประหารขึ้นนั้น รัฐมนตรีหลายทานก็ ไมไดอยูในประเทศ หากผมอยูในประเทศ ผมเชื่อวาพวกเขาจะไมกลาทําการเชนนี้
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 2 ขาวลือกลายเปนความจริง

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 3:47 am

ตอนที่ 4

ประเทศไทยมีประเพณีของการรัฐประหาร มีบางคนกลาววากองทัพของไทยนั้นไมไดมีไวทําสงคราม แตมีไวกอรัฐประหาร พวกเขาไมเหมือนนักรบที่คอย ปกปองดินแดนของประเทศ แตกลับเหมือนผูบุกรุกที่เอะอะก็ขับรถถังเขามาตามทองถนน ตั้งแตป 2475 ถึง 2549 ประวัติศาสตรการเมืองของไทยใน 73 ปที่ผานมาก็คือก็คือประวัติศาสตรของการกอ รัฐประหาร เวลา 5 ใน 6 ของรัฐบาลนั้นอยูภายใตการปกครองของผูนําที่เปนทหาร หากไมนับการรัฐประหารที่ไม สําเร็จและผายแพแลว การกอรัฐประหารที่สําเร็จนั้นมีถึง 17 ครั้ง ความถี่ของการเกิดการรัฐประหารนับวาอยูใน ลําดับตนๆ ของโลก วันที่ 24 มิถุนายน 2475 ผูมีความรูระดับสูงและนายทหารหนุมที่ไดจบการศึกษาจากประเทศตะวันตก ไดฉวย โอกาสที่พระบามสมเด็จพระเจาอยูหัวรัชกาลที่ 7 พรอมกับครอบครัวไดเสด็จพระราชดําเนินไปพักผอนฤดูรอนที่ พระราชวังหัวหินซึ่งอยูหางจากกรุงเทพฯ 195 กิโลเมตร กอการรัฐประหารขึ้นอยางเงียบๆ ที่กรุงเทพฯเพื่อโคนลม ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย เมื่อขาวไดแพรออกไป พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวรัชกาลที่ 7 ที่ทรงกําลังเลน กอลฟอยู ก็ไดทรงโยนไมกอลฟทิ้งและรีบเสด็จฯ กลับมายังกรุงเทพฯเพื่อเจรจากับคณะปฏิวัติ แตเมื่อพระองค ทรงประจักษวาพระองคไมสามารถตอรองอะไรไดอีกในสถานการณเชนนั้น พระองคจึงจําตองยอมถอยเพื่อรักษา ตําแหนงกษัตริยเอาไวโดยยอมใหตั้งระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริยเป นประมุข และในเดือนธันวาคมปเดียวกัน ก็ไดเกิดรัฐธรรมนูญฉบับแรกขึ้น และเกิดการรัฐสภาสมัยแรกขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีคน แรกของไทยเปนนักกฎหมาย ซึ่งมีภรรยาที่เคยเปนนางกํานัลถวายงานในองคสมเด็จพระราชินี ในตอนนั้นหลาย คนเขาใจผิดไปวาทามกลางการปฏิวัติครั้งใหญเพื่อโคนลมอํานาจกษัตริ ยอยางพลิกฟาพลิกแผนดินของไทยนั้น ทั้ง สองฝายตางมีทาทางที่สุภาพออนโยน มีเหตุผลและหลักแหลม ดวยวิธีการที่สันติอันมีคานําไปสูบทสรุปที่ สวยงามโดยไมมีการเสียเลือดเนื้อแมแตหยดเดียว แตขอความในหนังสือซึ่งแตงโดยพระญาติของพระบาทสมเด็จ พระเจาอยูหัวรัชกาลที่ 7 ทานหนึ่งในภายหลังไดกลาวไววา ขณะนั้น องครัชกาลที่ 7 ทรงเศราโศกเสียใจดวยความ เจ็บแคน จนถึงขนาดหมดหวังและไดทรงมีพระราชดํารัสวาหากพวกกบฏยังคงบีบขั้นพระองค อีก พระองคจะทรง ยิงพระชายาและจะทรงสังหารพระองคเองตาม ความไมไววางใจกันในชวงแรกเกิดจากการรางแผนพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลชุด ใหม ผูรางแผนดังกลาวก็คือ นายปรีดี พนมยงค ดร.ที่ศึกษาดานกฎหมายและการเศรษฐกิจการเมืองวัย 35 ป หนึ่งในผูนําในการกอรัฐประหาร เขาเกิดในครอบครัวพอคาชาวจีนที่ร่ํารวย เคยศึกษาที่ กรุงปารีส โดยหลังจากกลับประเทศไดทํางานในกระทรวง ยุติธรรม โดยการทํางานเปนไปอยางราบรื่นและไดเลื่อนขั้นอยางรวดเร็ว แตวาในที่สุดขาราชการวัยหนุมทานนี้ กลับไดกอตั้งกลุมลับจํานวน 50 คน โคนลมอํานาจในการปกครองประเทศของกษัตริยที่มีประวัติศาสตร 700 กวาป นายปรีดี ไดเสนอในแผนพัฒนาเศรษฐกิจดังนี้ “ใหถือวาประชาชนทุกคนรวมถึงเกษตรกรเปนขาราชการโดยใช ระบบการใหเงินเดือนกับทุกคน” เพื่อแกไขปญหาความเลื่อมล้ําของรายไดและความไมเปนธรรมที่ผูซึ่งไมได ทํางานแตกลับไดรับคาตอบแทน ถึงแมวาความคิดนี้จะเกิดขึ้นจากเจตนาที่ดีแตวาคอนขางไรเดียงสาและไม สามารถนํามาปฏิบัติไดจริง จึงไมไดรับความเห็นชอบจากพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว และมีบางคนใน หนวยงานรัฐบาลไดออกมาโจมตีโดยวาเปน การดําเนินตาม “แผนลัทธิคอมมิวนิสตของโซเวียด (รัสเซีย)” นาย ปรีดี จึงถูกบีบใหออกจากประเทศ และพรอมๆ กันนั้นก็เกิดการตอสูระหวางกลุมที่ตองการฟนฟูอํานาจกษัตริยกับ กลุมที่ตอตาน เพื่อเปนการหลีกเลี่ยงไมใหตกเปนตัวประกันของฝายหนึ่งฝายใด พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวก็ได ไปทรงซอนพระองคที่ภาคใต แตเมื่อเริ่มเห็นวากลุมที่สนับสนุนกษัตริยกําลังพายแพ พระองคจึงเสด็จฯ ไป อังกฤษดวยเหตุผลวาไปรักษาพระเนตร ตอมาเมื่อเดือนมีนาคม 2478 พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวรัชกาลที่ 7 ไดประกาศสละราชสมบัติที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวอานันทมหิดล (พระชนกของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวภูมิพลอดุลย เดช กษัตริยองคปจจุบัน) ผูเปนพระราชนัดดาในพระองคซึ่งกําลังศึกษาอยูที่ประเทศสวิตเซอรแลนด ไดเสด็จขึ้น ครองราชยสืบตอมา ซึ่งขณะนั้นพระองคทรงมีพระชนมมายุเพียง 10 พรรษา หลังจากนั้น 10 ป พระองคถึงเสด็จฯ กลับประเทศไทยเพื่อทรงปฏิบัติหนาที่ในระบอบรัฐสภาที่มีกษัตริยเปนประมุข ในระหวางนี้ อํานาจไดตกอยูในมือของทหารที่ปนอยูในครอบครองไปแลว จอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งขณะที่ เกิดการรัฐประหารในป 2475 นั้นมียศเปนเปนเพียงแคพันตรี แตไดปรากฎตัวเดนออกมาในการตอสูระหวางฝาย กบฏกับฝายที่ตองการฟนฟูระบอบกษัตริย จนไดเปนแมทัพทหารบก ตอมาในป 2482 จอมพล ป. ไดขึ้นดํารง ตําแหนงนายกรัฐมนตรี เริ่มการปกครองโดยทหารซึ่งยาวนานถึง 15 ป เขาไดปราบกลุมอํานาจที่เปนปรปกษอยาง ไมไวหนาใครโดยอางเหตุวา เปนภัยคุกคามตอความความสงบปลอดภัยของประเทศและความมั่นคงของรัฐบาล โดยไดตั้งศาลพิเศษขึ้น จับตัวศัตรูทางการเมืองที่ตอตานเขาขังคุกและสั่งประหารชีวิตถึง 18 คน สังคมตาง วิพากษวิจารณในความเปนเผด็จการของเขา แตจอมพล ป. กลับแยงวา “ฆาแค 18 คน นับวาเยอะหรือ ตอนปฏิวัติ ที่ฝรั่งเศสนั้น บรรดาหัวคนที่ถูกตัดใสบนรถยังสามารถเรียงไดเปนแถวๆ ในป 2498 จอมพล ป. ไดใชเวลา 2 เดือนกวาในการเยือนประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และสเปน ฯลฯ ไดพบกับ ผูนําตางๆ เชน นาย EisenHower พระราชินีอลิซาเบธ นายพล Franco และไดฟงปาถกฐาที่สวน Hyde Park ซึ่งเปน สวนในการแสดงความคิดเห็นอยางอิสระในอังกฤษ ดูราวกับวาเขาจะเขาใจระบบประชาธิปไตยในประเทศ ตะวันตก พอกลับประเทศจึงไดมีคําสั่งใหจัดตั้งศาลากลางเมือง (Town Hall) แบบยุโรปและสหรัฐอเมริกาใน กรุงเทพฯ และจังหวัดสําคัญตางๆ ของไทย เพื่อใหประชาชนมีสิทธิออกมาแสดงความคิดเห็นตางๆ ในที่แหงนี้ ในพิธีมอบตําแหนงแกทหารเรือ เขาไดกลาววา “ในระบอบประชาธิปไตย ทหารไมควรเขามายุงเกี่ยวกับการเมือง ....เจาหนาที่รัฐ ไมวาจะเปนทหาร ขาราชการพลเรือนหรือ ตํารวจก็ไมควรเขามามีสวนในกิจกรรมทางการคาที่จะ มีผลตอเศรษฐกิจของประเทศ และการดําเนินชีวิตของประชาชนในประเทศตะวันตกที่เปนประชาธิปไตย การ จัดตั้งคณะรัฐมนตรีตองมาจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาเขาสูรัฐสภา ไมใชอาศัยกําลังของทหารหรือตํารวจ.. กองทัพและตํารวจมีหนาที่เพียงการปกปองประเทศในยามจําเปนเทานั้น เมื่อกลาวถึงประเทศไทย พวกเราไดมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองเมื่อ 23 ปที่แลว ในฐานะที่ผมเปนหัวหนารัฐบาล ผมขอใหการจัดตั้ง คณะรัฐมนตรีเปนไปโดยไมอาศัยอิทธิพลของทหารหรือตํารวจอีก เพราะนั่นเปนสิ่งที่ขัดตอประชาธิปไตย” แตทวา เมื่อประชาชนออกมาแสดงวาคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองและเรียกรองประชาธิปไตย จริงๆ แลว นายพลผูที่ รูจักประชาธิปไตยแตเพียงในหนังสือก็ไดออกมาประกาศอยางไมปราณีแม แตนอยวา “เพื่อความสงบของประเทศ รัฐบาลตัดสินใจวาจะจับตัวคนที่เหยียบย้ํากฎหมาย ออกมากอความปนปวนในสังคมโดยอางเหตุผลของ ประชาธิปไตย” การเปลี่ยนแปลงราวกับละครเชนนี้ทําใหนักวิชาการสมัยหลังหลายทานตางถอน หายใจ แนนอน วาระบอบประชาธิปไตยสมัยใหมของตะวันตกเปนสิ่งที่ดี มันฝงรากอยูในลัทธิความหลากหลายทางสังคม ระบบ ชนชั้น ประชาสังคม แนวความคิดตอการปกครองโดยกฎหมาย ประสบการณจากระบบตัวแทน การแบงแยก ระหวางอํานาจทางการเมืองและศาสนา รวมถึงการยึดถือตอลัทธิปจเจกบุคคล ทั้งหมดทั้งหลายนี้ลวนไดเริ่ม ปรากฏขึ้นในยุโรปตะวันตกเมื่อ 1 พันกวาปมาแลว และไดผาน การพัฒนาการเปนพันปกวาจะตั้งรากฐานใน สังคมตะวันตกไดในที่สุด แตวา ในประเทศตะวันออกที่มีการปกครองดวยระบบอัตตาธิปไตยซึ่งมีคานิยมสืบตอ หลายพันปมาวาอํานาจของกษัตริยนั้น “สูงเสียดฟา” ถึงแมวาคนผูควรจะตะหนักถึงผลดีของระบอบ ประชาธิปไตยแตวาในทางปฏิบัติ ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงขอจํากัดทางยุคสมัย สิ่งแวดลอมและประวัติศาสตรได เพราะวาประชาธิปไตยนั้นสุดทายแลวก็คือผลผลิตทางวัฒนธรรมและการพัฒนาการ ทางวัฒนธรรม มิใชสิ่งที่จะ เกิดขึ้นไดภายในชั่วขามคืน หลังจากนั้น 2 ป จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต ผูบัญชาการทหารบก ไดกอการรัฐประหารขึ้นและบีบใหจอมพล ป. ออกจากประเทศโดยใหเหตุผลวาจอมพล ป. ทุจริตการเลือกตั้ง โดยเริ่มแรกจอมพลสฤษดิ์ไมไดยกเลิกระบอบ ประชาธิปไตยในทันที แตจัดการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหมตามขั้นตอนระบอบประชาธิปไตย แต 1 ปหลังจากนั้น เขาก็ไดกอการรัฐประหารขึ้นเปนครั้งที่สองโดยเขาไดดํารงตําแหนงนายก รัฐมนตรี เพราะเห็นวารัฐประหารครั้ง แรกไมไดกระตุนใหเกิดรูปแบบของอํานาจทางการเมือง “หนังสือพิมพยังคงวิพากษวิจารณรัฐบาลไดเหมือนเดิม สมาพันธแรงงานหรือเจาของหนวยงานองคกรอื่นๆ ก็ประทวงหยุดงานได ฯลฯ และสิ่งที่เกินจะอดกลั้นก็คอ ื สมาชิกรัฐสภาพยายามแยงชิงอํานาจตองการเปนรัฐมนตรีกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ หรือตองการตําแหนงนั้นนี้ พวกเขาขูรัฐบาลวาหากไมแตงตั้ง พวกเขาจะถอนการสนับสนุนรัฐบาลและไดทะยอยกันตั้งพรรคฝายคาน ดังนั้น พวกเราคิดวาการจะแกไขปญหาที่ประเทศกําลังประสบอยูนี้ตองเปลี่ยนชื่อและ เปลี่ยนแปลงการบริหารเสียใหม” จอมพลสฤษดิ์ไดยกเลิกระบบประชาธิปไตยตางๆ ที่รับมาจากตะวันตกแบบขาดๆ แหวงๆ กระจัดกระจายที่ ปรากฎในรัฐบาลแตละสมัยหลังจากการเปลี่ยนมาใชระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหา กษัตริยเปนประมุขในป 2475 โดยไดเสนอวา “ตองสรางระบอบประชาธิปไตยที่เปนของประเทศไทยเองซึ่งเหมาะกับลักษณะพิเศษ ของ ประเทศไทย” “ประชาธิปไตยแบบประเทศไทยควรตองมีรากกําเนิดจากพื้นแผนดินของประเทศไทย พืชพันธุที่เจริญเติบโต อยางอุดมสมบูรณบนผืนดินที่ไดรับแสงอาทิตยและน้ําฝนแหงนี้ ผลของมันควรจะเปนกลวย มะมวง เงาะ มังคุด และทุเรียน ไมใชแอ็ปเปล องุน พลัมหรือเกาลัด” หากกลาวอยางเปนรูปธรรม “ระบอบประชาธิปไตยแบบไทย” กอนอื่นตองใหความสําคัญกับมั่นคง อันดับรองลงมาคือการพัฒนา “ประเทศตองการการพัฒนามากที่สุด ไมใช ประชาธิปไตย” “เปาหมายสูงสุดของการพัฒนาคือ การยกระดับความเปนอยูของประชาชน” บรรดานักการเมืองที่เห็นการผล ประโยชนสวนตน “ยอมจะไมเห็นแกประชาชนอยางแนนอน มีแตจะทําใหเกิดความวุนวาย ความ แตกแยกและความออนแอไรประสิทธิภาพของรัฐบาล” จอมพลสฤษดิ์เห็นวา การยอมรับและเทิดทูนอํานาจบารมีของผูนําไดหยั่งรากลึกในวัฒนธรรมดั้งเดิม ของไทย ซึ่ง สิ่งนี้ตางจากวัฒนธรรมตะวันตกที่เนนอิสรภาพ ความเสมอภาคและสิทธิสวนบุคคลโดยสิ้นเชิง ดังนั้น ระบอบที่ ไดผานการบมเพาะมาจากอารยธรรมตะวันตกยอมจะไมเหมาะกับสภาพความเปนจริง ของประเทศไทย หลายรอย ปที่ผานมา ภายในเขตวัฒนธรรมขงจื้อของเอเชียตะวันออกซึ่งรวมถึงประเทศไทย มีความทัศนคติดานการ ปกครองบานเมืองซึ่งสืบทอดมายาวนานวา “ประเทศมีกษัตริยเปนผูนําสูงสุดฉันใด ในครอบครัวมีพอบานเปน หัวหนาครอบครัวสูงสุดฉันนั้น” “กษัตริยก็ตองปฏิบัติตัวตามหนาที่ของกษัตริย ขุนนางก็ตองทําหนาที่ของขุนนาง บิดาก็ตองปฏิบัติหนาที่ของบิดา บุตรก็ตองปฏิบัติตามหนาที่ของบุตร” กษัตริยและบิดาตองปฏิบัติกับขุนนางและ บุตรดวย “ความเมตตา” ขุนนางและบุตรก็ตองปฎิบัติตนตอกษัตริยและบิดาดวย “ความจงรักภักดี” อํานาจของ กษัตริยกลายเปนอํานาจของบิดาในขอบเขตที่กวางขึ้น เพราะประเทศก็คือครอบครัวในขนาดขยาย กษัตริยก็ดูแล ประเทศเหมือนดังที่ดูแลครอบครัว โดยใชความเมตตาและคุณธรรมสรางความอยูดีกินดีใหกับพสกนิกร ใน ขณะเดียวกัน ขุนนางและประชาชนก็ควรรับใชและเคารพอํานาจของผูปกครอง จอมพลสฤษดิ์กลาววา ประชาชน ไทยควรจะ “เห็นคาของระบบพอปกครองลูกแบบดั้งเดิมซึ่งเปนประเพณีแตโบราณของเรา... ผูปกครองไมใชใคร อื่น แตเปนผูนําครอบครัวขนาดใหญของเราเอง ตองถือวาประชาชนทุกคนเปนลูกของตนเอง ปฏิบัติตอพวกเขา ดวยความเมตตากรุณา ตองดูแลเอาใจใสความทุกขรอนของประชาชนเหมือนดังที่ปฏิบัติกับลูกตนเอง” ดังนั้น เกิดการรัฐประหารไดไมกี่วัน “ผูนําครอบครัวซึ่งมีความเมตตา” ทานนี้ก็ไดแสดง “แนวทางการปกครอง ดวยความเมตตา” ของตนออกมา เขาไดลดคาไฟ ราคาสินคาที่จําเปนใชสอยในชีวิตประจําวัน เชน ถาน อาหาร น้ําตาล ฯลฯ และไดสงน้ํากินน้ําใชฟรีใหทุกครัวเรือนครัวเรือนละ 30 ถัง/เดือน จัดตลาดนัดวันอาทิตย และจัดหา สินคาราคาถูกใหกับประชาชน นอกจากนั้นยังใชทหารเรือสงมะพราวล็อตใหญมาจําหนายในราคาทุน เพื่อกด ราคาสินคา สําหรับพวก “เนื้อราย” ที่เปนภัยคุกคามตอความมั่นคงของสังคม เชน ยาเสพติด อิทธิพลมืด จอม พลสฤษดิ์ก็ไดใชไมแข็งในการปราบปราม พวกคดีวางเพลิงตมตุน เขาจะไป ณ ที่เกิดเหตุดวยตนเองและตัดสิน โทษผูทําความผิดทันทีโดยไมผานกระบวนการทางกฎหมายซึ่งทําใหสั่นสะเทือนไป ทั้งประเทศ 5 ปหลังจากนั้น หลังจากที่จอมพลสฤษดิ์เสียชีวิตลง จอมพล ถนอม กิตติขจร ซึ่งเปนผูชวยของเขาก็ไดดํารงตําแหนง นายกรัฐมนตรีแทน จอมพลสฤษดิ์มีคํากลาวที่มีชื่อเสียงประโยคหนึ่งวา “ใครก็สามารถกอการปฏิวัติ (รัฐประหาร) ได ปญหาอยูที่วา เมื่อทานปฎิวัติแลวทานจะทําเชนใดใหประชาชนยอมรับทาน” ตั้งแตป 2475 ถึงป 2500 ที่จอมพลสฤษดิ์กอการ รัฐประหาร ในชวงเวลา 25 ป ประเทศไทยไดผานการรัฐประหารมาทั้งสิ้น 10 ครั้ง—เฉลี่ยแลว 2.5 ป /ครั้ง มีการ ประกาศรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น 6 ฉบับ จัดการเลือกตั้งแลว 9 ครั้ง มีนายกรัฐมนตรีแลว 8 คน มีการจัดตั้ง คณะรัฐมนตรีรวม 26 สมัย สถานการณการเมืองเหมือนลูกตุมนาฬิกา ไมตกอยูระหวางการทะเลาะกันทาง การเมือง ก็เกิด การรัฐประหาร กองทัพที่เปนอิสระจากรัฐบาลไดกลายเปนชนชั้นพิเศษที่มีอํานาจทางการเมือง ที่ ยิ่งใหญที่สุด ระบอบประชาธิปไตยของตะวันตกไมเคยแตกหนอออกใบในผืนแผนดินแหงนี้ เกี่ยวกับเหตุผลนี้ ดร. ลิขิต ธีระเวคิน นักรัฐศาสตรของไทยมีคําอธิบายไวอยางเฉียบคมวา “ความ พยายามในการกอรัฐประหารในป 2475 ไมไดรับการสนับสนุนใดๆ และไดกอตั้งระบอบประชาธิปไตยขึ้น โดยปราศจากสภาพแวดลอมของวัฒนธรรมประชาธิปไตยแบบตะวันตก กลาวคือ ไมมีระบอบและวัฒนธรรมทาง การเมืองแบบประชาธิปไตยมาสนับสนุน ดังนั้น ความพยายามของพวกปฏิวัติจึงไมเกิดผล การเมืองของไทยก็ได กลับไปสูรูปแบบเกาอีก ซึ่งก็คือการใชกําลังในการแกไขปญหา” ในประวัติศาสตรที่ทหารเขามาปกครองประเทศไทยนั้น ทานที่สําคัญที่สุดทานสุดทายคือ พลเอกเปรม ติณสูลา นนท ซึ่งขึ้นมาดํารงตําแหนงเมื่อป 2523 ซึ่งก็คือบุคคลที่เมื่อสองสามเดือนกอนไดสวมชุดทหารขอใหนักเรียน โรงเรียนนายทหารอยารับใชเชื่อฟง “นักการเมืองที่มาจาก การเลือกตั้ง” แตวา พลเอกเปรมไมไดขึ้นมาดํารง ตําแหนงดวยวิธีการรัฐประหาร หากแตไดรับเชิญจากนักการเมืองที่ไมโดดเดนบางคนใหขึ้นมาบริหารประเทศ พลเอกเปรมดํารงตําแหนง ผูบัญชาการทหารบกในขณะนั้น เปนนายทหารมืออาซีพอยางแทจริง ไมมีพรรคไมมี พวก แตวาทํางานดวยความซื่อสัตยสุจริตจนเปนที่นับถือของประชาชนทั่วไป พรรคเสียงขางมากในรัฐสภาซึ่ง ไดมาจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย ไดรวบรวมชื่อและเสนอใหนายทหารผูที่ไมเคยลงสมัครเลือกตั้งทานนี้ ไดขึ้นดํารงตําแหนงนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรมไดบริหารประเทศนานถึง 8 ป โดยระหวางนั้นยังไดควบดํารง ตําแหนงผูบัญชาการทหารบกอยู 3 ปกวา นับเปนสิ่งที่เกิดขึ้นไดอยางยากยิ่งในประวัติศาสตรการเมืองไทยที่ปกติ รัฐบาลจะมีอายุเฉลี่ยไมเกิน 1 ป พลเอกเปรมไดเผชิญกับการรัฐประหารมาจํานวน 2 ครั้ง--พันธมิตรในกองทัพ ของเขาในอดีตบางสวนไมพอใจอยางมากตอการที่เขาครองตําแหนงสูงสุดทั้งทาง การเมืองและทหารไวอยาง มั่นคงเปนเวลานาน แตทวา พลเอกเปรมก็สามารถเอาชนะกลุมที่กอการรัฐประหารทั้งสองครั้งได ในชวงเวลาที่พลเอกเปรมบริหารประเทศนั้น ไดเกิดธรรมเนียมปฏิบัติอยางหนึ่งของทหารและตํารวจซึ่งคือ เมื่อถึง วันเทศกาลสําคัญ เชนวันปใหมของตะวันตกหรือของไทยรวมถึงวันเกิดของพลเอกเปรม หรือเมื่อเผชิญกับ สถานการณที่ไมสงบ บรรดาทหารและตํารวจชั้นผูใหญตองเดินทางมาทําเนียบรัฐบาลรวม “พิธีถวายสัตยแสดง ความจงรักภักดี” โดยความจริงแลวเพื่อตองการแสดงใหสังคมไดเห็นวากองทัพสนับสนุนเขา ในวันเกิดครบรอบ อายุ 65 ป ของพลเอกเปรม มีทหารและตํารวจชั้นผูใหญจํานวน 300 กวานายไดแสดงความจงรักภักดีตอเขาวา “พวกเราทุกคนจะปฏิบัติตามคําชี้แนะและคําสั่งของทานนายกรัฐมนตรี” พลเอกเปรมไดตอบรับวา “ความสามัคคี ของกองทัพและตํารวจเปนเสาหลักสําคัญของประเทศเรา....ไมวามีปญหาอะไร ขอเพียงพวกเราสามารถรักษา ความสามัคคีนี้ไวได พวกเราก็จะสามารถแกไขปญหาที่ยากลําบากตางๆ ที่เขามาไดทั้งหมด” พลเอกเปรมเปนคนแข็ง ทําอะไรตามอําเภอใจ เคยยุบสภา 3 ครั้งโดยไมไดปรึกษากับสมาชิกคณะรัฐมนตรีและ ผูนํารัฐสภาคนใดเลย โดยใหเหตุผลวา “เปนอุปสรรคขัดขวางการบริหารบานเมือง” เกี่ยวกับดานสื่อมวลชน พล เอกเปรมลวนไมเคยใหความสนใจ ผูสื่อขาวนั้นยากที่จะไดขาวอะไรจากปากของเขา และพลเอกเปรมไดลาออก จากการเปนนายกรัฐมนตรีในป 2531 โดยหลังจากนั้น ไดดํารงตําแหนงเปนที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่งสวนพระองค ของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวและประธานองคมนตรีจนถึงปจจุบัน คนภายนอกเห็นวาเขาเปนเสมือนโฆษก สวนพระองคของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว คําพูดของเขาทุกครั้งมักลวนแตถูกมองวาเปนพระราชโองการ ของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว คําบอกเลาของทักษิณ หนึ่งในบรรดานายกรัฐมนตรีที่ไดถูกขับใหออกจากประเทศนั้น เขาทุกขและเศราใจอยางมากหลังจากลงจาก ตําแหนง เดิมทีเขาหวังวาจะปฏิรูปโครงสรางเศรษฐกิจและระบบตุลาการของไทย แตผลสุดทายกลับโดนไลลง จากตําแหนงและเสียชีวิตอยูที่กรุงปารีส สวนนายกรัฐมนตรีอีกคนที่ถูกเนรเทศนั้น ครั้งแรกไดถูกทําเนียบ องคมนตรีขับไลออกไป หลังจากลงจากตําแหนงแลวเขาก็ไปทําสวนที่ตางจังหวัด โดยภายหลังไดถูกเชิญให กลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง และหลังจากนั้นก็ถูกขับไลลงจากตําแหนงอีกโดยการรัฐประหารของฝายทหาร และสุดทายไดเสียชีวิตลงที่กรุงโตเกียว นอกจากนั้นยังมีนายกรัฐมนตรีอีกคนหนึ่งที่ถูกขับลงจากตําแหนง เขาผู นั้นเปนผูซึ่งพยายามพัฒนาใหประเทศมีความทันสมัยและขจัดความยากจนของ ประชาชน ผมเชื่อวาในประเด็นนี้ ผมทําไดดีกวาเขา
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 2 ขาวลือกลายเปนความจริง

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 3:48 am

ตอนที่ 5

หลายปมานี้ นักการเมืองและทหารเหมือนกับโคมไฟมาหมุน ทามกลางเวทีการเมืองที่สั่นคลอนไปมา ดีไมดีก็ยุบ คณะรัฐมนตรี ดีไมดีก็กอรัฐประหาร แตสิ่งที่ทําใหคนตะลึงมากที่สุดคือ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงธงหนาประตู เมือง (ตัวผูนํา) ชาวไทยก็มีทาทีที่ยอมคลอยตามและนิ่งเงียบเชนที่ผานมาตลอด การรัฐประหาร การปฏิรูป กอ ความวุนวายและการปฏิวัติหลายครั้งในประวัติศาสตร ไมมีครั้งไหนที่ประสบความพายแพเพราะไดรับการ ตอตานจากประชาชน แมแต การประทวงขนาดใหญยังเกิดขึ้นนอยครั้ง ความสัมพันธระหวางผูกุมอํานาจของ ประเทศกับผูที่เสียภาษีซึ่งเปนเจาของประเทศที่แทจริงคือ “เรื่องไมเกี่ยวกับตนเอง ก็เฉยไวไมยุงเกี่ยวดวย” ไม สนใจวาใครจะขึ้นใครจะลง ใครอยูใครไป ขอแคเพียงไมสงผลกระทบตอการดําเนินชีวิตประจําวัน ผูคนก็สงบไม สะทกสะทานอะไร นักวิชาการหลายทานเห็นวา ทาทีที่เมินเฉย “เผชิญเรื่องที่ไมดีไดอยางไมสะทกสะทาน” ของ ประชาชนทําใหทหารสามารถผูกขาดสิทธิอํานาจมาไดตลอด “อํานาจของทหารมาจากคานิยมและความเชื่อ” จุด กําเนิดของคานิยมและความเชื่อนั้นก็มาจากศาสนาและวัฒนธรรม ประเทศไทยเปนประเทศเดียวในโลกที่ถือวาศาสนาพุทธเปนศาสนาประจําชาติ ในจํานวนประชากร 63 ลานคน รอยละ 95 นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท (หินยาน) ทั่วประเทศมีวัดจํานวน 32,000 กวาแหง พระสงฆ 3 แสน กวารูป โดยเฉลี่ยในจํานวนประชาชน 160 คนจะมีพระสงฆ 1 คน โดยในกลุมนี้หลายคนก็บวชไมสึกตลอดชีวิต ไมวาในเมืองที่เต็มไปดวยตึกที่ทันสมัย หรือในชนบทที่หางไกลออกไปก็สามารถเห็นวัดสีทองอราม และ พระสงฆเดินตามทองถนนทุกหนทุกแหง สําหรับปจจัยสําคัญทีสุดในการพัฒนาประเทศและคุณภาพของ ่ ประชาชนก็คือ การศึกษา ซึ่งในประวัติศาสตรจะอยูในความรับผิดชอบจัดการของพระสงฆมาเปนเวลานาน คน ไทยโดยปกติจะสําเร็จการศึกษาระดับประถมในวัด ปจจุบันนี้ ถึงแมงานดานการศึกษาจะไดสงมอบใหรัฐบาลเปน ผูดูแลแตโรงเรียนหลายโรงเรียนก็ยังคงอยูในวัดเชนเดิม ศาสนาพุทธก็มีบทบาทควบคุมกระบวนการหลอหลอม วัฒนธรรมของไทย และมีอิทธิพลอยางสูงตอคานิยมดานศักดิ์ศรีและความจงรักภักดีกตัญู รวมถึงความเชื่อของ ชาวไทย คนไทยคิดวา “บุญ” เปนโชคชะตาชนิดหนึ่ง เปนผลที่ไดจากการทําบุญทํากุศลในชาติที่แลว การสั่งสมบุญมามาก หรือนอยจะกําหนดฐานะของเราในชาตินี้ ยิ่งเปนคนที่มีบุญมาก ทรัพยสมบัติก็ยิ่งมีมาก อํานาจก็จะยิ่งมาก หากสั่ง สมบุญไมพอ โชคชะตาในชาตินี้ก็จะไมดี ทําไดเพียงพยายามสรางกุศลอยางแข็งขันเพื่อใหชาติหนาจะไดความ เปนสิริมงคลตอบแทน หนังสือเรื่อง “Discourse on the Stages of Yogic Practice” กลาววา “สิงที่ทําแลวจะไม ่ หายไป สิ่งที่ยังไมไดทํายอมไมไดมา” “หลายรอยปที่ผานมา ความถูกตองของเรื่องใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับการไดมา ซึ่งอํานาจและการถายทอดอํานาจ ลวนแตอางถึงการสั่งสมบุญในชาติที่แลวและเรื่องวีรบุรุษกลับชาติมาเกิด แมกระทั่งการลุกฮือขึ้นมาของประชาชนก็ยังใชเหตุผลเหลานี้เพื่ออางความ ถูกตอง” “บุคคลที่มอํานาจจะอาง “การ ี สั่งสมบุญ” ในการกลาววาคนที่ยากจนและคนที่ไมมีอํานาจในชาตินี้เปนเพราะชาติที่ แลวไมไดสั่งสมบุญไว แต คนที่ร่ํารวยและมีอํานาจก็เปนเพราะไดสั่งสมบุญไว ดังนั้น ไมวาปจจุบันนี้จะเปนคนรวยคนจน มีอํานาจไมมี อํานาจ เปนสิ่งที่โชคชะตาไดลิขิตไวแลว ทุกคนทําไดแตยอมรับโชคชะตา” ยอมรับสิ่งที่ทําไปในชาติที่แลว พยายามแกไขทําเพิ่มเติมในชาตินี้ และคาดหวังในชาติหนา ระบบความเชื่อและคานิยมทางพุทธศาสนาแบบนี้ได สะทอนออกมาในวัฒนธรรมการเมืองซึ่งก็คือ “การยอมรับและทําตาม” อํานาจทางการเมืองเปนไปเพื่อประโยชนของมวล ชนโดยสวรรคไดกําหนดไวแลว ประชาชนทําไดแคเพียงยอมรับกับสภาพในปจจุบันและโชคชะตาของ ตน อิจฉาผูที่มีอํานาจและร่ํารวย ปฏิบัติตามเครื่องจักรที่ควบคุมประเทศและบุคคลที่กุมอํานาจการปกครอง ประเทศอยางไมมีเงื่อนไข ผูครองอํานาจสามารถหาเหตุผลอางอิงอันทรงคุณธรรมที่สวยงามที่สุดจาก แนวความคิดทางพุทธศาสนาไวไดแลว ลักษณะพิเศษของการรัฐประหารของไทย คือ ไมเสียเลือดเนื้อ และก็เกี่ยวพันกับความเชื่อในพระพุทธศาสนา มี ชาวตะวันตกหลายคนเห็นวาศาสนาพุทธเปนอภิปรัชญาที่ไมเกินความพอดี เปนรูปแบบการดําเนินชีวิตที่สันติ เปนธรรมชาติ เและออนโยน เพราะวาศาสนาพุทธหามไมใหฆาสัตว “การฆาสัตว” เปนศีลขอแรกในหาขอของ ศาสนาพุทธ ถือเปนกรรมที่รุนแรงที่สุด และผลกรรมก็นากลัวที่สุดดวย ในพระไตรปฎกไดบันทึกไววา ผลกรรม อยางบาปมหันตในขั้นที่ 1 คือ การฆาสัตวจะตองตกนรกหลายรอยลานปและตองทนทุกขทรมานอยางสุดทน ผล กรรมในขั้นที่ 2 คือ ขณะมีชีวิตอยูชอบฆาสัตวอยูเปนนิจก็จะทําใหอายุสั้นและมีโรคภัยไขเจ็บ มารุมเรามากมาย ผล กรรมขั้นที่ 3 ขณะมีชีวิตอยูก็ตองอยูในสถานที่ที่มีสภาพแวดลอมที่เลวราย การฆาสัตวกอใหเกิดผลกรรมหนัก ขนาดนี้ การฆาคนยิ่งไมตองพูดถึง ดังนั้น ถึงแมวาสถานการณทางการเมืองจะสั่นคลอนเปลี่ยนแปลงไปมา การ ตอสูทางการเมืองจะโหดรายปราศจากความปราณี รัศมีของการใหอภัยดวยความโอบออมอารีของ พระพุทธศาสนาไดสงผลตอคานิยมของผูคน ดังนั้นเหตุการณการสังหารผูสูญเสียอํานาจทางการเมืองนั้นปรากฎ ใหเห็นนอยมาก การกอรัฐประหารที่ผานๆ มาก็แทบจะไมปรากฎเหตุการณหลั่งเลือดขึ้น นอกจากนั้นแลว ประชาชนก็รูสึกเบื่อหนายตอการตอสูเพื่อผลประโยชนสวนตนของนักการเมือง มาตั้งนานแลว นาย Sang-sa-ka-di (นายสังคีต--ผูแปล) นักวิชาการของไทยไดเขียนไวในหนังสือเรื่อง “รัฐบาลและการเมืองไทย” วา “คนไทยถือวาการเมืองเปนสรรพนามแทนคําวา เลวราย เสื่อมโทรม วุนวาย มองนักการเมืองวาเปนผูกระ หายใจอํานาจ ใชอํานาจหนาที่ตามอําเภอใจ แสวงหาผลประโยชนสวนตัว ชอบโตเถียงและทะเลาะ ไมมีใครมี ประสิทธิภาพ” นอกจากนั้น ดร.ลิขิต ไดกลาวในหนังสือเรื่อง “ประวัติศาสตรการเมืองไทย” ที่ไดตีพิมพเมื่อป 2542 วา “ประชาธิปไตยของไทยไดเดินทางมาถึงทางตันแลว เนื่องจากระบอบนี้ไมสามารถแสดงใหเห็นไดวา สามารถนําประโยชนมาสูคนสวนใหญได ในทางตรงกันขาม สิ่งที่ประชาชนเห็นกลับเปนเพียงการตอสูเพื่อแยง ชิงอํานาจระหวางนักการเมือง ลอกลวงกันไปมา ทําใหประชาชนรูสึกเอือมระอาอยางที่สุด ไดปรากฎเคาลาง แสดงใหเห็นแลววา ระบอบที่แลกมาดวยเลือดและชีวิตของวีรบุรุษนั้นอาจจะตกอยูในความวุนวาย ซึ่งไมมีที่ สิ้นสุด คําถามที่วา “ระบอบนี้จะสามารถใชไดในประเทศไทยหรือไม” ไดกอเกิดขึ้นในใจของหลายคนแลว สิ่งนี้ เปนที่ควรตองตั้งคําถามอยางจริงจังแลว และก็ควรหาคําตอบอยางจริงจังแลวดวย
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 2 ขาวลือกลายเปนความจริง

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 3:51 am

ตอนที่ 6

การรัฐประหารครั้งสุดทายในประวัติศาสตรไทยเกิดขึ้นเมื่อ 15 ปที่แลว หลังจากที่พลเอกเปรมไดลาออก ประเทศ ไทยจึงไดมีนายกรัฐมนตรีซึ่งเปนขาราชการพลเรือนและมาจากการเลือกตั้ง คนแรกในชวง 12 ป ซึ่งก็คือ พลเอก ชาติชาย ชุญหะวัน เขาเปนนักปฏิรูป นอกจากการปฏิรูปนโยบายทางเศรษฐกิจและการทูตแลว ยังพยายามนํา อํานาจที่อยูในมือทหารและขาราชการมาโดยตลอดมาใหแกนักการเมืองที่มาจาก การเลือกตั้ง ซึ่งเทากับเปนการขุด หลุมฝงตนเอง ในวันที่ 23 กุมภาพันธ 2534 ขณะที่สายตาจากรอบโลกตางจับจองอยูที่ไฟอันลุกโชนจากสงคราม อาวเปอรเซีย พลเอกชาติชายกลับถูกฝายทหารจับตัวอยางเงียบๆ ที่สนามบินกรุงเทพฯ เหตุผลการกอรัฐประหารก็ เหมือนกับรัฐประหารครั้งที่ผานๆ มา คือ “ความฟอนเฟะไดแพรกระจาย” ผูนําการกอรัฐประหารไดกลาวหาวา พลเอกชาติชาย เปน “นายกรัฐมนตรีที่เหลวแหลกมากที่สุดในประวัติศาสตร” ถึงแมวากอนหนานั้นไมนาน นายกรัฐมนตรีทานนี้ไดชื่อวาเปน “ผูสรางปฏิหาริยแกเศรษฐกิจไทย” ฝายทหารในฐานะที่มีไพเหนือกวาทั้งหมด ไวในมือ ไมไดยิงปนแมแตนัดเดียว จะมีก็แตเพียงลงประโยคสั้นๆในสื่อ ความวา “คณะมนตรีความมั่นคงซึ่ง ประกอบดวยพลเอกสุนทร คงสมพงษ ผูบัญชาการสูงสุด และผูบัญชาการของทหารบก เรือและอากาศ รวมถึง อธิบดีกรมตํารวจประกาศสืบทอดอํานาจการบริหารประเทศ โดยรัฐบาลพลเรือนซึ่งนําโดยพลเอกชาติชาย อดีต นายกรัฐมนตรีไดถูกโคนลมแลว” แตทวา สองสามเดือนหลังจากนั้น ประชาชนชาวไทยที่เผชิญเรื่องรายอยางไมสะทกสะทานมาตลอดก็ไดลุกขึ้นมา ประทวง แตมิใชเพราะวาพวกเขาตื่นตัวไว แตเปนเพราะวาเหลาทหารที่มือไมวองไวแตคิดอะไรแบบงายเหลานี้ มองขามกระแสประชาธิปไตยที่กําลังเติบโตอยูในโลกขณะนั้น โดยฟนฟูวัฒนธรรมการรัฐประหารขึ้นในประเทศ ประชาธิปไตย ที่ดําเนินระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริยเปนประมุขมาเป นเวลาครึ่ง ศตวรรษกวา (หลายคนเห็นวาประเทศไทยปกครองดวยระบอบ “ประชาธิปไตยครึ่งใบ”) ดวยความฮึกเหิมใน ทศวรรษสุดทายของคริสตศตวรรษที่ 20 พวกเขาผิดสัญญาที่ใหแกประชาชน หลังจากกอรัฐประหารแลว นอกจากจะไมยอมฟนฟูระบอบการปกครองแบบเดิม และไมสรางอํานาจรัฐธรรมนูญตามความประสงคของ ประชาชนแลว กลับยังแทรกตัวแทนฝายทหารเขาไปในรัฐบาลอยางรวดเร็วอีกดวย ซึ่งบุคคลผูนั้นก็คือ พลเอกสุ จินดา โดยใหเขาดํารงตําแหนงนายกรัฐมนตรี ทั้งยังแกไขกฎหมายทําใหขาราชการและทหารไดรับอํานาจอัน มหาศาล เมื่อเดือนเมษายน 2535 พลเอกสุจินดาแพการเลือกตั้งแตกลับฮึกเหิมแตงตั้งตนเองเปนนายกรัฐมนตรี ซึ่งสราง ความโกรธแคนใหกับประชาชนเปนอยางมากจนมีประชาชนออกมาเดินขบวนประทวงกัน มากขึ้นทุกวัน ครึ่ง เดือนใหหลัง ประชาชนที่ออกมาเดินประทวงมีจํานวนเกินหนึ่งแสนคน ตอมาในเชาตรูของวันที่ 18 พฤษภาคม กองทัพไดก็เคลื่อนรถถังเขามาในเขต กทม.และไดประกาศกฎอัยการศึกขึ้นทั่วพื้นที่เมือง หามไมใหมีการชุมนุม คนเกิน 10 คน ผูนําขบวนประทวงถูกจับ กลุมผูประทวงถูกกลาวหาวาเปน “พรรคคอมมิวนิสต” เมื่อหนึ่งรอยปที่ แลว ทามกลางการกระทําอันรุนแรงที่ เกี่ยวกับการใชกําลังปราบปรามในแทบทุกประเทศในโลกนั้น มักจะมีฝาย ซึ่งโชครายที่ถูกขนานนามวาเปนพรรคคอมมิวนิสต หากวามารกซยังมีชีวิตอยูไมทราบวาเขาจะรูสึกอยางไร กรุงเทพฯ โชยไปดวยกลิ่นคาวของเลือดติดตอกันนาน 3 วัน ทหารไดยิงบรรดาผูประทวงบรรดาหนวยแพทยบางคนที่รีบ เขามาชวยผูบาดเจ็บก็โดนลูกหลงเสียชีวิตลง แมกระทั่งนักขาวตางชาติที่หลบอยูหลังตนไมที่เก็บภาพ เหตุการณคนหนึ่งก็หลบลูกปนไมพน จากการรายงานขององคการสิทธิมนุษยชนระบุวา เหตุการณรุนแรงนี้ทําให มีผูเสียชีวิต 52 คน หายสาบสูญไป 200 กวาคน และบาดเจ็บอีก 600 กวาคน ในชวงเวลาสําคัญเชนนี้ พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวภูมิพลอดุลยเดช ผูซึ่งทรงไมยุงเกี่ยวกับเรื่องการเมืองก็ไดทรงปรากฏพระวรกาย กษัตริยผูมีพระนามวา พระรามาธิบดีองคที่ 9 พระองคนี้ทรงมีฐานะดั่ง ”สมมุติเทพ” ในดวงใจของผูคนทั้ง ประเทศ ทรงเปนดังหลักศิลาที่ตั้งอยูอยางมั่นคงในทามกลางสถานการณที่เปลี่ยน แปลงและพลิกผันตลอดเวลา พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวทรงมีรับสั่งใหพลเอกสุจินดาและพลตรีจําลอง ศรีเมือง ผูนําฝายที่ประทวง (ซึ่งเปน ผูนํา ”พันธมิตรเพื่อประชาชน” ที่ตอตานรัฐบาลของทักษิณในครั้งนี้) เขาเฝาฯ เพื่อรับฟงพระราชโอวาท โดยได ใหโทรทัศนถายทอดสดตลอดการเขาเฝาฯ ดวยเหตุฉะนี้ ประชาชนทั้งประเทศจึงไดเห็นภาพที่ระทึกใจทางหนาจอโทรทัศน กลาวคือ ภาพของนายทหารผูที่ ใชลูกปนกราดใสฝายคานไดอยางไมเสียดาย และนักสูที่ตอสูโดยไมคิดชีวิต ซึ่ง ณ นาทีนั้น ทั้งสองไดกมลงกราบ แทบพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวดวยความเคารพเทิดทูน “ปญหาไดเกิดขึ้นแลว การนองเลือด เมื่อคนเราไดกระทําการรุนแรงขึ้น ผลที่ออกมาจึงยากที่จะควบคุมได ความ เสียหายที่เกิดขึ้นเปนความเสียหายของประเทศ มีอะไรนาภูมิใจหรือ? ดังนั้นจึงไดเชิญพวกทานมา ไมใชใหมา เผชิญหนากัน แตใหมาพูดจากัน” พระราชดํารัสที่กลาวเตือนอยางตรงไปตรงมา พระจริยวัตรอันเลิศล้ํา และเปยม ดวยคุณธรรมสูงสง ตลอดจนพระเดชบุญญาบารมี ทั้งสองคนคุกเขานิ่งเปนเวลานานเบื้องหนาพระพักตรของ “องคพระผูทรงธรรม” ฉากสุดทาย ซึ่งนายทหารไทยถอยออกจากเวทีการเมืองไดเกิดขึ้น ทามกลางบรรยากาศอัน นาตื่นตะลึงที่ยากจะลืมเลือนไดและดวยน้ําพระทัยที่หาที่เปรียบมิไดใน ครั้งนั้น พลเอกสุจินดาประกาศลาออกดวย ตนเอง การเลือกตั้งจึงถูกจัดขึ้นใหมอีกครั้ง จนถึง ณ ปจจุบัน ฝายทหารไดใชเวลาถึง 15 ปในการจําศีลอยางวานอนสอนงาย ทําใหคนคิดเดาไปวายุคสมัยของ การรัฐประหารไดสิ้นสุดแลว แตทวา ในความเปนจริงพวกเขาไดใชกระบองตีหัวผูคนที่มีความฝนอันสวยงามใน ระบอบประชาธิปไตยไปเรียบรอยแลว คําบอกเลาของทักษิณ สังคมโลกลวนเห็นวาการรัฐประหารเปนสิ่งปกติธรรมดาในประเทศไทย ซึ่งแสดงใหเห็นวาประชาธิปไตยใน ประเทศนี้มีปญหามากเพียงใด ในวันนี้พวกเราไมไดอยูในสิ่งแวดลอมที่ตัดขาดจากโลกภายนอกเชนในอดีตแลว ศตวรรษที่ 21 เปนศตวรรษแหงความเชื่อมโยง เมื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นในประเทศหนึ่งก็จะสงผลตอไปอีกประเทศ หนึ่งในทันที เชน วิกฤตการณทางการเงินของไทย เมื่อเกิดการรัฐประหารขึ้นก็ยอมทําลายผลประโยชนของชาติ อยางไมอาจปฏิเสธได และสงผลกระทบตอเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมทั้งทําใหความเชื่อมั่นที่สังคมโลกมีตอ ประเทศไทยนั้นสั่นคลอน เมื่อสังคมโลกสูญเสียความไววางใจและเชื่อมั่นตอคุณแลว เศรษฐกิจระบบทุนนิยมก็ไม มีวันประสบความสําเร็จไดในประเทศไทย
หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> 42198_10
คําบรรยายใตภาพ
(1) ภาพหนา 29 วันที่ 20 กันยายน 2549 พลเอกสนธิ ผูบัญชาการทหารบก ซึ่งเปนผู บัญชาการการกอการ รัฐประหารจัดการแถลงการณตอสื่อมวลชน ณ กรุงเทพฯ
******************************
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 3 ไมเคยมีมากอนในประวัติศาสตร

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:00 am

ตอนที่ 1

ความคิดลมลางทักษิณโดยการรัฐประหารทางทหารกําลังดําเนินการตอไป วันที่ 19 กันยายน 2550 เวลา 18.30 น. กรุงเทพมหานคร มีขาววา 4 หนวยรบพิเศษจากภาคตะวันออก 4 จังหวัด ของไทยกําลังทําการรวมกําลังพล ภายหลังการตรวจสอบแลว พบวากองกําลังทั้ง 4 หนวยคือกรมทหารราบที่ 31 กรมทหารมาที่ 23 กรมทหารมาที่ 24 และกองพลที่ 2 ซึ่งลวนแลวแตเปนกองกําลังสําคัญจากกองทัพภาคที่ 3 และ กองทัพภาคที่ 5 ในคืนวันเดียวกันนั้น กองกําลังเหลานี้พรอมอาวุธครบมือไดเขามาทําการคุมสถานการณดานทิศตะวัน ออกและ เหนือรอบ กทม. เปนบริเวณ 100 กม. การที่กองกําลังพิเศษที่ประจําการอยูที่ จ. ลพบุรีไมไดเดินทางกลับคายทหาร หลังจากเสร็จสินภาระกิจการฝก เปนการแสดงออกถึงอาการที่นาเคลือบแคลงใจ เพราะวาจุดหมายการเดินทาง ้ ของกองกําลังพิเศษ จ. ลพบุรีและกองกําลังรถหุมเกราะตอบโตเร็วและกรมทหารราบที่ 9 จังหวัด กาญจนบุรี นั้น ลวนมุงมาที่ กทม. โดยที่จังหวัดทั้งสอง (กาญจนบุรี และลพบุรี) ลวนหางจะกรุงเทพฯ เปนเวลาเพียง 2 ชั่วโมง ใน เวลาเดียวกันนั้น มีขาวเล็ดลอดออกมาวา ที่ปรึกษาอันดับหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ประธาน องคมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท กําลังเขาเฝาพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ทําใหนักวิเคราะหลวนคิดวา พล.อ. เปรมฯ ผูซึ่งมีฉายาวา “เพชรฆาตแมน้ําเจาพระยา” คือคนคิดผูบงการการรัฐประหารอยางลับๆ ในการสนทนาของทักษิณครั้งหนึ่งเมื่อปลายเดือนมิถุนายน ทักษิณเคยบอกวา มีกระแสนอกรัฐธรรมนูญ (unconstitutional power) กําลังพยายามขับไลเขาออกจากตําแหนง ซึ่งคนตนคิดและบงการกระแสนี้เปนบุคคลที่มี บารมีเปนอยางมาก (charismatic person) โดยมีหลายคนเชื่อวาเปน พล. อ. เปรมฯ ถึงขนาดที่วา ภายหลังเหตุการณ ระเบิดรถยนตในเดือนสิงหาคมที่หมายลอบสังหารทักษิณไมกี่วัน มีบุคคลที่สนับสนุนทักษิณนับสิบคนได เดินทางไปพบกับ พล. อ. เปรมฯ ที่บานพัก ขอรองให พล. อ. เปรมฯ ที่ซึ่งกําลังฉลองวันคลายวันเกิดปที่ 86 อยาง สนุกสนานวา “ขอใหแสดงความเมตตา ไวชวิต นรม.ทักษิณดวย” แมวา พล. อ. เปรมฯ จะไมไดออกมาพบกลุม ี คนเหลานี้ แตก็ไดสงตัวแทนออกมารับหนังสือขอรองจากคนกลุมนี้ ตามคําบอกเลาของคนสนิทของ พล. อ. เปรมฯ ในชวงเวลานั้น เปรมฯ “หนาดําคร่ําเครียด ไมคอยยอมพูดจากับ ใคร” นอกจากนั้น ยังมีขาวลืออีกวา ทักษิณที่ตอนนั้นอยูนิวยอรก เมื่อไดทราบขาววาจะมีการทํารัฐประหาร เคยคิด วาจะชิงลงมือกอน โดยทําการควบคุม พล. อ. เปรมฯไว เพื่อยับยั้งการเกิดขึ้นของรัฐประหาร ทั้งนี้ การที่กองกําลัง ตํารวจประสบกับการพายแพในการดําเนินการเขาควบคุมตัว พล.อ. เปรมฯ นั้นไมแนชัดวาเปนเพราะสาเหตุใด แตเปนที่รูกันวา ในคืนที่มีการทํารัฐประหารนั้น ผูที่เปนคนพา พล.อ. สนธิ บุญยรัตนกลิน เขาเฝาพระบาทสมเด็จ พระเจาอยูหัวคือ พล.อ.เปรมฯ ณ บัดนั้น สารวัตรทหารที่ตรึงกําลังอยูทั่ว กทม. ก็ไดรับคําสั่งตรงจาก ผบ. ทบ. สนธิฯวา กลุมผูชุมนุมตอตานรัฐบาล ไทย “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” จะมีการจัดการชุมนุมประทวง “โคนทักษิณ” ครั้งยิ่งใหญใน วันที่ 20 ก.ย. 50 เพื่อเปนการปองกันไมใหเกิดเหตุการณความไมสงบ ขอใหทุกหนวยเตรียมพรอมเปนเวลา 24 ชม. นี่ก็เปนการดําเนินการที่เปนไปอยางธรรมชาติเพราะ การที่ตํารวจตองถือกระบอง ใสเครื่องแบบรัดๆ ใน อากาศที่รอนจัดเดินตามผูประทวง ปองกันไมใหเกิดเหตุการณไมสงบขึ้น ทําใหตํารวจกวา 2 หมื่นนายของ กทม. ไมเคยไดหยุดพักเลย เพราะหลายเดือนที่ผานมามีการประทวงโคนลมทักษิณ และการเดินขบวนสนับสนุนทักษิณ เกิดขึ้นโดยตลอดอยางไมมีการวางเวน อยางเชน มีครั้งหนึ่งที่ผูชุมนุมประทวงจํานวน 1 แสนคนเดินทางมา ทําเนียบรัฐบาลเพื่อทําการประทวง ซึ่งในโอกาสนั้น กรมตํารวจไดจัดสรรเจาหนาที่ตํารวจ 6 พันนายมาควบคุม สถานการณ สําหรับการประทวงในวันที่ 20 ก.ย. 50 ก็คาดวาจะมีผูรวมประทวงกวา 1 แสนคนเชนกัน โดยผู ประทวงจะมารวมตัวที่ถนนที่ใหญอันดับ 5 ของกรุงเทพฯ และทําการนั่งขวางจราจรเพื่อขอรองใหทักษิณลงจาก ตําแหนง เพราะฉะนั้น ขาวการที่มีคําสั่งใหสารวัตรทหารเตรียมพรอม ก็ไมไดทําใหสื่อมวลชนรูสึกใดๆ นัก สถานีโทรทัศนและสถานีวิทยุตางๆ ก็ยังถายทอดรายการของตนตอไป โดยไมมีใครรูสึกไดถึงพายุฝนที่กําลังจะมา เยือน 18.55 น. สํานักขาวไทยไดทําการประกาศวา “นรม. ทักษิณ ชินวัตรจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เร็วกวากําหนด 1 วัน โดยจะเดินทางกลับถึง กทม. ในวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.ย. 49” สําหรับสาเหตุของการเปลี่ยนกําหนดการเดินทางนั้น ไมไดมีการกลาวถึงหรือใหคําอธิบาย ถาหากมองจากจุดนี้ ขณะที่ทักษิณอยูที่นิวยอรก ตัวทักษิณเองก็ทราบแลวถึง ขาวที่วาฝายทหารจะกระทําการรัฐประหาร การที่ทักษิณใหสํานักขาวไทยออกประกาศนี้เปนการบอกผูที่จะ กระทําการรัฐประหารวา “ผมรูแลวถึงแผนอันชั่วรายของพวกคุณ ผมกําลังจะกลับไปจัดการกับเรื่องนี้เอง หากจะ กลับตัวกลับใจซะตอนนี้ก็ยังไมสาย!” หรือไมก็อาจจะเปนการบอกกลุมคนที่ยังสนับสนุนเขาอยูวา “ไมตองกังวล ใดๆ ทั้งสิ้น จงเดินหนาหยุดยั้งและบดขยี้การทํารัฐประหาร สําหรับที่เหลือผมจะจัดการเอง” แตวา ณ เวลานี้เขาไมสามารถเดินทางกลับมาไดเพราะเหตุการณนั้น อันตรายเกินไป ดังนั้นเขามีความจําเปนที่ จะตองสังเกตุการณความเปนไปของเหตุการณนี้อยูไกลๆ รอดูวาจะแกไขวิกฤตนี้อยางไร เพราะวาหากการทํา รัฐประหารประสบความสําเร็จ การที่เขาจะกลับไปตอนนี้ก็เหมือนกับแมลงเมาบินเขากองไฟ ในภาวะปจจุบันเขา ทราบเพียงแตวา เสียงสนับสนุนหรือเสียงไมสนับสนุนเขาในกองทัพ จะเปนสิ่งที่ตัดสินผลลัพธของรัฐประหาร ในครั้งนี้ เขาไมมีวันที่จะคาดคิดไดวา ในที่สุดแลวเหตุการณนี้จะเปนสงครามแยงชิงของสื่อมวลชน ใครสามารถ ควบคุมสื่อมวลชนได ก็จะสามารถควบคุมสถานการณทั้งหมดไวได ฝายทหารชิงลงมือเพื่อแยงชิงโอกาส เมื่อประมาณ 19.00 น. มีนายทหารแตงชุดเต็มยศเดินทางเขาไปที่ สถานีโทรทัศน ททบ. ชอง 5 และไดทําการเตรียมพรอม “ขาวพิเศษ” ไว 1 ชุด แมวาสาเหตุของการทํารัฐประหาร จะซับซอน แตขั้นตอนการกระทํานั้นดําเนินไปอยางมีระเบียบแบบแผน ไรซึ่งความแปลกใหม ประสบการณการ ทํารัฐประหารกวา 70 ครั้งในประวัติศาสตรไทยบอกเราวา กอนฝายทหารจะทําการรัฐประหาร จะตองทําการสง กองกําลังทหารพิเศษเขาไปควบคุมสถานีโทรทัศนและสถานีวิทยุตางๆ ของกรุงเทพมหานคร ขอใหสถานีตางๆ ยุติการถายทอดรายการของตนและเปลี่ยนเรายการปน รูปของพระราชวงศ เปดเพลงปลุกใจ รักชาติ และถายทอด สารคดีพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ในชวงเวลาเดียวกัน ก็จะมีการสงกองกําลังรบพิเศษไป พระราชวังสวนจิตรลดา รักษาความปลอดภัยของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ซึ่งการกระทําทั้งสองนั้นก็เพื่อที่ จะแสดงความจงรักภักดีตอพระมหากษัตริยของผูกระทํารัฐประหาร เพราะหากวาพระมหากษัตริยออกมาไม เห็นดวยกับการทํารัฐประหาร อนาคตของผูนํารัฐประหารก็มีเพียงการเนรเทศตัวเองทางเดียว หลังจากนั้น รถถังก็ จะออกมาวิ่งบนถนนในกรุงเทพมหานคร ทหารถือปนกลก็จะมายึดทําเนียบนายกรัฐมนตรี ยึดอํานาจในการ บริหารประเทศ แลวก็จะมีการประกาศปลดนายกรัฐมนตรีออกจากตําแหนง ยกเลิกรัฐธรรมนูญ และการนํามาซึ่ง การบริหารประเทศภายใตระบบการปกครองใหม่
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 3 ไมเคยมีมากอนในประวัติศาสตร

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:01 am

ตอนที่ 2

เวลา 07.30 น. ทองฟาสวางแลว ณ นครนิวยอรก เสียงของมหานครก็เริ่มดังขึ้น มหานครที่มีชีวิตชีวาที่สุดในโลกก็ กลับเขาสูทามกลางเสียงเซ็งแซที่คุนเคย ขณะนั้น นายแพทยสุรพงษ สืบวงศลีที่พักอยู ณ โรงแรมไฮแอท บนถนน 42 (avenue) กําลังจะเดินลงมา รับประทานอาหารเชา ก็ไดยินเสียงโทรศัพทดัง ซึ่งเมื่อรับ ผูที่พูดคือนายกรัฐมนตรี “คุณมาที่หองผมหนอย” เมื่อเขาเดินเขาไปในหอง presidential suite ในหองมี ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี นายพันธุศักดิ์ วิญญรัตน ที่ปรึกษาดานนโยบาย นายทอม เครือโสภณ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี .... นั่งอยูแลว 10 กวาคน ซึ่งทุก คนที่เปนบุคคลสําคัญในการเดินทางมารวมการประชุมสมัชชาใหญสหประชาชาติลวน มาครบแลว โดยที่ใน ระหวางนั้นก็มีคนเคาะประตูและเดินทางเขามาอยูเรื่อยๆ นายแพทยสุรพงษฯ รูสึกวาบรรยากาศในหองไมคอยที่  จะสูดีนัก มีหลายคนที่หนาตาเต็มไปดวยความกังวล สําหรับหนาตาของทานนายกรัฐมนตรีนั้นกลับดูธรรมดา ไมเหมือนกับวามีความกังวลใด ทวาประโยคที่ทาน กลาวออกมาจากปากนั้นทําใหทุกคนตกใจ “ที่กรุงเทพฯ คืนนี้อาจมีการทํารัฐประหาร พลเอกสนธิฯ กําลังทําการเคลื่อนกําลังพล” “เจอเรื่องแบบนี้อีกแลว” พันธุศักดิ์พูดไปสั่นหัวไป ในกลุมคนกลุมนี้เขาเปนเพียงผูที่เคยดํารงตําแหนงทาง การเมืองระดับสูงคนเดียวที่เคยประสบกับเหตุการณฝายทหารทํารัฐประหาร นั่นก็คือเมื่อ 15 ปกอนเขาเคยอยูใน รัฐบาลชาติชาย ชุณหะวัณ ตอนที่รัฐบาลชาติชายถูกฝายทหารทํารัฐประหาร “พวกมันกลาที่จะทําจริงๆ หรือ?” นั่นคือปฏิกริยาแรกของแทบจะทุกๆ คน ทุกคนไมเชื่อวาหลังจากที่การทํารัฐประหารโดยฝายทหารไดเงียบหายไป เปนเวลา 15 ป ทหารไทยในป 2550 ประวัติศาสตรจะซ้ํารอยโดยฝายทหารจะทําการรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง ปจจุบันการใชกําลังทหารไปลมลางรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนั้นถูก ประชาคมโลกประณาม ยิ่งไปกวานั้น วิธีการแกไขปญหาทางการเมืองอยางประชาธิปไตยก็ใชวาจะไมมีอยูเลย เพราะการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งใหมก็กําลัง จะมาถึงในเร็ววัน แตคนพวกนั้นกลับกลาทําสิ่งนี้ในชวงเวลานี้! “พวกมันไมมีทางประสบความสําเร็จ” “ใช พวกมันไมมีวันประสบความสําเร็จ” ... ในขณะที่สถานะทางการเมืองของนักการเมืองสูงศักดิ์และสูงเกียรติกลุมนี้ ไมมั่นคงนั่งถกกันถึงผูบงการการ รัฐประหาร พัฒนาการของสถานการณ จุดจบของเหตุการณ ใครเปนพวกใคร ใครแยงอะไรกับใคร ควรจะรับมือ กับสถานการณอยางไร... อยูในหองโรงแรมในนิวยอรก สิ่งที่แปลกที่สุดคือ แมวาวาระแหงความวินาศจะมาถึงแตวานาประหลาดใจที่คนกลุมนี้โดยทั่วไปยังคงมีความเชื่อมั่นอยางสูงวา รัฐประหารจะตองถูก “บดขยี้” ปรปกษ ของรัฐบาลจะไมประสบความสําเร็จ! เพราะวาทหารที่จงรักภักดีตอนายกรัฐมนตรี ประชาชนที่รักและเทิดทูน นายกรัฐมนตรี ปญญาชนที่เขาใจวาประชาธิปไตยคืออะไร คนเหลานี้จะยอมและไมแยแสปลอยใหทหารใชกําลัง กระชากนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งลงมาจากเกาอี้เชนนั้นฤา ยิ่งกวานั้นทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของไทย ไมใชใครอื่น แตเปนนายกรัฐมนตรีคนแรกในประวัติศาสตรไทยที่อยูในตําแหนงครบ 4 ป เปน นายกรัฐมนตรีคนแรกที่ไดรับการเลือกตั้งติดตอกัน 2 สมัย เปนผูนําไทยคนแรกที่สามารถกอตั้งรัฐบาลที่ คณะรัฐมนตรีประกอบดวยพรรคการเมืองเดียว นอกจากนั้นยังเปนดาวเดนทางการเมืองของเอเชียที่นานาประเทศ จับตามอง เปนนักการทูตที่สามารถสานสัมพันธอันดีระหวางไทยกับอเมริกา อังกฤษ รัสเซีย จีนและประเทศ มหาอํานาจอื่นๆ กลาวไดวาเปนบุคคลที่สามารถดึงดูดมวลชนหมูมากในชนบท พรอมกันนั้นยังไดรับการเทิดทูน ยกยองจากประชาชนเหลานั้นโดยเรียกทานวาเปน “นายกฯรากหญา” เมื่อเปนเชนนี้แลวจะเปนไปไดอยางไรที่ ประชาชนจะไมแยแสและยอมใหเกียรตินิยมของทักษิณแปดเปอน ผลงานถูกทําลาย และชีวิตการเมืองของเขา จะตองถูกรัฐประหารทําใหจบสิ้นลง? ตลอดระยะเวลา 1 ปของวิกฤตทางการเมือง แมวาคนที่คัดคาน ดาทอและ โจมตีทักษิณอยูไมนอย แตวาผูเห็นดวยและสนับสนุนทักษิณนั้นก็เขมแข็งไมนอยไปกวากัน ---นี่คือสาเหตุสําคัญ ที่สุดที่ทําใหทักษิณสามารถอยูรอดทางการเมืองมาไดจนปจจุบันทามกลาง เสียงคัดคานรัฐบาลของประชาชน ตอนที่นายกรัฐมนตรีถูกกระแส ”โคนทักษิณ” รุมโจมตีและประสบกับภาวะวิกฤต ประชาชนไทยโดยเฉพาะชน ชั้นเกษตรกรก็ไดยืดอกเดินกาวออกมาปกปองนายกรัฐมนตรี เกษตรกรจํานวนหลายหมื่นคนเดินทางสูกรุงเทพฯ เพื่อเรียกรองความเปนธรรมใหกับทักษิณ ซึ่งสิ่งนี้ในประวัติศาสตรเปนสิ่งที่ไมเคยมีมากอน ดังนั้นพวกที่คิดจะลม ลางเขาจะกลาทําสิ่งที่เขาคิดโดยไมคํานึงถึงพลังอันยิ่งใหญของมวลชน
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 3 ไมเคยมีมากอนในประวัติศาสตร

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:04 am

ตอนที่ 3

คนเหลานี้คิดถึงเหตุการณหนึ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นกอนหนานี้ไมนาน... ใตแสงแดดเดือนมีนาคมของภาคกลางของประเทศไทย ลมพัดหอบใหญทําใหบนถนนใหญเกิดเปนมานฝุนที่ดู เหมือนมังกรดินตัวหนึ่ง มังกรดินตัวนี้คดๆ งอๆ ทอดตัวตามแกนเหนือ-ใตยาวหลายกิโลเมตร มีเกษตรกรกวา 3 หมื่นคนที่มาจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือกําลังโดยสารยานพาหนะนานา ชนิดเดินทางมุงหนาสู กรุงเทพฯ พวกเขากลางวันเดินทาง กลางคืนพักเอาแรงโดยทําการปูเสื่อบนขางทางแลวก็นอนตัวลงอยางงายๆ ซึ่ง ก็มีคนอีกกลุมหนึ่งที่นอนหลับเอาแรงใตพาหนะของเขา มีเกษตรกรคนหนึ่งสวมหมวกสาน ผิวคล้ํากรําแดด มือ หนึ่งพยายามเช็ดเหงื่อของเขา ขณะที่เขาใหสัมภาษณกับนักขาววา “จากเชียงรายถึงกรุงเทพฯ ไกลซะจริงๆ ตั้ง 700 กวา กม. เนี่ยผมขับรถมา 14 วันแลว ระหวางขับรถผมก็เสียไปตั้ง 7 -8 หน” ซึ่งสิ่งที่เกษตรกรคนนี้เรียกวารถนั้น คือรถแทรกเตอรที่กําลังจอดควันขโมงอยูขางๆ เขานี่เอง รอบๆ รถคันนี้ ยังมีแทรกเตอร รถตัดหญา รถอีแตน รถปคอัพ ฯลฯ ที่สภาพพอๆ กันอีก 600 กวาคัน ซึ่งบนรถทุกคันมีชาวชนบทบางนั่งบางยืนอยูเต็มพิกัด จุดประสงคการเดินทางของคนพวกนี้งายมาก คือจัดตั้งเวทีของพวกเขาในกรุงเทพฯ เพื่อตอบโตกลุมคนที่ตอตาน รัฐบาล และชวยเหลือนายกรัฐมนตรีทักษิณที่ตกอยูทานกลางการรุมลอมของชาวกรุง นี่เปนครั้งแรกใน ประวัติศาสตรไทยที่เกษตรกรเพื่อสนับสนุนนายกรัฐมนตรี รวมตัวกันไดเปนกลุมกอนใหญขนาดนี้และเดิน ทางเขากรุงเทพฯ เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง แมวาคนที่มาจากชนบทเหลานี้จะสวมใสเสื้อผาที่ดูไมคอยจะดี อากัปกิริยาอาจจะไมคอยสูดี เหนื่อยลา สีหนาซีดเซียว – พวกเขาก็เดินทางกันมา 10 กวาวัน โดยไดนําเอาอุปกรณ ในการหุงหาอาหารมาดวยเพื่อทําการหุงหาอาหารระหวางทาง แตวารอยยิ้มบนใบหนาคนเหลานี้นั้นเปยมไปดวย ความจริงใจ สําหรับสิ่งที่คนเหลานี้พูดก็ทําใหผูฟงอดไมไดที่จะรูสึกหายใจ ไมสะดวก มีเกษตรกรคนหนึ่งกลาววา “อุปสรรค และความยากลําบากตางๆ นานาที่เราพบบนทองถนน ก็เชนเดียวกับความยากลําบากที่ทาน นายกรัฐมนตรี พวกเราทําได นายกก็ตองทําไดเชนกัน” ตั้งแตสิ้นเดือนมกราคมที่คดีขายหุนเกิดขึ้น ทักษิณก็อยูภายใตความกดดันอันยิ่งใหญ กลุมผูคัดคาน “พันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ไดทําการตั้งเวทีที่สวนลุมพินีสวนสาธารณะใจกลางกรุงเทพฯ เปนแหลง เคลื่อนไหว ทั้งวันทั้งคืนทําการปราศัยและทําการชุมนุม ซึ่งคําปราศัยของแกนนําขบวนการ”โคนทักษิณ” เจา พอสื่อ สนธิ ลิ้มทองกุลสามารถปลุกระดมผูคนไดมากที่สุด ทุกประโยคที่เขาพูดจะตองขึ้นดวย “พอแมพี่นอง...” แลวตามดวยขอความยืดยาวที่กลาววานายกรัฐมนตรีคนปจจุบันไรซึ่งความ เมตตา ไรซึ่งคุณธรรม ไมซื่อสัตย เชื่อถือไมได ไมจงรักภักดี ไมกตัญูรูคุณคน คอรรัปชั่นโกงกิน ... สนธิ ลิ้มทองกุลบอกนักขาววา “ชวงกลางวันมี ผูเขารวมกวา 1 แสนคน สําหรับชวงกลางคืน ในชวงที่มีคนมารวมสูงสุดถึง 5 หมื่นคน” ตัวเลขเหลานี้แมจะ คอนขางเกินจริงไปบาง แตวาการประทวงบนทองถนนกรุงเทพฯนั้นยิ่งมายิ่งรุนแรงขึ้น โดยมีการชุมนุมประทวง 5 ครั้งที่มีผูคนรวมดวยเกิน 1 แสนคน ผูมารวมประทวงยาวรวมตัวกันเปนแถวยาวเคลื่อนตัวไปตามทองถนนทํา ใหการจราจรอัมพาตในที่ที่กลุมผูประทวงไปถึง นอกจากนี้ยังมีการนําเอาผาสีเหลือง-สัญลักษณความจงรักภักดี ตอพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว มาผูกไวบนหัวและแขน พรอมกับชูธงชาติ และปายตางๆ นานาที่ตอตานรัฐบาล และทําใหทักษิณดูไมดี ภายใตการบรรยายของฝายตอตานทักษิณ ทักษิณมีเขี้ยวโงวราวหมูปา และในปากมีลิ้น 2 แฉกของอสรพิษแลบออกมา หรือไมก็มีการใสผาปดตาโจรสลัดกัปตันฮุค มีมือขางหนึ่งเปนตะขอ หรือไมก็มีภาพลอเลียน อีกภาพหนึ่งที่เอาหนาทักษิณไปแปะไวบนตัวจระเข โดยจระเขตัวนั้นใสบิกีนี่และทําทายั่วยวน ผูประทวง ยังมีการคลี่คําขวัญ “ทักษิณ นายกฯ ไทยที่หวยที่สุด” และตะโกน “ทักษิณ ออกไป!” ขาวลือกระจายไปทุกหัวระแหง คําตําหนิดาทอทักษิณดั่งน้ําครําถังแลวถังเลาถูกสาดลงไปบนหัวทักษิณ ถึงขั้น ที่วามีการใชเวทมนตรเขาชวย มีบางคนที่ยืนอยูบนเวทีตอตานทักษิณ ทําการสั่งสอนใหผูหญิงที่มาฟงอยูดานลาง ของเวทีสาปแชงนายกฯ การเอารูปภาพทักษิณลอดหวางขา 3 ครั้งจะทําใหทักษิณมีอันตองออกจากประเทศไทย ไปสิงคโปร นักวิจารณสังคมที่เปนที่วิพากษวิจารณมากเชน ส. ศิวรักษ ประกาศวา “แมวาผมไมมีหลักฐานที่ชัด แจง แตก็มีขาวลือหลายกระแสที่กลาววาทักษิณและบุคคลในคณะรัฐมนตรีมีพฤติกรรม ที่ผิดกฎหมาย ไมซื่อสัตย ตอภรรยา ขอเพียงเขาลงจากตําแหนงเรื่องราวอันฉาวโฉดานเพศก็จะไดรับการเปดเผยออก มา ดังเชนสฤษดิ์ ธน รัชต ณ บัดนี้ แมกระทั่งพระสงฆที่ไมของแวะกับการเมืองก็เริ่มเดินออกจากวัดมาเคลื่อน ไหว ลูกศิษย “สันติ อโศก” ภายใตการนําของหลวงตามหาบัวไดทําการประกาศตําหนิรัฐบาลทักษิณวา ชั่วรายเลวทราม โกงกิน เนาถึง ราก หลงใหลอํานาจ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 49 นายกฯผูที่ถูกคลื่นเสียงคัดคานถาโถมเขามาจนไมสามารถทนไดอีกแลว ออกมายืนตอหนา บรรดานักขาวแลวยกปายอันหนึ่งขึ้นมาดวยหนาตาเหลืออดวา “หากวายังมีคนเหลานี้ ก็ขอใหสงเสียงสนับสนุน เหลานั้นมาที่ที่อยูนี้ ทําเนียบรัฐบาลไทย” แลวเขาจะนําเสียงสนับสนุนเหลานั้นมาแปะไวบนกําแพงของทําเนียบฯ จะไดทําใหพวกคนที่ไมเห็นดวยกับเขาหมดกําลังใจ หลังจากนั้น 2 วันไดมีการจัดการชุมนุมเพื่อสนับสนุนทักษิณ อยางยิ่งใหญที่ไมเคยมีมากอนที่สนามหลวง การชุนนุมครั้งนี้มีขาววาเปนการจัดการของพรรคไทยรักไทย โดยที่ พรรคตองการให ส.ส. ทุกคนระดมผูสนับสนุนมารวมงานอยางนอย 500 คน สื่อในกรุงเทพฯ รายงานวามี ผูสนับสนุนมารวมงาน 2 แสนคนในขณะที่นักขาวตางชาติคาดเดาวามี 1 แสน 5 หมื่นคน ทักษิณกลาววา ในอดีต เขาไดแตอดทนและอดกลั้นตอการกระทําของผูที่ไมเห็นดวยกับเขา ที่เขาไมเคยสนับสนุนใหมีการชุมนุมเพื่อ สนับสนุนเขานั้น เปนเพราะเขาพยายามที่จะรักษาความสงบในภาพรวมเอาไว แตบัดนี้เขาตองการใหคนกลุมนั้นที่ ไมชอบเขาเห็นพลังของประชาชน ผูที่มานั้นมีการเขียน ตะโกนคําขวัญ นอกจากนั้นทุกคนยังใสที่คาดหัวที่พิมพ วา “พวกเรารักนายก” ในคืนเดียวกันนั้น ทามกลางทะเลของเสียงโหรองสนับสนุน ทักษิณเดินออกมาที่ใจกลาง สนามหลวง แสดงความเคารพผูที่มาสนับสนุนเขา พรอมกับยื่นกิ่งมะกอกใหกับกลุมผูคัดคานเขา “พวกเราเคยเปน เพื่อนกัน ผมยอมที่จะลืมสิ่งที่พวกคุณทําในอดีต หากมีความไมพอใจอะไรเราควรจะนั่งลงคุยกัน ไมใชมาปุกปน ใหประเทศชาติแตกแยก” พรอมกันนั้นทักษิณก็ไดเสนอความคิด “รัฐบาลประชาชน” ยินยอมที่จะปลอยวางการ เปนรัฐบาลพรรคเดียว และหวังที่จะจัดตั้งรัฐบาลใหมโดยดึงเอาพรรคการเมืองอื่นมารวมในการจัดตั้ง รัฐบาลที่จะ มีขึ้นหลังการเลือกตั้ง ทวาการออมชอมทางการเมืองมักจะมาสายเกินไป กลุมคนที่คัดคานทักษิณไมไดรูสึกยินดียินรายอะไรทั้งสิ้น พวก เขายังวุนอยูกับการจัดการชุมนนุมเดินประทวงครั้งตอไป เชามืดวันที่ 14 มี.ค. มีผูคนที่ตื่นเชากวา 3 -4 แสนคนมา รวมตัวกันที่ลานหนาพระบรมมหาราชวัง คนกลุมนี้มีทั้งนักศึกษา กรรมกร ปญญาชน ผูตอตานโลกาภิวัฒน และ แมบาน ในตอนแรก ทุกคนตั้งใจฟงปราศัยโจมตีรัฐบาล หลังจากนั้นการแสดงก็เริ่มขึ้น มีบางคนเริ่มเตน บางคน รองเพลง บางคนแสดงละครเสียดสีการเมืองระบอบทักษิณ ชนิดของการแสดงนั้นหลากหลายมาก เมื่อทุกการ แสดงจบลงก็จะไดยินเสียงหัวเราะเยาะ เสียงกนดา เสียงผิวปาก... และ”ทักษิณออกไป” เมื่อผูคนในลานมารวมตัวกันมาก ขึ้น ขบวนเดินประทวงที่ประกอบดวยคน 1 แสนคน (บางก็บอกวา 7 หมื่นคน แตวา Associated Press รายงานวามี 1 แสนคน) ก็เริ่มเคลื่อนขบวนไปทําเนียบรัฐบาลที่อยูหางออกไป 2 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อพวกเขาเดินทาง มาถึงหนาตึกทําเนียบฯ พวกเขาตองการที่จะสรางกําแพงมนุษยปดลอมไมใหทักษิณสามารถเดินทางไปมา จาก ทําเนียบรัฐบาลได ผูบัญชาการการเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็คือ พลตรีจําลอง ศรีเมือง ผูเมื่อ 15 ปกอนเคยนําประชาชนออกมาตอตาน รัฐบาลทหาร จากประสบการณครั้งที่แลว กอนที่เขาจะเคลื่อนขบวน เขาตะโกนบอกกลุมชนวา “ตองอดทนรอให ทักษิณออกจากตําแหนง ตองใชวิธีการที่ไมรุนแรง ตองยึดมั่นในเสนทางสันติภาพ จนกระทั่งเราจะไดชัยชนะ” ซึ่ง ในวันนั้น ขบวนผูประทวงก็ปฏิบัติตัวอยางมีเหตุมีผลและทําการประทวงอยางสงบ เห็นไดจากตลอดเสนทาง นอกจากบรรยากาศที่เคียดแคนและเสียงตะโกนกนดาไมไดมีเหตุการณรุนแรงเกิด ขึ้นเลย โดยที่สองขางทางผูคนก็ มองผูประทวงเดินผานไปอยางเงียบเงียบ เมื่อกลุมผูประทวงเดินทางถึงทําเนียบรัฐบาลแลวก็เริ่มทําการนั่งสมาธิ บนทองถนน การนั่งสมาธิประทวงครั้งนี้ดําเนินไปเปนเวลา 20 กวาวัน--จนกระทั่งทักษิณลาออกจึงยุติลง ซึง ่ ระหวางการนั่งสมาธิประทวงนั้นก็มีคนเกิดอาการช็อคเพราะวาทนอากา ศรอนไมไหว สื่อไทยรายงานวา “ตั้งแตป ค.ศ. 1992 ประเทศไทยไมเคยมีการประทวงที่มีขนาดใหญเชนนี้มากอน” นอกจากนั้น แลว ขนาดของการประทวงตอตานรัฐบาลก็ยิ่งใหญชนิดไมเคยมีมากอน เชนเดียวกับกลุมผูประทวงที่หวังจะชวย นายกฯ ที่ยังเดินทางอยูบนถนนมุงหนาเขากรุงเทพฯ ในหลายสิบปที่ผานมา ไมเคยมีนักการเมืองไทยคนไหนที่ตก อยูทามกลางความแตกแยกที่ยิ่งใหญเทานี้ ในบานความเห็นที่ไมตรงกันทําใหสมาชิกในครอบครัวมองกันดั่งศัตรู พนักงานขับรถแทกซี่ไลผูโดยสารลงจากรถเพราะวาความเห็นไมตรงกัน ประชาคมโลก cyber ก็ตอบโตกันอยาง รุนแรงตาม web board ตางๆ แมกระทั่งนักเรียนประถมที่ “รักทักษิณ” กับ “โคนทักษิณ” ก็ไมยอมมองหนากัน ประเทศทั้งประเทศตกอยูในภาวะที่สับสนและขัดแยงกัน ซึ่งความขัดแยงนี้ก็ไมเคยมีมากอนในประวัติศาสตรไทย เชนกัน วันที่ 18 มี.ค. เหลามิตรของนายกฯ เดินทางถึงเมืองหลวง พวกเขาจอดพาหนะตางๆ ของเขาทิ้งไวในทุงที่หางจาก กรุงเทพฯ 40 กิโลเมตร แลวก็เดินเทากันเขากรุงเทพฯ ในชวงเวลานั้น ก็มีผูขับขี่มอเตอรไซค และผูขับรถแท็กซี่ กวา 400 คนรวมขบวน คนเหลานี้กลาววา นายกฯปราบปรามอาชญากรรมอยางหนัก ทําใหตํารวจที่คดโกงและ กลุมอันธพาลไมกลาแบมือเรียกรองคาคุมครองจากเขา เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงตองไปรวมสนับสนุนนายกฯ ยาม ที่ทุกคนผานเลนสของนักขาว พวกเขาก็จะชูสองนิ้ว (เมื่อปลายเดือน ก.พ. ที่ทักษิณประกาศเลือกตั้ง เบอรที่เขาจับ ไดใหกับพรรคไทยรักไทยก็คือเบอร 2 ดังนั้นการชู 2 นิ้วก็เทากับเปนการสนับสนุนพรรคไทยรักไทย ซึ่งการชูนิ้ว 2 ก็หมายถึงชัยชนะเชนกัน) หลังจากเดินทางถึงกรุงเทพฯแลว กลุมคนเหลานี้ก็ไดตั้งชื่อกลุมตัวเองวา “คาราวาน คนจน” (ซึ่งสื่อก็เรียกคนเหลานี้วากระจัดกระจายดั่งทรายในกระบะ) ซึ่งกลุมคนเหลานี้ก็ไดยึดเอาสวนจตุจักรเปน ที่ตั้งมั่น วันที่สองที่กลุมคนนี้เขามา ก็ไดทําการเผาหุนของนายอภิรักษ โกษะโยธิน สมาชิกพรรคประชาธิปตย ผูวา กรุงเทพมหานคร และตัวแทนของชาวเมือง สาเหตุมาจากการที่คนกลุมนี้กลาวหาวารัฐบาลกรุงเทพมหานคร พยายามขับไลพวกเขาออกจากสวนจตุจักร โดยไมมีการจัดหาน้ํากินมาให และจัดหาหองน้ําเคลื่อนที่เพียง 2 หองมาใหพวกเขาใช สําหรับคนในเมืองแลว พวกเขามองวาผูสนับสนุนทักษิณไรวัฒนธรรม “มีเงินจายก็ทํา” นอกจากนั้นแลว”เศษเหล็ก”ของพวกเขาที่จอดอยูก็ขัดกับกฎจราจร ซึ่งสําหรับเรื่องเหลานี้ เกษตรกรไมไดมี ปฏิกริยาใดๆ พวกเขาก็ทําการกอสรางเวทีงายๆ แลวเริ่มตอบโตกลุมผูคัดคานรัฐบาลทักษิณ มีเกษตรกรรายหนึ่งที่ ไดฟงปราศัยของสนธิ ลิ้มทองกุล กลาวอยางโมโหวา “ที่เขาพูดปาวปาววา พอแมพี่นอง พวกเรานี่แหละพอแมพี่ นองตัวจริง” กลุมผูสนับสนุนชาวเกษตรกรนั้นไมมีเครื่องแบบที่เปนอันหนึ่งอันเดียวกัน และไมคอยถนัดในการปราศัย ยิ่งกวานั้นพวกเขาไมมีลวดลายเหมือนกับผูประทวงที่ตองการโคนทักษิณ พวกเขาชอบจัดคอนเสิรต”เรารัก ทักษิณ” มีทั้งฝายชายรองเดี่ยว ชายหญิงรองคู ใตแสงไฟนีออน ทุกครั้งที่รองจบหนึ่งเพลงเหลานักแสดงก็จะพนม มือแลวก็ขอบคุณผูชมที่อยูในความมืดใตเวที นอกจากนั้น ในบางโอกาสก็มีคนที่มีอารมณรวมถึงขั้นลุกขึ้นมา เตนรําตามดนตรี เมื่อถึงยามดึกคนพวกนี้ก็ลมตัวลงนอนบนพื้นหญาของสวนสาธารณะ เมื่อถึงเวลาอรุณรุง พวกเขาก็จะใชน้ําจากกอกน้ําที่ใชรดน้ําตนไมลางหนา สีฟน อยางงายๆ แลวก็นั่งใตแสงแดดที่ รอนแผดเผาไปตลอดวัน พวกที่ประทวงคัดคานทักษิณเชนกันก็นั่งอยูตาม 2 ขางถนนเสนที่ทอดผานขางทําเนียบฯ ชวงกลางวัน และตอนค่ํา คนที่รับผิดชอบดานอาหารการกินก็จะทําการแจกจายอาหาร ชาวเกษตรกรไมเหมือน ชาวเมืองที่ไมวาอะไรนิดอะไรหนอยก็ออกมาเดินขบวนประทวงเรียกรองความเป นธรรม นอกจากนั้นพวกเขาก็ ไมไดไปเผชิญหนากับผูคัดคานทักษิณฯ ที่สวนลุมพินี เกษตรกรสวนมากใชเวลาสวนใหญอยูในสวนลุมพินี โดย ที่ผูโดยสารรถยนตชาวกรุงในบางโอกาสก็จะมองลงมาจากสะพานตางระดับ ผูชุมนุมชาวเกษตรกรยืนยันวา พวก เขาจะอยูในกรุงเทพฯ จนกระทั่งวันเลือกตั้ง วันที่ 2 เม.ย. โดยกลาววา “เกษตรกรที่ตกทุกขไดยากจะสนับสนุน นายกฯ ตลอดไป โดยพวกเราพรอมรับบัญชาจากนายกฯ” วันที่ 2 เม.ย. วันเลือกตั้ง ผูสื่อขาวตางชาติกวา 100 คนไดพบกับฉากที่ชวนใหตื้นตันใจในโรงเรียนประถมที่ตั้งอยู บนดานซายของแมน้ําเจาพระยา เพราะวา ณ โรงเรียนประถมแหงนี้ ทักษิณผูที่ถูกการประทวงเคี่ยวกรํามาอยาง ยาวนาน จะมาทําการลงคะแนนเสียงในฐานะประชาชนธรรมดาคนหนึ่งที่หนวยเลือกตั้งนี้ ซึ่งตั้งแตเชามืดนักขาว ที่มาจากนานาชาติก็ไดเดินทางมาลอมโรงเรียนประถมแหงนี้เพื่อเตรียมทําขาว เมื่อเวลา 9.25 น. ทักษิณก็ไดพาลูก ชาย รปภ. และลูกนองของเขามาลงคะแนนเสียง ทักษิณใสเสื้อสีฟา ไมไดกลัดกระดุมบน 2 เม็ดอยางที่เขาทํามา โดยตลอด ทามกลางหาคําถามของนักขาว ทักษิณเพียงพูด 1 ประโยค “ขอใหประชาชนเปนคนตัดสินใจ...เวลา ของการทําตามขบวนการทางกฎหมายมาถึงแลว” แลวเขาก็ยกนิ้วชี้ขึ้นมาแลวก็ทําทา “จุจ” หลังลงคะแนนเสียง ุ แลวทักษิณก็ขึ้นรถเบนซ S600 แลวก็บึ่งออกไป คําพูดและการกระทําของทักษิณทําใหเหลานักขาวผิดหวัง แต เหลานักขาวก็ผิดหวังไดไมนาน เพราะวามีผูหญิงกลางคนคนหนึ่งหลังจากลงคะแนนเสียงแลวก็หยิบสมุดเนื้อ เพลงออกมา 1 เลม แลวก็เริ่มรองเพลงอยางไมสนใจใคร เพลงที่ผูหญิงคนนี้รองเปนเพลงประกอบละครทีวีดังใน ชวงเวลานั้น “แดจังกึม” โดยเพลงชื่อวา “ความหวัง” โดยเนื้อเพลงมีอยูวา มองวาวลองลอยไปไกลแสนไกลแตเสนดายก็ยังไมขาดสะบั้นลง มองชีวิตเสมือนถนนยาวหมื่นลี้ที่คดเคี้ยวและทอดยาวสุดลูกหูลูกตา มองการกาวเดินของความเสียสละที่ทําใหอบอุน ความรักที่อบอุนคอยเฝาระลึกถึงรอยยิ้ม...
ผูหญิง คนนั้นพูดวา “พวกคนไมสังเกตหรือ แคไมกี่เดือนนายกฯ แกไปเยอะ คงเปนเพราะถูกความขัดแยงทาง การเมืองทรมานเอา ฉันอยากจะบอกใหทานยึดมั่นและแนนหนักโดยไมลดละ หมือนกับตัวแสดงหลักในเพลง “ความหวัง” ความมานะเทานั้นที่จะนํามาซึ่งชัยชนะ ฉันลงคะแนนใหเขา 1 คะแนนและสงความหวังอีก 1 ความหวัง” แมวาการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. จะมีผูคนไมไปใชสิทธิ์สูงถึง 10 ลานคน แตวาทักษิณและพรรคไทยรักไทยของ เขาก็ยังมีผูที่สนับสนุนถึง 16 ลานเสียง และไดรับเสียงสนับสนุนจากประชาชนรอยละ 57 นอกจากจังหวัดทาง ภาคใตแลว พรรคไทยรักไทยไดเสียงสนับสนุนรอยละ 70 จากประชาชนในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ทําใหจากการเลือกตั้งในครั้งนั้น ส.ส. สังกัดพรรคไทยรักไทยกวา 200 คนไดรับเลือกตั้ง แมแตในกรุงเทพฯ ที่มี การประทวงขับไลทักษิณอยางตอเนื่อง กวารอยละ 40 ของคนกรุงเทพฯ ก็ลงคะแนนเสียงใหพรรคไทยรักไทย นี่ อาจจะเปนสาเหตุที่ทําไมทักษิณกลาที่จะออกมาตอตานผูที่ขับไลเขาและ รัฐบาลของเขา และสาเหตุที่เขาไมยอมที่ จะลาออกจากตําแหนง และนี่ก็คือสาเหตุที่ทําไมแมวาเขาจะลาออกแลวหลังการเลือกตั้งเขากลับมา เปน นายกรัฐมนตรีและทําการบริหารประเทศอีกครั้ง นอกจากนั้นแลว ความเชื่อมั่นที่เขามี ทําใหภายหลังการเลือกตั้ง ทักษิณสามารถมีเวลาคิดวาจะยอมรับตําแหนงนายกฯ หรือไม และสาเหตุที่ทําใหเขาและคนสนิทของเขาเชื่อมั่น อยางแนวแนวา การรัฐประหารจะไมมีวันประสบความสําเร็จ แมวาพวกเขาจะทราบขาววาการทํารัฐประหารของ ทหารไดเริ่มขึ้นแล้ว
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 3 ไมเคยมีมากอนในประวัติศาสตร

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:06 am

ตอนที่ 4

ทักษิณ ชินวัตร นับวาเปนนายกฯที่ไดรับการยกยองจากกลุม”รากหญา” (คนจนพูดวาเขาเปน”นายกฯ คนเดียวที่มา พูดคุยกับเราในกระตอบของเรา”) เขาเปนนายกฯ ที่นําเอาการ ”ชวยเหลือเกษตรกร”เปนอุดมการณของตนในการ เปน”นายกฯนักปฏิรูป” นอกจากนั้น เขายังเปนนายกฯ ที่นําเอกการ “ขจัดความยากจน” มาเปนจุดประสงคในการ บริหารประเทศของ “นายกฯในฝน” ของตัวเขาเอง ภายหลังที่เขากาวขึ้นสูตําแหนง เขาไดผลักดันนโยบายทาง เศรษฐกิจที่ใหผลประโยชนตอเกษตรกรและคนจน ซึ่งนี่ไมไดเปนเพียงเหตุการณที่ไมเคยเกิดขึ้นมากอนใน ประวัติศาสตรไทย แมแตประเทศกําลังพัฒนาอื่นๆ ก็ยากที่มีอะไรเชนนี้เกิดขึ้น ทักษิณเคยพูดไวในป ค.ศ. 1998 ตอนที่กอตั้งพรรคไทยรักไทยวา “ปญหาใหญที่สุดของประเทศไทยคือความจน ทั่วหนา” นี่คือขอสรุปที่เขาไดจากการลงพื้นที่ศึกษาสภาพความเปนอยูของประชาชนทั่ว ประเทศ ปแลวปเลา การ แกปญหาความยากจนเปนเหมือนกับฝหนองที่คอยทรมานประเทศ ในประชากร 63 ลานคน มีอยูเกือบ 10 ลานคน ที่อยูในเกณฑยากจน ประชากรกวารอยละ 80 ใชชีวิตอยูในชนบท ความแตกตางทางรายไดระหวางเมืองและ ชนบทอยูที่ 4 เทา ซึ่งทําใหประเทศไทยเปนประเทศหนึ่งที่มีความแตกตางทางรายไดมากที่สุดใน โลก ในหมูบาน บางหมูบานในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย มีเกษตรกรบางคนที่มีรายไดไมถึง 30 เหรียญ สหรัฐตอป (ประมาณ 240 หยวนจีน) มีบางคนที่มีรายไดไมถึง 30 บาทตอวัน (ประมาณ 6 หยวนจีน) หรือ เทียบเทากับคากวยเตี๋ยว 1 ชาม ทักษิณกลาววา “ความยากจนเปรียบเสมือนสภาวะที่ระบบภูมิคุมกันของคนปก พรอง หากสภาวะความเปนอยูของผูยากไรไมดีขึ้นแลว ระบบภูมิคุมกันของสังคมก็จะเกิดปญหา โรครายหรือสิ่ง รายตางๆ ก็จะบุกรุกเขามา ไมวาจะเปนยาเสพติด โกงกิน การศึกษาไมทั่วถึง ฯลฯ” ซึ่งสาเหตุของความยากจน ทักษิณเชื่อวาเปนปญหาดานการบริหารของรัฐบาล “ปญหาคนจนแกเทาไหรก็แกไมสําเร็จเพราะการเมืองเปน กิจการที่ตองใชเงิน เมื่อนักการเมืองไดรับเลือกตั้งเขาก็มีภาระอันหนักอึ้ง 2 อยาง อยางแรกคือตองหาวิธีใหทํา อยางไรก็ไดใหเขาสามารถเรียกคืนเงินทุนที่เขาใชไปในการเลือกตั้ง อยางที่สองคือเตรียมเงินทุนสําหรับการ เลือกตั้งครั้งตอไป เพียงแคนี้นักการเมืองก็ยุงพอแลว มีเวลาที่ไหนคิดถึงพวกคนจน?” เพราะฉะนั้น ในการบริหาร ประเทศ ทักษิณเชื่อวาตองเริ่มที่การแกปญหา”ความยากจน” เพราะวา “หากเราไมทําการเปลี่ยนวิธีการคิด ทุกสิ่ง ทุกอยางก็จะเปนอยางเดิม ตื่นเชาขึ้นมาเราก็ทํางานเหมือนกับที่เราทําเมื่อวาน หากเปนเชนนี้ตอไป กอนที่ปญหา เกาจะไดรับการแกไข ปญหาใหมก็จะเกิดขึ้น” คําบอกเลาของทักษิณ การที่เราทําสิ่งนี้ใหกับประชาชนนั้นไมพอ เพราะวามีเรื่องอีกหลายอยางที่เราทําสายเกินไปแลว พวกเราตองทํา มากกวานี้ เราตองปรับโครงสรางหนี้ของคนเหลานี้ ทําใหคนเหลานี้สามารถมีเงินไปสรางบาน หาการงานทํา นอกจากนั้น เรายังจําเปนตองชวยเหลือเขาปรับปรุงโครงสรางผลิตภัณฑของเรา มีมาตรการทางการตลาดรองรับ และชวยเหลือพวกเขา ทางดานนี้เราจําเปนที่จะตองทําในมิติมหภาค หากประชาชนมีความมั่นคงประเทศชาติก็จะ เขมแข็ง เปรียบไดกับการที่เรายืนอยูบนโตะ หากเรายกโตะขึ้นเราก็จะสูงขึ้นดวย เพราะวาพวกเราทุกคน ไมวา หนวยงานรัฐบาล พอคานักธุรกิจ รวมถึงประเทศไทยลวนยืนอยูบนพื้นฐานซึ่งก็คือประชาชนคนธรรมดา ดังนั้น หากเราสามารถยกระดับประชาชนใหสูงขึ้นได ทุกคนก็จะสูงขึ้นดวย นี่คือปรัชญา นี่คือแนวทางความคิดพื้นฐานของผม ทักษิณ ไดตั้งเข็มทิศทางการเมืองของพรรคไทยรักไทยวา “ขจัดความจน เปนตัวแทนของรากหญา” หลังจากนั้น 2 ป เขาก็นําพรรคไทยรักไทยลงสมัครเลือกตั้ง คําขวัญของพรรคที่ใชในการเลือกตั้งคือ “ทําใหม คิดใหม” เขา สัญญาวา หากพรรคไทยรักไทยไดรับเลือกตั้งใหเปนพรรครัฐบาล แนวทางในการบริหารประเทศคือ “ยึดเอา เกษตรกรรมพื้นฐาน” คืนประโยชนใหกับประชาชน นโยบายจะมุงเนนไปในการแกปญหาใหกับผูคนในชนบท และผูที่ตองการความชวยเหลือในเมืองใหญ นโยบายพรรคไทยรักไทยไดรับความตอบรับอยางดีจากคนยากคน จนในชนบท ทําใหพรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้งครั้งนั้น ไดรับชัยชนะอยางขาดลอยในการเลือกตั้ง ทําให ทักษิณที่อายุเพียง 52 ปเดินขึ้นสูตําแหนงนายกรัฐมนตรี “การขจัดความยากจน”กลายเปนภาระกิจแรกของรัฐบาลใหม ทักษิณไดประกาศวาในระยะเวลา 2 สมัย หรือ 8 ป จะแกไขปญหาความยากจนของประเทศใหอยางสิ้นซาก สําหรับวิธีการนั้น สิ่งแรกคือจะตองเตรียมพรอมทุนและ โอกาสใหกับคนจนพลิกฟนโชคชะตาของตน “ขอเพียงใหโอกาสพวกเขา ปลดปลอยศักยภาพของพวกเขา ก็ สามารถแกไขรากฐานปญหาความยากจน สงผลใหมวลชนสามารถพึ่งพาตัวเองในการแกไขปญหาตางๆ ของ ตัวเองได” หนาที่ของรัฐบาลคือคอยใหโอกาสที่เหมาะสมและเงินทุนเริ่มตนก็เพียงพอแลว คําบอกเลาของทักษิณ ผมคิดวาปญหาพื้นฐานของประเทศไทยคือความยากจน แตวาทําไมคนเหลานี้ถึงยากจน หรือวาเปนเพราะ การศึกษาไมพอ? ไมมีโอกาส? เขาไมถึงขาวสารหรือขาดแคลนเงินทุน? ตอมาผมพบวา เงินทุนนั้นเปนปญหา สําคัญ ผมมีเพื่อนสมัยประถมที่ขับรถแทกซี่ที่บานเดิมของผม แตวาเมื่อตอนผมและเขายังเปนเด็กนักเรียนอยู ไม วาจะคิดอยางไรก็คิดไมถึงวาเขาในอนาคตจะกลายเปนคนขับรถแทกซี่ นี่เปนเพราะเขาไมมีเงินทุน และไมไดรับ การศึกษาทีดีนัก ทําใหลูกตองตามรอยเทาของพอ และยากที่จะหลุดพนจากชะตาของคนรุนพอ เพราะฉะนั้นผม เลยพยายามทําความเขาใจถึงสาเหตุที่ทําใหคนจนยากจน ผมคิดวาหากพวกเขามีโอกาสที่พอเพียง สามารถเขาถึง ขาวสารขอมูลสําคัญ มีหนทางเขาถึงเงินทุน และไดรับการศึกษาที่ดีขึ้น พวกเขาก็จะสามารถหลุดพนจากความ ยากจนได้
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 3 ไมเคยมีมากอนในประวัติศาสตร

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:11 am

ตอนที่ 5

“โครงการกองทุนหมูบานละลาน” เปนโครงการแรกของรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลกลางไดเทเม็ดเงิน 7-8 หมื่นลาน บาทเขาไปในหมูบาน 7-8 หมื่นหมูบาน ทําใหโดยเฉลี่ยแลวทุกหมูบานจะไดรับเงิน 1ลานบาทเพื่อนําไปใชเปน เงินทุนดอกเบี้ยต่ําจากรัฐบาลกลาง ซึ่งเปนเงินที่ชาวบานสามารถนํามาใชไดในยามจําเปน เกษตรกรสามารถไปกู เงินออกมาจากกองทุนเพื่อนําไปใชในการแปรรูปผลผลิต หรือนําเงินไปใชเปนเงินทุนในการทําการคาเล็กนอย ระหวางที่วางเวนจากการทํานาทําสวน หรือไมก็นําเงินไปซื้อวัตถุดิบ แลวใชความสามารถของตนในการผลิต หัตถกรรมเพื่อนําไปขาย เพื่อเพิ่มรายไดใหกับตนเอง ในชวงเวลาหนึ่ง หนาประตูของคณะกรรมการบริหารหมูบานมีชาวบานยืนยิ้มปริตอแถวกันยาว เหยียดเพื่อกูเงิน จากกองทุนหมูบาน ในอดีตเมื่อเกษตรกรไมมีเงิน หากญาติสนิทมิตรสหายไมยื่นมือเขามาชวย พวกเขาก็ตองหัน หนาไปพึ่ง “เงินกูนอกระบบ” ทําธุรกิจ “เงินกูนอกระบบ”เจริญรุงเรืองตามหมูบานยากจนของภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งดอกเบี้ยของเงินกูนอกระบบนั้นก็สูงอยางนาตกใจ มีตั้งแต 20 – 200 เปอรเซนต แตวาทํา อยางไรได นอกจากโดนเขาเอารัดเอาเปรียบอยางไมมีทางสู เพราะวาประตูธนาคารนั้นเปดใหกับคนมีเงิน การกู จําเปนตองมีสินทรัพยมาจํานอง หากไมมีทรัพยสินและสินทรัพยหรือวามีเพียงกระตอบที่มีคาไมกี่บาท การกูเงินก็ เปนสิ่งที่แมเห็นอยูตรงหนาแตก็ไกลเกินเอื้อม คําสรรเสริญนายกฯคนใหมก็เริ่มดังขึ้นอยางรวดเร็วตามชนบทของประเทศไทย เหลาเกษตรกรคิดวาทักษิณ “เปน คนดีมาก” สิ่งที่สําคัญที่สุดคือ “เขาเชื่อมั่นในตัวพวกเรา” ในการอภิปรายนโยบายนี้ในรัฐสภา พรรคฝายคาน ประณามโครงการนี้วาจะสงเสริม “พฤติกรรมสรางหนี้ของคนจน” พอถึงเวลาคืนเงิน “เอาเงินนั้นไมมี ถาเอามีแต ชีวิตคืนให” ซึ่งจะทําใหหนี้เสียในประเทศนั้นเพิ่มมากขึ้น แตในทางกลับกันทักษิณเชื่อวา แมวาจะตองเผชิญกับ ปญหาหนี้เสีย ก็ตองจัดหา”แหลงเงินทุนที่สุจริตและเปนธรรม”ใหกับผูยากไรเหลานี้ มองโดยรวมแลว นโยบายนี้ มีขอดีมากกวาขอเสีย 2 ปใหหลัง สถิติก็เปนตัวพิสูจนใหเห็นวา พวกนักการเมืองที่เหมาเอาวาความยากจนเทากับ ความไมซื่อสัตย เหมาเอาวาคนจนเปนคนหลอกลวงนั้นผิดอยางสิ้นเชิง! เพราะวามีผลงานวิจัยทางสถิติชิ้นหนึ่ง ของหนวยงานสถิติแหงหนึ่งแสดงใหเห็นวา ในจํานวนเงินกูกวา 1หมื่นลานมีเพียงรอยละ 3 เทานั้นที่เปนหนี้เสีย โดยที่เหลืออีกรอยละ 97 มีการชําระเงินตามกําหนด คําบอกเลาของทักษิณ ผมจัดสรรใหทุกหมูบานเงินทุนจํานวนหนึ่ง แมวาจํานวนตัวเงินจะไมมาก แตวาเงินจํานวนนี้สามารถเปน ขุมทรัพยนอยๆ ของพวกเขา ที่พวกเขาสามารถนําไปใชตามที่พวกเขาเห็นสมควรในการนําไปใชเปนเงินทุน เริ่มตนสําหรับการพยายามดิ้นใหหลุดพนออกจากภาวะความจน ในอดีตเกษตรกรไมรูจักการไปขอเงินกูจาก ธนาคาร ดังนั้นพวกเขาจึงตองหันไปพึ่งเงินกูนอกระบบ สิ่งที่ผมทําคือ อัดฉีดเงินทุนใหหมูบานเพื่อนํามาใชเปน เงินทุนหมุนเวียน โดยชาวบานเปนผูบริหารเอง ซึ่งทุกหมูบานจะตองทําการคัดเลือกคณะกรรมการหมูบาน 9 – 15 คน และคณะกรรมการนี้จะเปนผูบริหารการปลอยกูการนําเงินกูไปใช สาเหตุเพราะพวกเขาทราบดีวาใครทําอะไร ทําใหคนเหลานี้ระมัดระวังในการปลอยเงินกู ซึ่งเปนสิ่งที่ยากมากที่จะทําไดสําหรับธนาคารทั่วไป ดังนั้น คณะกรรมการหมูบานจึงเปนสิ่งสําคัญอยางยิ่ง ไมใชเพียงแคสําหรับการบริหารเงิน แตยังมีเรื่องอีกหลายอยางที่พวกเขา ตองไปทําดวย เชนปองกันการแพรระบาดเขามาในชุมชนของยาเสพติดเปนตน เมื่อหมูบานเขมแข็ง การ บริหารประเทศก็จะเปนเรื่องงาย มีอยูครั้งหนึ่งผมเดินทางไปดูตลาดสดของหมูบานหมูบานหนึ่ง มีชายคนหนึ่งเดินตรงเขามาหาผมแลวพูดวาเขา เปนหนึ่งในผูที่ไดรับประโยชนจาก”โครงการกองทุนหมูบานละ 1 ลาน” ในอดีตเขาเปนคนที่ยากจน ตองพึ่งพาทํา สวนทํานาหาเลี้ยงชีพ เขาตองการที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา แตเขาไมเคยมีเงินทุนเริ่มตนที่จะทําสิ่งนี้ หลังจาก ที่เขาไดรับเงินกู เขาก็เอาเงินไปซื้อเตาปง เนื้อและ เครื่องปรุง และเปดรานขายเนื้อยางในตลาดสด เงินที่ไดจาก การขายเนื้อยางทุกวันรวมแลวมากกวาเงินที่ไดจากการปลูกขาวในอดีต เขาบอกวาเขาตองขอขอบคุณผมเปนอยาง มาก ตัวอยางอยางนี้ผมพบเห็นมานักตอนักตามหมูบานในชนบท ทักษิณยังเข็นนโยบาย “พักหนี้ชั่วคราว 3 ปและลดระดับหนี้” ออกมาเพื่อแกไขปญหายากจน เขาสั่งการให กระทรวงมหาดไทยไปสํารวจทุกทองที่ของประเทศ และจัดใหผูยากไรมาทําการขึ้นทะเบียน พรอมอธิบายถึง สภาพหนี้สินของตน เพื่อดูวาพวกเขาเปนหนี้อยูเทาใด แหลงหนี้มีอะไรบาง หลังจากนั้น จากความสามารถในการใชหนี้ ขอใหหนวยราชการทองถิ่นยื่นมือเขามาชวยเหลือในการลด พัก หรือยกเลิกภาระหนี้สินของพวกเขา 1 เม.ย. 2544 หลังทักษิณเขารับตําแหนงไดเพียง 2 เดือน เขาก็ประกาศวาจากวันนี้ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2547 ภายใน ระยะเวลาสามป เกษตรกรที่มีภาระหนี้สินกับ ธกส. ไมเกิน 1 แสนบาท ไมจําเปนตองทําการจายเงินชําระหนี้เปน เวลา 3 ป สิ่งนี้จะทําใหคนเหลานี้มีเวลาเพียงพอในการสะสมเงินทุน ทําใหพวกเขาสามารถนําเงินทุนที่สะสมได ไปใชในการฟนฟูและขยายการผลิต โดยที่เมื่อคนเหลานี้มีรายไดแลวคอยเอาเงินมาคืนธนาคารก็ไมสาย หลังจาก นั้นไมนาน รัฐบาลก็ไดทําการปดฝุนโครงการสอบถามขอมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหมูบาน และการฝกอบรม เทคโนโลยีใหมใหแกประชาชนที่หยุดไปหลายป โดยมุงหวังวาจะชวยยกระดับความสามารถในการผลิต จาก ขอมูลสถิติของธนาคารกสิกรไทย มีเกษตรกร 2 ลาน 3 พันคนที่ไดรับประโยชนจากนโยบายนี้ โดยจํานวนหนี้ที่ ถูกพักการจายคืนอยูที่ 1แสนลานบาท สําหรับเกษตรกรแลว ทักษิณไดคิดหาทางลด และยกเลิกภาระหนี้ใหกับพวกเขา เขาสั่งการใหสหกรณการเกษตร เปนตัวนําในการเจรจากับพวกผูประกอบการกิจการเงินกูนอกระบบ ใหธนาคารของรัฐซื้อหนี้เนาทั้งหมดแลว ยกเลิกดอกเบี้ยของยอดเงินนั้นๆ โดยหากลูกหนี้มีสถานะทางเศรษฐกิจที่ยากไรมากถึงขั้นที่ไมสามารถจายภาระ ดอกเบี้ยได สามารถทําการลดภาระหนี้ของคนเหลานี้ใหเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของยอด โดยมีเวลา 20 ปในการผอน ชําระ จากสถิติมีผูยากไร 1,300,000 คนไดรับการลด ยกเลิกหนี้โดยคิดเปนหนี้จํานวน 42,000 ลานบาท โดย รัฐบาลทําการรับผิดชอบภาระเงินจํานวนนี้ คําบอกเลาของทักษิณ ทุกครั้งที่ผมคิดวาเราจะสามารถใหความชวยเหลือเกษตรกรไดอยางไร ผมก็คิดถึงวายอดรวมของหนี้พวกเขามีอยู เทาใด และประเทศสามารถรับรองภาระดอกเบี้ยไดเทาไร นอกจากนี้ หากพักการคืนหนี้เกษตรกรจะตองใชระยะ เวลานานเทาใด พวกเขาถึงจะสามารถฟนฟูการผลิตของพวกเขาได สภาพปจจุบันของเกษตรกรไทยหารือกับ คนไขที่ถูกทับโดยกอนหินใหญ สิ่งที่พวกเขาตองทําคือชวยพวกเขายกกอนหินออกไป หลังจากนั้นตองชวยทําการ ฟนฟูสุขภาพใหกับพวกเขาดวย หากเปรียบกับจํานวนเงินที่ถูกใชไปในชวงวิกฤตเศรษฐกิจป 2540 ความจริง แลวจํานวนเงินที่รัฐบาลนําไปใชจายกับผูยากไรนั้นไมมากเลย ในชวงเวลานั้น เพื่อปกปองคาเงินบาท ปกปอง ไมใหบริษัทลมละลาย และปกปองชื่อเสียงของประเทศ พวกเราตองเสียหายไป 1.3 ลานลานบาท แตวาในวันนี้ จํานวนเงินที่เราจะใชในการชวยเหลือเกษตรกรสวนใหญของไทยใชเงินแค 2 แสนลานบาท หากคิดดูแลวมันเปน เงินจํานวนไมเทาไหรเลย 2 นโยบายที่ลวนมุงใหความชวยเหลือดานเงินทุน ทําใหพวกเขามีโอกาสกอรางสรางตัว ทวา “ความยากจนเพราะ การเจ็บปวย” ก็เปนอีกปรากฏการณหนึ่งที่พบเห็นไดทั่วไปในชนบทของไทย ในหลายๆ โอกาสการเจ็บปวย ใน หลายๆโอกาสการเจ็บปวยอยางกะทันหัน ก็สามารถลากครอบครัวที่มีฐานะดีลงสูหวงเหวแหงความยากจน


แก้ไขล่าสุดโดย dimistry เมื่อ Sat Apr 03, 2010 4:16 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 3 ไมเคยมีมากอนในประวัติศาสตร

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:13 am

ตอนที่ 6

ดังนั้น นโยบายที่ 3 ของทักษิณ “30 บาทรักษาทุกโรค” นโยบายก็สงผลใหมการถกเถียงกันอยางกวางขวางในสังคม ใน ี ประเทศไทย ขาราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจนั้นมีประกันสุขภาพ และประชาชนที่ยากจนก็ไดรับประกันสังคม “โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค” ในความเปนจริงแลวเปนการซื้อประกันสุขภาพใหกับผูยากไรทั้งหมด รัฐบาล จัดสรรเงิน 1,308 บาทตอคนใหกับคนไทยทุกคน และประชาชนเพียงจําเปนตองจายเงินเพียง 30 บาท (เทียบเทา 6 หยวนจีน) ก็สามารถมีสิทธิ์รับการรักษาโรคตาง ๆ รวมทั้งโรครายแรง เชนโรคหัวใจ ฯลฯ จากโรงพยาบาลของรัฐ โดยที่คาใชจายที่เหลือรัฐจะเปนผูรับผิดชอบ ในการนํานโยบายนี้ไปปฏิบัติในระยะแรก โรงพยาบาลตางๆ ของรัฐ ลวนประสบปญหาคนไขลนโรงพยาบาล แผนกคนไขนอกมีคนไขมาใชบริการเพิ่มขึ้นหลายเทาตัว ตารางคิวผาตัด ของหมอผาตัดเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็วในชวงเวลาเดียวอันสั้น สําหรับคนไขที่ไมสามารถหาเงินมาจายคาผาตัดแลว จําเปนตองเลื่อนการผาตัดออกไป ตอนนี้พวกเขาสามารถใชบริการนี้ดวยคาใชจายที่แสนถูกรักษาโรคของเขา ผลลัพธคือมีชีวิตไมนอยที่ไดรับการชวยเหลือจากนโยบายนี้ นอกจากนี้รัฐบาลยังเข็นนโยบาย “ประกันภัยเอื้อ อาทร” ออกมา โดยกําหนดวา ผูที่มีรายไดต่ําขอเพียงจาย 365 บาทตอป (เทียบเทา 73 หยวนจีน) ก็สามารถซื้อ ประกันชีวิต และประกันอุบัติเหตุ ซึ่งในกรณีที่ผูซื้อประกันเสียชีวิตหรือทุกพลภาพก็จะไดรับเบี้ยชดเชย 3 แสน บาท (เทียบเทา 6 หมื่นหยวน) ในโลกนี้ไมมีประเทศใด แมแตประเทศทุนนิยมที่ร่ํารวยที่สุด หรือประเทศสังคมนิยม กลาที่จะนํามาตรการ ประกันสุขภาพสําหรับประชาชนที่ราคาถูกเทานี้มาใช เพราะการทําเชนนี้รัฐบาลจะตองรับผิดชอบคาใชจายซึ่ง ใหญหลวง แตวาสําหรับทักษิณการที่เขากลาทําสิ่งนี้ในประเทศที่ไมไดร่ํารวยเช นประเทศไทย ทําใหสื่อทั่วโลกใน เวลานั้นทําการรายงานขาวเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยบางเห็นดวยบางไมเห็นดวย แตวาปฏิเสธไมไดวามีผูคนยอมรับ ความกลาของทักษิณมากขึ้น พรรคฝายคานทําการอภิปรายเกี่ยวกับนโยบายนี้ในรัฐสภาอยางเผ็ดรอน ฝายคานพูด วานโยบายที่มโหฬารจะดึงประเทศชาติลงไปในโคลนตม อางถึงสถิติรัฐบาลไทย ระหวางป 2544 – 2546 รัฐบาล ใชเงินไปกับโครงการรักษาพยาบาล 54,100 ลานบาท และในป 2547 รัฐบาลใชเงินไป 60,900 ลานบาท นอกจากนี้ยังมีชองวางทางงบประมาณที่รัฐบาลจะตองเขาไปเติมเต็ม เจาหนาที่ของรัฐตางทําการแสดงความไม พอใจเพราะวาปริมาณงานที่มากขึ้นของพวกเขานั้น เงินเดือนของพวกเขาแทบจะไมมีการขึ้นเลย นอกจากนั้นแลว การที่รัฐบาลจัดสรรเงินทุนไมไดประสิทธิภาพ ทําใหในหลายโอกาส โรงพยาบาลก็จําเปนที่จะตองควักเนื้อตัวเอง ตอมาทักษิณก็ยอมรับวาในชวงเวลาที่วางแผนนโยบายนี้ซึ่งมีสีสรรความ เปนสังคมนิยมคอนขางมาก ยังขาดความ เขาใจในขอจํากัดของความเปนจริงและคอนขางอุดมการณเกินไป แตวาไมสามารถปฏิเสธไดวา มีคนที่ไดรับ ประโยชนจากโครงการนี้ ทําใหพวกเขามีโอกาสเปลี่ยนแปลงชีวิตและโชคชะตาตนเอง
คําบอกเลาของทักษิณ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคเปนนโยบายแรกในประวัติการณของประเทศไทย มีประชาชนผูยากไร 18 ลานคน ไดรับประโยชนจากนโยบายนี้ ที่ผานมาผูยากไรหลายตอหลายคน รอเปนปก็ไมสามารถไปโรงพยาบาลได เพราะ พวกเขาไมมีเงิน นอกจากนั้นเพราะความจนของเขา พวกเขาตอง “ขอรอง” ไมใช “ไปใช” บริการการรักษา โครงการนี้ทําใหคนพวกนี้สามารถไปหาหมอ ไดรับความยุติธรรมในการบริการ และการรักษาที่ไดคุณภาพ ทําให สุขภาพและชีวิตประจําวันของเขาดีขึ้น และศักดิ์ศรีในความเปนมนุษยของพวกเขาไดรับการปกปอง ในชวงเวลาที่มีการประทวงและโจมตีรัฐบาล มีชายคนหนึ่งวิ่งเขามาหาผม เขาแบะเสื้อของเขาออกและใหผมดู รอยแผลเปนบนหนาอกของเขา รอยแผลเปนใหญและยาวมาก เห็นไดวาเปนแผลจากการผาตัดหัวใจ เขาพูดวา “ หลังทานผลักดันนโยบายประกันสุขภาพ ผมถึงมีโอกาสใช 30 บาทในการผาตัดหัวใจ ซึ่งกอนการผาตัดผมเปนคน รางกายออนแอไมสามารถทํางานได แตหลังการผาตัดผมสามารถทํางานเลี้ยงครอบครัวได ตอนนี้ลูกสาวผมเรียน จบปริญญาตรีและมีงานทํา ผมมีความสุขมาก ไมมีสิ่งใดใหผมหวงอีกแลว ชีวิตผมสําหรับคนอื่นไมมีคาแลว ผม ไมอยากมีชีวิตแลว ผมยอมที่จะทําทุกอยางเพื่อคุณ ผมเกลียดคนที่ใสรายคุณ ผมเกลียดมัน
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 3 ไมเคยมีมากอนในประวัติศาสตร

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:14 am

ตอนที่ 7

โครงการที่โดงดัง ”1 ตําบล 1 ผลิตภัณฑ OTOP” เปนโครงการที่ทักษิณเลียนแบบมาจากแนวทางปฏิบัติของญี่ปุน แผนของโครงการนี้คือ สนับสนุนและผลักดันใหทุกๆหมูบานใชความไดเปรียบของแตละหมูบานพัฒนา ผลิตภัณฑ 1 อยางหรือมากกวา 1 อยางที่มีลักษณะพิเศษของแตละทองถิ่น โดยรัฐบาลจะเปนผูชวยเหลือดาน เงินทุน ความรูดานเทคนิค การบริหารจัดการ การตลาด ฯลฯ ตั้งแตป 2544 เปนตนมา รัฐบาลไดทําการติดตั้งระบบอินเตอรเน็ต นอกจากนี้พวกเขายังสามารถขยายตลาดของ ตัวเองใหกวางขึ้นไดโดยการใชประโยชนจากการคาทางอินเตอรเน็ต ในการนี้รัฐบาลไดทําการจัดตั้คณะกรรมการ พิจารณาผลิตภัณฑ OTOP ขึ้นมาเปนพิเศษ เพื่อทําการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑของธุรกิจ หมูบาน จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ ผลิตภัณฑเหลานั้นสามารถรับการสนับสนุนจากรัฐบาลในดานการให คําปรึกษาดานธุรกิจ เทคนิค บรรจุภัณฑ การตลาด ฯลฯ และสําหรับผลิตภัณฑที่มีคุณภาพดี มีเอกลักษณโดดเดนก็ จะไดรับการคัดเลือกใหเปนผลิตภัณฑที่ไดรับการสนับสนุนใหทําการสงออกไป ขายในตลาดตางประเทศตอไป ตามคําบอกเลาประเทศไทยมีเหลาผลไมอยูชนิดหนึ่งที่ใชผลไมเขตรอนนํามา หมัก ซึ่งในอดีตมีอยูชวงหนึ่งที่ไดรับ ความนิยม แตวาภายใตการโจมตีและกระแสนิยมเบียรและสุราตางประเทศทําใหไมคอยได รับความนิยม ภายใต การกระตุนของนโยบาย “OTOP” เทคนิคในการหมักและบรรจุภัณฑที่ไดรับการพัฒนา ทําใหผลิตภัณฑนี้ไดรับ ความชมชอบในเทศกาลสุราสากล นับแตนั้นมา การทําสุราหมักก็ฟนขึ้นมา และสงออกไปขายยังตางประเทศอีก ดวย นี่ก็เปนอีกนโยบายโอบอุมคนจนที่ประสบความสําเร็จที่สุด จากขอมูลทางสถิติในป 2544 ยอดขาย ผลิตภัณฑ OTOP อยูที่ 215 ลานบาท หลังจากนั้น 1 ปยอดขายผลิตภัณฑ OTOP เทากับ 24,000 ลานบาท หรือเพิ่มขึ้นกวา 100 เทาตัว ในป 2546 ยอดเพิ่มขึ้นไปถึง 33,000 ลานบาท ซึ่งเปนตัวเลขที่สูงเกินกวาเปาหมายที่ตั้งไวมาก คําบอกเลาของทักษิณ มีหมูบานที่มีทรัพยากรปาไมอุดมสมบูรณมาก แตวาชาวบานไมมีความรูเกี่ยวกับการใชประโยชนจากทรัพยากร ปาไมที่มีอยู ทุกครั้งที่ฝนตกพวกเขาก็ตองปวดหัวเพราะไมที่ไหลลงมาพรอมกับน้ํามา ทําใหแมน้ําของหมูบานอุด ตัน หลังจากหนวยงานของรัฐบาลทราบเรื่อง ก็ไดทําการสงเจาหนาที่ดานเทคนิคเขาไปทําการสํารวจสภาพของ ทองถิ่น และชวยเหลือออกแบบผลิตภัณฑที่มีเอกลักษณและเปนที่ตองการของตลาด หลังจากนั้นไมที่ลอยลงมา พรอมกับสายน้ําก็ไดรับการแปรรูปใหเปนผลิตภัณฑไมที่สวยงาม ทําใหรายไดของชาวบานเพิ่มขึ้นอีกหลายเทาตัว ยังมีอีกหมูบานหนึ่งที่ยากจนมาก ซึ่งความยากจนนี้เองที่ผลักดันใหหมูบานนี้หันมาเปนแหลงผลิตอาวุธปนผิด กฎหมาย พวกเราไดสงเจาหนาที่เทคนิคเขาไปในพื้นที่ดังกลาวและสอนใหชาวบานผลิต มีด ดาบ กรรไกรทําสวน ฯลฯ และดวยมาตรฐานงานฝมือที่สูงรัฐบาลจึงชวยรับผิดชอบในการสงผลิตภัณฑของ หมูบานนี้ไปขายใน ตางประเทศ โครงการ 1 ตําบล 1 ผลิตภัณฑนํามาซึ่งความหวังสําหรับเกษตรกรและชวยยกระดับมาตรฐานชีวิตของประชาชน

หากมอง จากความสําคัญทางสังคม นโยบายนี้มีสวนชวยในการปองกันไมใหชาวชนบททะลักเขาสูเมืองใหญเพื่อ เสาะหางานทํา นอกจากนี้รายไดของเกษตรกรที่เพิ่มขึ้น แรงซื้อทองถิ่นก็จะสูงขึ้น ซึ่งจะชวยฉุดเศรษฐกิจให เติบโตขึ้น และเปนประโยชนตอพัฒนาการของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน เกษตรกรไทยคือรากฐานสําคัญของประเทศ ไทย การทําใหคุณภาพของพวกเขาดีขึ้น ก็เทากับการเสริมสรางความเขมแข็งใหกับรากฐานทางเศรษฐกิจของ ประเทศชาติ นี่คือสาเหตุวา ทําไมรัฐบาลตองการที่จะวางการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรเปนนโยบาย พื้นฐานของประเทศ นอกจากนั้นแลว รัฐบาลทักษิณยังมีนโยบายแปลงสินทรัพยใหเปนทุน ซึ่งเปนแนวทางใหประชาชนสามารก เขาถึงทุนที่พวกเขาสามารถทําไปใชสอยทางธุรกิจได โครงการเอื้ออาทรตางๆ เชน “บานเอื้ออาทร” “คอมพิวเตอร เอื้ออาทร” “รถแทกซี่เอื้ออาทร” โดยรัฐบาลจะสนับสนุนผูที่มีรายไดต่ํา วัตถุดิบราคาถูกสําหรับนําไปใชในการ ผลิตเพื่อการใชชีวิตประจําวัน โดยการขยายการศึกษาในชนบท ใหเงินสนับสนุนทางการศึกษาสําหรับผูยากไร จัด หลักสูตรอบรมดานเทคนิคการเกษตร ฯลฯ ซึ่งนโยบายและโครงการเหลานี้ไดรับการเรียกวา “Thaksinomics” การพัฒนาเศรษฐกิจ สิ่งแรกที่ตองทําคือเขาไปจัดการกับสิ่งที่พื้นฐานที่สุดกอน กลาวคือ พัฒนาเศรษฐกิจชนบท โดยพึ่งพาการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเกษตรกร ฉุดความตองการภายในประเทศ และผลักดันพัฒนาการของเศรษฐกิจของประเทศ จากสถิติ ชวงเวลาที่ทักษิณบริหารประเทศ รายไดรวมของ เกษตรกรเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยรอยละ 60 อัตราการวางงานลดลงรอยละ 1.5 GDP เติบโตรอยละ 5 – 6 ตอป ซึ่งเปนรอง เพียงจีน และเปนอันดับสองในเอเชีย คําบอกเลาของทักษิณ ผมยังเคยพยายามนําเอาที่ดินที่รกรางมาแบงใหกับเหลาคนจน นี่เปนแผนการปฏิรูปครั้งยิ่งใหญ พวกเรานําที่ดินที่ รกรางสวนหนึ่งมาทําการจัดสรรใหมใหกับเจาของสวน / ไรรายยอย บนที่ดินรกรางมีตนไมอยูไมนอยแตพวกเขา ก็ไมโคนตนไมพวกนี้ทิ้ง พวกเขากลับทําการรักษาและบํารุงมัน แสดงใหเห็นวา พวกเขาเหลานี้ถือวาที่ดินผืนนี้ เปนบานของพวกเขา ที่พวกเขาจะอยูบนที่ตรงนี้อยางสงบสุข ผมยังคิดจะสรางระบบภาษีขึ้นมาชนิดหนึ่ง สําหรับ เจาของที่ดินที่ทําการเพาะปลูกบนที่ดินของตนเอง อยางเชนวาคุณมีที่ดินเยอะ ถาคุณใชที่ดินสําหรับการเพาะปลูก ใชที่ดินในการผลิตเพื่อการคาขาย ไมมีปญหา แตทวาคุณตองการเก็งกําไร ขอโทษที ทุกปคุณตองจายภาษีหนัก ซึ่งถาคุณไมสามารถรับภาระตรงนี้ได ดี ขอใหคุณขายที่ดินใหกับรัฐบาล เพื่อรัฐบาลจะนําที่ดินมาจัดสรรใหกับผู ยากไร แผนการเหลานี้ของผมมีสีสรรของความเปนสังคมนิยมที่คอนขางเขมขน หลายๆอยางจึงไมสามารถนําไปปฏิบัติ ได แตวาสิ่งเหลานี้ลวนเปนสิ่งที่ผมอยากทําจริง ๆ เพราะวาเมื่อประชาชนเลือกคุณเขามาแลว คุณก็ตองตอบแทน ประชาชน คุณตองสํานึกในบุญคุณของพวกเขา ถาหากคุณไดรับการแตงตั้ง คุณก็เพียงตองสํานึกในบุญคุณของ บุคคลที่แตงตั้งคุณเทานั้น โดยคุณอาจเมินประโยชนของประชาชนและมองเอาวา คนจนเปนเพียงคนรับใช คน สวน คนขับรถ ฯลฯ แตในความเปนจริงแลว พวกเขาเปนประชาชนซึ่งเปนแหลงรายไดสําคัญของประเทศ ดังนั้น ประชาชนนั่นแหละที่คนที่ผมจะบริการ หากคุณเพียงแตนั่งบนตําแหนงนายกรัฐมนตรี ไปรวมงานพิธีบาง ไป รวมงานประชุมบาง ใหอาหารแกผูยากไร รับประกันพวกเขาไมอดตาย แคนี้ก็คงจะไมเกิดความยุงยากที่จะตามมา แนนอนหากเปนไปตามคําพูดนี้ ประชาชนก็คงจะไมรักและเทิดทูนคุณ ซึ่งนี่ไมใชไสตลของผม

เศรษฐีรอยลานอยางทักษิณไดรับการสนับสนุน และชื่อเสียงอยางมากในพื้นที่ชนบทไดรับการสนับสนุนมากกวา นักการเมืองทุกคนในประวัติศาสตรไทย เกษตรกรเรียกเขาอยางสนิทสนมวา “นายกฯ ของเรา” ทุกครั้งที่เขาไป ตรวจเยี่ยมพื้นที่ชนบทหรือชุมชนยากจนเขาก็มักจะไดรับการตอนรับที่อบอุน ทุกครั้งที่เขายืนปราศัยในชนบท ใต เวทีก็จะสงเสียงสนับสนุนอยางอื้ออึง เขามักจะกินอยูกับประชาชน นอกจากนั้นเขายังมักจะควักกระเปาตัวเองแลว เอาเงินเปนพันยัดใสมือของผูยากไร สําหรับเกษตรกรขอเพียงพวกเขาเห็นนายกฯ เดินสํารวจตามถนนของหมูบาน พวกเขาก็จะวิ่งเขาไปหอมลอมเขา มอบดอกไมใหเขา เขาไปโอบกอดเขา แมกระทั่งวิ่งเขาไปกอดเขาแลวรองไห ออกมา นายกฯ ไมเปนเพียงบุคคลทางการเมือง เขายังเปน ”ขวัญใจประชาชน” “วีรบุรุษของเกษตรกร” “พอพระ ของผูยากไร” จนทําใหพรรคฝายคานรูสึกไมคอยสบายใจเทาใดนัก พวกเขาบอกวา นโยบายเอื้ออาทรของทักษิณ นั้น short sighted และทําใหประเทศชาติเสียผลประโยชน ซึ่งจากนโยบายดังกลาวเขาไดสรางตัวเขาขึ้นมาเปน “พอพระของผูยากไร” เพื่อเรียกรองเสียงสนับสนุนของประชาชน ซึ่งสิ่งที่เขาทํานั้นใชเงินของประเทศชาติมาหา เสียงใหกับตัวเอง ทักษิณนั้นกลาววา จุดประสงคของสิ่งที่เขาทําคือ “ชวยเหลือคนจน” มันเปนเพียงสิ่งที่เด็กที่โตขึ้นมาในชนบท เมื่อไดรับเลือกตั้งใหเปนนายกรัฐมนตรีแลว จากความทรงจําที่ลึกซึ้งของเขาเกี่ยวกับความขมขื่นของประชาชน พยายามเทาที่เขาจะทําไดเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของผูยากไรเทานั้นเอง ในความปราถณาที่ไมมีสิ่งใดแอบแฝงอยู และไมมีความคิดที่จะใชนโยบาย “ทําทาน” หรือ “หลอกใช” มันเปนเพียงสิ่งที่บังเกิดจากมโนธรรมของ นักการเมืองที่มีความรับผิดชอบ คําบอกเลาของทักษิณ ผมไมใชนักการเมืองที่ไมยอมเขาใกลหรือไมยอมคลุกคลีกับคนจน ผมตั้งแตชีวิตวัยเด็กของผมในชนบท ผมก็มัก มองพอผมทํางานเกษตร มองเกษตรกรมาทํางานที่บานผม ผมคิดวาผมกับพวกเขาเหมือนกัน เพียงแตวาผมเพียง แคประสบความสําเร็จมากกวาพวกเขาเพียงนิดหนอยเทานั้นเอง เพราะฉะนั้นผมจึงจําเปนตองตอบแทนพวกเขา ตั้งแตเหตุการณรัฐประหาร คนที่ไดรับผลกระทบมากที่สุดคือเกษตรกรชาวไทย พวกเขาเปนกลุมคนที่ไมไดรับ ความเปนธรรมมาเปนเวลานาน ในชวงเวลาที่ผมบริหารประเทศ ผมไดพยายามชวยเหลือพวกเขา ยกระดับรายได พวกเขา พวกเขาเคยเห็นความหวัง แตวาปจจุบันทุกสิ่งทุกอยางนั้นเลวรายลง นโยบายหลายอยางไมไดรับความ นิยม เพราะรัฐบาลไมไดรับการสนับสนุนที่พอเพียง นอกจากนั้น ปญหาก็เกิดขึ้นอีกเพราะ ยังมีอีกหลายคนที่ไม เขาใจนโยบาย
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 4 จากตํารวจถึงนายกรัฐมนตรี

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:20 am

บทที่ 4 จากตํารวจถึงนายกรัฐมนตรี
ตอนที่ 1

วันที่ 26 กรกฎาคม 2492 ทักษิณ ชินวัตร เกิดที่เชียงใหมซึ่งเปนจังหวัดทางภาคเหนือของไทย ในครอบครัวที่คาผา ไหม แมจะเกิดทางภาคเหนือ แตบิดาก็ตั้งชื่อวา “ทักษิณ” ซึ่งแปลวาภาคใต (ในภาษาไทยทักษิณแปลวาภาคใต) และไดตั้งชื่อใหบุตรชายคนรองวา “พายัพ” และบุตรชายคนที่สามวา “ประจิม” ตามลําดับ นาเสียดายที่มารดาไม สามารถกําเนิดบุตรคนที่สี่ได ไมเชนนั้นบุตรคนดังกลาวคงไดชื่อวา “บูรพา” เปนแน หาใชบิดาตั้งความหวังไว กวางไกลสุดโตง มุงใหบรรดาบุตรชายทั้งหลายเติบโตขึ้นแลว ทุกคนเปนกําลังสําคัญในการบริหารปกครอง ประเทศเชนนั้นไม แตเนื่องจากชวงนั้นเขากําลังใหความสนใจกับศาสตรแหงหมอดู การตรวจดูชะตาของชาว ตะวันออกหนีไมพนเรื่องโหงวเฮงและโปยกวย ทั้งทิศเหนือใตตกออก บิดาไดใชชื่อทั้งสี่ทิศตั้งชื่อใหกับลูกโดย มุงหวังใหเปนมงคลกับบุตรไปตลอด แตทวาการที่บุตรคนโตชื่อทักษิณนั้น ก็เหมือนเปนการระลึกถึงบรรพบุรุษ เพราะตระกูลชินวัตรเดิมแซชิว (คู) มาจากมณฑลภาตใตของจีนคือกวางตุง รัชสมัยกวางสูที่ 31 (ค.ศ. 1906) ทวดของทักษิณนายชิว ชุนเซิ่ง ไดเริ่มเดินทางอพยพจากเขตเหมยโจว อําเภอเฟง ซุน ขามน้ําขามทะเล หอบสื่อผืนหมอนใบมาทํามาหากินในประเทศไทย ซึ่งก็เหมือนกับคนจีนหลายคนที่ออกมา หางานทําในตางประเทศขณะนั้น นายชิว ชุนเซิ่ง ไดอาศัยการทํามาคาขายหาเลี้ยงชีพในจังหวัดหนึ่งทางภาค ตะวันออกของไทย ในเวลาอันรวดเร็ว ชาวตางดาวที่มีความสามารถเลิศล้ําดานการคํานวณและช่ําชองในการคบ คาสมาคม ก็สามารถไดรับตําแหนงเปนขาราชการดานภาษีของทองที่ได ตอมาเขาไดอพยพออกจากพื้นที่ดังกลาว พาภริยาซึ่งเปนชาวไทยนั่งเรือผานแมน้ําเจาพระยาไปทางตอนเหนือของไทย และไดตั้งรกรากในดินแดนที่อิงกับ ภูเขา อากาศอบอุน และมีดอกไมบานตลอดปที่จังหวัดเชียงใหม โดยไดประกอบอาชีพเดิม และมักจะเดินทางไป เก็บภาษีในตางถิ่น แตที่นาเศราก็คือ ครั้งหนึ่งที่เดินทางไปตางที่กับภริยาไดถูกโจรปลน ภริยาถูกฆาเสียชีวิตในที่ เกิดเหตุ ชิว ชุนเซิ่ง ทอแทกับเหตุการณนั้น และลาออกจากการรับราชการ และไดเริ่มอาชีพขายผาไหม โดยเขาไดรับซื้อ ไหมดิบจากประเทศขางเคียงคือ พมาและยูนนานของจีน และไดวาจางคนพื้นเมืองตัดเย็บเปนผาโสรง จากนั้นก็ นํากลับเขาไปจําหนายในพมา เมื่อมาถึงรุนคุณปูของทักษิณ ฐานะของครอบครัวก็ถือเปนระดับพอคาคหบดีใน พื้นที่ และไดตั้งชื่อเปนตระกูลในภาษาไทยวา “ชินวัตร” ตระกูลชินวัตรไดทํามาคาขายกิจการผาไหมไทยมาตลอด พวกเขาระดมวาจางคนในหมูบานทําการยอมและถักทอผาไหม โดยเลียนแบบเสื้อผาที่ทันสมัยในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในรูปแบบเสื้อผาที่กําลังเปนที่นิยม และมีสีสันฉูดฉาดบาดตา โดยมีตราสัญลักษณวาชินวัตร และ ออกจําหนายยังจังหวัดที่อยูไกล ในฐานะผูเลื่อมใสในศาสนาขงจื้อ คนจีนมีความคิดคตินิยมมีบุตรหลานเปนผูชายมากๆ เพื่อจะนําโชควาสนามาสู ครอบครัว ซึ่งความคิดเชนนี้ก็เหมือนกับตนไมใหญอายุเกาแกที่หยั่งรากลึกในความ คิดของครอบครัวชินวัตร บิดา ของทักษิณคือนายเลิศก็มีบุตรชายบุตรสาวถึง 12 คน ทักษิณเองก็มีพี่สาวนองสาวถึง 9 คน ก็เพราะวามีลูกมาก เชนนี้เองแมครอบครัวมีฐานะมั่งคั่ง เมื่อแบงทรัพยสมบัติใหบุตรชายบุตรสาวก็ไมไดสมหวังดั่งที่คิด

คําบอกเลาของทักษิณ ผมไดรับความคิดที่สืบทอดมาจากการมีสายเลือดคนจีนนั่นคือความมีกตัญูรูคุณ สําหรับพอแมและบุคคลที่เคย ใหความชวยเหลือ ผมจะระลึกถึงบุญคุณของทานเหลานั้นตลอดเวลา และจะตอบแทนบุญคุณใหมากเปนทวีเทา คุณลักษณอีกอยางที่ไดมาก็คือ ความขยันขันแข็ง และอดทนในการทํางาน ซึ่งทําใหผมเปนคนไมอยูนิ่ง บางทีสิ่ง เหลานี้คงไดรับแบบอยางจากพอแม กลาวโดยสรุปชีวิตทั้งชีวิตของผมมีแตขยันทํางาน บิดาของผมเปนคนจีนรุนที่ 3 แตผมไมรูภาษาจีน สําหรับเรื่องบรรพบุรุษในเมืองจีนผมก็รูไมมาก นอกจากเรื่องที่ บรรพบุรุษอพยพไปเชียงใหมแลว ผมรูอะไรเกี่ยวกับเชื้อสายทางฝายพอนอยมาก พอของผมมีพี่นอง 12 คน ยา ของผมเปนคนพื้นเมืองเชียงใหมแทๆ ยาคาขายเกงมาก ทานรับซื้อไหมดิบจากจีน แลวนํามาแปรรูปเปนผลิตภัณฑ ผาไหมและขายในไทย จากเริ่มตนกิจการเปนน้ําพักน้ําแรงของยาคนเดียว หลังจากนั้นกิจการก็ขยายใหญมาตลอด ยาก็ระดมชาวบานในหมูบานมาชวย แตผาไหมเหลานี้ตองขายในตราสัญลักษณของตระกูลชินวัตร ปูยาของผม ประสบความสําเร็จมากในการคาขายดานนี้ ผาไหมของเรามีชื่อเสียงมาก แตเนื่องจากตระกูลเรามีพี่นองมาก พอ ผมเลยไมไดรับมรดกมากเทาที่ควร ผมเลยตองยืนดวยลําแขงตนเอง นายเลิศ ชินวัตร ไมไดทํามาคาขายผาไหม เหมือนกับตระกูลเดิม โดยไดไปเปดรานกาแฟในตําบลเล็กๆ ใกลตัวเมืองเชียงใหม นอกจากขายกาแฟยังมีชาเย็น ผลไม และน้ําผลไมคั้น ทักษิณ ใชชีวิตในวัยเด็กสวนใหญที่รานกาแฟแหงนี้ เมื่อเติบโตจนสูงเทาโตะ เด็กชายทักษิณนี้ก็เริ่มชวยงานในรานเสริฟชาเสริฟน้ํา และงานจิปาถะ บางครั้งก็ไปชวย แมในยานรานคาขายผาไหมและสม มารดานางยินดีก็มีเชื้อสายจีน บรรพบุรุษมาจากมณฑลกวางตุง เกิดที่ประเทศ ไทย ในชวงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อหลบหนีญี่ปุน ไดอพยพไปอยูที่เหมยโจวเปนเวลาหลายป สามารถพูด ภาษาจีนแคะได และไดเลาใหทักษิณฟงถึงเรื่องราวความหลังในเหมยโจว มีอยูบางชวงที่แมกับพอมีความสัมพันธ ที่ระหองระแหงกัน เด็กชื่อทักษิณในวัยเยาวถูกสงตัวไปอยูที่บานยาและบานอาสลับกันไป เพราะแมตองการใช เวลาที่มีในการทะเลาะกับพอ มีเรื่องเลาวา ในชวงที่บิดาทํางานเปนผูตรวจโครงการกอสรางในจังหวัดตางๆ นั้น บางครั้งก็ไมไดกลับบานเปนเดือน และเมื่อกลับมาก็มักพาสาวสวยติดตามมาอยูดวย ทําใหมารดาเจ็บช้ําสุดทน และบอยครั้งจะระบายความขมขื่นในใจใหบุตรนอยฟง รวมทั้งความไมพอใจตอสามีของตนในแตละเรื่อง ตอวา สามีวาเปนคนลืมตัว และไมใหเกียรติผูหญิง ทักษิณเขาใจความทุกขของมารดาอยางลึกซึ้ง และเรียนรูบทเรียนจาก การกระทําของบิดา หลังจากทักษิณแตงงาน จึงไดมีความสัมพันธที่คอนขางเสมอภาคและราบรื่นกับพจมาน และ คลอยตามคําตักเตือนที่ถูกตองของภริยาอยูเสมอ ขณะที่ภริยาก็แสดงบทบาทสําคัญในทุกครั้งที่ชีวิตของทักษิณถึง ชวงหัวเลี้ยวหัวตอ คําบอกเลาของทักษิณ ผมมีความใกลชิดกับพอแมมาก โดยเฉพาะคุณแม คงเปนเพราะลักษณะนิสัยของเด็กผูชาย ผมกับแมคุยกันไดทุก เรื่อง และมักจะนําเรื่องที่ไมอยากบอกพอมาเลาใหผมฟง นี่อาจเปนลักษณะความสัมพันธแมลูกในแบบของคนจีน แมบอกผมวาอะไรดี อะไรเลว อะไรควรทํา อะไรไมควรทํา แมสอนผมใหรูจักความเปนคน เขาใจชีวิต เขาใจ ลักษณะของคน ผูชายเมื่อประสบความสําเร็จแลวมักเหอเหิมลืมตนงาย และเชื่อมั่นตนเองสูงเกินไป และมักไมฟง คําเตือนของฝายหญิง พอของผมก็เปนคนแบบนี้ ดังนั้น เมื่อผมมีครอบครัว จึงใหความสนใจและรับฟงคําชี้แนะ จากภริยา อยางไรก็ตาม พอของผมก็เปนคนที่มีความรับผิดชอบ ทานรักลูกๆ มาก และเปนผูแบกรับภาระเลี้ยงดูครอบครัว ทํางานก็ขยันขันแข็ง เรื่องตางๆ พอมักจะลงมือทําดวยตนเองทานยังชอบวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีที่ กาวหนา ลักษณะนิสัยของพอนี้ก็ถายทอดมาถึงผมดวย ผมสนใจการคนควาและการประยุกตใชวิทยาศาสตรและ เทคโนโลยีที่ทันสมัย มักอานหนังสือประเภทนี้ประจํา บางครั้งก็อาจไมจําเปนตองทราบวาเทคโนโลยีเหลานี้ ไดรับการประดิษฐคิดคนขึ้นไดอยางไร รูแตวาใชใหเปนเทานั้น ผมเปนคนที่สันทัดในการนําวิทยาศาสตรและ เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใชในเชิงพาณิชย
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 4 จากตํารวจถึงนายกรัฐมนตรี

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:21 am

ตอน 2

ทักษิณเปนคนที่มีพรสวรรคดานคณิตศาสตร และมีศักยภาพในการเปนพอคา เริ่มตั้งแตอายุได 3 ขวบ ไดเขาเรียน หนังสือที่วัดใกลบาน ในวิชาคณิตศาสตรสําหรับเด็กเล็ก ครูผูหญิงวัยกลางคนคนนั้นไดแสดงความประหลาดใจที่ เด็กคนนี้มีพรสวรรคที่เหนือคนอื่นในดานการคํานวณ เมื่อจบชั้นอนุบาล ระดับวิชาคณิตศาสตรของทักษิณก็สูงถึง ระดับเด็กประถม 2 และ 3 แลว เมื่อเขาโรงเรียนตามเกณฑปกติ เขาก็มักจะสอบวิชาคณิตศาสตรไดที่หนึ่งเสมอ ทักษิณมีผิวขาวมาก ไมเหมือนเด็กไทยทั่วไปที่มีผิวดําคล้ํา เมื่ออยูในหมูเด็กจะสังเกตไดโดยงาย เด็กนักเรียนใน ชั้นพากันขนานนามเขาวา “แมว” ตางบอกวาเขาเหมือนชนเผาแมวที่อยูบนดอย ชนเผานี้อาศัยอยูในปารกทึบ ผิว จึงขาว จนเมื่อเขาไดเปนนายกรัฐมนตรี นสพ. ไทยบางครั้งก็เรียกชื่อเขาสั้นๆ วา นายกแมว ทักษิณเปนคนเปดเผย เบิกบานราเริง ในชวงวัยเด็กมีรูปภาพเก็บไวรูปหนึ่ง เปนรูปที่เขาสวมหมวกแกป ใสกางเกงขาสั้น และกําลังแบก สับปะรดที่มีขนาดใหญเทากระโหลกศรีษะยืนอยูในสวนสับปะรด และแยมยิ้มอยางนารักไรเดียงสา อีกรูปภาพ หนึ่งเปนภาพที่เขากําลังหยอกลอกับกลุมเพื่อนบนรางรถไฟ นัยตาที่มองมาที่กลองถายเปนนัยตาที่มีประกายความ ฝน ลักษณะทั้งสองสิ่งนี้ยังคงเปลงประกายออกมาแมหลายสิบปตอจากนั้นจนเขา ไดเปนนายกรัฐมนตรี ทําใหผูคน รูสึกวาคนๆ นี้มีความสดใสและมีเสนห ทักษิณชอบเลนเครื่องจักรกล ซึ่งจุดนี้นาไดอิทธิพลจากพอ นายเลิศมักสนใจอยางมากตอเทคโนโลยีและ ผลิตภัณฑใหมๆ ครั้งหนึ่งเมื่อไปกรุงเทพฯ พบวาในกรุงเทพฯ มีเครื่องมือบดโกโก จึงไดซื้อกลับมาหนึ่งเครื่อง และนํามาทํานมชอกโกแลตที่ใครๆ นื้พื้นที่ก็ไมเคยลิ้มรสมากอน เขายังเปนคนๆ แรกในทองที่ที่ซื้อตูเย็นมาใช กอนใคร และใชตูเย็นทําไอศครีมขายในรานกาแฟ และยังเปนคนแรกที่ใชรถแทกเตอรในพื้นที่ ซึ่งเปนเรื่องเมื่อ 55 ปที่แลว ตอนอายุ 8 ขวบ มีอยูวันหนึ่ง ที่รานกาแฟมีคนแปลกหนาปรากฏขึ้น คนๆ นั้นมองซายมองขวาสังเกตเด็กที่กําลังเส ริฟกาแฟ ทันทีก็ยื่นมือออกมา ลูบศรีษะเขาดวยจิตใจที่เปยมดวยความเอ็นดู และทํานายทายทักอยางมหัศจรรยวา “ไอนอง เอ็งรูไหม เอ็งหนาตาเหมือนพระพุทธรูปองคหนึ่งในจีน อนาคตของเอ็งจะตองสดใสแนนอน” ทักษิณยัง ไมรูประสีประสา จึงไมคอยเขาใจวาเขาพูดอะไร คําวา “อนาคต” สําหรับเด็ก 8 ขวบที่ยังไมมีวุฒิภาวะยังไกลเกิน กวาจะรับรูได แตทวาคําพูดคํานี้ไดฝงแนนลึกอยูในสมองของเขานับแตนั้น หลังจากครึ่งศตวรรษผานไป บนชีวิต รอนเรในตางแดน เพราะจุดประทุเล็กๆ ในความคิด ในที่สุดเขาก็เห็นทะลุในทามกลางความมืดมิดถึงบางสิ่งซึ่ง เปนเรื่องที่ฟาไดลิขิตไวแลว เดือนธันวาคม 2549 ภายในรานขายของเกาแหงหนึ่งในกรุงปกกิ่ง สายตาของทักษิณไดถูกดึงดูดจากพระพุทธรูป จีนองคหนึ่ง เหมือนพระพุทธรูปทองเหลืองสรางในรัชสมัยจักรพรรดิ์เฉียนหลงแหงราชวงศชิงอ งคนี้จะรูจักกับ เขามากอน เหมือนกับไดเคยเห็น ณ ที่หนึ่งที่ใด ทันใดนั้น ความรูสึกที่สั่นสะทานคลายถูกไฟฟาช็อตก็แลนไปทั้ง สรรพางคกาย คําทํานายที่ลึกลับนั้นไดผุดขึ้นมาทันใดคลายวิญญาณที่ฟนจากหลุมฝงศพ แหงกาลเวลา ผานความ ทรงจําที่ถกฝุนไอกลบทับมาเกือบครึ่งศตวรรษ ชวงขณะนั้น สิ่งที่ยืนนิ่งอยูตรงหนาเขา ใบหนาเหลี่ยมกลมมน ู หนาผากเลิกกวาง ติ่งหูหอยยาน จมูกสิงหโต และก็คงมีแตผูบรรลุธรรมระดับพระโพธิสัตวขึ้นไปเทานั้นถึงจะยิ้มไดอยางสงบ และเปนธรรมชาติเยี่ยงนี้ ชางเหมือนใบหนาเด็กแปดขวบที่ดูเฉลียวฉลาดและขี้อายคนนั้นเมื่อ 50 ป กอน เจาของรานของเกา รวมทั้งบุตรและเพื่อนฝูงที่ติดตามเขามาตางตกตะลึงไปกับความเหมือนอ ยางประหลาดที่ คิดไมถึงนั้น ทักษิณยืนอยู ณ ตรงนั้นอยูนาน มองไปยังพระพุทธรูปคลับคลายกับคือชาติที่แลวของตน มีความรูสึก ที่ทั้งทุกขระทมและปลื้มปติคอยๆ ผุดขึ้นในสวนลึกของหัวใจระคนปนเปกันไป โอใชเลย ดวยพระหัตถของพระผูเปนเจา ไมไดเลือกสรรเวลาในชวงที่เขากําลังเปนใหญอยูเหนือผูคนนับหมื่น ไมไดเลือกเวลาที่เขากําลังไดรับการเคารพยกยองในฐานะผูมีอํานาจ ไมไดเลือกสถานใหเปนบานเกิดของเขาที่ เปนประเทศที่เต็มที่ไปดวยพระพุทธรูป หากแตไดเลือกใหเปนชวงเวลานี้ซึ่งเขากําลังใชชีวิตเรรอนและไมรู อนาคต เปนชวงชีวิตที่มืดมน ตกต่ํา และนาเศราสลดที่สุด ในดินแดนตางประเทศซึ่งก็มีสายเลือดผูกพันกับเขา สิ่ง เหลานี้จึงไดคอยๆ ปรากฏแกคนที่ผานชีวิตอยางโชกโชนเยี่ยงเขา เลิกผามานบังตาเผยใหเห็นชะตาชีวิตที่คาดคิด ไมถึงของเขา เหมือนกับเเปนการปลอบประโลมและใหกําลังใจอยางหนึ่ง เปนบุญวาสนาที่ชะตาไดลิขิตไว พระพุทธรูปองคนี้ตองผานกาลเวลายาวนานนับ 300 ป ผานประวัติศาสตรที่เคลาเลือดและน้ําตาซึ่งไดมอดดับไป ซัดเซพเนจรไปมาในที่ตางๆ จากนั้นในวันๆ หนึ่งแหงเหมันตฤดูอันหนาวเหน็บในที่ตางแดน พระพุทธรูปไดมา ยืนรออยู ณ รานของเกาเล็กๆ แหงนี้ เพื่อพบพานเขา ชะตากรรม นี่แหละชะตากรรม ทักษิณรูสึกใจสะทานเหลือ พรรณนา ผานกาลเวลายอนกลับไป 50 ป เขาคลับคลายเหมือนเด็กเสริฟกาแฟคนนั้น เด็กที่หยอกลอเลนกันใน สวนสับปะรด เขาควรตองยอมรับ ชะตาชีวิตไดใหเขามามากเกินพอแลว หนทางแหงชีวิตของเขาเต็มไปดวยแสง สวางสดใส และหลังจากไดประสบ ความทุกขยากลําบากเขาก็ไดมาพบพระพุทธรูปองคนี้ หรือวานี่เปนการเตือน ของโชคชะตา จงละจากความเจ็บแคนใจ ขอบคุณโชคชะตา ที่ใหเสรีภาพใหม ทักษิณไดใชเงิน 6 หมื่นหยวนเชา พระองคนั้น สําหรับเขาแลวเหมือนเปนการปลอบใจครั้งใหญที่สุด ถือเปนสิ่งล้ําคาที่เงินทองไมอาจประมาณการ ได ตอน 3 บางทีอาจเปนเพราะเห็นวาการใหลูกชายขายไอศครีมและกาแฟทีละแกวๆ ไมมีอนาคตอะไร ยาของทักษิณใน ที่สุดก็ยอมตัดใจมอบที่ดินที่ใชชื่อของตนเองใหกับบุตร ที่ผืนนี้มีเนื้อที่คอนขางมาก คิดเปนประมาณ 600 หมูตาม หนวยวัดจีน (1 ไร เทากับ 2.41 หมู) นายเลิศปลูกขาวไมเปน จึงพัฒนาพื้นที่เปนสวนผักและผลไมโดยนําพันธุสม สีเขียว ดอกไม และผักมาจากตางประเทศ ทักษิณมักชวยบิดาในการทําแปลงเกษตรอยูเปนนิจทั้งขุดคันดิน หวาน เมล็ด รดน้ํา ใสปุย ซึ่งเขาทําไดทั้งนั้น คําบอกเลาของทักษิณ ผมไดเรียรรูอะไรหลายอยางจากพอในรานกาแฟ ผมเรียนรูวิธีชงกาแฟ ลางแกวนม ใสน้ําแข็ง พอซื้อเครื่องบด โกโกมาเครื่องหนึ่ง ผมก็เรียนวิธีทํานมรสชอกโกแล็ต ตอมายาซื้อที่ดินใหพอผืนหนี่งพอก็เริ่มประกอบอาชีพ การเกษตร พวกเราปลูกผลไม ดอกไม และพืชผักชนิดตางๆ ผมเรียนรูวิธีรดน้ําพืชผัก และการนําน้ําเขาสวนจาก ระยะไกล ผมไดเรียนรูการทําแปลงเกษตรเกือบจะทุกดาน ผมแทบจะเปนเด็กที่เติบโตในทองไรทองสวน แตเล็ก ไดเห็นชีวิตและการทํางานที่ยากลําบากของเกษตรกร 56
# เมื่อ ทักษิณอายุ 12-13 ป บิดาก็ไดรับตําแหนงเปนผูจัดการฝายสินเชื่อของตัวแทนสาขาธนาคารกรุงไทย ที่เชียงใหม หอที่อยูใกลสระน้ํามักไดเห็นพระจันทรกอน เมื่อไดรับเงินกูกอนหนึ่ง เขาก็เริ่มดําเนินกิจการตางๆ ที่ไมเคยทําให เขารวย ทั้งบริษัทรถรับจาง บริษัทสามลอ ศูนยตัวแทนจําหนายรถมอเตอรไซดฮอนดาและจักรเย็บผา ปมน้ํามัน และโรงหนัง เปนตน หลังเลิกเรียน เขาจะไปที่ธนาคารเพื่อรอพอเลิกงานกลับบาน ตกค่ํา เมื่อทําการบานเสร็จ ก็จะ ไปเก็บเงินจากลูกคา มักจะทํางานถึงเที่ยงคืนกวาจะหลับนอน แตผลการเรียนของเขาก็สอบไดที่ 1 เสมอๆ บริษัทรถรับจางที่พอประกอบการอยูมีรถยนตกวา 50 คัน เมื่อรถรับจางซอมเสร็จทักษิณจะเปนคนขับไปลองรถ มี บางครั้งที่คนขับหยุดพัก ทักษิณจะตื่นแตเชาตรูเพื่อไปขับรถรับสงผูโดยสาร เพื่อเพิ่มรายไดจากการขายตั๋ว ตลอดเวลายาวนานมีรถเปนเพื่อนคูกาย เขาไมมีครูสอนแตก็เรียนรูเองจนซอมรถได ในเวลาตอมาเมื่อไดไปศึกษา ตอที่สหรัฐฯ นักเรียนนอกที่ขี้อายคนนี้ไดอาศัยความรูและเทคนิคที่สรางสมไวจากวัยเด็ก ลงมือซอมรถเบนซมือ สองของตนดวยตนเอง จนประหยัดเงินคาซอมรถไดจํานวนมาก เมื่ออายุ 16 ป ทักษิณไดเปนผูจัดการโรงภาพยนต พอไดเปดโรงภาพยนตขึ้น 2 แหง และก็มีความคิดไมเหมือน ใคร โดยไมนําหนังอินเดียและหนังจีนที่กําลังฮิตในขณะนั้นมาฉาย แตจะฉายเฉพาะหนังฝรั่งและหนังไทย ขณะ ฉายหนังเรื่องแรกซึ่งเปนหนังฝรั่งชื่อ “ปอมปนนาวาโรน” มีคนดูเขาแถวยาวเหยียดที่หนาโรงหนังเพื่อรอชม เนื่องจากพนักงานโรงหนังมีไมมาก และทักษิณตองดูแลโรงหนังทั้งโรง ผูจัดการที่อายุไมบรรลุนิติภาวะตองเขา เรียนชวงเชา ชวงบายกลับมาชวยคุมโรงหนัง ทุกวันผานไปอยางเรงรีบ เมื่ออายุ 17 ป พอซึ่งเชื่อคนสนิทงายในที่สุดก็หลงกลหุนสวน กิจการงานไดรับผลเสียหายหนัก กิจการตางๆ ที่ ลงทุนลงแรงมากวา 10 ปมีเหลือเพียงกิจการโรงหนัง และที่ดินแปลงซึ่งแมเหลือไวใหเทานั้น เขาทอแทมาก และ สูญเสียความสนใจตอธุรกิจ และเปนผลใหเปลี่ยนไปสมัครรับเลือกตั้งเปน ส.ส. และไดดํารงตําแหนง ส.ส. ที่ไมมี ใครรูจัก ชีวิตทางการเมืองของเขาก็เหมือนการทําธุรกิจที่ไมประสบความสําเร็จมากนัก แตก็สงผลถึงบุตรของเขา อยางมาก ทักษิณตองติดตามบิดาไปรวมดําเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการหาเสียงนอกเวลาเรียน ทั้งการรวมการชุมนุม การแจกแผนโฆษณาไปตามยานตางๆ การไปรับฟงเสียงจากผูลงคะแนน บางครั้งเมื่อบิดาไปประชุมรัฐสภาที่ กรุงเทพฯ ก็จะนําทักษิณไปดวย ทําใหทักษิณคอยๆ เกิดความสนใจในการเมือง ตอมาไดมีเกร็ดขาวราวเรื่องที่ กลายเปนที่สนใจรายงานของสื่อมวลชน นั่นคือ ขณะเมื่อทักษิณจะสําเร็จการศึกษาระดับมัธยม มีอยูวันหนึ่ง อาจารยถามวา พวกเธอจบการศึกษาแลวคิดที่จะเรียนตอที่ใด ทุกคนตางแสดงความเห็นตางๆนานา แตเมื่ออาจารย ถามถึงทักษิณ เขากลับยอนถามวา มีโรงเรียนใดบางที่สอนใหคนเปนนายกรัฐมนตรี คําบอกเลาของทักษิณ พอของผมทําธุรกิจหลากหลายมากจนเกินไป เขามักจะเปลี่ยนจากธุรกิจประเภทหนึ่งไปยังอีกประเภทหนึ่งเสมอ แตก็ไมเคยทํากําไร ในที่สุดก็ถูกหุนสวนโกง ธุรกิจก็ลมโดยไมฟน ผมเองก็เกือบจะตองหยุดเรียน ยังโชคดีที่แมมี เงินเก็บสวนตัว นํามาสงผมเลาเรียน พอผมใกลจบระดับมัธยม พอก็เขาสูวงการเมือง แตเขามีพรรคพวกใน กรุงเทพคอนขางจํากัดมาก ไมมีมืออาชีพคอยชวยเหลือ และยังเปนกังวลเรื่องเงินทองตลอด จะทําการเมืองตองมี เงินมาก ทําใหครอบครัวชักหนาไมถึงหลัง ผมไดเรียนรูอะไรมากมายจากบทเรียนของพอ ผมไดเห็นทั้งความ สําเร็จและความลมเหลวของพอ ซึ่งเปนสิ่งที่มีอิทธิพลมากตอชีวิตผมทั้งชีวิต ดังนั้น เมื่อขณะที่ผมทําธุรกิจ ภริยามักจะคอยเตือนผมอยูขางๆเสมอวา อยาลืมบทเรียนของพอ ตราบใดยังมีเงินไมพอก็ไมควรเลนการเมือง
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 4 จากตํารวจถึงนายกรัฐมนตรี

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:24 am

ตอน 4

ทวดของทักษิณเปนพอคา ปูก็เปนพอคา สวนพอก็เปนพอคาและนักการเมืองสมัครเลนที่ไมประสบความสําเร็จ ดังนั้น แทบไมตองสาธยายมากเลย เด็กคนนี้ก็คงโตขึ้นเปนพอคา แตทวา ทักษิณกลับเขาเรียนโรงเรียนนายทหาร ในสมัยนั้นอาชีพทหารและตํารวจเปนที่อิจฉาตารอนจากผูคน รางกายที่ยืนตรงทะมัดทะแมง ชุดแตงกายที่งดงาม และใบหนาที่เครงครึม เปน “เจาชายขี่มาขาว” ในความฝนของหญิงสาวจํานวนมาก ซึ่งเปนภาพลักษณของ นายทหาร แตที่สําคัญกวานั้น ทหารเปนสัญลักษณแหงอํานาจของประเทศ และเปนชั้นชนพิเศษที่เปนเอกเทศจาก ระบบของรัฐบาล เพียงแตมองเหตุการณที่เกิดขึ้นในไทยวันนี้ก็จะเขาใจ ซึ่งประเพณีนิยมที่ฝงรากลึกแบบนี้ยังไม เคยเปลี่ยนไปเลยแตอยางใด ทักษิณเมื่อเขาโรงเรียนนายตํารวจมีอายุแกกวาเพื่อนรวมรุน 1 ป คืออายุ 19 ป ครั้งแรกที่สมัครสอบในโรงเรียน นายตํารวจที่กรุงเทพฯ แพทยกลาววาที่ปอดของเขามีรองรอยสีดํา การตรวจสุขภาพไมผาน ทําใหเขารูสึก ประหลาดใจ เพราะตนเองไมดื่มเหลาไมสูบบุหรี่ ปอดจะมีปญหาไดอยางไร คนที่ปอดแข็งแรงอยางทักษิณเห็นวา แพทยคงจะตรวจผิด เขาไมยอมลดละ โดยเลือกที่จะรอไปอีก 1 ปแลวมาสอบใหม ในปที่สองเขาก็สมปรารถนา แตทวาอุปสรรคที่คาดไมถึงนี้ก็เหมือนเปนการบงบอกนัยบางอยาง เขาเลือกเดินผิดทาง เสนทางสายนี้ไมนาจะ เหมาะกับนิสัยของเขา ตอมา แมเขาจะไดรับปริญญาระดับดอกเตอร และไดทํางานในสายงานตํารวจนี้ถึง 12 ป แต ในที่สุดก็ตองเปลี่ยนทางเดินชีวิต ชีวิตในคายทหารระยะเริ่มแรกเต็มไปดวยความลําบาก ทั้งความเขมงวด เครงระเบียบ และการตองปฏิบัติตามอยาง สิ้นเชิง ในวันเวลานั้นเด็กหนุมประเภทที่รักอิสระและไมชอบการบังคับอยางทักษิณคงจะ ไมสุขสําราญใจ นอกจากนี้ ในชั้นเรียนก็ไมมีวิชาคณิตศาสตรที่เขาทั้งชอบและถนัด ทุกวันเปนการฝกทางกายที่เหนื่อยลาและ ยากลําบาก ทั้งยังตองทองจํากฎระเบียบที่สลับซับซอนและยาวเหยียด หากไมยอมทองจํา ก็ไมอาจสอบผานได มี ชวงหนึ่งที่ทักษิณคิดจะหยุดเรียน และหันไปเขาโรงเรียนหลักสูตรทั่วไป เพื่อศึกษาในคณะวิศวกรรมศาสตรที่เขา ชอบ ในอนาคตจะไดเปนวิศวกร เพราะชีวิตของเขาสนใจหลงใหลในเครื่องจักรกลและวิทยาศาสตรและ เทคโนโลยี แตวานายเลิศไมเห็นดวย บิดาที่มีจิตใจแข็งแกรงและตอสูไมถอดถอยมาทั้งชีวิตคงจะไมยอมใหบุตรมี จิตใจออนแอ และลมเลิกความตั้งใจกลางครัน บิดายืนกรานที่จะใหทักษิณเรียนโรงเรียนนายทหารจนจบ เมื่อมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวตอ เขาผูซึ่งจะตองขจัดความออนแอถดถอย แสดงความกลาฝาฟนไปขางหนา บนรางกาย ของทักษิณจะเกิดความสามารถอยางมหาศาลในการปรับตัวเอง ซึ่งเปนศักยภาพที่ฝงลึกอยางไมอาจหยั่งได ซึ่ง พลังอันนี้ยิ่งแสดงออกอยางชัดเจนเมื่อเขากาวสูวงการธุรกิจการคาตอมาใน ภายหลัง ไมวาจะชอบหรือไม หากมี ความตั้งใจจริงแลว จะทุมเทหมดทั้งสรรพางคกาย และเขาก็จะปรากฏกายโดดเดนขึ้นมาอยางรวดเร็วในทามกลาง ฝูงชน เดินกาวไปขางหนาเร็วกวาผูอื่น ปนปายไปสูงกวา มองไดไกลกวา และกลายเปนจุดดําเล็กๆ ที่ผูอื่นที่ถูกทิ้ง ใหอยูไกลตองวิ่งตามในที่สุด เขาเปนบุคคลที่โดดเดนกวาบุคคลอื่น มีพรสวรรคเหนือมนุษยธรรมดา หลังจากนั้น 4 ป เด็กหนุมที่เคยคิดจะลมเลิกการเรียน ก็จบการศึกษาโดยสอบไดที่หนึ่ง และไดรับทุนการศึกษาจากรัฐบาลให ไปศึกษาตอที่สหรัฐฯ

คําบอกเลาของทักษิณ ผมเรียนชั้นมัธยมปลายในโรงเรียนสําหรับผูชาย ขณะสอบเขามหาวิทยาลัย ผมเคยถามพวกเขา ที่ไหนมีโรงเรียน สําหรับผูชาย พวกเขาตอบวา โรงเรียนนายตํารวจกําลังรับสมัครนักเรียน ดังนั้น ผมก็เลยเขาเรียนโรงเรียน นายตํารวจ ในเวลานั้น ตระกูลของผมมีญาติหลายคนที่รับราชการทหารทั้งทหารบกทหารอากาศ แตทหารเรือและ ตํารวจยังไมมี แตผมวายน้ําไมเปน ไมอาจเลือกเปนทหารเรือ คงมีแตตองเขาโรงเรียนนายตํารวจ พอผมเรียน โรงเรียนนายตํารวจได 1 ป ก็เริ่มรูสึกวาชีวิตในโรงเรียนซ้ําซากนาเบื่อ และไมมีวิชาคณิตศาสตร จึงอยากเลิกเรียน แตพอของผมไมเห็นดวย ทานกลาววา ผมควรยืนหยัดอีก 3 ป ผมจึงไดแตอดทนเรียนจนจบ และก็สอบไดที่หนึ่ง จากทั้งโรงเรียนรวมทั้งไดรับทุนไปศึกษาตอที่มหาวิทยาลัยเคนตั๊กกีในสหรัฐฯ ชีวิตในโรงเรียนนายตํารวจมีสวน ชวยผมอยางมาก ผมไดรูจักเพื่อนมากมาย และการฝกฝนรางกายจนเปนนิสัยก็ทําใหสุขภาพรางกายดีขึ้นกวากอน มาก สิ่งที่มีผลอยางมากอยางแทจริงตอชีวิตของทักษิณในการใชชีวิตในโรงเรียน นายตํารวจ หาใชการฝกฝนรางกาย อยางเขมงวดไม และก็ไมใชกฎหมายและระเบียบที่พออานผานตาไปก็ลืม แตกลับเปนคําขวัญงายๆ คําหนึ่ง “หาก ยอมแพพาย ก็ตายเสียดีกวา” คําพูดที่มีรสชาดของความดุดันนี้แหละที่เปนคําเตือนใจของโรงเรียนนายตํารวจ ที่ กรุงเทพฯ และก็คงเปนหลักการที่กองทัพทั้งหลายทั้งปวงที่เครงวินัยจะตองปฏิบัติตาม เพราะทหารหากสูสมรภูมิ รบ พายแพก็ยอมหมายถึงความตาย คติเตือนใจสําหรับชีวิตของทักษิณคือ “ไมมีวันพายแพ” ซึ่งบางทีอาจจะ ดัดแปลงมาจากคําเตือนใจขางตน มุงมั่น ยืนหยัด ไมยอมแพ และไมยอมลดละงายๆ แทจริงนาจะเปนเหตุผลหลัก ที่ทําใหชีวิตของเขากาวไปถึงระดับที่สุดยอดที่สุดในทุกๆ ดาน หากไมมีความคิดที่มุงมั่น แมจะมีมันสมองที่มี พรสวรรคและมีดวงชะตาที่ดีอยางไรก็ตาม ก็ยากที่จะประสบความสําเร็จ ในเวลาตอมาคําพูดที่ทักษิณชอบมาก ที่สุดก็คือ “ ไมมีเรื่องใดที่ทั้งสองมือและความฉลาดของเธอทําไมได ขอเพียงแตเธออยากทําจริงจัง” นอกจากนี้ ทักษิณยังไดพบกับบุคคลสําคัญในชีวิตของเขาในสถานที่นี้ดวย นั่นคือ พจมาน ดามาพงศ ขณะเมื่อ ศึกษาโรงเรียนนายตํารวจปที่ 2 มีอยูวันหนึ่ง มีนักเรียนรุนนองวานทักษิณไปเอาเสื้อผาที่บาน สาวนอยที่เปดประตู รับเขาก็คือ นองสาวของนักเรียนรุนนองคนนี้ที่ชื่อพจมาน ขณะนั้นอายุ 15 ป ทักษิณอายุ 21 ป เขาเพียงแตมอง หลอนแวบเดียว ก็ตกหลุมรักบุตรีของนายตํารวจยศพลตํารวจโทที่สวยงามบริสุทธิ์ผูนี้ คําบอกเลาของทักษิณ ผมมีครอบครัวที่สงบและอบอุนมาก ภริยาของผมเปนลูกสาวคนเดียวในครอบครัว เธอมีพี่ชาย 3 คน แตภริยามัก แสดงออกจนดูเหมือนเปนพี่สาวคนโตของบาน ทั้งเอาใจใส และเห็นอกเห็นใจคนรอบขาง ทั้งยังเปนคนอารีอา รอบ มักจะใหเงินชวยเหลือเจือจานเพื่อนฝูง เธอเปนคนละเอียดออน และสังเกตสังกาเรื่องราวรอบๆ ไดอยาง ละเอียด ขณะพบปะผูคนแมเพียงอีกฝายมีความเปลี่ยนแปลงเล็กนอยก็สามารถรูสึกถึงได เธอยังเปนคนกลาหาญ ทุกครั้งที่พวกเราเผชิญวิกฤต เธอจะสุขุมรอบคอบอยางมาก และไมเคยรูสึกหวาดกลัว และมักเปนฝายบอกผมวา ควรทําอยางนั้นอยางนี้ ผมกับภริยามีนิสัยตางกันคนละแบบ เธอเปนผูชวยที่ดีมาก และเปนแมบานที่ดีดวย เธอเปนคนรักเด็กมาก และมัก มองลูกวายังเปนเด็กอยู เธอสามารถขับรถพาลูกและเพื่อนของลูกออกไปรับประทานอาหารค่ํา ลูกสาวของผมหาก ตองออกจากบานเวลากลางคืน เธอก็จะขับรถไปสงลูกดวยตนเอง เรามีลูกสาวสองคนและลูกชายหนึ่งคน ลูกชายชอบ สัตวเล็ก โดยเฉพาะสุนัข เขาทราบถึงสุนัขพันธุตางๆ ลูกชายหากชอบสิ่งใดก็จะหาหนังสือเกี่ยวกับสิ่งนั้นมา อาน เขามีหัวทางศิลป ผมคิดวาเขาเหมาะที่จะคุมกิจการเกี่ยวกับสื่อมวลชน สวนลูกสาวทั้งสองก็ดูเหมือนฝาแฝด แตแทจริงอายุหางกัน 4 ป ลูกสาวคนโตกําลังศึกษาที่ลอนดอน เปนการเรียนระดับปริญญาโทใบที่ 2 เกี่ยวกับดาน การเงิน ลูกสาวคนเล็กกําลังศึกษาในชั้นปที่ 3 ในจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย คนนี้มีหนาตาคลายผม แตนิสัยเหมือน แม เปนคนงายๆ และเปนที่ชื่นชอบในกรุงเทพฯ ผมหวังใหลูกคนนี้พัฒนาไปทางดานการคา โดยกอตั้งกองทุน ชวยเหลือคนยากจน ความรักมาราธอนคูนี้ใชเวลาถึง 3 ป เมื่อทักษิณทราบวาหญิงในหัวใจกําลังเตรียมตัวไปศึกษาตอที่นิวยอรกภายใต การจัดการของพอหลอน เขาก็เริ่มเรงรีบฝกฝนภาษาอังกฤษโดยหวังจะเดินทางไปเรียนสหรัฐฯพรอมกับ พจมาน ในที่สุดคูรักคูนี้ก็ไดบินไปสหรัฐฯพรอมกันเพื่อเขาศึกษาที่มหาวิทยาลัย ของมลรัฐเคนตั๊กกี พจมานศึกษาดาน การศึกษาสําหรับเด็กออน ทักษิณศึกษาดานอาชญาวิทยา ความฝนของเขาในชวงนั้นคือฝนอยากเปนเลขาธิการ ป.ป.ช. เพื่อขจัดปญหาความฟอนเฟะในวงการเมืองซึ่งเปนโรครายเรื้อรังของสังคมไทย โดยคิดไมถึงวาในเวลา ตอมาตนเองจะถูกรัฐประหารและถูกกลาวหาในขอหานี้ ชางเปน “จอมอภิมหาความฟอนเฟะจริงๆ” ทักษิณใชเวลาศึกษาเพียง 1 ป 4 เดือน ก็ไดรับปริญญาโทดานดังกลาว จากนั้นไดกลับประเทศพรอมพจมาน เพื่อ แตงงานกัน พอตาเปนนายตํารวจในราชสํานัก งานแตงงานของลูกสาวยอมตองเปนงานที่ไดรับพระราชทาน และ นี่เปนครั้งแรกที่ชีวิตของทักษิณไดมีสวนสัมพันธอยางเล็กๆ นอยๆ กับพระราชวงศ ป 1976 ทักษิณเดินทางกลับสหรัฐฯ พรอมภริยา เขาไดเขาศึกษาระดับปริญญาเอกดานอาชญาวิทยาที่มหาวิทยาลัย แซมฮุสตัน มลรัฐเท็กซัส พจมานไดเรียนเปนเพื่อน เมื่อทุนศึกษาไมพอใช ทั้งสองคนไดใชชีวิตอยางลําเค็ญในการ เรียนไปทํางานไป บุตรีของขาราชการชั้นสูงตองมาเปนคนเลี้ยงเด็ก คนงานกะ พนักงานขายสินคา ขณะที่ทักษิณ ทํางานสงหนังสือพิมพ เด็กเสิรฟ และแคชเชียร คําบอกเลาของทักษิณ ผมทํางานเปนคนงานในรานเคนตั๊กกี้ เรียนวิธีการทอดมันฝรั่ง ทอดขาไก ในภัตตาคารหรูอีกแหงหนึ่ง ผมเปน ผูชวยบริกร เพราะงานนี้มีทิป มีรายไดมากขึ้น ทุกคนชอบผม เมื่อผมทํางานในสวนของตนเสร็จ พวกเขาก็ชอบที่ จะแบงงานอื่นใหผมทํา มีบางครั้งผมตองชวยกุกเตรียมอาหารค่ําสําหรับวันเสาร เมื่ออาหารค่ําผานไป ผมก็ไปเปน แคชเชียร จากนั้นก็ไปชวยงานกุก เพื่อเตรียมอาหารเชาสําหรับวันตอไป ในวันอาทิตยผมมักจะเตรียมอาหารเชา กอนถึงจะกลับบาน ตอมา ผมไดเก็บเงินจนซื้อรถมือสอง ทุกวันตอนเชาขับรถไปสงหนังสือพิมพ สิ่งที่ไดรับจาก งานชิ้นนี้คือความสามารถในการหลบหลีกสุนัขเฝาบาน ผมตองเลือกระยะที่ไมใกลไมหางเกินไป เพื่อโยนสง หนังสือพิมพ จากนั้นก็รีบเผนขึ้นรถ สุนัขก็วิ่งเขามาหาผมไมทัน ภริยาผมชวยคนอื่นดูแลลูก เนื่องจากเหน็ด เหนื่อยเกินไป ทําใหแทงลูกครั้งหนึ่ง สิ่งที่ผมไดเขาใจอยางมากในสหรัฐฯคือ นี่เปนสังคมที่เต็มไปดวยโอกาส ขอเพียงแตใหโอกาสแกผูคนอยางเต็มที่ คนก็จะยึดโอกาสที่มีอยูทั้งหมดในการแสวงหาความอยูรอด แลวก็จะคอยๆ เอาชนะความยากลําบากได ตอนนั้น ผมคิดเพียงวา หากประเทศของผมสามารถใหโอกาสแกผูคนมากมายเชนนี้ก็คงจะดี ตอมาเมื่อไดเปนรัฐบาล สิ่งที่ ไดเห็นจากสังคมอเมริกันในชวงนั้นไดชวยชี้ทางใหผมอยางมากในการ เรียนระดับปริญญาเอก จําตองเรียนวิชาปรัชญา ผมเริ่มนิยมชมชอบนักปรัชญาหลายคน เชน โซเครติส เพล โต มองเตกิแอร รุสโซ และจอหน ล็อค เปนตน นักปรัชญาเหลานี้สอนผมใหรูวาอะไรเรียกวาสัญญาประชาคม อะไรคือสิทธิประโยชนและอํานาจ การเรียนปรัชญาชวยใหผมเขาใจนัยความหมายอยางถองแทของ ประชาธิปไตย ประชาธิปไตยไมไดมีความหมายงายๆ แคการเลือกตั้ง ซึ่งยังหางไกลจากแกนหลักมาก คนที่มี อํานาจควรตองทํางานเพื่อประชาชน ไมใชใหประชาชนทํางานเพื่อเขา ก็เหมือนกับที่พวกเรากลาวถึงปรัชญาทาง การคาซึ่งมักเอยวา “ลูกคาคือพระเจา ลูกคาตองมากอน” การเมืองก็เหมือนกัน รัฐบาลๆ หนึ่งขอเพียงถือวา ผลประโยชนของประชาชนตองมากอนสิ่งอื่นใด ประชาชนก็จะสนับสนุนเขา และเคารพรักเขา แตทวา สิ่งที่มีอิทธิพลที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของทักษิณแทจริงกลับไมใชความ ฉลาดและความลึกล้ําของนัก ปรัชญา และก็ไมใชความโชติชวงชัชวาลยจากการไดรับปริญญาเอกทางอาชญาวิทยา แตกลับเปนวิชาเลือกดาน คอมพิวเตอรที่มีหนวยกิตเพียง 3 หนวย เพียงเพราะเขาไมชอบวิชาภาษาตางประเทศ เขาจึงไดเลือกเรียนวิชา คอมพิวเตอรซึ่งมีสวนเกี่ยวพันกับวิชาคณิตศาสตรอยูบาง และตอนนั้นเขาก็คิดไมถึงวาทางเลือกที่ไมไดตั้งใจนี้ จะ กลายเปนจุดเริ่มตนที่สําคัญของการกอตั้งกิจการในชีวิตของเขา
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 4 จากตํารวจถึงนายกรัฐมนตรี

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:26 am

ตอน 5

ในวันหนึ่งที่รอนระอุของชวงฤดูรอนป 2522 ทักษิณซึ่งมีอายุ 30 ป และพจมานซึ่งมีอายุ 24 ป ไดอุมลูกชายซึ่งเปน ทารกอายุ 5 เดือน เดินทางจากเท็กซัสกลับไทย พวกเขานํากระเปาติดตัวไมมาก มีเพียงรถเบนซมือสองรุนเกาๆ คันนั้นเทานั้นที่พอจะมีคาบาง แตการจะนําเขารถตองเสียภาษีศุลกากรถึง 4 แสนบาท ทักษิณควักเงินจนหมด กระเปาก็จายไดเพียงครึ่งเดียวเทานั้น เขารูสึกเสียดายที่จะตองขายรถเกาเพื่อคูกายมาหลายปคันนี้ จึงไดยืมเงินกอน หนึ่งจากปาเพื่อจายเปนคาภาษี จากนั้น ก็ขับรถคันนี้ไปรายงานตัวที่แผนกวิจัยและวางแผน กรมตํารวจ เขาเคยเปน ตํารวจอารักขาใหกับเจาหนาที่ระดับรัฐมนตรี และเคยเปนครูใหกับผูบังคับการโรงพักในโรงเรียนอบรมตํารวจ รวมทั้งเคยดํารงตําแหนงผูอํานวยการศูนยวิเคราะหขอมูล ซึ่งเปนที่รวบรวมขอมูลดานคดีอาชญากรรมประเภท ตางๆ ที่พิลึกพิลั่น โดยทํางานในหนาที่นี้ถึง 6 ป และไดเลื่อนยศจนเปนพันตํารวจโท แตเขาก็เริ่มรูสึกถึงความจําเจ นาเบื่อ ทักษิณมักมีความคิดกาวไกลไปกวาคนอื่น มักเปนผูนําหนาในดานเทคโนโลยี และมีความคิดจะใชเทคโนโลยี ระดับสูงมาพัฒนาเครื่องไมเครื่องมือของกรมตํารวจใหทันสมัย เขาไดเสนอแนวความคิดอยางอาจหาญ “โดยการ สรางระบบเครือขายที่เหมือนระบบขายตั๋วรถไฟ เมื่อจับกุมผูรายไดคนหนึ่งก็นําขอมูลของเขาใสเขาไปใน คอมพิวเตอร ใหคอมพิวเตอรติดตามคดีที่เกิดขึ้นโดยตลอด เมื่อคนรายดังกลาวกอคดีอีก ก็จะสามารถคนหาขอมูล ไดโดยทั้งหมด” ความคิดนี้ในปจจุบันอาจจะฟงดูงายๆ และธรรมดา แตในยุคสมัยซึ่งคอมพิวเตอรยังเปนของ แปลกใหมที่หายากนั้น ความคิดนี้กลับไมเปนที่เขาใจและยอมรับจากผูบังคับบัญชา ยังมีอีกปญหาหนึ่งที่ทําใหเขา ยิ่งยากที่จะทนทํางานอยูในสภาพที่เปนอยูได สภาพทางเศรษฐกิจของดอกเตอรนักเรียนนอกผูนี้ชักหนาไมถึงหลัง มาตลอด ตํารวจเปนสวนหนึ่งในระบบขาราชการ เงินเดือนไมถือวาสูง เขากมหนากมตาร่ําเรียนมา 10 ป เงินเก็บ ไมมีเหลือหลอ นอกจากคาใชจายรายวันและนมของลูกชายแลว เงินที่เหลือแทบไมพอจายคาเชาบาน สามีภริยาคูนี้เริ่มแรกพักอาศัยที่บานพอตาไปพลางกอน ตอมา พอของเขาซึ่งมีสภาพเศรษฐกิจไมดีไดใหบานไม เล็กๆ ที่มีเพียงสองหองนอนแกทักษิณ แตทวาบานหลังนี้ซอมซอมาก มีจุดที่ฝนรั่วเต็มไปหมด เวลาฝนตกหนัก หลังคาจะมีน้ํารั่ว ทําใหตองใชปมปมน้ําออกไป มีอยูครั้งหนึ่งฝนตกหนักและไฟฟาดับ ทําใหสองสามีภริยาหมด หนทางไดแตมองดูนํ้าที่ยิ่งไหลเออลน จนกระทั่งเตียงลอยขึ้นมา เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงจากการมีชีวิตที่ยากลําบาก ทักษิณจําตองตัดสินใจหันไปทําธุรกิจเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพชีวิต ในตอนนั้นเขาคงจะคิดไมถึงวาจะไดเปนมหา เศรษฐีมีเงินนับรอยลาน แตวาจะทําธุรกิจอะไรดี เขายังไมมีไอเดียแมแตนอย ในชวงเริ่มแรกเปนเวลาหลายปเขา เหมือนแมลงวันที่ถูกเด็ดหัวที่พยายามดีดดิ้นบินวอน เขาไดเจริญรอยตามนายเลิศ บิดาซึ่งเปนพอคาที่ไมเคย ประสบความร่ํารวย เดินทางในเสนทางเดิมของตระกูลชินวัตร โดยเปลี่ยนจากสาขาธุรกิจหนึ่งไปอีกสาขาธุรกิจ หนึ่ง ซึ่งแตละกิจการก็ลวนประสบความยอยยับขาดทุน คําบอกเลาของทักษิณ ในตอนนั้นผมจําตองทําธุรกิจ เพราะแตละเดือนมีเงินเดือนไมถึง 3,000 บาท ตอนเริ่มแรก ผมเชาหองเล็กราคาถูก ในโรงแรมแหงหนึ่งขายผาไหมไทย เงินหมุนเวียนและสินคาก็ยืมมาจากลูกพี่ลูกนอง ภริยาก็ตองลงมาคาขายเอง ธุรกิจตอนนั้นย่ําแยมาก มีบางวันลูกคาไมมีแมคนเดียว หลังเดือนหนึ่งผานไป ผมก็บอกกับภริยาวาเราตองเปลี่ยนธุรกิจ แลว ทําตอไปไมไหว ผมก็มักเปนแบบนี้ เมื่อพบวาเรื่องที่ทําอยูไมประสบผล ก็จะพลิกผันไปเรื่องอื่นอยาง รวดเร็ว โดยจะไมใหเสียเวลา แตปาของผมบอกวาผมเปนคนไมอดทน มักจะใจรอนเกินไป หมอดูก็บอกวาเปน คนนิสัยใจรอน ทําธุรกิจถาเสียหายทีตัวเลขเปนหลักลาน พอผมเคยทําโรงหนัง มีสายสัมพันธกับคนในแวดวงอยูบาง ผมก็เลยไปหาเพื่อนเกาเหลานั้น พอเขาสูแวดวงธุรกิจ โรงภาพยนต ผมเคยกลาวกับเพื่อนพอคาที่ทําหนังคนหนึ่งวา “ดูเถิด ผมไมรูจะทํามาหากินอะไร ยังมีลูกชายหนึ่ง คน จําเปนตองหาเงินทุกวิถีทาง เขากลาววากําลังมีหนังถายทําเสร็จเรื่องหนึ่ง “นายตองการดูไหม” ผมตอบวา “ดี” ตอนนั้นผมไมเขาใจภาพยนตเลยแมแตนอย ใครเปนดารา คนไหนโดงดัง ไมรูจักทั้งสิ้น แตวาพอดูหนังของเขา แลว ก็รูสึกไมเลว ที่สําคัญนางเอกในเรื่องมีชื่อคลองจองกับแมผม ผมก็คิดวานี่อาจจะเปนลางดีก็ได ทักษิณขับรถเบนซคันนั้นของเขาไปที่โรงจํานํา แลกไดเงินมา 1 ลานบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ฉายภาพยนตเรื่องนั้น เดือนหนึ่งผานไป เขาก็ไปไถถอนรถคันดังกลาวจากโรงจํานําคืน เงินในกระเปายังมีเพิ่มอีก 1 ลานบาท ความสําเร็จที่ไดมาโดยงายนี้ทําใหทักษิณตื่นเตนอยางมาก แตนิสัยเปนคนใจรอนก็นําความโชครายมาสูเขาอยาง รวดเร็ว การซื้อลิขสิทธิ์ฉายภาพยนตยิ่งมากก็กลับยิ่งขาดทุนมาก ภายในเวลาอันรวดเร็ว เขาก็ตองแบกรับภาระ หนี้สินมากกวา 30 ลานบาท คําบอกเลาของทักษิณ พอผมเขาสูวงการฉายภาพยนต นอกจากหนังเรื่องแรกที่ทําเงินแลว เรื่องอื่นๆ ลวนแตขาดทุนทั้งสิ้น ในตอนนั้น คนไทยดูหนังเพื่อดูดาราดัง และผมเพิ่งกลับจากสหรัฐฯ ไมรูจักดาราดังในประเทศเลย หนังที่ผมซื้อก็ไมมีดาราดัง เรื่องแรกที่ทําเงินก็ไมมี แตนางเอกเปนดาราใหม และก็เริ่มดังขึ้นมาจากภาพยนตเรื่องนั้น เมื่อลงทุนฉายภาพยนต ลมเหลว ผมขาดทุนไมนอย แตก็ไดรับบทเรียนไมนอยเชนกัน และเนื่องจากเริ่มทําธุรกิจ มีเงินหมุนเวียน ใน ธนาคารก็มีเครดิตพอควร สามารถยืมเงินไดจากธนาคาร ตอจากนั้นผมก็ยืมเงินธนาคารเพื่อหาธุรกิจอื่นทํา เปาหมายตอไปของทักษิณคือเขาสูวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย ธุรกิจสายนี้เงินมาเร็ว กําไรสูง ถือเปนทางเลือกที่ ดีที่สุดในการหาเงินมาใชหนี้จํานวนมาก เขาทุบทิ้งโรงภาพยนตมูลคา 18 ลานบาท และยืมเงินธนาคารเพิ่มอีก 20 ลานบาท เพื่อเตรียมสรางอาคารชุดที่อยูอาศัยสูง 15 ชั้น เขาวิเคราะหวา กรุงเทพฯพัฒนาเร็วมาก ที่อยูอาศัยของคน เมืองเริ่มมีไมพอความตองการ ขณะนั้นที่อยูอาศัยในกรุงเทพฯ สวนมากเปนตึกเล็ก 2-3 ชั้น หากปลูกเปนตึกสูง จะตองหาเงินไดมาก แตก็วาดความฝนสวยหรูอยูได 2 วัน รัฐมนตรีมหาดไทยก็ออกกฎระเบียบใหมหามสรางตึก สูงเกินกวา 7 ชั้นในเขตใจกลางเมือง ตึก 15 ชั้นเหลือเพียง 7 ชั้น กําไรที่ไดก็หดหายไปดวย ยิ่งกวานั้น เรื่องที่ยิ่ง เลวรายกวาก็กําลังจะตามมา มีนักเขียนคอลัมนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเขียนบทความลง น.ส.พ. คัดคานอยางรุนแรงที่ จะใหมีการสรางตึกสูงสําหรับอยูอาศัย เพราะตึกสูงเกิดไฟไหมไดงาย ขณะที่สถานีโทรทัศนก็เขารวมขบวนการ คัดคานตึกสูงดวย ในชวงนั้นมีการฉายภาพยนตเรื่องหนึ่งตอตานเรื่องนี้ ซึ่งเปนเสมือนน้ําเย็นชืดสาดไปบน ประกายไฟแหงความหวังที่จะหาเงินของทักษิณ ภาพยนตฝรั่งเศสชื่อ “ตึกนรก” เรื่องนี้เปนการแสดง โศกนาฏกรรมของผูคนจํานวนมากที่ตายไปอันเนื่องมาจากไฟไหมตึกสูงและไมสามา รถจะชวยกูภัยได แตเดิมที คนไทยเองก็นิยมปลูกบานเตี้ยๆ อยูแลว เมื่อไดเห็นภาพอันนาสะพึงกลัวนี้แลว ยิ่งทําใหไมมีใครอยากอาศัยบนตึกสูง นายตํารวจยศพันโทคนนี้ลงทุนไปแลวขาดทุนเขาเนื้อ หลังสรางตึกสูงเสร็จ นอกจากเพื่อนสนิทไมกี่คนที่ซื้อหอง ไปจํานวน 10 ชุด สวนที่เหลือไมมีใครสนใจอีกเลย หนี้สินไดเพิ่มจาก 30 ลานบาทเปน 50 ลานบาท แมแตเงิน คาจางของคนงานกอสรางก็ไมมีจะจาย เจาหนี้ก็โทรศัพททวงหนี้ทุกวัน ทุกครั้งที่โทรศัพทในบานดังขึ้นก็เสมือน ระฆังงานสวดศพที่ดังขึ้นฉะนั้น สรางความตึงเครียดอยางสูงตอสองสามีภริยา เลือดไหลออกเร็วมาก ทุกวันคืนไม อาจหลับนอน ทักษิณก็เริ่มเขาออกศาลบอยขึ้น อาศัยฝปากระดับดอกเตอรดานอาชญาวิทยา ทั้งใหคําสบถสาบาน เพื่อออนวอนผูพิพากษาที่มีจิตใจดี ใหเลื่อนระยะเวลาการชําระหนี้ออกไป ขณะที่พจมานก็ตองบากหนาดวย รอยยิ้มขอความชวยเหลือจากคนใกลชิดรอบทิศ ญาติสนิทมิตรสหายทั้งหมดลวนกลายเปนเจาหนี้ของหลอน ทักษิณเคยมีความคิดจะเลิกลมทําธุรกิจ เพราะไมวาประกอบการดานใดก็ลมเหลว ยิ่งทํายิ่งขาดทุน เขาแทบจะไม กลาคิดเลยวา หากอดรนทนทําตอไปหนี้สินจะยิ่งสูงทวมขึ้นมาอีกเทาไร บางทีตนเองอาจไมไดถูกสรางมาใหเปน นักธุรกิจ แตวาหนี้สินจํานวนมากที่แบกรับอยูขณะนี้จะทําฉันใดดี หากอาศัยรายไดเล็กนอยจากการเปนขาราชการ ชาตินี้ทั้งชาติก็คงชดใชไมหมด ยิ่งกวานั้น ติดเงินธนาคารแลวไมชําระ ก็อาจตองติดคุก ทักษิณเริ่มเขาใจถองแทถึง คําวา “อับจนหนทาง” คําบอกเลาของทักษิณ ผมเปนคนชอบสบถสาบาน โดยเฉพาะตอหนาผูพิพากษา ผมสาบานไมรูกี่ครั้งวาผมจะใชหนี้ใหอยางแนนอน โดย ขอเวลาใหผมอีกหนอย ชวงระยะเวลานั้นคือชวงระหวางการประกอบธุรกิจภาพยนตที่ประสบความลมเหลว กับ การประกอบธุรกิจคอมพิวเตอรที่ประสบความสําเร็จ ผมทุกขระทมอยางแสนสาหัส มันเปนความยากลําบากอยาง ที่สุดจริงๆ คนเรามักจะพบกับชีวิตใหมหลังจากมาถึงทางตันที่สุดของชีวิต ในขณะที่ผูคนสวนใหญยังไมอาจระแคะระคายถึงวา การพัฒนาของคอมพิวเตอรและเทคโนโลยีสารสนเทศจะ นํามาซึ่งโอกาสทางการคาอยางไรขอบเขตนั้น ทักษิณก็เปรียบเสมือนนกเปดน้ําในสุภาษิตจีนที่รูวาน้ําแมน้ําอุนขึ้น เปนตัวแรก เขารูถึงศักยภาพอันมหาศาลของกิจการธุรกิจนี้ เขาจึงมีความคิดที่จะนําตึกออกใหเชา และเปลี่ยนไป ประกอบธุรกิจคอมพิวเตอร พจมานเองก็ตกตะลึงกับความคิดของเขา คิดวาสามีคงจะเสียสติ โดยนับถึงปจจุบัน โครงการที่เขาคิดทําขึ้นลวนแตขาดทุน หลอนไมอาจปลอยใหสามีฝนกลางวันตอไปได แตหลอนก็ทนตอการตอก ย้ําในขอเสนอของสามีครั้งแลวครั้งเลาไมไหว เขาวิเคราะหถึงอนาคตของการทําธุรกิจคอมพิวเตอรใหภริยาฟง อยางละเอียด จนที่สุดพจมานก็ยินยอมตกลงใหเขาลองทําดูสักครั้ง ดวยเหตุนี้นี่เอง การเรียนวิชาคอมพิวเตอร 6 หนวยกิตที่สหรัฐฯ จึงไดเริ่มแผลงฤทธิ์อันมหัศจรรยใหเปนที่ปรากฏ ทําใหทักษิณไดสามารถเริ่มปนปายขึ้นมา จากกนเหวแหงการทําธุรกิจ เดือนธันวาคม 2525 มีบริษัทใหเชาเครื่องคอมพิวเตอรชื่อ ICSI กอตั้งขึ้น ลูกคาหลักของบริษัทคือหนวยงาน รัฐบาลและสถาบันวิจัยของมหาวิทยาลัยที่ตองการใชเครื่องคอมพิวเตอร ลูกคารายแรกที่สําคัญคือ จุฬาลงกรณ มหาวิทยาลัย และตามมาดวยการรถไฟแหงประเทศไทย ในปที่ 2 ICSI ไดประมูลโครงการไดรวดเดียว 8 โครงการ ทําใหทักษิณดีใจบอกไมถูก โดยไดรีบลงทุนอีก 20 ลานบาท จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเพื่อใหบริการดานคอมพิว เตอรและการลงทุนชินวัตร (ตอมาเปลี่ยนชื่อเปนบริษัทชินวัตรเทเลคอม) ประกอบการเกี่ยวกับระบบ คอมพิวเตอรขนาดใหญและกลางของ IBM การใหบริการครบวงจรทั้งจําหนาย ใหเชา และซอมแซมเครื่อง คอมพิวเตอร ธุรกิจดําเนินไปไดไมเลว แตทวาในไมชาเขาก็เริ่มที่จะไมพอใจเพียงเทานี้ คําบอกเลาของทักษิณ IBM ใหรัฐบาลไทยเชาเครื่องคอมพิวเตอร ใชวิธีดําเนินการในลักษณะสากล โดยซื้อขายเปนเงินดอลลารสหรัฐ แตเมื่อคาเงินบาทลดคาเมื่อเทียบกับเงินดอลลารสหรัฐ รัฐบาลก็เริ่มรับไมไหว รูสึกขาดทุน และปวดเศียรเวียน เกลามาก IBM ก็สูญเสียตลาดบางสวนจากเรื่องนี้ และก็เปนทุกข พวกเขาตองการผูแทนจําหนายสักราย ที่ใชเงิน ดอลลารสหรัฐซื้อเครื่องคอมพิวเตอรไปจาก IBM และนําไปเชาใหรัฐบาลดวยเงินบาท ผมเห็นวานี่เปนไอเดียที่ดี ตอนนั้นผมกําลังเปนหนี้กอนหนึ่ง เวลานั้นตองยืมเงินเขาไปทั่วเพื่อใชหนี้ ภริยาผมยืมเงินจากเพื่อนพอจํานวน 10 ลานบาท แตวาดอกเบี้ยสูงมาก ในแตละเดือนโดยเฉลี่ยตองใชหนี้ถึง 3-5% ก็ประมาณ 25,000 บาท ในชวงนั้นพวกเราไดรับแรงกดดันมาก ทุกวันตองนั่งคิดวาทําอยางไรจึงจะผลัดผอนหนี้ ออกไป ตอมาธุรกิจคอมพิวเตอรทําเงินไดบาง แตผมคิดแลว หากเปนไปตามความเร็วที่เปนอยู คงจะอีกนานกวา จะใชหนี้ไดหมด ผมไดหารือกับภริยา และคิดจะเขาสูธุรกิจโทรคมนาคม ทําธุรกิจดานนี้หากโชคดีก็จะไดกําไร มากมาย ในสมัยนั้นคอมพิวเตอรยังไมแพรหลาย ตลาดมีขอจํากัด ผมเห็นวาตลาดโทรคมนาคมนาจะกวางไกลกวา แตวาไมมีคนสนับสนุน พวกเขาตางก็เห็นวาภูมิหลังผมไมใชมืออาชีพในสายงานนี้ อีกทั้งไมมีเงินทุนจํานวนมาก รวมทั้งการทําธุรกิจคอมพิวเตอรก็ไปไดดีอยูแลว ผมก็แจงไปวาดีก็ดีอยู แตยังหางจากเปาหมายที่ผมตั้งไวมาก ในชวงนี้เอง คาเงินบาทก็ตกต่ําอยางฉับพลัน คนที่ขาดทุนมากที่สุดก็คือคนที่ใชเงินดอลลารสหรัฐทําธุรกิจอยาง ผม ดังนั้น ในชั่วพริบตาหนี้สินของผมก็กลับยิ่งทวมทนมากลนศรีษะ
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 4 จากตํารวจถึงนายกรัฐมนตรี

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:33 am

ตอนที่ 6

ในชวงชีวิตแตกอนของทักษิณ เปนเสมือนวงจรชีวิตลักษณะหนึ่ง มักจะตองเผชิญกับความพายแพครั้งรุนแรง เสมอ ถึงจะนําไปสูความสําเร็จในกาวตอไปที่ยิ่งใหญกวา เขามักจะแสวงหาจนไดพบชวงจังหวะแหงการผลักดัน ไปขางหนา ตอมาไดเผชิญกับทางตันแหงชีวิตเสียกอนแลวเสมอ มีคนกลาววา ทักษิณมีจุดเดนที่สุดที่การ แปรเปลี่ยนความพายแพใหเปนโอกาส ป 2517 เงินบาทมีคาลดฮวบลงขนาดหนัก จาก 1 ดอลลารสหรัฐตอ 21 บาท ลดลงเหลือ 26 บาท การที่คาเงิน เปลี่ยนแปลงทําใหเขาขาดทุนเกือบ 20 ลานบาท ขณะเมื่อเงินบาทจะยิ่งมีคาตกต่ําลงอีก ธนาคารเกรงวาทักษิณจะ ไมมีปญญาใชหนี้ จึงเสนอใหเขาแปลงทรัพยสินแลกเปนเงินฟรังซสวิส แตเรื่องก็กลับยิ่งเลวราย ในเวลา อันรวดเร็วอัตราแลกเปลี่ยนระหวางเงินบาทกับเงินฟรังซสวิสก็ลดจาก 13 : 1 เหลือ 22 : 1 ยิ่งลดรุนแรงกวาเงิน ดอลลารสหรัฐเสียอีก นายตํารวจยศพันโทที่นาสงสารคนนี้เปรียบเหมือนหนีเสือปะจระเข ในขณะนี้หนี้สินที่เขา แบกรับอยูไมใชแคหลัก 10 ลาน หากแตเพิ่มเปน 200 ลานบาท ทักษิณเหมือนติดกับอยูในวังวนความทุกขคลายไรทางออก ตัวหมัดยิ่งมีมากก็ยิ่งชาชินจนไมรูสึกถึงอาการคัน เขา ยกนิ้วขึ้นครุนคิดคํานวณ ธุรกิจใหเชาเครื่องคอมพิวเตอรในแตละปไดกําไร 10 ลานบาท หากจะใชหนี้สินใหหมด ตองใชเวลาถึง 20 ป เขาไมมีทางเลือกอื่น พจมานก็ไมมีทางเลือกอื่นเชนกัน นอกจากยินยอมใหสามีเขาสูธุรกิจ โทรคมนาคม เพื่อไปวัดดวงเอา คําบอกเลาของทักษิณ ผมไมมีทางเลือกอื่น ไดแตอดทนสูตอไป ตอนเขาสูวงการธุรกิจโทรคมนาคมใหมๆ ก็ไมไดทําเงินอะไร แต เนื่องจากมีการลงทุนในโครงการใหมๆ ทําใหผมสามารถยืมเงินจากธนาคารได นําเงินกอนนี้ใหชดใชหนี้เกา บางสวน ตอมา ผมขยายไปทําธุรกิจเพเจอร เคเบิลทีวี และโทรศัพทเคลื่อนที่ และตอมาไดขยายไปทําธุรกิจ ดาวเทียม ซึ่งธุรกิจเหลานี้ประสบความสําเร็จอยางมาก ผมไดรวมมือกับบริษัท AT&T ของสหรัฐฯ และไดเงินจาก เขา 700 ลานบาท เพื่อเปดกิจการ ซึ่งในขณะนั้นถือเปนเงินกอนใหญทีเดียว คนอยางผมสันทัดในเรื่องการเจรจา และแลวดวงของทักษิณก็พลิกฟนจริงๆ ไขมุกตองมนตคําสาปของเทพีเฮียราถูกเขาโยนทิ้งลงกองมูลควายไปแลว หลังจากผานกาลเวลาอันยาวนานแหงความหนาวเหน็บ หลังจากที่เขาตองประสบความยากลําบากจากกองหนี้สิน ที่ถมทับจนแทบไมสามารถหายใจหายคอ ในที่สุดคืนมืดอันยาวนานของเขาก็ผานพนไป และไดตอนรับแสงสวาง ยามอรุณรุงทามกลางลมพริ้วแผวเบา สมองใหญที่ไดรับพรจากฟาในดานสติปญญา นักตอสูที่ไมยอมหยุดนิ่ง ขณะนี้ชวงเวลาของเขามาถึงแลว ป 2528 ทักษิณจัดตั้งบริษัทแปซิฟคเทเลคอมโปรเจ็คขึ้น โดยไดรับสัมปทานผูกขาดในการประกอบการธุรกิจดาน เพเจอรทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เปนระยะเวลา 10 ป ในปเดียวกันไดจัดตั้งบริษัท IBC ซึ่งเปนกิจการ โทรทัศนวงจรปดแหงแรกของเครือขายโทรคมนาคมของไทย โดยไดรับสัมปทานถึง 20 ป

ป 2529 บริษัทชินวัตรเทเลคอมกรุปไดรวมมือลงทุนกับบริษัท TELEZIS ของสหรัฐฯ ในกิจการเพเจอร ในป เดียวกันไดจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหบริการดานสารสนเทศ ซึ่งประกอบกิจการใหเชาเครื่องคอมพิวเตอร ป 2530 ทักษิณลาออกจากการเปนขาราชการตํารวจ เพื่อประกอบธุรกิจอยางจริงจัง ในดานหนึ่งเพราะกิจการยิ่ง ขยายเติบใหญ อาศัยพจมานดูแลเพียงคนเดียวไมทั่วถึง ในอีกดานหนึ่ง เขาไมตองการใชชีวิตในหนวยงานราชการ ที่เจริญเติบโตตามขั้นตอนอยางชักชา (ผมรูสึกวาเวลาเสียไปกับกองเอกสารและการประชุมที่วางเปลาและนาเบื่อ หนาย) ป 2532 บริษัทชินวัตรดิจิตอลเทเลคอมไดรับสัมปทานจากองคการโทรศัพทแหงประเทศไทย ใหดําเนินธุรกิจดาน เครือขายโทรคมนาคมระบบดิจิตอล ป 2533 ทักษิณเริ่มดําเนินกิจการโทรศัพทเคลื่อนที่ CELLULAR 900 ในปเดียวกันบริษัทชินวัตรเพเจอรก็ไดรับ สัมปทานใหประกอบกิจการ PHONELINK ขอบขายทั่วประเทศ วันที่ 21 สิงหาคม บริษัทชินวัตรเทเลคอมเขาสู ตลาดหลักทรัพยไดสําเร็จ ซึ่งถือเปนจุดหัวเลี้ยวหัวตอที่สําคัญของชีวิตทักษิณ หลังจากเขาตลาดหลักทรัพย ดัชนี หุนก็ขึ้นไปตลอดอยางรวดเร็ว จากมูลคาหุน 10 บาทขึ้นไปถึง 158 บาท เขาขายหุนในมือจํานวน 25,000 ลานบาท ออกไปหมด ในชวงพริบตาก็เขาสูแถวขบวนของมหาเศรษฐีรอยลาน ป 2535 ทักษิณไดจัดตั้งบริษัทมหาชน PLC ขึ้น เพื่อลงทุนในกิจการโทรคมนาคมระหวางประเทศโดยขยายธุรกิจ ไปยังอินเดีย ฟลิปปนส มาเลเซีย สิงคโปร และกัมพูชา เปนตน สื่อมวลชนทั้งไทยและตางประเทศพากันขยายนาม เขาวา “ยักษใหญแหงโทรคมนาคม” หรือ “เจาพอแหงวงการเทเลคอม” เมื่อไมนานนี้ เขาไดรับการจัดอันดับจาก นิตยสารฟอรจูนใหเปนเศรษฐีติดอันดับ 1 ใน 500 คนของโลก และเปนคนไทยเพียงคนเดียวในนั้น คําบอกเลาของทักษิณ นักโหราศาสตรบอกวาดวงของผมเปนรูปพระจันทรครึ่งเสี้ยว ตอนอายุกอน 45 ปมีดาวในเรือนเพียงดวงเดียว ซึ่ง บงบอกวามีแตตองอาศัยการศึกษาเทานั้นจึงจะประสบความสําเร็จ สวนเรื่องอื่นๆ นั้น ทั้งหมดก็ลวนตองจายคาเลา เรียนทั้งสิ้น อายุหลัง 45 ปไปแลวชะตาชีวิตจึงพลิกฟน แตในความเปนจริง ตอนอายุ 40 ปดวงก็เริ่มดีขึ้นแลว ตอน อายุ 40 ป ผมมีทรัพยสินทั้งสิ้นมากกวา 1,000 ลานบาท เริ่มจาก 1 ลานบาทเพิ่มเปน 1,000 ลานบาท แตทวากอน หนานี้ผมยากลําบากมาก ไดประสบความพายแพมาหลายครั้ง ชีวิตของผมเต็มไปดวยเรื่องราวหลากหลาย จากคนที่เคยสิ้นเนื้อประดาตัวจนถึงเปนมหาเศรษฐีอันดับตนของไทย ทักษิณใชเวลาสั้นๆ เพียง 10 ป ในชวงเวลา ของการสั่งสมทุนทรัพยนั้น เขามีความตองการเรียนรูอยางแรงกลา มีความสามารถในการวิเคราะหพิจารณาที่ยอด เยี่ยม รวมทั้งความกระตือรือรนมีชีวิตชีวาในการสมาคมพบปะผูคน เขามีอุปนิสัยที่ไมเคยยอมแพตอสิ่งใด เปนคน มีเสนหในความกลาคิดกลาทํา และมีพลังในการทํางานอยางไมรูจักเหน็ดเหนื่อย ไมวาจะเปนความเขาใจของเขาที่ มีตอเศรษฐกิจ ความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจ และความรูจักที่มีตอสังคม ทุกสิ่งทุกอยางเหลานี้ ก็ลวน เปนเพียงพื้นฐานที่ปูไวสําหรับเขาเพื่อจะไปแบกรับภารกิจที่ใหญยิ่ง กวาในวันขางหนา ความมั่งคั่งอันมหาศาลเปน แคกอนหลักศิลาที่ปูทางใหการมีชีวิต เปาหมายที่แทจริงในชีวิตของทักษิณ กําลังจะเพิ่งเริ่มตนขึ้นเทานั้น คําบรรยายใตภาพ

(1) ภาพหนา 83 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2005 นายกรัฐมนตรีทักษิณไดเดินทางไปเยี่ยม บรรพบุรุษที่หมูบานเหมย เจี้ยว เขตเหมยโจวซึ่งเปนบานเกิดฝายมารดา และไดจูงมือญาติผูนองในหมูบานโบกมือทักทายคนในหมูบาน) (2) ภาพหนา 97 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2548 นายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ไดเยือนจีน อยางเปนทางการ ตามคํา เชิญของนายกรัฐมนตรีจีน ระหวางวันที่ 30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม )
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 5 การปกครองประเทศโดยซีอีโอ

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:37 am

บทที่ 5 การปกครองประเทศโดยซีอีโอ

ตอนที่ 1

ประเทศไทยมีคําพังเพยอยูคําหนึ่งเปนที่ทราบกันโดยทั่วไปคือ พอคาที่ร่ํารวย 10 คน ก็เปรียบไมไดกับขาราชการ ของรัฐ 1 คน มิใชเพียงประเทศไทยเทานั้น ทรรศนะคติที่วาความร่ํารวยเปรียบไมไดกับยศฐาบรรดาศักดิ์ ไดมีการ ถายทอดในวัฒนธรรมขงจื้อทั่วเอเชียตะวันออกมาเปนเวลาหลายพันปแลว ในยุคป 1970 ของศรรตวรรษที่แลว นายลิขิต ธีระเวคินนักวิชาการไดเขียนโครงสรางของสังคมไทยที่แสดงใหเห็นอยางชัดเจน ถึงคุณคาในการสราง สังคมไทยอยางไร ดังนี้ 1. กลุมคณะปกครอง 2. ชนชั้นขาราชการ 3. พอคาตางดาว 4. ชาวนา ระดับบนสุดคือชนชั้นปกครอง รวมถึงบรมวงศานุวงศและขาราชการทหารระดับสูง หัวหนาพรรคการเมือง รองลงมาคือชนชั้นขาราชการ เปนกลุมอํานาจบริหารที่ประกอบดวยหัวกระทิทางเทคนิค เชน ขาราชการ เปนตน อันดับที่ 3 คือ พอคาตางดาว เชนเดียวกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใตพอคาสวนใหญในสังคมไทย จะเปนลูกหลานชาวจีนโพนทะเล พอคาจึงเปนสรรพนามที่ใชเรียกคนจีน และระดับลางที่สุดก็คือ ชาวนา เปนชน ชั้นที่มีเปนจํานวนมากที่ไมไดรับการนับถือ ถูกกดขี่ขูดรีดจากชนชั้นอภิสิทธิ์มาเปนเวลาหลายพันป ประเทศไทย จีน ญี่ปุน ก็เปนเชนนี้ เขาสูสมัยป 2523 เศรษฐกิจประเทศไทยพัฒนาไปอยางรวดเร็ว ผูมั่งมีที่มีพลังทางเศรษฐกิจ กลุมหนึ่งก็ไดคอย ๆ ขอความชวยเหลือจากชนชั้นปกครอง และในกระแสของประชาธิปไตยที่นับวันยิ่งใหญเหลา พวกยศศักดิ์และขาราชการทหารจําเปนที่จะคงอยูโดยอาศัยการจัดตั้งพรรคการ เมือง การแขงขันสมัครรับเลือกตั้ง เปนตน เปนเครื่องมือเพื่อมุงสูถนนแหงอํานาจที่ถูกตอง ตามกฏหมายโดยใชเสื้อคลุมประชาธิปไตย การใชเงิน ทองในการซื้ออํานาจยิ่งเขมแข็ง การติดตอระหวางทหาร รัฐบาลและพอคานับวันใกลชิดซึ่งไดกลายเปนความ ใฝฝนของนักธุรกิจเปนจํานวนมาก กอนนายทักษิณ ชินวัตร นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของ ไทยก็คือนักธุรกิจกอสรางที่ประสบความสําเร็จผูหนึ่ง เงินทองกลาวสําหรับทักษิณ แลวเปนเพียงตัวเลข เขาไดตั้งเปาหมายที่สูงยิ่งใหกับตัวเขาคือการเปนนักการเมืองที่ ยิ่งใหญ แนวคิดดังกลาวสามารถหวนยอนกลับไปเมื่อ 20 ปกอน ขณะที่เขาไดติดตามคุณพอซึ่งเปนสมาชิกสภา เมืองเชียงใหมไปเยี่ยมเยียนประชาชนผูใชสิทธิ เกิดความรูสึกชอบการเมืองตั้งแตนั้นมา ตนป 2535 ทักษิณ ไดให สัมภาษณนักขาววา การเมืองการคาวาไปแลวก็คือครอบครัวเดียวกัน ควรยอมรับความเปนจริงในเรื่องนี้ การเมือง เปรียบเหมือนพระอาทิตย กิจการคาเปรียบเหมือนโลก ใกลเกินไปก็จะรอน หางเกินไปก็หนาว ในตอนนั้นเขาเริ่ม สนใจที่จะลงเลนการเมือง พรอมกันนี้ ก็ไดรับรูอยางมีสติถึงความสัมพันธระหวางการเมืองและการคา เพียงแต การทําการคาจะใหความสําคัญเรื่องผลกําไรและตนทุน จะไมแยแสตอวิธีการดําเนินการในสวนรวม แตการเมือง จะมีความซับซอนซอนอุบายมากมายจําเปนตองตรวจสอบอยางมีไหวพริบ การเมืองไมเหมือนการคาที่เปนเกมสหวัง แตผลประโยชนมากที่สุด การเมืองเปนเกมสในทางจิตวิทยาเปนความสามารถในการควบคุมตนเองและ ปฏิบัติการอยางเงียบเชียบ แตเปนที่นาเสียดายในจุดนี้ตั้งแตตนจนจบทักษิณ ไมสามารถควบคุมได คําบอกเลา..ของทักษิณ ภายหลังจากที่ผมประสบความสําเร็จในธุรกิจการสื่อสาร ก็คิดที่จะเขาวงการเมืองเพื่อทํางานใหกับบานเมือง แต ภริยาไมเห็นดวยโดยเตือนสติตนวา อยาลืมคําพูดของคุณแมตนที่ไดพูดไววา กอนที่จะมีความมั่งมีอยายางกาวสู การเมือง แมวาเราจะมีเงินแลว แตการคายังไมมั่นคงอีก ทั้งยังไมมีผูที่เหมาะสมที่จะมาแทนตน ขอใหรออีกหนอย ตนรอมา 2 ป จนอายุ 45 ป ในป 2537 พลตรีจําลอง ศรีเมือง หัวหนาพรรคพลังธรรมของไทยก็ไดมาหาตนที่บานขอเชิญตนเปนตัวแทนของ พรรค เขาดํารงตําแหนงรัฐมนตรีวาการกระทรวงการตางประเทศในคณะรัฐมนตรีชุดใหม เงื่อนไขคือ ทําตามที่ พรรคกําหนดโดยการกรอกใบสมัครเขาพรรค 1 ฉบับ ทักษิณ ตกใจมาก แมวาเขาจะมีความจัดเจนในสนามการคา แตประสบการณทางการเมืองมีนอยไมสันทัดในกิจการตางประเทศ ในชวง 2 ป ทักษิณ ซึ่งเปนผูใฝฝนในทาง การเมืองอีกทั้งมีเงินไดถูกนักการเมืองพูดจาหวานลอมใหเลนการเมืองเป นที่หมายปองของพรรคตาง ๆ อยางมาก แตเขาปฏิเสธ เนื่องจากภริยาไมเห็นดวย และงานธุรกิจสื่อสารทีตองดูแลจนลนมือ แตครั้งนี้เขาระงับใจไมไหวเกิด ่ ความสนใจขึ้นบางแลว เขาสูการเมืองก็เขาดํารงตําแหนง รมว. รัฐบาล จุดเริ่มตนนี้แตกตางกันราวฟากับดินกับ จุดเริ่มตนสมัยที่ทําธุรกิจแพรไหมในรานเล็ก ๆ สําคัญยิ่งกวานั้นก็คือ พลตรีจําลอง เปนเพื่อนที่ดีคบคากันมาหลาย ป ดังเชนที่วงการภายนอกไดวิพากวิจารณกันวา พลตรีจําลอง เปนผูนําทางใหแกทักษิณ ในวงการเมือง คือเจาพอ ทางการเมืองของเขา พลตรีจําลอง ก็เปนลูกหลานของชาวจีนโพนทะเล มีชื่อจีนชื่อหลู จิน เหอ เกิดเมื่อป 2478 ครอบครัวยากจน บิดา เสียชีวิตตั้งแตเยาวัย มารดาเปนคนรับใชที่บานของนายทหารเรือที่เกษียณราชการ ในชวงที่เขามีอายุ 12 ป มารดา ไดแตงงานใหมกับบุรุษไปรษณีย พลตรีจําลอง มีความฉลาดเฉลียว ผลการเรียนยอดเยี่ยม ภายหลังเรียนจบมัธยม ไดเขาเรียนตอที่โรงเรียนนายรอยพระจุลจอมเกลา ตอมา ไดไปอบรมดานการทหารระดับสูงที่อเมริกาหลายครั้ง เขาเคยเขารบในสนามรบในลาวและเวียดนาม เคยดํารงตําแหนงในรัฐบาล เคยสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัย ป 2528 ไดเลื่อนตําแหนงเปนนายพล ภายหลังจากนั้น เคยดํารงตําแหนงรองนายกรัฐมนตรี ผูวากรุงเทพฯ 6 ป ไดกอตั้ง พรรคพลังธรรมที่ถูกกลาวขานวาเปนพรรคที่สุจริตมีความกลาหาญ ป 2535 พลตรีจําลอง และพรรคพลังธรรมได นํามวลชนเดินขบวนประทวงรัฐบาลทหาร ผลปรากฏวาเปนฝายเสียเปรียบเกิดการปะทะนองเลือด พลตรีจําลอง เปนผูเลื่อมใสในศาสนาพุทธ เปนผูนิยมลัทธิระงับความอยาก ทานมังสาวิรัส ใสเสื้อมอหอมในที่ สาธารณะเสมอ ใชชีวิตเรียบงาย เปนขาราชการที่ซื่อสัตยเปนผูมีชื่อเสียงในวงการเมือง ตามที่กลาวอางในชวงแรก ๆ ความคิดเห็นทางการเมืองของทักษิณ และพลตรีจําลอง คอนขางจะเหมือนกัน ภายหลังจากที่ทักษิณ ไดดํารง ตําแหนงนายกรัฐมนตรีไดเคยเรียนเชิญพลตรีจําลอง รับตําแหนงเปนที่ปรึกษารับผิดชอบดานการศึกษาของพรรค ไทยรักไทย อีกทั้งยังวาจางเขาเปนศาสตราจารยที่มหาวิทยาลัยชินวัตร แตวาตอมา พลตรีจําลองไดเปนแนวหนาที่ จะลมลางเขา บุญคุณและความแคนของบุคคลทั้งสองแวดวงภายในเปนอยางไรไดเปนปริศนาตลอดมา

ปจจุบัน เปนชวงฮันนีมูนของ 2 คน อยางแทจริง ทักษิณ ไดทําการไตรตรองรูสึกวานี่คือโอกาสที่หายาก เขาได ตอบรับการเรียนเชิญของพลตรีจําลอง เขาดํารงตําแหนง รมว. กต. ในคณะรัฐมนตรีของนายชวน หลีกภัย แตเพิ่ง เขารับตําแหนงก็ไดนํามาสูการถกเถียง มีคนวิจารณเขาวา ขาดประสบการณทางการเมืองเปนมือใหมในดานการ ตางประเทศ มีคนสงสัยวา ธุรกิจการลงทุนในตางประเทศของเขาจะกระทบถึงนโยบายตางประเทศของไทย ยังมี สส. 23 คน เขาชื่อกลาวหาทักษิณ ละเมิดขอกําหนดของรัฐธรรมนูญฉบับแกไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รมว. ใน คณะรัฐมนตรีไมอาจถือหุนในบริษัทของรัฐเกินกวารอยละ 50 ได ไดขอรองใหเขาลาออกในทันที ไมเปนที่สงสัย เลยวา ธุรกิจสวนใหญที่ทักษิณ ประกอบการในอุตสาหกรรมสื่อสารลวนเปนรายการที่ดําเนินกิจการโดยรัฐบาล แตวา หุนของกลุมบริษัทสื่อสารชินวัฒนที่เขาและภริยาถือครองอยูรวมกันแลวคิด เปนรอยละ 48.7 ไมไดละเมิด กฏหมายอยางแนนอน นักการเมืองผูนี้เดือดดาลอยางมากตอการลอบทํารายของคูตอสู เขาแสดงวา ยินดีประกาศ ทรัพยสินเพื่อแสดงความขาวสะอาด คดีไดฟองไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ แตวาสุดทายก็ไมไดมีการตัดสิน คูตอสูของ เขาไดทําลายชื่อเสียงของเขาครั้งแลวครั้งเลาอยางลับๆ ทักษิณโมโหมากไดขอลาออกจากตําแหนง อยูในตําแหนง รมว. กต. เพียง 105 วัน อาชีพนักการเมืองครั้งแรกของทักษิณ ก็เปนอันจบสิ้นลง วันที่ 26 ตุลาคม 2537 วันแรกที่ทักษิณ ดํารงตําแหนง รมว. กต. นักขาวก็ไดถามเขาเกี่ยวกับเรื่องรัฐประหาร เมื่อ 3 เดือนกอนรัฐบาล กัมพูชาเพื่อนบานของไทยไดทําลายการกอรัฐประหารแบบไมมีการนองเลือด ทหารที่กอการรัฐประหารประมาณ 300 คน ที่ประจําอยูนอกกรุงพนมเปญ 25 กิโลเมตรไดถูกรถถังของรัฐบาลสกัดกั้นถูกเตือนใหกลับเขาฐานที่มั่น ในเวลาตอมา หัวหนาผูกอรัฐประหารตามที่กลาวอางคืออดีตรองนายกและพระโอรสของเจานโร ดมสีหนุ เจา นโรดมจักรพงษ ภายหลังแผนประสบความลมเหลวเจานโรดมจักรพงษ หนีไปมาเลเซีย ผูตองสงสัยพัวพันในการ กอรัฐประหารเปนอดีต รมว. มหาดไทยถูกจับกุมตัว สังคมนานาชาติวิพากวิจารณเรื่องนี้ไปทั่ว รมว. กต. ออสเตรเลียแสดงวา รัฐประหารในครั้งนี้อาจไดรับความสนับสนุนอยางลับ ๆ จากประเทศไทยเพราะวา เขมรแดง ของกัมพูชาไดอาศัยชายแดนกัมพูชา-ไทยเปนสถานที่ปองกันตัวตลอดมา เปนที่สะสมกําลังตีโตฝายรัฐบาล ขณะ เมื่อนักขาวไดถามทักษิณ รมว. กต. จะประเมินคาอยางไรตอเรื่องดังกลาว รมว. มือใหมผูนี้ไดตอบคําถามนักขาว อยางไมมีลีลาที่เกรงใจของนักการทูต เขาตัดบทกลาววา เปนเพียงขาวลือทั้งสิ้น หลังจากนั้นไมกี่วันทักษิณ ก็ได พบกับ รมว. กต. ออสเตรเลียในที่ประชุมระดับ รมว. APEC เขากลาวกับ รมว. กต. ออสเตรเลียวา มีหลักฐาน อะไรยืนยันวาประเทศไทยสนับสนุนเขมรแดง คําถามตรงเกือบจะเปนคําถามที่หยาบคายทําให รมว. กต. ออสเตรเลียตลึง เขากลาวตอไปวา ผมรูสึกวาขาวสารที่ทานมีนาจะลาสมัยแลว ทานควรสอบถามความเห็นของ สอท. ออสเตรเลียประจําประเทศไทย ตอปญหานี้ออสเตรเลียสามารถจัดตั้งคณะทูตานุทูตประเทศตาง ๆ ไป ตรวจสอบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรับรูถึงความสัมพันธระหวางประเทศไทยกับรัฐบาลทหารกัมพูชา ณ สถานที่จริง รมว. กต. ออสเตรเลีย มีสีหนาอับจนเพื่อเปนการขายผาเอาหนารอด เขาไดหันไปตําหนินักการทูตที่ ติดตามเขาวาไมไดรายงานใหเขาทราบอยางละเอียด ตอมา ในที่เปดเผยสาธารณะ รมว. กต. ออสเตรเลียยอมรับกับ นักขาววา การพูดคุยของทักษิณ ไมเปนการเหมาะสม มีเรื่องหนึ่งสะทอนใหเห็นถึงนิสัยและแบบอยางทางการเมืองของทักษิณ เปนอยางดีคือ ภายหลังเขารับตําแหนง รมว. กต. ไมนาน เขารอนรนที่จะไปเยือนพมาเพื่อผอนคลายความสัมพันธที่ตึงเครียดกับพมา แตวา ผูใตบังคับบัญชาเห็นวา รมว. เพิ่งเขารับตําแหนงไมนานจะไปเยือนพมาไมเพียงแตไมสอดคลองกับ ธรรมเนียมปฏิบัติ ทางการทูตแลวยังทําใหเสียระบบอีกดวย ทายที่สุดทักษิณ ก็ไดไปเยือนพมาในโอกาสที่เหมาะสม เขาไดรอ พบผูนําพมาตามเวลาและสถานที่นัดหมาย แตฝายตรงขามมิไดปรากฏตัวตามเวลาที่นัดหมายโดยอางวา ผูนํากําลัง ประชุมอยู เมื่อเขาหวนคิดถึงอดีต รมว. กต. ที่อารมณดีของไทยตองรอพบผูนําพมาเปนเวลา 6 ชั่วโมงแลวก็เกิด โมโห เขากลาววา ภายใน 5 นาที หากไมสามารถพบผูนําพมาก็จะไมรอ สุดทายไมถึง 5 นาที ฝายตรงขามก็ปรากฏ ตัว กลาวโดยสรุปการปรากฏตัวครั้งแรกในวงการเมืองที่ดอยประสบการณของทักษิณ การแสดงออกของเขาถือ วาสอบผาน
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หนังสือ 24 ชม.ของทักษิณภายหลังการรัฐประหาร(ฉบับแปล)>>>> Empty ทักษิณ 24 ชม - บทที่ 5 การปกครองประเทศโดยซีอีโอ

ตั้งหัวข้อ by dimistry Sat Apr 03, 2010 4:38 am

ตอนที่ 2

4 เดือนใหหลัง ทักษิณไดหวนคืนสูวงการเมืองในฐานะหัวหนาพรรคพลังธรรมลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. พื้นที่ เยาวราช กท. ความเปนคนมีนิสัยนุมนวล หนาตาที่เขรงขรึมนาเกรงขามแตไมเสแสรงของทักษิณ ไดสรางภาพ ประทับแกคนในยานเยาวราชอยางมาก เปนผูที่ไมวางมาด ไมดูถูกคนจน พูดจาตามสบาย นิสัยตรงไปตรงมา ไม ถือสาในเรื่องเล็กๆนอยๆ ทักษิณไดนําพรรคพลังธรรมเขารวมรัฐบาลผสมของนายบรรหาร ศิลปอาชา ดํารง ตําแหนงรองนายกดูแลเรื่องคมนาคม เขากลาววา ตอนี้ไปจะไมยอมใหลูกหลานของเราเกิดในรถ กินในรถ โตใน รถ ตายในรถอีกตอไป เขาไดเสนอโครงการ 3 ชวง ระยะสั้น กลาง ยาว จะใชเวลา 6 เดือน แกไขสัญญาณไฟ จราจร กฏระเบียบการจราจร จากนั้นใชระบบบังคับการจราจรที่ใชเทคนิคขั้นสูงแกปญหาสภาพรถติด และใน อนาคตจะมีการสรางสะพานลอยฟา ถนนวงแหวน รถไฟใตดินเชนกัน ซึ่งแนวคิดดังกลาวก็ไดประจักษเปนจริง ในปจจุบันแลว ทักษิณ ใหคํามั่นภายใน 6 เดือนจะแกปญหารถติดในกท. ผูสื่อขาวเห็นวา เขาพูดเหลวไหล ไดมี การวาดภาพการตูนลอเลียนสัญณาณไฟเขียวมีฝูงวัวกําลังเดินขามถนน สัญณาณไฟจราจรระบบคอมพิวเตอรจะ แกปญหารถติดไดหรือ รองนายกผูนี้ไดถูกผูสื่อขาวหยามหนา คําบอกเลา...ของทักษิณ พรรคพลังธรรมของพวกเรามีความไดเปรียบที่กรุงเทพฯ แตวา ไมคอยประสบความสําเร็จที่ชนบท ที่สําคัญคือ ใน เวลานั้นผมไมมีเวลาดูแลชนบท ผมดํารงตําแหนงผูนําพรรคนี้เปนเวลาปกวา ตอมา นายบรรหารไดเชิญผมเขา ดํารงตําแหนงรองนายก แรกเริ่มผมไมคิดที่จะตอบรับ แตเขาบอกวารายชื่อแตงตั้งไดรับพระบรมราชโองการ แตงตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวแลว ผมจึงเขารับตําแหนงรองนายก ในชวงนี้บิดาของผมไดถึงแกกรรม ลง มีเวลาปครึ่งผมไมสามารถหักหามความเสียใจจากเหตุการณที่เกิดขึ้นดัง กลาวได ในป 2541 ผมรูสึกวาโอกาส มาถึงแลว ผมจะจัดตั้งพรรคการเมืองดวยตนเอง ทักษิณอยูในตําแหนงรองนายก 1 ป 1 เดือน ไดลิ้มรสถึงประชาธิปไตยแบบไทย ๆ จัดตั้ง ครม. บอยครั้ง วง การเมืองที่สั่นคลอน นโยบายที่ไมตอเนื่อง การบริหารจัดการไมมีประสิทธิภาพ จากประวัติศาสตรการเมืองยุค ใกลของไทยเปนที่ประจักษวา การจัดตั้งรัฐบาลประกอบดวยหลายพรรคการเมือง แตละพรรคก็หวังแต ผลประโยชนสวนตัว ตามที่นักวิชาการของไทยไดกลาววา ระบบการเมืองของไทยไมมี สส. พรรคฝายคานมีแต สส. ที่เขารวม ครม. และ สส. ที่รอเขารวม ครม. ที่เขารวม ครม. ก็อยูในตําแหนงไมนาน ที่ไมไดเขารวมก็ทะเลาะ ไมเลิก การเมืองที่ไมสุกงอมของพรรคการเมืองไทยสวนหนึ่งเปนเพราะเหตุผลทางประวัติ ศาสตร จากโครงสรางทาง การเมืองในสมัยนั้น อํานาจทางการเมืองที่ถูกตองตามกฏหมายหนีไมพนพรรคการเมือง ระยะเวลาที่ถูกตองตาม กฏหมายที่พรรคการเมืองดําเนินกิจกรรมมีเพียง 15 ป รัฐบาลทหารควบคุมสิทธิการรางกฏหมายเพื่อควบคุมการ อยูรอดของพรรคการเมืองมาโดยตลอด ทําใหพรรคการเมืองตกเปนเครื่องมือของอํานาจฝายทหาร รัฐธรรมนูญที่ รัฐบาลประกาศ 15 ฉบับ มีเพียง 5 ฉบับ ที่มี พ.ร.บ. พรรคการเมือง พรรคที่มีประวัติการกอตั้งยาวนานมีเพียงไมกี่ พรรคสวนใหญมีประวัติการกอตั้งชวงสั้น ๆ ไมตอเนื่อง มีพรรคการเมืองจํานวนมากจัดตั้งขึ้นอยางเรงรีบและยุบ ไปในชั่วพริบตา พรรคการเมืองสวนใหญมีเพียงสํานักงานใหญ ไมมีแผนทางการเมืองที่ยาวไกล ขอเพียงผลประโยชนเบื้องหนากฏขอบังคับของพรรคสามารถแกไขเมื่อใดก็ไดตามที่นาย Huntingtonไดวิเคราะหไววา ระบอบการเมืองระบอบหนึ่งความถี่ของการถูกทหารเขาแทรกแซงในการบริหารประเทศ จะเปนปฏิภาคกลับกัน กับพลังอํานาจของพรรคการเมือง รัฐประหารโดยตัวมันเองแลวไมสามารถทําลายพรรคการเมืองไดเปนแคยืนยัน วากลไกพรรคการเมืองเกิดการเนาเฟะเทานั้น นาย Huntington ยังกลาววา พรรคการเมืองของไทยไมเคยเปนตัว แทนที่แทจริงของพลังสังคมเลยเปนเพียงตัวแทนของกลุมชนชั้นปกครองระดับบน และของพวกเขาเทานั้นเอง รัฐบาลที่มีนายบรรหารเปนนายกรัฐมนตรี วงการเมืองไดเขาสูภาวะที่เลวรายรอบใหม ครม. อยูในสภาวะที่อาจ ตองถูกปรับตลอดเวลา ในเดือนพฤษภาคม 2539 รัฐสภาไดมีมติไมไววางใจ รมว. ใน ครม. 4 คน เพราะมีสวน พัวพันโดยใชอํานาจหาผลประโยชนใสตัว รับสินบน การอภิปรายไมไววางใจรัฐบาลมีการดาทอ สาดโคลนดวย คําพูดที่รุนแรง หลังจากที่ รมว. ทั้ง 4 คนไดลาออกไปแลว ทักษิณไดยกเอาภาพลักษณที่ไมดีของรัฐบาลเปน ขออางขอลาออกจากตําแหนงรองนายกรัฐมนตรี 3 เดือนตอมาไดมีการเลือกตั้งทั่วประเทศ พรรคพลังธรรมแพ ยับเยินไดรับเลือกเพียงคนเดียว ทักษิณในฐานะหัวหนาพรรคกระอักกระอวนใจมากประกอบกับเปนเพราะปญหา เรื่องการปฏิรูปเกิดปะทะกับสมาชิกอาวุโสในพรรคจนตองแขวนหมวกจากไป ความตั้งใจในชีวิตการเมืองที่กวางไกลของทักษิณไดยุติลงชั่วคราว อยูในชวงความคิดวกวนกลับไปกลับมา เชนเดียวกับที่กอนเขาจะประสบความสําเร็จในการประกอบธุรกิจจะตองประสบกับ ความพายแพที่นากลัว ดู เหมือนพระผูเปนเจาจะประทานการทดสอบที่หนักอึ้ง และการโจมตีเขาติดตอกันชวยเหลือเขาในการคนหา ทิศทางที่ถูกตองของชีวิตมนุษย เขาเริ่มวางแผนอาชีพการเมืองของเขาใหม ในชวงเวลานี้เขาไดตระเวนไปในที่ ตางๆทั่วประเทศเพื่อพูดคุยกับผูเชี่ยวชาญ นักวิชาการ พอคา ชาวนา ฯลฯ เพื่อรับฟงเกี่ยวกับแนวคิดทางการเมืองที่ แทจริงของพวกเขา รับทราบถึงปมเงื่อนของปญหาสังคมที่มีอยู ภาพความหวังทางการเมืองใหมไดคอย ๆ กอรูป ขึ้นในสมองของเขา ผูเขมแข็งที่ไมยอมอยูใตอาณัติของใครตลอดการผูนี้พบวา การสรางสีสรรในพิมพเขียวของ ผูอื่นคงไมดีเทาการเขียนแบบใหมในกระดาษขาวทั้งแผน เขาตองการจะกอตั้งพรรคของตนเองเปนพรรคการเมือง ในอุดมคติของตัวเอง ขอเพียงสอดคลองกับขอกําหนดของรัฐธรรมนูญในประเทศไทยไมวาใครก็ตามสามารถ จดทะเบียนจัดตั้งพรรค การเมืองใหมได เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2541 ทักษิณไดยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคไทยรักไทยอยางเปนทางการ ตอคณะกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกพรรคที่จัดตั้งในตอนแรกมีจํานวน 23 คน ในจํานวนนี้เปนดอกเตอร 13 คน ซึ่งดู แลวมีแนวโนมจะเปนพรรคการเมืองที่จัดเจนมาก พรรคนี้ตอมากลายเปนพรรคที่พูดปกปองผลประโยชนใหกับ ชาวนา วัตถุประสงคในการกอตั้งพรรครวมถึง ผูมีปญญา ยึดการทํางานเปนทีม รวมมือกัน ประสานจิตใจมา ควบคุมดูแลกิจการของบานเมือง กลาคิดกลาทํา ยึดพื้นฐานผลประโยชนของประชาชนเปนหลัก ไมแบงพรรค แบงพวก รัฐบาลและทุกวงการรวมมือกันอยางใกลชิดอาศัยรูปแบบการควบคุมจัดการที่ กาวหนา มาแกไขปญหาที่ คั่งคางของชาติ ที่กลาววา รูปแบบการควบคุมจัดการที่กาวหนาใชคําพูดของทักษิณ ก็คือการใชรูปแบบในการบริหารธุรกิจ ควบคุมจัดการบริหารประเทศเพราะวา แทที่จริงแลวทั้งสองอยางมีสวนคลายคลึงกัน แมวา การบริหารจัดการ รัฐบาลจะยากมากกวาก็ตาม เขาเปรียบประเทศไทยเปนบริษัทใหญบริษัทหนึ่ง บริษัทใหญนี้จําเปนตองผลิต ผลิตภัณฑจํานวนมากเพื่อเอาผลกําไรมาเลี้ยงพนักงานทั่วประเทศซึ่งก็คือประชาชน นั่นเอง จะทําอยางไรเพื่อใหได กําไรมากยิ่งขึ้น วิธีการที่ปฏิบัติไดจริงและงายของเขาก็คือ ยกประสิทธิภาพการทํางานใหสูง ผลประโยชนมากอน สิ่งทั้งหมด บุคคลในวงการภายนอกเรียกขานแนวคิดดังกลาวของเขาวา การปกครองประเทศโดย CEO แกนของ แนวคิดที่แทจริงก็คือประโยคเดียว คัดคานลัทธิราชการที่วางอํานาจ ทักษิณ ไดนําการควบคุมจัดการแบบ CEO มาใชในการสรางพรรคและการเลือกตั้งทั่วประเทศในตอนแรก เขาใช เทคนิคการประกอบธุรกิจตามอยางบริษัทขามชาติ จัดตั้ง สนง. ใหญพรรคไทยรักไทยที่ กท. และสาขา 4 ภาค ที่ ภาคกลาง ภาคใต ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในเขตเลือกตั้ง 400 แหงทั่วประเทศจัดตั้งสาขาจําหนาย แนะนําผูสมัครรับเลือกตั้งของพรรคและนโยบายของพรรค เขาใชเงื่อนไขที่อุดมดึงดูด สส. 100 คน เขาพรรคไทย รักไทย สองปใหหลัง พรรคไทยรักไทยไดกลายเปนพรรคที่ใหญที่สุดของไทย ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 สส. ไทยรักไทยไดรับเลือก 248 ที่นั่งจาก 500 ที่นั่ง ไดสิทธิจัดตั้ง ครม. ทักษิณ หัวหนาพรรคขึ้นดํารง ตําแหนงนายกรัฐมนตรี วันที่ 19 กุมภาพันธ 2544 วันแรกที่ทักษิณ เขาดํารงตําแหนง การประชุม ครม. นัดแรกบนโตะประชุมจะไมมีแฟม เอกสารดังเชนในอดีต ทุกคนมีคอมพิวเตอรกระเปาหิ้ว 1 เครื่อง หัวขอการประชุมจะถูกเก็บไวในแผน CD ทักษิณ ประกาศวา ตอนี้ไป การประชุม ครม. จะใชเครื่องคอมพิวเตอรทั้งหมด สมาชิก ครม. ทุกคนจะตองเรียนรูการใช เครื่องคอมพิวเตอรใหเปนโดยเร็วไมตองอาศัยเลขาอีกตอไป จะเห็นวา การใชเครื่องคอมพิวเตอรในการประชุม เสียคาใชจายลดลงเพียง 40,000 บาท จากเดิมที่ตองจายเปนเงิน 180,000 บาท เวลาที่จัดเตรียมเอกสารจาก 20 ชั่วโมงเหลือเพียง 6 ชั่วโมง การประชุมโดยทั่วไปใชเวลา 3 ชั่วโมงก็ยุติไมเหมือนกอนที่ตองใชเวลาทั้งวัน ไมกี่วัน ตอมานายกคนใหมก็ไดประกาศมาตรการอีกวา หลังวันที่ 31 มี.ค. ใหยุบคณะกรรมการที่ไมจําเปนที่ประจําในทุก กระทรวงฯ จํานวน 516 คณะกรรมการ ปฏิรูปจํานวนนายตํารวจที่ สนง. ตํารวจแหงชาติจัดเตรียมไวสําหรับ อารักขานายก 3 กลุมรวม 43 นายใหลดนอยลง ถัดมานายกรัฐมนตรีก็ไดนําเสนอนโยบายประหยัดพลังงาน เขา กําหนดวา ตอนี้ไปเมื่อมีการประชุม ครม. สมาชิก ครม. ไมจําเปนตองใสสูทเพื่อประหยัดไฟ หนวยงานของ รัฐบาลตองจํากัดการใชรถนําทางอยางเขมงวด รถตํารวจและขบวนรถรักษาความปลอดภัย อุณหภูมิของ เครื่องปรับอากาศในที่ทํางานของหนวยงานตางๆอาคารธุรกิจใหญๆ Supermarket ไมควรต่ํากวา 25 องศา เซลเซียส หางสรรพสินคาควรลดเวลาประกอบกิจการ เวลาเที่ยงคืนใหดับไฟถนนและไฟโฆษณา ปดไฟสอง สวางอาคาร ปดไฟถนนที่มีรถและคนเดินนอย ทักษิณ ไดตามอยางพระเจาอยูหัวใชน้ํามันตาลโตนดกับรถตูของ เขา เขาหวังใหประชาชนหันมาใชเชื้อเพลิงจากพืชแทนน้ํามันเบ็นซิลอยางวางใจตามอ ยางพระเจาอยูหัว การบริหารประเทศที่ไมเหมือนใครของนายกคนใหม ไดนํามาซึ่งความแปลกใหมในวงการเมืองของไทย และดู เหมือนวาตํารวจที่อยูเวรในทองถนน กท. ก็มีมากขึ้น แตวา ทักษิณ นั่งในตําแหนงนายกรัฐมนตรีกนยังไมทันรอน เปนเพราะปญหาทรัพยสินนําไปสูการลางแคน
dimistry
dimistry
Admin

จำนวนข้อความ : 808
Join date : 18/09/2009
ที่อยู่ : France

http://http:redcyberclub.co.cc

ขึ้นไปข้างบน Go down

หน้า 1 จาก 3 1, 2, 3  Next

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ