RedCyberClub Forum
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

บทสัมภาษณ์ที่ BBC สัมภาษณ์นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

Go down

บทสัมภาษณ์ที่ BBC สัมภาษณ์นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ Empty บทสัมภาษณ์ที่ BBC สัมภาษณ์นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ตั้งหัวข้อ by dimistry Fri Apr 30, 2010 6:10 am

ถอดเทป และคำแปล บทสัมภาษณ์ที่ BBC สัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อคืนนี้ในรายการ Hard Talk


ถอดเทป และคำแปล บทสัมภาษณ์ที่ BBC สัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อคืนนี้ในรายการ Hard Talk

BBC : … (can not catch up the beginning of the conversation - Translator) .. If it is going to restore some kind of stability and put an end to the hypothesis that happen to Thailand now.

BBC : (รับฟัง ช่วงต้นของการสัมภาษณ์ได้ไม่ชัดค่ะ) … หากมันจะช่วยนำความมั่นคงและทำให้ สาเหตุของความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยสิ้นสุดลง

PM Abhisit : Well, because the rest of the public feels that the government should not giving intimidation and terrorist’s tactics and that they think we should discuss in reasonable timeframe. There is a clear threat if we hold the election too soon. With move that is high in term of deviation and in term of tension that election could turn violent and then would solve nothing that would be back into vigorous cycle of demonstration which is why it is better to go into the open discussion what needed to be done before the election should be held so that the election is held for the benefit of the whole country and not for a particular group of people.

นายกอภิสิทธิ์ : ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่า รัฐบาลไม่ควรยอมต่อกลยุทธ์ข่มขู่คุกคามของพวกก่อการร้าย และควรจะมีการเจรจาในระยะเวลาที่เหมาะสม มันชัดเจนว่าการที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งเร็วเกินไปนั้นอันตรายยิ่ง ด้วยตอนนี้มีการเคลื่อนไหวที่มีเป้าประสงค์ที่แตกต่างและความกดดันที่รุนแรง การเลือกตั้งอาจจะก่อให้เกิดความรุนแรง และทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆได้เลย แล้วเราก็กลับเข้าไปในวังวนของรวมตัวกันก่อการประท้วงอีก ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะเจรจาโดยเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆที่ต้องทำ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ เพื่อให้การเลือกตั้งมีผลดีต่อประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

BBC : Ok, so it is necessary and clear that your red line is no election before December.

BBc : เอาละ ท่านบอกว่ามันจำเป็น และค่อนข้างชัดเจนว่าท่านจะไม่ให้มีการเลือกตั้งก่อนเดือนธันวาคม

PM Abhisit : I did not say that. I said that there are a number of tasks needed to be completed. I am open to discussion about how long that process would take. I am saying that the election should not longer than 9 months. I am open to discussion with various groups in society. I think the rest of the population, the rest of the electors are also demand that their voices should be heard. A lot of them say I should stay the full term, a lot of them say there should be a reasonable timeframe but not that within 15 days or 30 days. I think everybody should have a voice and have a saying and not those who threaten violence.

นายกอภิสิทธิ์ : ผมไม่ได้พูดอย่างนั้น ผมพูดว่ามีสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จหลายอย่าง ผมเปิดเสมอสำหรับการเจรจาเกี่ยวกับ เรื่องที่ว่ากระบวนการที่ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่จึงจะเสร็จ ผมพูดว่า การจัดให้มีการเลือกตั้งไม่น่าจะเกินไปกว่าภายใน 9 เดือน ผมเปิดเสมอสำหรับการพูดคุยกับกลุ่มต่างๆในสังคม ผมคิดว่าประชาชนที่เหลือ ประชาชนที่เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีความต้องการให้เราฟังความคิดเห็นของ พวกเขาเช่นกัน มีคนมากมายที่พูดว่าผมควรจะอยู่ในตำแหน่งให้ครบเทอม ในขณะที่อีกหลายคนพูดว่ามันน่าจะมีระยะเวลาที่เหมาะสม แต่ไม่ใช่ในเวลา 15 วัน หรือ 30 วัน ผมคิดว่า ทุกคนควรจะมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น และไม่ใช่ผู้ที่ข่มขู่จะใช้ความรุนแรง

BBC : And you know what is feeling the grievance. There are those who are your political opponents who are saying you yourself, Abhisit Vejjachewa, never won an election. You took office in December 2008, elected by parliament because constitution of court did not allow the Thaksin party to run it any way and you need your own mandate. You have no higher vote mandate and that what people don’t like. You take government assisted by a Military Coupe and that does not look good.

BBC : ท่านรู้ ว่ามีความสูญเสีย มีผู้ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองกับท่านที่พูดว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณไม่เคยชนะการเลือกตั้งเลยสักครั้ง ท่านเข่ามาบริหารประเทศในเดือนธันวาคม ปี 2008 ที่ถึงแม้จะได้รับการลงคะแนนโดยสภาผู้แทน ราษฎร นั่นก็เพราะว่ารัฐธรรมนูญของประเทศไม่อนุญาตให้พรรคการเมืองของคุณทักษิณ เข้ามาบริหารประเทศ และท่านต้องการการมอบอำนาจ เพราะว่าพรรคการเมืองของท่านไม่ได้รับอำนาจโดยการมีคะแนนเสียงข้างมากใน รัฐสภา และนั่นเองเป็นสิ่งที่ผู้คนไม่ชอบใจ ท่านเข้ามาบริหารประเทศโดยการช่วยเหลือของคณะปฏิวัติรัฐประหารโดยทหาร และนั่นทำให้ภาพลักษณ์แย่

PM Abhisit : It is not a Military Coup that installed this government. We had an election …

นายกอภิสิทธิ์ : ไม่ใข่คณะปฏิวัติที่แต่งตั้งรัฐบาล ของผม เรามีการเลือกตั้ง ..

BBC : (Just interrupted in the middle of PM’s answer) As a benefit I said. Sorry Prime minister, Thaksin Shinnawat was removed in September 2006 by the military and you are the direct beneficiary of that because you take the power without an election and people don’t like that.

BBC : (พูดทะลุกลางปล้องขึ้นมาทันทีระหว่าง ที่ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังตอบคำถาม ..) ดิฉันพูดว่า เป็นการได้ประโยชน์ ขอโทษค่ะท่านนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณ ถูกโค่นล้มอำนาจในเดือนกันยายน ปี 2006 โดยคณะปฏิวัติ และท่านเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการนั้น เพราะท่านเข้ามามีอำนาจโดยปราศจากการเลือกตั้ง และประชาชนก็ไม่ชอบวิธีการนี้


PM Abhisit : That is not right. That is not right. Thaksin was removed from power, in fact he was only an active Prime Minister because the election was going to be held. And then after the coupe, they had a referendum on the new constitution, a referendum passed the constitution. We had fresh election. It returned a parliament that was a house parliament, where actually arguably. You can argue that Thanksin’s party actually took some of the minor parties who during the election campaign as people who defected from that party.

นายกอภิสิทธิ์ : นั่นไม่ถูกต้องครับ ไม่ถูกต้อง .. คุณทักษิณหมดอำนาจ อันที่จริงคุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจในเวลานั้น เพราะกำลังจะมีการจัดให้การเลือกตั้ง และหลังจากการเกิดการปฏิวัติ ก็มีการทำประชามติตามรัฐธรรมนูญ และเมื่อการทำประชามติผ่านไป เรามีการเลือกตั้งใหม่ มีรัฐสภาซึ่งได้รับการวิพากย์วิจารย์ บางคนพูดว่าพรรคการเมืองของคุณทักษิณที่จริงได้นำพรรคการเมืองที่มีเสียง ส่วนน้อยซึ่งในช่วงระหว่างที่มีการเลือกตั้งเป็นผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติครบ ถ้วน

BBC : (Just interrupted in the middle of PM’s answer again) You never won an election …

BBC : (พูด แทรกขึ้นมาอีกระหว่างที่ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังตอบคำถาม ..) ท่านไม่เคยชนะการเลือกตั้ง ..

PM Abhisit : I have been elected 7 times as an MP, a few more times than Mr. Thaksin himself. And I have not missed a single time that had been tested before in all election that was fair. We both won the election same as all other parties. It was a house parliament that put together majority. But the party that had the biggest number of vote was involved in election fraud and therefore, they were punished by law, laws and rules that they are aware of when they actually decided to take part of the election.

นายกอภิสิทธิ์ : ผมได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร ถึง 7 ครั้ง และมากครั้งกว่าคุณทักษิณซะอีก ผมไม่เคยพลาดและได้รับการเลือกตั้งเข้ามาทุกครั้งในการจัดการเลือกตั้งที่ ยุติธรรม เราเข้ามาโดยการเลือกตั้งเช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรท่านอื่นๆ และที่ประชุมของสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ที่รวบรวมเสียงข้างมาก แต่พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกเข้ามามากที่สุดมีการเกี่ยวข้องกับการ ทุจริตในการเลือกตั้ง และทำให้พวกเขาได้รับโทษตามกฎหมาย กฏหมายและกฎระเบียบที่เขารู้ดีในตอนที่ตัดสินใจลงสมัครรับการเลือกตั้ง

BBC : (Just trying to interrupt in the middle of PM’s answer again) But you were now …

BBC : (พูดแทรกขึ้นมาอีกระหว่างที่ท่านนายก รัฐมนตรีกำลังตอบคำถาม ..) แต่ตอนนี้ ท่านกำลัง …

PM Abhisit : And then they had two chances of forming governments. It was taking the country nowhere. So therefore, there was a new vote in parliament and the majority of the parliament decided to change, decided to elect me into power. The parliament has been functioning for a year and a half. The opposition had their time of submitting the sense of motion. The motion ….

นายกอภิสิทธิ์ : พรรคการเมืองของคุณทักษิณมีโอกาสจัด ตั้งรัฐบาลถึง 2 ครั้ง และประเทศก็ย่ำอยู่กับที่ ดังนั้นเมื่อมีการลงคะแนนในสภาผู้แทนราษฎร และเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาต้องการความเปลี่ยนแปลง โดยการเลือกผมให้มาบริหารประเทศ และสภาก็ดำเนินงานมาได้อย่างดีในเวลาหนึ่งปีครึ่งที่ผมเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้านมีโอกาสที่จะแสดงความคิดเห็น …

BBC : (Just trying to interrupt in the middle of PM’s answer again) It was a very long. The fact is you preside over a very divided country. People don’t accept whatever reasons you are going into a very long explanation. What are you going to do from here on? As I am talking to you, Thailand top road are talking of Civil War. We got the red shirts saying they go to now had … continuing. What are you going to do Prime Minister?

BBC : (พูดแทรกขึ้นมาอีกระหว่างที่ท่านนายก รัฐมนตรีกำลังตอบคำถาม ..) นี่เป็นคำ ตอบที่ซับซ้อนและยาวเกินไป ความจริงก็คือ ท่านบริหารประเทศที่มีการแตกแยกอย่างรุนแรง ประชาชนไม่ยอมรับเหตุผลใดๆก็ตามที่ท่านกำลังอธิบายมาซะยืดยาว ท่านจะดำเนินการอย่างไรต่อไป? ในขณะที่ดิฉันกำลังพูดคุยกับท่านอยู่นี่ คนบนถนนกำลังพูดถึงการเกิดสงครามกลางเมือง เรามีคนเสื้อสีแดงที่กำลังพูดว่า เรากำลังมี .. อยู่อย่างต่อเนื่อง (ฟังไม่ถนัด – ผู้แปล) ท่านจะทำยังไงคะ ท่านนายกรัฐมนตรี?

PM Abhisit : My intention is to bring all sides to accept that we need to find some kind of political solution, one that actually take into account the views of all part of the society. And will also make sure that we can enforce the law that the demonstrators can go home. There is some kind of political solution and that the law is enforced . That is what I need to do and that is very important if Thailand is going to stay in democracy, one that based on the course of law.

นายกอภิสิทธิ์ : ผมมีความตั้งใจที่จะทำให้ทุก ฝ่ายยอมรับว่า เราต้องหาแนวทางบางอย่างในการแก้ไขความขัดแย้งทางการเมือง แนวทางที่รับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วนของสังคม และเป็นแนวทางที่ให้ความมั่นใจว่าสามารถบังคับใช้กฎหมายได้ โดยผู้ที่ทำการประท้วงสามารถกลับบ้าน มันควรจะเป็นแนวทางที่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องดำเนินการ ด้วยว่ามันสำคัญมากหากประเทศไทยจะก้าวต่อไปในระบอบประชาธิปไตย ประชาธิปไตยที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายของบ้านเมือง

BBC : And if you can’t. I just want to add by telling you what Professor Thitinan (This may not be the correct spelling - Translator) of Standford University, Thai Economics, says that if Abhisit chooses to be persistent, smudged defined more violence may has to be expected and is based on expedition, Expidition election timetable and bound out perhaps by more break of law or humiliation.

BBC : และหากท่านทำไม่ได้ ดิฉันอยากจะบอกเพิ่มเติมสิ่งที่ศาสตราจารย์ ฐิตินันท์ …(ดร. ฐิตินันท์ จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งไปเป็น visiting professor ที่ Standfaod - ข้อมูลเพิ่มเติมจาก mrapisit ความเห็นที่ 17) แห่งมหาวิทยาลัย แสตนด์ฟอร์ด ภาควิชา เศรษฐศาสตร์ประเทศไทย กล่าวเอาไว้ว่า หากท่านดึงดันต่อไป จะเกิดเหตุรุนแรงมากขึ้น และขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ด้วย อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่มีการละเมิดกฎหมายมากยิ่งขึ้นไปอีก หรือเหตุการณ์ที่น่าเสียใจ

PM Abhisit : I can say that we are trying as best we can to restore order. I don’t think it would be fair for the rest of the country if this government decides to give the approve to the threats, the violence, intimidation and weapon. We are willing to listen to legitimate agreements. We are willing to compromise but they have to be the one that will serve the interest of everybody not just for a small group of people who involve legal tactics.

นายกอภิสิทธิ์ : ผมพูดได้ว่า เรากำลังพยายามทำอย่างดีที่สุดในการที่จะนำความเป็นระบบระเบียบกลับคืนมาสู่ สังคม ผมคิดว่าคงไม่ยุติธรรมสำหรับประชาชนที่เหลือของประเทศ หากรัฐบาลตัดสินใจที่จะยอมรับการบังคับข่มขู่คุกคาม การก่อความรุนแรง และ อาวุธ เรายินดี ที่จะให้สัญญาที่เป็นไปตามกฎหมาย เรายินดีที่จะรอมชอม แต่การรอมชอมนั้นจะต้องเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเล็กๆที่ใช้กลเม็ดด้านกฎหมาย

BBC : And Abhisit if you are true liberally that you yourself personally were an obstacle to Thailand’s recuperating against some kind of stability, would you step down when you became an obstacle and you are convinced by that fact . Would you?

BBC : คุณ อภิสิทธิ์ .. หาก ท่านตระหนักว่าตัวของท่านเองเป็นอุปสรรคในการฟื้นฟูความมั่นคงของชาติ ท่านจะยอมลงจากอำนาจหรือไม่ ท่านจะยอมลงหากท่านตระหนักถึงข้อเท็จจริงว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใช่ไหม?

PM Abhisit :Of course. I ‘ve never put my interest above the country.

นายกอภิสิทธิ์ : แน่นอนครับ ผมไม่เคยยอมให้ผลประโยชน์ส่วนตน อยู่เหนือผลประโยชน์ของประเทศชาติ

BBC : So, If as a price of restoring stability to Thailand and try to find some kind of political solution with the head of the Army General and... You would say, I will leave office. I will just step down.

BBC : ดังนั้น เพื่อความมั่นคงของประเทศไทย และเป็นความพยายามร่วมกันกับทางฝ่ายทหารที่จะหาทางออกให้กับบ้านเมือง .. ท่านจะพูดว่า ท่านจะลาออก และลงจากอำนาจ

PM Abhisit : We are in the agreement at the moment but what we are seeing is not the purely political problems. There are security problems involved. There are terrorist elements involved and we need to tackle all these issues at the same time. And when we talk about the stability that everybody wants to achieve, it is not a short term stability waiting for the same problem to be repeated again and again. I think at the moment all sides need to take into account the views of the other side and find a reasonable solution. That’s what I am aiming for and I am sure that is what the majority of the Thai people want us to do.

นายกอภิสิทธิ์ : เรามีความเห็นตรงกันในขณะนี้ว่า ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาของความขัดแย้งทางการเมืองอย่างเดียว มันมีปัญหาเรื่องความมั่นคงของประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มีประเด็นปัญหาของการก่อการร้ายเข้ามา และเรามีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขปัญหาทุกเรื่องไปพร้อมๆกัน และเมื่อเราพูดถึงเรื่องของความมั่นคงที่ทุกคนอยากจะได้ มันไม่ใช่ความมั่นคงเฉพาะหน้าในระยะสั้นที่รอเวลาที่จะกลับมาสู่วังวนของ ปัญหาเดิมๆซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ผมคิดว่าขณะนี้ทุกฝ่ายควรจะให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของทุกภาคส่วนและของ ฝ่ายอื่นๆ แล้วหาทางออกร่วมกัน และนั่นคือสิ่งที่ผมกำลังมุ่งที่จะดำเนินการในขณะนี้ ผมมั่นใจว่านั่นคือสิ่งที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลทำ

BBC : Prime Minister Abhisit Vejchachewa, thank you very much for coming with our talk.

BBC : นายก รัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขอบคุณสำหรับให้เวลาในการพูดคุยกับเราในวันนี้

PM Abhisit : You are welcome.

นายกอภิสิทธิ์ : ยินดีครับ

');}//]]>