ล้ม หรือ ปฏิรูป
หน้า 1 จาก 1
"หน้าที่ทางการเมืองของแผนผังเครือข่ายล้มเจ้า"
"หน้าที่ทางการเมืองของแผนผังเครือข่ายล้มเจ้า"
โดย เกษียร เตชะพีระ
ผมคิดว่าที่เรากำลังประสบอยู่ในสถานการณ์ ปัจจุบันคือกระแสคลื่นการปฏิเสธอำนาจรัฐ (widespread dissent from state power)
แสดงออกไม่เพียงในรูปการชุมนุมยืดเยื้อฝ่าฝืนประกาศภาวะฉุกเฉินร้าย แรง บุกค้นโรงพยาบาล วางยางรถยนต์ขวางชานชาลาและเส้นทางรถไฟฟ้ากลางกรุงเทพฯ หากแผ่กระจายกว้างออกไปหลายท้องที่ทั้งภาคเหนือ-อีสาน-กลาง ในรูปกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งด่าน ปิดถนน ตรวจค้น คุมตัวทหาร-ตำรวจ ฯลฯ
แก่นแท้ของมันคือการที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยใน สังคมไม่ยอมรับอำนาจรัฐ ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐอีกต่อไป อย่างน้อยก็ในทางการเมือง
นี่เป็นการฟาดตรงหัวใจของอำนาจรัฐ เพราะโดยเนื้อแท้แล้วอำนาจรัฐจะทำงานได้ต้องตั้งอยู่บนการยินยอม-ยอมรับ (consent) ของผู้คน ไม่ใช่การใช้กำลังข่มขู่บังคับ (coercion)
ไม่มีรัฐที่ไหนกุมปืนจ่อหัวผู้คนพลเมืองทุกคนทั่วประเทศให้ทำตามคำ สั่งได้ ส่วนใหญ่ที่สุดรัฐดำเนินงานต่อไปได้ก็เพราะคนส่วนข้างมากยอมรับอำนาจรัฐและ ยินยอมทำตามคำสั่งของรัฐเอง
รัฐที่อำนาจเข้มแข็งคือรัฐที่ผู้คนพลเมือง (รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐเอง) ให้การยอมรับสูงและยินยอมทำตามคำสั่งรัฐโดยดุษณีไม่มีข้อแม้หรือกระทั่งทำ ตามอย่างแข็งขันโดยรัฐมิพักต้องใช้กำลังข่มขู่บังคับหรือใช้ก็เพียงเล็กน้อย
ในทางตรงข้าม รัฐที่อำนาจอ่อนแอคือรัฐที่ถูกผู้คนพลเมือง (รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ) ปฏิเสธ ไม่ยอมนับถือว่าเป็นรัฐของตัว และดิ้นรนขัดขืนเฉื่อยเนือยเกียร์ว่างต่อคำสั่งของรัฐทุกวิถีทาง
ตามความหมายนี้ ในช่วงเดือนกว่าที่ผ่านมา อำนาจรัฐกำลังอ่อนแอลงอย่างรวดเร็วและถูกท้าทายหนักขึ้นทุกที
รัฐบาลอภิสิทธิ์สูญเสียการยินยอม-ยอมรับของ สังคมไปอย่างมากหลังเกิดเหตุเมษาฯวิปโยคเมื่อคืนวันที่ 10 เมษายนศกนี้
ก่อนหน้านั้น รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ถูกตั้งคำถามท้าทายเรื่องความชอบธรรมของที่มาแห่งอำนาจ อยู่บ้างเพราะถึงแม้มันจะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกระบวนการรัฐสภา แต่ก็ดูไม่ชอบมาพากลที่บรรดาตัวแทนพรรคร่วมไปประชุมก่อตั้งรัฐบาลกันขึ้นใน ค่ายทหารและอาศัยกลุ่มการเมืองที่แปรพักตร์เป็นฐานพลิกคะแนนเสียงในสภา
แต่จุดด่างพร้อยนี้เทียบไม่ได้เลยกับความผิดพลาด สาหัสร้ายแรงที่เกิดขึ้นในการตัดสินใจสั่งการใช้กำลังทหารเข้า "ขอยึดพื้นที่คืน" จากที่ชุมนุมของ นปช. บนถนนราชดำเนินในเวลากลางคืน จนส่งผลให้มีประชาชนผู้ชุมนุมและทหารรวมทั้งผู้สื่อข่าวต่างประเทศเสียชีวิต รวม 25 คน และบาดเจ็บกว่า 800 คน โดยที่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัสนับร้อยและหลายคนอาจต้องพิการหรือทุพพลภาพไป ตลอดชีวิต
ขณะที่การสอบสวนสืบหาผู้ใช้อาวุธสังหารในคืนนั้นต้องดำเนินต่อไป เพื่อหาคนผิดมารับโทษตามกฎหมาย รัฐบาลเองจักต้องรับผิดชอบทางการเมืองต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตนอย่าง เต็มที่ไม่ว่าใครเป็นคนยิงก็ตาม-ไม่วันนี้ก็วันใดวันหนึ่งข้างหน้าอย่างแน่ นอน
ถ้าก่อนหน้านั้นความชอบธรรมของรัฐบาล อภิสิทธิ์ดูคลุมเครือไม่ชัดเจน หลังคืนนองเลือดวันที่ 10 เมษายน มันก็พังพินาศแหลกลาญไม่มีชิ้นดีต่อหน้าต่อตาคนทั้งประเทศและทั่วโลก
สำหรับผู้ชุมนุมเรือนพันเรือนหมื่น และญาติมิตรครอบครัว จะให้พวกเขายอมรับรัฐบาลอภิสิทธิ์ว่าเป็นรัฐบาลของพวกเขา และยอมทำตามคำสั่งของรัฐบาลได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขาอดรู้สึกไม่ได้ว่ากลางดึกชุ่มเลือดคืนนั้นรัฐบาลดูจะมุ่งเอา ชีวิตของเขาและคนที่เขารัก และก็ได้เอาชีวิตของผู้ร่วมชุมนุมกับเขาไปนับสิบๆ คน?
หลังเมษาฯวิปโยค รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้สูญเสียสิทธิอำนาจทางศีลธรรมหรือสิทธิธรรมที่จะปกครอง (the moral authority to rule) ไปแล้ว
สำหรับรัฐๆ หนึ่ง นี่เป็นวิกฤตอย่างยิ่งและยากมากที่จะธำรงรักษาการยอมรับ-ยินยอมของผู้คน พลเมือง รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐเองไว้ต่อไป
นี่คือที่มาสำคัญที่สุดของกระแสคลื่นการ ปฏิเสธอำนาจรัฐปัจจุบัน
ทางออกก็คือต้องหาทางประกอบสร้างสิทธิอำนาจทางศีลธรรมหรือสิทธิธรรม ที่จะปกครองขึ้นมาใหม่ (reconstitution of the moral authority to rule) เพื่อให้ผู้คนพลเมืองกลับมายอมรับใหม่ว่านี่เป็นรัฐบาลของพวกเขา และยอมทำตามคำสั่งของรัฐบาลอีกครั้ง
เพื่อการนี้ ที่ผ่านมา หนทางที่การเมืองไทยเลือกเดินคือนายกรัฐมนตรีกับรัฐบาลทั้งชุดลาออก ฟอร์มรัฐบาลใหม่ ดังหลังกรณี 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 และพฤษภาคม พ.ศ.2535
จากนั้นสิทธิธรรมในการปกครองจึงค่อยๆ ได้รับการรื้อฟื้นขึ้นมาโดยรัฐบาลใหม่ของนายกฯสัญญา ธรรมศักดิ์ และ อานันท์ ปันยารชุน (2)
แต่นายกฯอภิสิทธิ์กลับไม่ยอมสละอำนาจอย่างที่นายกฯจอมพลถนอม กิตติขจร และพลเอกสุจินดา คราประยูร ได้ยอมเสียสละมาแล้วในสถานการณ์คล้ายๆ กัน
ตรงกันข้าม ดูเหมือนรัฐบาลอภิสิทธิ์จะเลือกวิธีการอื่นในการซ่อมแซมค้ำยันสิทธิธรรมใน การปกครองของรัฐบาลไว้
หากดูจากคำกล่าวของนายกฯอภิสิทธิ์ในรายการทีวีเอ็นบีที "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" เมื่อวันที่ 25 เมษายนศกนี้ ที่ว่า "ชื่อต่างๆ ที่ปรากฏออกมา ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ต่างคนต่างทำ ทั้งเสธ.แดง (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก) พล.อ.ชวลิต (ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ) หรือแกนนำผู้ชุมนุม" ตามมาด้วยคำแถลงของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. ประกอบแผนผังเครือข่ายขบวนการล้มเจ้า วันถัดมา ก็พอเห็นได้ว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์เลือกวิธีการใดในการพยายามฟื้นฟูสิทธิธรรมใน การปกครองที่ย่อยยับลงไปขึ้นมาใหม่
ชื่อบุคคล-กลุ่ม-องค์กรที่ปรากฏในแผนผังดังกล่าว มีทั้งผู้ที่ถูกศาลพิพากษาลงโทษว่ามีความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ หรือทุจริตไปแล้ว, ผู้ที่ถูกตำรวจกล่าวหาหรือกำลังถูกดำเนินการในกระบวนการยุติธรรม, ผู้ที่ยังไม่ถูกตั้งข้อหาใดๆ แต่ถูกประณามโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองว่าไม่จงรักภักดี ฯลฯ
ทรรศนะที่ปรากฏต่อสาธารณะของบุคคลหรือองค์กรเหล่านี้มีหลากหลายคละ กัน ทั้งต่อต้านสถาบันกษัตริย์, คัดค้านการใช้สถาบันกษัตริย์เป็นเครื่องมือทำลายป้ายสีกันทางการเมือง, ต่อต้านรัฐประหาร, ต้องการปฏิรูประบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้ปลอดพ้น การแทรกแซงทางการเมืองโดยอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ ฯลฯ
เท่าที่ปรากฏ สิ่งที่เชื่อมโยงพวกเขาทั้งหมดทุกคนเข้าด้วยกันก็คือลูกศรและคำบรรยายในแผน ผังของ ศอฉ.กับรัฐบาลเอง
โดยอาศัยคำกล่าวหาและแผนผังที่ร่างเอง-โยงเอง-อ้างเองเช่นนี้ ผู้สังเกตการณ์ต่างประเทศจึงตั้งคำถามโดยสามัญสำนึกถึงรองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ ในเรื่องนี้ว่า : -
"คำถามเรื่องหลักฐานเป็นประเด็นหลัก ในกรณีนี้ เหมือนที่บ่อยครั้งมันมักเป็นในกรณีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯต่างๆ ในช่วงหลายปีหลัง หลักฐานชนิดไหนที่คุณสุเทพจะถือว่าเพียงพอแก่การออกหมายจับ? แล้วจะหาหลักฐานที่ว่านี้มาอย่างไร? จะเปิดเผยมันต่อสาธารณะไหม? หรือจะเก็บงำมันไว้ลับหูลับตาผู้คนที่อาจตั้งคำถามถึงความจริงแท้ของมัน?"
(Elizabeth Fitzgerald, 27 April 2010, เว็บไซต์ New Mandala)
แต่ไม่ว่าเครือข่ายดังกล่าวมีจริงหรือไม่? หรือแผนผังดังกล่าวเป็นจริงหรือเท็จ? มันล้วนเป็นประเด็นต่างหากออกไปจากหน้าที่ทางการเมืองที่แท้จริงของแผนผัง เครือข่ายล้มเจ้า นั่นคือการส่งสารถึงคนไทยว่า : -
หากท่านไม่ยอมรับรัฐบาลอภิสิทธิ์ว่าเป็นของท่านและไม่ยอมทำตามคำสั่ง ของรัฐบาล
เพราะท่านเห็นว่ารัฐบาลนี้ฟอร์มขึ้นในค่ายทหารร่วมกับกลุ่มการเมือง ยี้ก็ดี
หรือเพราะรัฐบาลนี้ปราบม็อบผิดพลาดจนทำคนตายกว่ายี่สิบ และบาดเจ็บหลายร้อยก็ดี
ไม่เป็นไร เอาอย่างงี้ก็แล้วกัน ขอให้ท่านหันมายอมรับรัฐบาลนี้เป็นของท่าน และทำตามคำสั่งของรัฐบาลเสียใหม่ ในฐานะที่รัฐบาลนี้เป็นผู้ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้จากเครือข่ายล้ม เจ้าตามแผนผังของรัฐบาลที่ยังรอหลักฐานการพิสูจน์เทอญ!
และแล้วต้นทุนการเมืองวัฒนธรรมก้อนสุดท้ายของรัฐชาติไทยก็ ถูกล้วงหยิบฉวยใช้มาชะลอความเสื่อมทรุดผิดพลาดเฉพาะหน้าของรัฐบาลอย่างนั้น เอง...
Similar topics
» รัฐประหาร-ปฏิวัติ-ปฏิรูป ‘ยึดอำนาจ’ ต่างชื่อ...บนเส้นทางเดิม
» จะรักชาติ..หรือ รักอะไร ดี..ใจ อึ้งภากรณ์
» ข่าววันนี้ 20 ธค 52
» ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ HarD Disk (HDD) หรือ เราเรียกกันว่า ฮาร์ดดิส
» ร่วมยับยั้ง เครื่องตรวจระเบิด "ลวงโลก"
» จะรักชาติ..หรือ รักอะไร ดี..ใจ อึ้งภากรณ์
» ข่าววันนี้ 20 ธค 52
» ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ HarD Disk (HDD) หรือ เราเรียกกันว่า ฮาร์ดดิส
» ร่วมยับยั้ง เครื่องตรวจระเบิด "ลวงโลก"
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ